รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 245 เฝ้าผู้ชายของคุณให้ดี
ฮั่วเทียนอวี่ฉวยโอกาสตอนที่บอดี้การ์ดพูดกับหลินหว่าน หลบออกมาจากบ้านเงียบๆ แล้วรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
“ตึง…”
“ขอโทษครับ ขอโทษ” ฮั่วเทียนอวี่ชนถูกคนที่เดินสวนมา พูดพลางรีบร้อนจะออกไปจากที่นี่ พอขอโทษแล้วเขาก็ตั้งท่าจะผละจากไป
พลันมือของฮั่วเทียนอวี่ถูกดึงไว้ เขาหันไปมองตามมือที่ถูกดึง
“อี้อวิ๋นฉัง กำลังหาตัวคุณอยู่พอดี คุณก็มาหาเองถึงที่!”
พอเห็นผู้หญิงตรงหน้านี้ ฮั่วเทียนอวี่ก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ เดิมทีหลินหว่านกำลังจะกลายเป็นผู้หญิงของเขาอยู่แล้ว แต่กลับถูกเซียวจิ่งสือเข้ามาขัดขวาง บัดซบ! พร้อมกันนั้นเขาก็พลอยแค้นอี้อวิ๋นฉังไปด้วย ฮั่วเทียนอวี่ตวาดออกมาด้วยความโมโห
“อี้อวิ๋นฉัง เฝ้าคนของคุณเอาไว้ให้ดีหน่อยสิ” พอตวาดเสร็จก็พบว่าที่ตรงนี้ยังไม่ปลอดภัย จึงลากตัวอี้อวิ๋นฉังไปทางลานจอดรถ
ส่วนอี้อวิ๋นฉังก็ตกใจกับท่าทางเดือดจัดของฮั่วเทียนอวี่จนนิ่งตะลึงตัวแข็งไป เธอกลัวจนพูดไม่ออก จึงถูกฮั่วเทียนอวี่ลากตัวไป
“วูม…วูม…” รถคันหนึ่งพุ่งออกมาจากลานจอดรถ ขับตะบึงออกไปอย่างรีบร้อน
ฝนตกปรอยๆ รถยนต์สีเทาเงินคันหนึ่งจอดที่หน้าเรือนพักรับรองแห่งหนึ่ง ฮั่วเทียนอวี่ลงจากรถ โยนกุญแจให้เด็กโบกรถ ดึงมืออี้อวิ๋นฉังเดินเข้าไป
“อี้อวิ๋นฉัง ผมไม่สนว่าคุณจะใช้วิธีอะไร แต่เฝ้าผู้ชายของคุณเอาไว้ให้ดี! อย่าให้เขาออกมาหาเศษหาเลยข้างนอก!” เสียงฮั่วเทียนอวี่ตะโกนใส่ที่ข้างหูอี้อวิ๋นฉัง
ผู้ชายของฉัน? หาเศษหาเลย?
“จิ่งสือ?” แม้เธอจะสงสัยท่าทีของฮั่วเทียนอวี่ แต่ว่าเซียวจิ่งสือไปรู้จักกับฮั่วเทียนอวี่ได้ยังไงกันนะ? อี้อวิ๋นฉังมองฮั่วเทียนอวี่อย่างสงสัย แต่ว่าผู้ชายของฉัน…ใช่สิ เซียวจิ่งสือก็คือผู้ชายของฉัน…อี้อวิ๋นฉัง ประโยคนี้ของฮั่วเทียนอวี่พูดได้ถูกต้อง อี้อวิ๋นฉังยกยิ้มที่มุมปาก
“อย่ามาทำเป็นไขสือ อย่าให้เซียวจิ่งสือมายุ่งกับผู้หญิงของผม หลินหว่านเป็นของผม ไปทำให้เขาสำนึกตัวหน่อย ไม่อย่างนั้น ผมอาจทำอะไรสักอย่างก็ได้!”
พอได้ยินคำขู่ของฮั่วเทียนอวี่ อี้อวิ๋นฉังก็ได้ยินแค่หลินหว่าน! หลินหว่าน! นังแพศยานั่น มาอ่อยพี่จิ่งสือของฉันอีกแล้ว ไม่!!!!! ฉันไม่ยอม!!!!
