รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 244 คุณเป็นใครกันแน่
“หว่านเอ๋อร์ คนที่เซียวจิ่งสือรักจริงหวังแต่ไม่ใช่เธอหรอก คนที่เขารักเป็นผู้หญิงคนนั้นต่างหาก คนที่หน้าเหมือนกับคุณทุกอย่าง การเป็นตัวสำรองมันไม่น่าสนุกนักหรอกกระมัง เขารักจิตวิญญาณอีกดวงผ่านทางร่างกายเลือดเนื้อของคุณ หว่านเอ๋อร์ ลืมเซียวจิ่งสือซะเถอะ เขาแค่ใช้ประโยชน์คุณ เขาสนใจแค่ใบหน้านี้ของคุณ…”
“คุณหยุดพูดเถอะ ขอร้องล่ะอย่าพูดอีกเลยนะ ไม่…ไม่ใช่…ฉันไม่ใช่ตัวสำรอง ไม่ใช่!” หลินหว่านปล่อยโฮออกมาราวทำนบแตก ผู้ชายตรงหน้านี้เป็นมารร้าย เธอจะเป็นตัวสำรองได้ยังไงกัน ไม่ใช่แน่ๆ เซียวจิ่งสือ เขา…
เซียวจิ่งสือบอกว่าหลินหว่านเป็นคนที่เขาจะแต่งงานด้วย แล้วเธอจะเป็นตัวสำรองอย่างที่เขาพูดได้ยังไงกันนะ? เขาต้องโกหกฉันแน่
ฮั่วเทียนอวี่มองดูผู้หญิงที่ฟูมฟายอยู่ตรงหน้าคนนี้ ใช่แล้ว หว่านเอ๋อร์ พอเธอหมดสิ้นความหวัง เธอก็จะเหลือแต่ผม เซียวจิ่งสือ ฮึ หลินหว่านรักแกแล้วจะยังไง สุดท้ายก็ต้องตกเป็นของฉันอยู่ดี ฮ่าๆๆ
ฮั่วเทียนอวี่คิดอย่างบ้าคลั่ง แล้วชะงักกึก
“คุณเป็นใครกันแน่ ฉันไม่รู้จักคุณเลย คุณบอกความจริงฉันมานะว่าพวกเราเป็นอะไรกันแน่! ทำไมฉันจึงไม่มีความทรงจำอะไรเลย”
หลินหว่านฉุกคิดอะไรบางอย่างได้ เธอหยุดคิดแล้วหันมาเค้นถามเอากับฮั่วเทียนอวี่ด้วยท่าทางเอาจริง
“ร…เราก็รู้จักกันมาตลอด…แต่…แต่เซียวจิ่งสือเข้ามาแทรกกลาง ผมทำเพื่อช่วยคุณ ส่วนเซียวจิ่งสือก็เห็นคุณเป็นตัวสำรอง ผมกำลังช่วยคุณนะ!!”
หลังจากนิ่งอึ้งไปชั่วอึดใจ ฮั่วเทียนอวี่ก็อธิบายด้วยสีหน้าสำนึกผิด
“คุณโกหก!”
ดวงตาของหลินหว่านบอกว่าเธอแน่ใจ ใช่แล้ว ฮั่วเทียนอวี่หลอกเธออยู่แน่ๆ!
“หว่านเอ๋อร์ ผมจะหลอกคุณได้ยังไงกัน? ผมชอบคุณนะ คนที่หลอกคุณคือเซียวจิ่งสือต่างหาก” พูดพลางขยับเข้าหาหลินหว่าน คิดจะจับมือเธอไว้
“เพียะ เพียะ…” หลินหว่านตีมือฮั่วเทียนอวี่ที่ยื่นเข้ามา
“คุณจะทำอะไรน่ะ!”
“หว่านเอ๋อร์ ผมรักคุณนะหว่านเอ๋อร์ ผมรักคุณจริงๆ นะ” พูดพลางฮั่วเทียนอวี่ก็โถมเข้ามากอดหลินหว่านเอาไว้ คิดจะฉีกกระชากเสื้อผ้าของหลินหว่าน
“อ๊ะ…ไม่นะ ออกไปนะ ออกไปนะ…” หลินหว่านร้องดังลั่น ผู้ชายตรงหน้านี้ปากก็บอกว่าเขารักเธอ แต่กลับทำเรื่องสกปรกลามกแบบนี้ต่อเธอ ฮั่วเทียนอวี่ ฉันเกลียดคุณ!
“ช่วยด้วย ใครก็ได้ ช่วยฉันด้วย!”
