รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 242 เปิดใจ
พอถึงเวลาสิบเอ็ดโมง อินเสี่ยวเสี่ยวก็ตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของเซียวจิ่งสือ คอแห้งผาก อยากจะขึ้นมาหาน้ำดื่ม เธออ้อมผ่านเขาลงจากเตียงอย่างระวังไม่ให้ส่งเสียงดังรบกวน คว้าเสื้อบางๆ ตัวหนึ่งขึ้นมาคลุมร่าง ก้าวช้าๆ ไปทางห้องแต่งตัว
ภายในห้องแต่งตัว อินเสี่ยวเสี่ยวยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่เป็นเวลานาน กว่าจะเอื้อมมือสั่นระริกไปเปิดก๊อกน้ำล้างเนื้อตัว อินเสี่ยวเสี่ยวออกจากห้องแต่งตัว เดินเข้าห้องอาหารมาก็เห็นเซียวจิ่งสือกำลังอุ่นนมร้อน ดูวุ่นวายไปหมด เหมือนการใช้ชีวิตคู่ที่เธออยากได้มาตลอด เมื่อวานก่อนผู้ช่วยจะจากไปได้เตรียมนมกับขนมปังไว้ให้ กับยังมีผลไม้สดที่ล้างสะอาดอีกหลายอย่าง อินเสี่ยวเสี่ยวจะเข้าไปช่วย แต่ถูกเขาดึงตัวมานั่งที่โต๊ะทานอาหารสีขาวนวล “นั่งรอผมนะ คนดี”
“คุณทำเป็นหรือคะ?” อินเสี่ยวเสี่ยวเงยหน้าถาม เซียวจิ่งสือมีพร้อมทุกอย่างมาแต่เด็ก รอบข้างมีคนคอยดูแลอาหารการกินอยู่ทุกอย่าง จะเข้าครัวทำอาหารได้ยังไงกัน ถึงแม้จะแค่อุ่นนม ปิ้งขนมปังก็เถอะ
เซียวจิ่งสือกระตุกคิ้วข้างหนึ่ง ถอนใจเบาๆ ยกถ้วยนมร้อนกับขนมปังหอมกรุ่นออกมา เสริฟให้ที่ตรงหน้าอินเสี่ยวเสี่ยว เขาดึงเก้าอี้ออกห่างโต๊ะ เบี่ยงร่างเข้าไปอุ้มร่างอินเสี่ยวเสี่ยวขึ้นมาวางบนตักตัวเอง ถอนใจเบาๆ พูดว่า “ต่อให้เมื่อก่อนทำไม่เป็น ผมก็หัดทำได้ ผมฉลาดขนาดนี้ คุณยังไม่เชื่อผมอีกเหรอ?”
อินเสี่ยวเสี่ยวคิดดูแล้ว ยิ้มพลางกล่าวว่า “เอาเถอะค่ะ ฉันยอมแพ้คุณแล้วกัน” เซียวจิ่งสือซุกศีรษะเข้ากับซอกคออินเสี่ยวเสี่ยว ลมหายใจร้อนๆ พุ่งออกมาสัมผัสผิวของเธอ จนคันยุบยิบ “คุณรู้ก็ดีแล้ว”
อินเสี่ยวเสี่ยวหรุบตาลงต่ำ ขณะที่ไม่รู้ทำไมจึงเกิดความรู้สึกเลื่อนลอยขึ้นมา เรื่องราวในอดีตมากมาย ค่อยๆ แจ่มชัดขึ้นเพราะเซียวจิ่งสือสารภาพรักกับเธอ นอกจากความรู้สึกของเธอที่มีต่อเซียวจิ่งสือ ยังมีอี้อวิ๋นฉังที่คิดอยากจะให้เธอตายอยู่ทุกเวลานาที
เซียวจิ่งสือรู้สึกได้ว่าอินเสี่ยวเสี่ยวใจลอย เขากระชับวงแขนรัดเธอแน่นเข้า ถามอย่างเป็นห่วงว่า “มีอะไรเหรอ?” อินเสี่ยวเสี่ยวนิ่งไปสองวิ สีหน้าเหม่อลอยค่อยๆ ฉาบฉายความรู้สึกคล้ายเป็นเฉยชา เธอขมวดคิ้ว ถามว่า “ยังจำเรื่องที่ฉันถูกจับตัวไปเมื่อคราวที่แล้วได้ไหมคะ?”