อี้อวิ๋นฉังที่เดิมทียังจัดได้ว่าเป็นคนสวยอยู่บ้าง ตอนนี้ใบหน้าบิดเบี้ยวจนผิดรูป ใบหน้าเธอเผยอารมณ์โทสะ ริษยา โหดเ**้ยมดุร้ายออกมาจนหมด ช่างดู…น่ากลัวซะเหลือเกิน
ส่วนฮั่วเทียนอวี่ทางหนึ่งก็อึ้งไปกับความน่ากลัวของผู้หญิงคนนี้ อีกทางหนึ่งก็ทำตามแผนของตัวเอง เขาคิดในใจว่า ช่างหัวมัน ขอให้บรรลุเป้าหมายก็ใช้ได้ทั้งนั้น
ฮั่วเทียนอวี่กระแอมเพื่อเรียกสติอี้อวิ๋นฉังกลับมา เธอกลอกตา ยิ้มให้กับฮั่วเทียนอวี่
“พี่เทียนอวี่ ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ ฉันขอโทษคุณแทนพี่จิ่งสือด้วย ต่อไปฉันจะไม่ขัดขวางเรื่องแบบนี้อีกแล้ว”
พอได้เห็นได้ยินท่าทีของฮั่วเทียนอวี่ อี้อวิ๋นฉังก็รีบรับประกันทันที
อันที่จริงไม่ใช่ว่าฮั่วเทียนอวี่จะไม่อยากพูด แต่เขาเข้าใจดีว่า อี้อวิ๋นฉังไม่ได้สลักสำคัญอะไรต่อเซียวจิ่งสือจริงๆ เซียวจิ่งสือไม่ได้สนใจผู้หญิงคนนี้เลย แต่ขอเพียงต่อกรกับเซียวจิ่งสือได้ เขาก็ไม่แคร์ถ้าจะต้องร่วมมือกับผู้หญิงโง่เง่าคนหนึ่ง ก็เท่านั้น
“เรื่องนี้ คุณต้องไปจัดการให้เรียบร้อย”
พูดจบก็เดินออกไปจากเรือนพักรับรอง ไม่มีท่าทีกระเซอะกระเซิงเหมือนก่อนหน้านี้อีก อาจเป็นเพราะเขาเป็นพวกเห็นแก่ได้จนลืมตายกระมัง!
……
“ฮัลโหล พี่หู่ มีงานแน่ะทำไหม? ล้านนึง”
“งานอะไร”
“ง่ายมาก แค่พี่…”
……
“หว่านเอ๋อร์ ผมส่งคุณเข้าไปนะ”
เมื่อครู่พอทานหมี่เสร็จ เซียวจิ่งสือก็ส่งหลินหว่านกลับบ้าน เซียวจิ่งสือเอ่ยปากถามประโยคนี้แค่อยากเห็นหลินหว่านกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย แต่ยังอยากให้หลินหว่านเชิญเข้าบ้านด้วย ให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งคู่กระชับชิดขึ้นอีกหน่อย ไม่ใช่ทำตัวเหมือนกับคนแปลกหน้าที่คุ้นเคยอยู่บ้าง
“ไม่ต้องหรอกค่ะ จิ่งสือ ฉันเข้าไปเองได้ วันนี้ฉันมีความสุขมากค่ะ ขอบคุณนะคะจิ่งสือ”
เซียวจิ่งสือได้ฟังคำของหลินหว่านก็รู้สึกผิดหวัง แต่ก็ไม่อาจพูดอะไรได้
นิ่งเงียบงันกันไปครู่หนึ่ง เซียวจิ่งสือมองหลินหว่าน
“งั้นผมไม่ส่งคุณแล้วนะ ราตรีสวัสดิ์ หว่านเอ๋อร์”
พูดพลางก็เดินไปขึ้นรถขับออกไป
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”
หลินหว่านมองดูรถแล่นออกไปแล้ว รู้สึกว่าตัวเองคงทำพลาดไป แต่เธอไม่รู้ว่าตัวเองรักเซียวจิ่งสือจริงหรือเปล่า แต่…ช่างเถอะ ปล่อยไปตามธรรมชาติก็แล้วกัน! คิดพลางหมุนตัวเดินเข้าเขตที่พักมา
หลินหว่านเดินมาถึงมุมมืดแห่งหนึ่ง เธอหันขวับกลับไปมองด้านหลังอย่างระวัง
“อุ๊บ…”
ทันใดนั้นมีคนหนึ่งโผล่ออกมาใช้ผ้าขนหนูอุดปากหลินหว่าน หลินหว่านดิ้นรนครู่หนึ่งแล้วสลบไป
พอได้สติขึ้นมา กวาดตามองรอบข้างอย่างสะลึมสะลือ ดูเหมือนจะเป็นโรงงานซ่อมบำรุงที่เก่าแก่ทรุดโทรมแห่งหนึ่ง ส่วนตัวเธอถูกมัดทิ้งไว้บนพื้น ปากก็ถูกอุดไว้
“อื้อๆ …อื้อ…” หลินหว่านส่งเสียงดังเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้าง เป็นผู้ชายสี่คน หน้าตาดุร้ายเ**้ยมโหด ไม่น่าจะเป็นคนดี พวกเขาไม่ได้คลุมหน้าเลยด้วย นั่นหมายถึงว่าพวกเขาไม่กลัวว่าเธอจะแจ้งจับพวกเขา ดูท่าวันนี้เธอคงแย่แน่!
