รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 288 ฮั่วเทียนอวี่จอมบ้าคลั่ง
ยามรัตติกาลมาเยือน นอกหน้าต่างเป็นเขตเมืองย่านการค้าคึกคัก แสงไฟรถสว่างไสวเรียงรายอยู่บนถนนเป็นสายยาว เมื่อเทียบกับความแออัดจอแจนอกหน้าต่าง ภายในห้อง ฮั่วเทียนอวี่มีสีหน้าคล้ำเครียดอย่างหงุดหงิดฉุนเฉียว เขากลับจากพบหลินหว่านแล้วรู้สึกขัดเคืองใจมาก
ผู้หญิงบ้านั่น ทำไมใจแข็งอย่างนี้นะ อยู่กับฉันมันเลวร้ายนักหรือไง ดูท่าทางเริ่ดเชิดหยิ่งของเธอแล้วก็ให้โมโหนัก ฮั่วเทียนอวี่แอบสบถอยู่ในใจ เขาไม่ยอมปล่อยเธอไปแบบนี้แน่!
ฮั่วเทียนอวี่ยิ่งหน้าตาบิดเบี้ยวเข้าไปทุกที เขาทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ ก็ย่อมเกะกะขวางตาอันจี๋อวี่ ทั้งหมดนี่ก็เป็นเพราะไอ้เซียวจิ่งสือนั่น! ในเมื่อเป็นแบบนี้ แกทำกรรมเอาไว้ ฉันทำอะไรแกไม่ได้ก็ให้ผู้หญิงของแกมาชดใช้ก็แล้วกัน ถ้ายังไม่รู้สำนึกตัวอีก ก็อย่าหาว่าเขาโลภมาก…
ฮั่วเทียนอวี่ลูบคลำมือถือในกระเป๋ากางเกง เริ่มพิมพ์ข้อความว่า “พรุ่งนี้แปดโมงเช้า ร้านกาแฟตรงข้ามอันซวี่กรุ๊ป ทดแทนคุณ!” หลังจากส่งข้อความออกไปแล้ว ฮั่วเทียนอวี่เหมือนกับได้ระบายความโกรธที่อัดอั้นเอาไว้ พอนึกถึงแผนการวันพรุ่งนี้ของเขา ก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที ค่อยโทรออกไปที่เบอร์หนึ่ง
“ไง? พรรคพวก เย็นนี้มาเจอกันหน่อยเป็นไง…ใช่ วันนี้พี่อารมณ์ดี ฮ่าๆๆ …ได้ เจอกันที่เดิม” วางสายแล้ว ฮั่วเทียนอวี่ก็หยิบกุญแจรถขึ้นมา ฮัมเพลงออกจากบ้านไป เริ่มชีวิตเริงรมย์ยามค่ำคืนของเขา
อีกด้านหนึ่ง หลินหว่านเพิ่งอาบน้ำเสร็จออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นข้อความบนมือถือ มือที่เช็ดผมอยู่ชะงักกึก แววตาเป็นประกายเย็นเฉียบ รู้สึกขยะแขยงต่อสภาพปัจจุบันของฮั่วเทียนอวี่ที่ลงมือโดยไม่เลือกวิธีการแบบนี้ ทดแทนคุณรึ? หึ พรุ่งนี้ฉันจะตอบแทนคุณให้สาสมทีเดียว!
เช้าตรู่ แสงแดดอ่อนๆ ทอดเป็นลำ หลินหว่านในชุดเต็มยศ พร้อมแว่นตาดำ หน้ากากอนามัยและหมวก ปรากฏตัวที่หน้าร้านกาแฟที่กำลังงานยุ่งวุ่นวาย แสงแดดสาดส่องต้องผมของหลินหว่าน เอิบอาบบนร่างเธอจนเป็นเงาประกายจางๆ ชั้นหนึ่ง ตลอดทั้งร่างดูเอิบอิ่มทั้งลึบลับน่าสนใจ
หลินหว่านเหลียวมองรอบข้าง ไม่เห็นแม้แต่เงาฮั่วเทียนอวี่ จึงเดินไปนั่งที่ห้องกั้นเล็กๆ ในมุมที่เป็นส่วนตัวแล้วดึงหน้ากากอนามัยออก เรียกบริกรในร้านมา
“คุณคะ ไม่ทราบจะดื่มอะไรดีคะ?” บริกรถามอย่างสุภาพ พร้อมกับคลี่รอยยิ้มที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
“อืม ขอลาเต้ร้อนถ้วยหนึ่งก็แล้วกัน ไม่ใส่น้ำตาล ขอบคุณ” หลินหว่านผงกศีรษะให้บริกรอย่างอ่อนโยน “แค่นี้ค่ะ”
“ได้ค่ะ คุณ” หลังจากบริกรไปแล้ว หลินหว่านก็เปิดกระเป๋าเป้ออก ล้วงมือเข้าไป เปิดเครื่องบันทึกเสียงขนาดเล็กที่เตรียมมาอย่างดี จากนั้นลากซิปปิดช้าๆ ถ้าฮั่วเทียนอวี่เสนอความต้องการที่เกินเลยไป เธอก็จะรับปากเขา หางานดีๆ หน่อยให้เขา ถึงยังไงเขาก็เคยช่วยเธอมาก่อน แต่ถ้าเขาทำรุ่มร่ามอีก ก็อย่าหาว่าเธอไม่เกรงใจแล้ว…