เซียวจิ่งสือหน้าเครียด พูดด้วยน้ำเสียงติดจะโมโหอยู่บ้าง “จำได้สิ ผมว่าชาตินี้ผมก็คงลืมไม่ลง” อินเสี่ยวเสี่ยวนิ่งเงียบไปนานมาก เม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “ถูกจับตัวคราวนั้น ฉันคิดว่าคุณอี้คิดจะฆ่าฉันค่ะ”
พอพูดจบ อินเสี่ยวเสี่ยวก็รู้สึกว่ารอบข้างเซียวจิ่งสือแผ่ไอเย็นของโทสะออกมา หว่างคิ้วขมวดมุ่นอย่างเคร่งเครียด ทำให้ตลอดร่างเขาฉายชัดว่าอยากจะฆ่าใครสักคน
“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรแล้ว อย่าคิดเลยนะคะ” อินเสี่ยวเสี่ยวหันมากอดศีรษะเซียวจิ่งสือไว้แน่น คอยลูบอย่างปลอบประโลมให้เขาสะกดกลั้นโทสะเอาไว้ เซียวจิ่งสือตาแดงก่ำ กอดอินเสี่ยวเสี่ยวไว้ การเอ่ยถึงเรื่องนี้อีกครั้งทำให้เขารู้สึกถึงข้อผิดพลาดของตัวเอง ความไม่ใส่ใจและมองข้ามไป ทำให้เกือบจะกลายเป็นความผิดพลาดร้ายแรง
ตั้งแต่แรกที่พบว่าอี้อวิ๋นฉังวางยาเขา จนถึงตอนนี้ฟังอินเสี่ยวเสี่ยวบอกว่า อี้อวิ๋นฉังจะฆ่าเธอ เขาทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เซียวจิ่งสือคิดจะฆ่าผู้หญิงคนนั้น ไม่ใช่แค่เหยียบให้จมดิน แต่ให้เธอตกนรกหมกไหม้ พลิกฟื้นกลับมาอีกไม่ได้ตลอดกาล นังคนชั่วนั่นทำร้ายเขาแล้วยังไม่พอ ยังคิดจะทำร้ายอินเสี่ยวเสี่ยวอีก คงเป็นเพราะเขาใจดีกับหล่อนมากเกินไปจริงๆ
“เสี่ยวเสี่ยว เชื่อผม ผมจะสืบเรื่องนั้นออกมาให้ชัดแจ้ง ให้พวกหล่อนจ่ายค่าตอบแทนที่สาสม” เซียวจิ่งสือเจ็บปวดใจมาก เหมือนกับมีบางอย่างอาจถูกพรากไปได้ทุกเวลานาที อินเสี่ยวเสี่ยวจ้องมองเขาด้วยตากลมโต ผงกศีรษะ ซุกตัวอยู่ในอ้อมอกเขา ใช้เวลาที่หาได้ยากนี้อย่างสงบสุข
หลังทานอาหารกันง่ายๆ แล้ว เซียวจิ่งสือกับอินเสี่ยวเสี่ยวก็นอนเล่นอยู่บนโซฟาไม่อยากขยับทำอะไร อินเสี่ยวเสี่ยวคอยปรับเปลี่ยนช่องทีวีเป็นพักๆ เซียวจิ่งสือจัดผมที่ยุ่งเหยิงอยู่บ้างของอินเสี่ยวเสี่ยว “คุณจำได้ไหมว่าเมื่อวานฮั่วเทียนอวี่ช่วยคุณแล้ว เขาทำอะไรบ้าง?”
อินเสี่ยวเสี่ยวหรุบตาลง ไม่ได้พูดอะไร สำหรับกับฮั่วเทียนอวี่ เธอยังค่อนข้างรู้สึกสับสนอยู่ดี ตอนที่เธอลืมตาขึ้นเห็นว่าเป็นฮั่วเทียนอวี่ เขาอยู่เคียงข้างเธอในช่วงเวลาที่เธอยังไม่รู้ไม่เข้าใจอะไรเลย ก้าวมาด้วยกันจนถึงตอนนี้ ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ เธอรับรู้ได้แต่แรก ถ้าหากว่าภายหลังไม่ได้พบกับเซียวจิ่งสือ เกิดเรื่องราวมากมาย เธอก็คงตอบตกลงแต่งงานกับเขาไปตั้งนานแล้ว
แต่โชคชะตาทำให้เธอได้พบกับเซียวจิ่งสือ เกิดเรื่องมากมายที่ไม่อาจควบคุมได้ ทุกเวลานาทีที่ได้อยู่กับเซียวจิ่งสือเธอรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เหมือนกับว่าพวกเขารู้จักกันมานานแล้ว พอได้ทำงาน เธอพบว่าตัวเองรักในงานอาชีพนี้ อยากจะก้าวไปให้ไกลยิ่งกว่านี้ ความขัดแย้งกับเขาหนักหนายิ่งขึ้นทุกที จนห่างเหินกันไป เธอรู้ว่าในชาตินี้ตัวเองคงไม่อาจรับรักเขาได้อีก แต่การจะให้เธอยอมรับเรื่องแบบนี้ เธอก็ไม่ยอมหรอก