ตอนนั้นเอง บอดี้การ์ดที่หน้าประตูได้ยินเสียงก็รีบพุ่งเข้ามา ไม่พูดพล่ามทำเพลงเตะฮั่วเทียนอวี่กระเด็นไป
“คุณหลินไม่เป็นไรนะครับ”
พอเห็นบอดี้การ์ด หลินหว่านก็นึกถึงเซียวจิ่งสือ เขาส่งคนมาคุ้มครองเธอ…อบอุ่นใจจัง
“ไม่เป็นไรแล้ว ขอบคุณนะ” หลินหว่านบอกไปตรงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะบอดี้การ์ดคนนี้ วันนี้เธออาจถูกฮั่วเทียนอวี่…ถ้าเป็นเช่นนั้นเธอจะอยู่ต่อไปได้ยังไงกัน!
พอเห็นบอดี้การ์ดตรงหน้า ฮั่วเทียนอวี่ก็รู้ว่าวันนี้คงไม่อาจทำได้ตามที่ตั้งใจซะแล้ว เขามองหลินหว่านอย่างมาดหมาย ฮึ ผู้หญิงคนนี้จะช้าเร็วก็ต้องเป็นของฉัน! คิดพลางก็ฉวยโอกาสตอนที่บอดี้การ์ดถามไถ่หลินหว่านแอบหนีออกไป
“คุณหลิน ผมส่งคุณกลับบ้านนะครับ”
“รบกวนด้วยค่ะ”
……
“ท่านประธานเซียว วันนี้คุณหลินเกิดเรื่องเล็กน้อย ฮั่วเทียนอวี่ดูเหมือนจะคิดไม่ซื่อกับคุณหลิน ถูกพวกเราขัดขวางไว้”
“อืม ดูแลเธอไว้ให้ดีล่ะ”
เซียวจิ่งสือพอได้ฟังรายงานของบอดี้การ์ด พริบตานั้นโทสะแทบจะระเบิดออกมา แต่เขารู้ว่า ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือแก้ไขทุกเรื่องซะ ปกป้องหลินหว่านเอาไว้ให้ได้
“ครับ ท่านประธานเซียว”
เซียวจิ่งสือจ้องมือถือที่ตัดสายไป พอนึกถึงคำพูดเมื่อครู่ของบอดี้การ์ด ฮั่วเทียนอวี่ ทำเรื่องแบบนี้มันก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนกันหน่อย จากนั้นหยิบมือถือขึ้นมาจัดการบางอย่าง
หว่านเอ๋อร์ ผมต้องทำให้คุณนึกออกมาให้ได้ ความทรงจำของพวกเรา ความทรงจำที่ผมรักคุณ คุณจะรู้ไหมนะ ไม่มีคุณอยู่ด้วยชีวิตผมก็เหมือนแอ่งน้ำตาย ที่ไร้ชีวิต คุณเท่านั้นที่เป็นแรงจูงใจให้ผมมีชีวิตอยู่
……
“ติ๊งต่อง”
หลินหว่านได้ยินเสียงส่งข้อความเข้า ดึงเธอออกมาจากความทรงจำที่ไม่ดีนักเมื่อครู่นี้
“หว่านเอ๋อร์ เย็นนี้ทานข้าวด้วยกันนะ จิ่งสือ”
พอเห็นข้อความบนมือถือ หน้าหลินหว่านก็ค่อยๆ แดงขึ้น
“ค่ะ”
……
“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันมาสาย”
หลินหว่านไม่กล้าสบตาเซียวจิ่งสือที่อยู่ตรงหน้า พอเห็นแก้วน้ำตรงหน้าเขา หลินหว่านก็ทราบว่าเขามารอเธอนานมากแล้ว แต่เมื่อครู่รถมันติดมากจริงๆ
“หว่านเอ๋อร์ ผมก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน”
พูดพลาง ลุกขึ้นช่วยหลินหว่านดึงเก้าอี้
“สั่งอาหารเถอะค่ะ”
“เซอลอยน์สเต๊ก [1] หอยทากอบเนย [2] เปิดไวน์แดง…”
หลินหว่านมองดูชายหนุ่มที่กำลังสั่งอาหาร เธอเกิดความรู้สึกที่บอกไม่ถูกชนิดหนึ่ง เหมือนกับเธอคุ้นเคยกับภาพนี้มาก
“อาหารพวกนี้เมื่อก่อนเธอชอบทานมาก ลอมชิมดูนะว่าชอบหรือเปล่า”
หลินหว่านหยิบมีดกับซ่อมขึ้นมาจัดการอาหารตรงหน้า พออาหารเข้าปาก เธอก็รู้สึกว่าถูกปากเธอมาก โดยไม่รู้สาเหตุ
“ขอบคุณค่ะ อร่อยมาก”
เพิ่งพูดจบ แววตาเฉยๆ ของชายหนุ่มตรงหน้าก็ค่อยๆ มีรอยยิ้ม
“ทานเยอะๆ นะ”
……
รอบข้างต่างก็ทานอาหารกันอย่างสงบ ภายในร้านจู่ๆ ก็มีเสียงคนเล่นไวโอลิน ท่วงทำนองสูงต่ำดังมา
“เดี่ยวเปียโน เพลง ‘ชีวิต’ ผลงานของครูเพลงเฉินเยิ่น คุณรู้สึกว่าเขาเล่นได้ถูกต้องไหม?”