“คุณหลินสินะครับ มีคนใช้ให้ผมเตือนคุณว่า ให้ทำตัวดีๆ หน่อย อย่าทำอะไรที่ไม่เจียมตัว คนบางคนไม่ใช่คนที่คุณจะหวังสูงได้! ในเมื่อคุณตื่นแล้ว งั้นก็มาเข้าเรื่องกันเลยเถอะ”
พูดพลางปรายตาบอกใบ้ลูกสมุนที่ด้านหลัง เจ้านั่นรีบหยิบมือถือออกมาโทรไปเบอร์หนึ่ง
“ฮัลโหล”
พอได้ยินเสียงที่คุ้นเคย หลินหว่านก็ดิ้นรนอย่างแรง เซียวจิ่งสือ! เซียวจิ่งสือต้องมาช่วยเธอแน่!
“เซียวจิ่งสือใช่ป่ะ คุณหลินหว่านอยู่กับพวกเรา ถ้าไม่อยากให้เธอเจ็บตัวก็เตรียมเงินให้เราสิบล้าน ไม่อย่างนั้น จะได้จุดจบที่พวกเราก็ไม่อยากเห็นหรอกนะ”
ด้านเซียวจิ่งสือนั้นเดิมเข้าใจว่าเป็นแค่โทรศัพท์ที่ไม่สำคัญอะไรนัก แต่พอฟังคำพูดของเจ้านั่น เขาก็นิ่งงันไป จากนั้นพูดเสียงเรียบว่า “มีเรื่องแค่นี้ใช่ไหม?”
เจ้านั่นพอฟังน้ำเสียงของเซียวจิ่งสือก็งงเป็นไก่ตาแตก ไหนบอกว่าหลินหว่านเป็นคนที่เซียวจิ่งสือแคร์สุดๆ ไง? จากนั้นเจ้านั่นก็ดึงผ้าที่อุดปากหลินหว่านเอาไว้ออก
“เซียวจิ่งสือช่วยฉันด้วย! ช่วยด้วย!!!!!” หลินหว่านพอได้โอกาสพูดก็รีบร้องขอความช่วยเหลือจากเซียวจิ่งสือ แต่ตอนนั้นเอง เซียวจิ่งสือตัดสายไปแล้ว
เจ้านั่นมองภาพตรงหน้าอย่างตกใจ รีบโทรหาเซียวจิ่งสืออีกรอบ แต่สายไม่ว่างซะนี่!
หลินหว่านที่มองดูทั้งหมดที่เกิดขึ้น ได้แต่เหม่อมองมือถือ จมูกแสบร้อนวูบ ร้องไห้ออกมาเงียบๆ ในสมองปรากฏเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดระหว่างเธอกับเซียวจิ่งสือ เฮ้อ ผู้ชายคนนี้สมบูรณ์เพียบพร้อมขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะได้มา ช่างห่างไกลกันซะขนาดนั้น ช่วงนี้เธอคงเป็นแค่ของเล่นที่แปลกใหม่อยู่บ้างเท่านั้นกระมัง เธอเองจะปลาบปลื้มใจอะไรนักหนานะ?
พวกโจรเรียกค่าไถ่เห็นว่าไม่เป็นไปตามคาดหมายก็ปั่นป่วนขึ้นมาบ้าง เดิมทีกะว่าพอได้เงิน ก็ฆ่าปิดปากแม่นี่ซะแล้วล้างมือจากวงการ แต่ตอนนี้ไม่ได้เงินนี่สิ!
พลันดวงตาเป็นประกายวาบ เขาหยิบโทรศัพท์มาแล้วกดโทรออก