“ฉันจำได้ค่ะ แม้จะเลอะเลือนอยู่บ้าง” อินเสี่ยวเสี่ยวผงกศีรษะ ไม่มองเซียวจิ่งสือ น้ำเสียงราบเรียบเจือความรู้สึกฝาดเฝื่อนอยู่บ้าง เซียวจิ่งสือยันตัวขึ้นนั่ง นิ่งเงียบไป ช่วงที่อินเสี่ยวเสี่ยวได้รับบาดเจ็บจนสูญเสียความทรงจำ ฮั่วเทียนอวี่ช่วยเธอไว้ อยู่เคียงข้างเธอ พวกเขามีช่วงเวลาร่วมกันที่เซียวจิ่งสือไม่อาจเข้าถึงได้ ทุกครั้งที่เห็นอินเสี่ยวเสี่ยวกับฮั่วเทียนอวี่พูดคุย สนิทสนมกัน มันทำให้เขาหวาดกลัว ดังนั้นนาทีที่เขาพุ่งเข้าโรงแรมมา เห็นฮั่วเทียนอวี่กำลังคิดจะทำมิดีมิร้ายต่ออินเสี่ยวเสี่ยว เขาซัดฮั่วเทียนอวี่ซะอ่วม เขารู้สึกว่าถ้าปล่อยให้ฮั่วเทียนอวี่ทำสำเร็จ อินเสี่ยวเสี่ยวอาจไม่เหลือเยื่อใยกับเขาอีกเลยก็ได้
ดังนั้น เขาจึงเข้าแทนที่ฮั่วเทียนอวี่ เป็นผู้ชายของอินเสี่ยวเสี่ยว เขาอยากจะสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงลงรากลึกกับอินเสี่ยวเสี่ยว ความสัมพันธ์ที่ไม่มีคนที่สามมาขวางกั้น
เซียวจิ่งสือเห็นเธอหรุบตาลงก็ถามว่า “แล้วเธอรักเขาไหม?” อินเสี่ยวเสี่ยวสะดุ้งเฮือก เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความรู้สึกเจ็บปวดและตึงเครียดของเซียวจิ่งสือ เธอส่ายศีรษะโดยไม่ต้องคิด ขยุ้มชายเสื้อไว้แน่น สบตาเซียวจิ่งสือไปตรงๆ แล้วพูดว่า “ไม่ค่ะ ฉันไม่รักเขา”
พูดจบ ก็เห็นดวงตาวิบวับคู่งามของเซียวจิ่งสือเป็นประกายวาววามขึ้นมา งามจับตาสุดๆ ไปเลย เขาดึงอินเสี่ยวเสี่ยวเข้ามากอดไว้ เสียงตึกตึกดังลั่นอยู่ในทรวงอก กระแทกเข้าหูอินเสี่ยวเสี่ยวเป็นจังหวะ
เซียวจิ่งสือมองดูอินเสี่ยวเสี่ยว ริมฝีปากบางคลี่รอยยิ้มน่ามอง “ช่วงวันเวลาที่ผ่านมา ผมหลงเข้าใจว่าคุณรักเขาซะอีก” อินเสี่ยวเสี่ยวเกาะกุมใบหน้าหล่อไร้ที่ติของเขา โน้มร่างเข้ามาจูบหน้าผากเขา พูดว่า “ความทรงจำแรกสุด เขาก็คือคนที่อยู่กับฉัน เขาบอกฉันว่า ฉันกับเขาเป็นคู่รักกัน ฉันเชื่อเขา ฉันเคยคิดว่าจะแต่งงานอยู่กินกับเขา แต่พอคุณเข้ามาทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด ทีแรกก็แค่เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ต่อมาค่อยๆ สนิทสนมคุ้นเคย จนกลายเป็นความรัก” พูดถึงตรงนี้ อินเสี่ยวเสี่ยวชนหน้าผากกับเขา ยิ้มอย่างคนมีความรัก แล้วพูดต่อไปว่า “คุณหึงรึเปล่าคะ?”
เซียวจิ่งสือนิ่งเงียบไม่พูดจา ขณะที่หัวใจสั่นสะท้านกับคำพูดของเธอ แล้วโพล่งขึ้นอย่างยืดๆ ว่า “ไม่หรอก” อินเสี่ยวเสี่ยวหัวเราะออกมาเบาๆ เซียวจิ่งสือนั้นต่อหน้าคนอื่นไม่ว่าจะหล่อเริ่ดหรูดูดีมีสง่าราศีอย่างไร แต่ต่อหน้าเธอก็จะกลายเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโตคนหนึ่ง ที่น่ารักน่าชังซะเหลือเกิน