เซียวจิ่งสือมองหลินหว่านรอคำตอบ แต่หลินหว่านกลับไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่
“ฉันไม่ทราบหรอกค่ะ”
“หว่านหว่าน ชีวิตและความรักของผมไม่อาจรอให้ใครอื่นมาจัดการให้ อยากจะได้ความทรงจำกลับมาไหม?”
เซียวจิ่งสือในนาทีนี้อีกหลายปีให้หลังหลินหว่านยังจำได้ขึ้นใจ ภาพของเขาสลักลึกลงในใจเธอ เขาหรุบตาลงเล็กน้อย มุมปากหยักยกขึ้น สีหน้าเลื่อนลอย คำพูดทุ้มหนักทำให้เธอพลอยเคลิ้มไปด้วย
ความทรงจำของพวกเราไม่ใช่ทุกเวลานาที ความรักทำให้เรารู้จักเข้าใจและช่วยเหลือกัน แต่ความเป็นจริงโหดร้ายเกินไป คุณลืมผมไปแล้ว แต่ความทรงจำเริ่มต้นจากความรัก ระหว่างทางคุณไม่เหลือความทรงจำวิ่งวุ่นปั่นป่วนหลงทางไปบ้าง ไม่เป็นไรหรอก หว่านหว่าน จิ่งสือจะอยู่เป็นเพื่อนคุณตลอด ไม่มีความทรงจำพวกเราก็เริ่มต้นใหม่ได้!
“ผมจะช่วยคุณเอง หว่านเอ๋อร์”
บางทีฉันน่าจะเชื่อคุณนะ เซียวจิ่งสือ ความทรงจำของฉันก็ให้คุณนำพาไปค้นหากลับมาเถอะ
……
“ขอบคุณนะคะที่ส่งฉันกลับบ้าน จะขึ้นมานั่งสักครู่ไหมคะ” (บ้านที่ว่าคือที่ไหน? – ผู้แปล)
พอเซียวจิ่งสือได้ฟังคำพูดของหลินหว่าน ก็เดินตรงเข้าตึกไปโดยไม่พูดจา หลินหว่านได้แต่รีบเดินตามไป
“ฉันจะเชื่อใจคุณได้ไหมคะ? เขา…ฮั่วเทียนอวี่…บอกว่าคุณแค่เห็นฉันเป็นตัวสำรอง ใช่หรือเปล่าคะ?”
หลินหว่านพูดเสียงเบาลงทุกที เพราะเธอก็รับรู้ได้ว่าเซียวจิ่งสือดีต่อเธอมาก ตัวเธอเองก็รับรู้ได้ว่าเขาจริงใจ ความรักของเขา…ไม่ใช่แค่เห็นเธอเป็นตัวสำรอง
“ผมเคยพูดว่าคนที่ผมคิดจะแต่งงานด้วยมีเพียงคุณคนเดียว มีแต่คุณหลินหว่านคนเดียวมาตั้งแต่แรก ผมช่วยคุณคืนความทรงจำ ทำให้คุณหวนคิดถึงความรักของผมที่มีต่อคุณ หว่านหว่าน เชื่อผมนะ!”
ผ่านไปอีกนาน เซียวจิ่งสือรู้สึกหนักใจขึ้นมา ยังไม่ได้อีกหรือ? หว่านหว่าน พวกเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้วจริงเหรอ? ผม…
“ค่ะ”
จู่ๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นตัดความรู้สึกเศร้าเสียใจของเซียวจิ่งสือ ยิ้มออกมาทันควัน
“หว่านหว่าน” เขาจ้องหลินหว่านด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข ดีใจจนพูดไม่ออก
หว่านหว่าน ในชีวิตคนเราทนรับความสิ้นหวังในรักได้ระดับหนึ่งเท่านั้น เหมือนฟองน้ำที่ดูดซับน้ำจนอิ่ม ถึงแม้น้ำทะเลจะไหลผ่านตัวมันไป ก็ไม่อาจเพิ่มน้ำในตัวมันได้อีกแม้สักหยด หว่านหว่าน คุณก็คือความรักที่ไร้ความหวังของผม
——
[2] เซอลอยน์สเต๊ก (Sirloin steak) เป็นสเต๊กเนื้อสันชนิดหนึ่ง ทำจากเนื้อส่วนสะโพก นิยมเอามาทำสเต๊กเพราะมีความนุ่มและแพงที่สุด
[1] หอยทากอบเนย หรือในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า Escargots a la Bourguignonne เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ขึ้นชื่อของฝรั่งเศส