รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 241 ยืนยัน
รถยนต์เลี้ยววืดอย่างเร็วเข้าเส้นทางปูลาดด้วยอิฐอย่างดี สองข้างทางเป็นต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา แล้วมาหยุดลงที่หน้าคอนโดขนาดตึกเจ็ดชั้น ห้องพักของเซียวจิ่งสืออยู่ชั้นบนสุดของตึก ปกติไม่ค่อยมีคนมา ลานระเบียงกว้างใหญ่วางข้าวของระเกะระกะไว้ ดูรกตาอยู่บ้าง ภายในห้องตกแต่งด้วยสีขาวดำอย่างเรียบง่าย นี่เป็นห้องที่เซียวจิ่งสือแอบซื้อไว้เมื่อหลายปีก่อน ผู้คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามีสถานที่นี้อยู่ เซียวจิ่งสือนิ่งเงียบมาตลอดทาง เขาอุ้มอินเสี่ยวเสี่ยวเข้าไปในห้อง ดวงตาดำขลับเหมือนกำลังจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ ผู้ช่วยไม่กล้าพูดมาก ถอยออกไปเงียบๆ หยุดคอยที่โถงรับแขกอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเตรียมอุ่นนมและชงกาแฟไว้ให้ แล้วจึงออกไปจากคอนโด
ภายในห้องนอน เซียวจิ่งสือยืนอยู่หน้าเตียง สองมือของเขาสอดอยู่ในกระเป๋ากางเกงผ้าลินินสีเทาเข้ม ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากตัดสินใจได้ก็เริ่มถอดเสื้อผ้าตัวเองก่อน แล้วต่อด้วยของอินเสี่ยวเสี่ยว เขาต้องยอมรับว่าตัวเองต่ำช้าและเห็นแก่ตัว แต่เขาไม่อาจทนกับวันคืนที่อินเสี่ยวเสี่ยวไม่อยู่ข้างกายได้อีกแล้ว ดังนั้น เขาไม่เสียใจต่อการกระทำของตัวเองทั้งหมดนี้ ช่างเหมือนกับฮั่วเทียนอวี่ซะเหลือเกิน
อินเสี่ยวเสี่ยวนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าแดงเรื่อ ร่างกายขดงอเข้าหากัน เซียวจิ่งสือไล้ปลายนิ้วไปบนหัวคิ้วของเธอ ดวงตาที่ดูสงบราบเรียบมีประกายระยิบระยับ เขาถอนใจยาว จูบที่มุมปากของอินเสี่ยวเสี่ยว พูดว่า “เสี่ยวเสี่ยว ผมรักคุณ” พอพูดจบ คล้ายกับอินเสี่ยวเสี่ยวจะรู้ตัว เธอบิดร่างอย่างไม่สบายตัว คิดจะขยับหนี เซียวจิ่งสือหัวเราะเสียงต่ำ ริมฝีปากอุ่นจัดแนบชิดกับใบหูเล็กๆ ที่นุ่มเนียนของเธอ อบอุ่นนุ่มนวลแต่ก็แสดงความเป็นเจ้าของอย่างไม่เกรงใจ
ร่างที่ไร้สติของอินเสี่ยวเสี่ยวแนบชิดสนิทแน่นกับเซียวจิ่งสือ คล้ายกับเป็นนาวาลำน้อยที่ลอยล่องอยู่ในท้องทะเลกว้าง เผชิญกับพายุคลั่งดำดิ่งและผลุบโผล่ไปพร้อมกับเขา เซียวจิ่งสือมองเธอด้วยความรักทนุถนอม ในเวลานั้นสมองของเขามีอยู่แค่อย่างเดียวเท่านั้น…คนที่ทำร้ายเธอมันน่าจะตายไปซะ แสงแดดยามรุ่งเช้าสาดลอดหน้าต่างที่เปิดอยู่เพียงครึ่งบานเข้ามา ม่านหน้าต่างสีขาวนวลพลิ้วสะบัดไปตามลม อินเสี่ยวเสี่ยวถูกเสียงเรียกของโทรศัพท์ที่ห้องรับแขกปลุกให้ตื่นขึ้น เธอปวดหนึบที่ศีรษะอย่างแรง ตลอดร่างราวกับจะหลุดเป็นชิ้นๆ ดวงตางามทั้งคู่แดงก่ำด้วยสายเลือด เธอพลิกร่างแล้วพบว่าตัวเองนอนซบอยู่กับอกของเซียวจิ่งสือ เธอตัวชาวูบราวกับถูกช็อตด้วยไฟฟ้า นิ่งงันไปเป็นนานกว่าจะเรียกสติกลับคืนมาได้
เมื่อวาน เธอยอมทำตามคำพูดของหลินจิ้งผู้จัดการส่วนตัว นั่งรถไปโรงแรมกับเธอเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์เป็นการเฉพาะ หลินจิ้งบอกว่าที่นั่นมีผู้กำกับชื่อดังมารวมตัวกันมากมาย ไปแล้วไม่เพียงได้เปิดหูเปิดตา ยังอาจได้พบปะสมาคมกับคนที่จะให้งานกับเธอได้ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีและเป็นประโยชน์ต่อเธอในอนาคตที่จะก้าวหน้าในวงการบันเทิง ในงานเลี้ยง ผู้คนร่ำดื่ม สรวลเสเฮฮากัน หลินจิ้งพาเธอไปทักทายกับบรรดาผู้กำกับ วนไปเวียนมาจนสุดท้ายมาหยุดอยู่ที่ข้างกายผู้กำกับศีรษะล้านคนหนึ่ง เขาศีรษะล้าน ใบหน้าบวมฉุ รูปร่างก็อ้วนเผละจนผิดรูปไปแล้ว ดวงตาไร้ประกายทั้งคู่มองสำรวจเธอตลอดร่าง หลินจิ้งยังคอยพูดเอาใจเขา ยกยอเขาคอยกระตุ้นให้เธอทำตัวดีๆ กับเขา ผู้ชายคนนั้นถือแก้วเหล้า ยิ้มได้หน้าเกลียดมาก ทำให้รู้สึกขนหัวลุกได้ เธอจึงอดระวังตัวขึ้นมาไม่ได้
การที่ต้องเสแสร้งคอยประจบเอาใจมันทรมานใจมาก เธออยากจะกลับ แต่ถูกหลินจิ้งขวางเอาไว้ตรงทางเดิน ผู้กำกับจอมอัปลักษณ์นั่นยืนดักอยู่ตรงประตูทางเข้างานเลี้ยง มองดูอยู่เงียบๆ หลินจิ้งกับผู้กำกับนั่นคิดจะทำอะไรดูจะเห็นได้ชัดเจน “เสี่ยวเสี่ยว แค่เธอรับปากทำตามความต้องการของผู้กำกับ งานแสดงก็ได้มาง่ายๆ เลยไม่ใช่เหรอ?” หลินจิ้งคว้าแขนเธอไว้แน่น สายตาบอกว่าโมโหอยู่บ้าง “สิ่งที่ฉันต้องการ ฉันจะขวนขวายหามาด้วยตัวเอง ถ้าคุณอยากได้ คุณก็ไปเองสิ!” เธอสะบัดหลุดจากมือของหลินจิ้ง คิดแค่อยากจะไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
“เธอไม่อยากเป็นสุดยอดไอดอลในวงการบันเทิง ไม่อยากเป็นซุปตาร์จอเงินแล้วรึไง? เธอต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ นี่ฉันหวังดีกับเธอนะ!” หลินจิ้งรั้งเธอไว้อีกครั้ง คว้าตัวเธอไว้แน่น ผู้กำกับเดินช้าๆ เข้ามา “หลินจิ้ง ฉันจะยกเลิกสัญญากับบริษัท” เธอแกะมือหลินจิ้งออก เหลือแต่ความรู้สึกรังเกียจเอามากๆ เรื่องแบบนี้เธอไม่ยอมทำเด็ดขาด ต่อมาหลินจิ้งกับผู้กำกับนั่นวางยาเธอ ในโรงแรม คิดจะทำมิดีมิร้ายเธอ แต่เธอแข็งใจใช้แจกันดอกไม้ฟาดหัวผู้กำกับ แล้วหนีออกมา ด้วยความที่ไม่รู้จะไปไหนได้ เธอจึงเดินเปะปะอยู่บนถนนใหญ่ สุดท้ายยาออกฤทธิ์ เธอล้มลงหมดสติบนเก้าอี้ยาวตรงท้ายถนน ก่อนหมดสติไป ดูเหมือนจะโทรหาฮั่วเทียนอวี่
ฮั่วเทียนอวี่มาถึงเร็วมาก เขาแบกร่างเธอเดินไปตามทาง ต่อมาฮั่วเทียนอวี่พาเธอไปโรงแรม ดูเหมือนเขาจะทำเรื่องนั้นกับเธอ แล้วทำไมพอตื่นขึ้นมากลับกลายเป็นเซียวจิ่งสือนะ? ขณะคิดเช่นนี้ มือเรียวยาวข้างหนึ่งก็ทาบลงที่กลางหลังเธอ เซียวจิ่งสือค่อยๆ ขยับเข้าชิด “ไม่นอนต่ออีกหน่อยเหรอ?”
อินเสี่ยวเสี่ยวนิ่งงันไป ก้มหน้าลงโดยไม่รู้ตัว ถามเสียงเบาว่า “คุณช่วยฉันไว้?”
“ใช่แล้ว ฉันช่วยเธอไว้เอง” เซียวจิ่งสือสีหน้าเหนื่อยล้าสุดๆ เขาโอบร่างอินเสี่ยวเสี่ยวไว้ไม่อยากขยับ ปลายคางเกลี้ยงเกลาถูไปมาอยู่เหนือศีรษะอินเสี่ยวเสี่ยว
“ด้วยวิธีพาฉันขึ้นเตียงนะเหรอ?” อินเสี่ยวเสี่ยวผลักเซียวจิ่งสือออก เหมือนจะยิ้ม ขณะที่สายตาเย็นเฉียบจนน่าตกใจ เซียวจิ่งสืออึ้งไปหน่อยหนึ่ง รอยยิ้มค้างแข็งไปวูบ จากนั้นยิ้มปลอบเธอว่า “ผมยอมรับว่าผมเห็นแก่ตัว แต่นั่นก็เพราะผมชอบคุณ ผมรักคุณ”
อินเสี่ยวเสี่ยวมองเขานิ่งอยู่ ผ่านไปนานกว่าจะพูดช้าๆ ว่า “ชอบฉัน? รักฉัน? คุณยังเล่นไม่พออีกหรือคะ?” เซียวจิ่งสือประหลาดใจ เขามองหน้าเธอ ชั่วขณะนั้นไม่อาจตั้งสติได้
“เซียวจิ่งสือ ระหว่างเราคุณเห็นฉันเป็นอะไร” ฝ่ามือของอินเสี่ยวเสี่ยวเหนียวเหนอะไปด้วยเหงื่อ ทำให้รู้สึกไม่สบายอยู่บ้าง สีหน้าของเซียวจิ่งสือยังดูเรียบเฉย สงบเหมือนเคย เธออดจะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาบ้างไม่ได้ จึงลุกขึ้นคิดจะไปห้องน้ำล้างมือ
เธอคว้าเสื้อผ้าที่ปลายเตียง แผ่นหลังเปลือยเปล่าเปิดโล่ง เซียวจิ่งสือพอเห็นว่าเธอจะไปก็ยื่นแขนออกเกี่ยวกะหวัดตัวเธอกลับมา รัดตัวเธอไว้แน่นกับอ้อมอก
หลังนิ่งเงียบกันไปครู่หนึ่ง เสียงงอนๆ ของเซียวจิ่งสือก็ดังมา “ผมไม่ได้ล้อเล่นนะ ผมจริงใจกับคุณมาตั้งแต่แรก ชอบคุณจริงๆ และก็รักคุณจริงๆ” เสียงพูดต่ำสนิท แฝงวี่แววเขินอายอยู่บ้าง
“แล้วเธอล่ะ?” อินเสี่ยวเสี่ยวผลักเซียวจิ่งสือออก หันหน้าหนีไม่มองเขา ผู้หญิงคนนั้นเธอไม่ให้ความสำคัญไม่ได้หรอก เธอมีหน้าตาเหมือนเธอทุกอย่าง มีในสิ่งที่เธอลืมไปหมดทุกอย่าง ทุกครั้งที่ได้เห็นเธอ มันเหมือนกับดูกระจกอย่างนั้นเลย เซียวจิ่งสือยิ้มพลางซุกไซ้ใบหน้าเข้ากับไหล่ของอินเสี่ยวเสี่ยว
“คนที่ผมตามหาก็คือคุณ คนที่จะแต่งด้วยก็คือคุณ ความรักหลงใหลทั้งหมดก็มีให้คุณเท่านั้น ที่แกล้งทำเป็นดีกับเธอ ก็เพราะอยากจะรู้ว่าเป้าหมายของเธอคืออะไรเท่านั้นเอง?” เซียวจิ่งสือเหมือนกับเด็กที่อยากกินลูกอม เขาลากหางเสียงยาว ไม่เหมือนกับเขาในยามปกติ
“จริงเหรอ?”
“จริงสิ เชื่อผมนะ” อินเสี่ยวเสี่ยวยิ้มบางๆ ยื่นมือออกมาคล้องรอบคอเซียวจิ่งสือ เธอแหงนหน้าขึ้นเล็กน้อย ประทับรอยจูบเบาๆ ลงบนริมฝีปากบางคู่นั้น แล้วกระซิบที่ข้างหูของเซียวจิ่งสือว่า “ฉันเชื่อคุณค่ะ นี่เป็นครั้งสุดท้าย” เซียวจิ่งสือชะงักไปเล็กน้อย แล้วตามมาด้วยจูบที่เพิ่มดีกรีความลึกล้ำ