หลินหว่านหันมองออกไปนอกหน้าต่าง บนถนนเสียงดังอึกทึกจอแจ ผู้คนสารพัดรูปแบบเพิ่งเริ่มวันทำงานอันยุ่งวุ่นวายของพวกเขา หลินหว่านนั่งอยู่ภายในร้านกาแฟ ราวกับหลุดพ้นจากความวุ่นวายรอบข้าง เธอนั่งนิ่งอย่างสงบอยู่ที่นั่น สงบนิ่ง เปี่ยมสง่าราศี อ่อนโยนละมุนละไมอย่างบอกไม่ถูก
ลาเต้มาเสริฟแล้ว ควันลอยกรุ่น ฮั่วเทียนอวี่ยังไม่มา หลินหว่านยกมือขึ้นดูนาฬิกาข้อมือ เลยเวลาแปดโมงไปแล้ว…
หลินหว่านประคองถ้วยกาแก จิบบางๆ คำหนึ่ง รับรู้ถึงรสขมฝาดบนริมฝีปาก หลินหว่านพอใจจนหรี่ตาลง ในใจคิดว่า ร้านกาแฟที่ฮั่วเทียนอวี่เลือกก็ไม่เลวเลย รสชาติกลมกล่อมดีจริงๆ
เธอดื่มกาแฟลงไปถ้วยหนึ่ง หลินหว่านยังไม่เจอฮั่วเทียนอวี่ เธอรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอยู่บ้าง ก่อนหน้านี้ทำไมเธอไม่เคยรู้ว่าฮั่วเทียนอวี่เป็นคนไม่รักษาเวลาแบบนี้นะ เสียแรงที่เมื่อก่อนเธอ…ช่างเถอะ ถึงยังไงเธอก็ติดค้างน้ำใจเขา
หลินหว่านเรียกบริกรมาอีกครั้ง สั่งอาหารเช้าชุดหนึ่งสำหรับตัวเอง ถึงยังไงก็ไม่อาจปล่อยให้ตัวเองหิ้วท้องรอกระมัง
อาหารเช้ายังไม่มาเสริฟ หลินหว่านรู้สึกเบื่ออยู่บ้าง มือข้างหนึ่งเท้าคาง สายตามองดูผู้คนที่เดินไปมาอยู่นอกหน้าต่าง
แสงแดดยามเช้าสาดต้องใบหน้างามของหลินหว่าน ช่วยขับใบหน้าเฉยชาให้ดูอ่อนโยนนุ่มนวลลง ดูไปแล้วเหมือนกับนางเซียนที่หลงมายังโลกมนุษย์ก็ไม่ปาน ตอนที่ฮั่วเทียนอวี่มาถึง พอดีเห็นภาพงดงามตาจรรโลงใจนี้เข้า
เขาอดกลืนน้ำลายลงคอไปไม่ได้ ฮั่วเทียนอวี่จ้องหลินหว่านด้วยสายตากระหายหิว กวาดสายตาไปมาบนใบหน้านวลเนียนนั้นอย่างไม่เกรงใจ คนสวยนี่ เดิมทีต้องเป็นของฉัน! ฮั่วเทียนอวี่นึกในใจอย่างไม่ละอายแก่ใจ
ทำไมหลินหว่านจะไม่รู้สึกถึงสายตาเสือหิวที่มองมา เธอหันมาเห็นใบหน้าของฮั่วเทียนอวี่ก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ ฮั่วเทียนอวี่…อย่าใช้ใบหน้าของเซียวจิ่งสือมาแสดงสีหน้าชวนอ้วกแบบนั้นจะได้ไหมนะ
ฮั่วเทียนอวี่สังเกตเห็นสายตารังเกียจของหลินหว่าน ในใจรู้สึกเหมือนถูกหยามหน้า เธอถือดีอะไรมองเขาด้วยสายตาแบบนี้ แต่กลับเผยความจริงใจให้กับเซียวจิ่งสือไอ้ลูกเต่านั่น! ฮั่วเทียนอวี่อารมณ์เย็นลง จัดเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าไป
นั่งลงที่ตรงข้ามหลินหว่าน เขายิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนเคย แต่ในสายตาหลินหว่าน ยังคงเป็นการเยาะหยันกันอยู่ดี
“หว่านหว่าน ขอโทษนะ ผมมาสายไปหน่อย” อันที่จริงฮั่วเทียนอวี่ก็ไม่อยากมาสายหรอก ที่สำคัญคือเมื่อคืนพรรคพวกเล่นกันไฮท์ไปหน่อย จนลืมดูเวลา กว่าจะได้นอน ทำให้ตอนเช้าเขาลุกไม่ขึ้น
“……” หลินหว่านไม่ได้พูดตอบ แค่ก้มลงมองมือตัวเอง คิดเย้ยหยันในใจ มาสายไปหน่อย? สายไปตั้งชั่วโมงกว่า!
“หว่านหว่าน คุณอย่าโกรธนะ ผมไม่ได้ตั้งใจหรอก” ฮั่วเทียนอวี่เห็นหลินหว่านไม่พูดอะไร ก็นึกว่าเธอโกรธ นั่นหมายความว่าอะไร? นี่หมายความว่าในใจหว่านหว่านยังมีเขาอยู่!
ฮั่วเทียนอวี่ที่นึกว่าตัวเองได้ค้นพบความจริงเข้า เริ่มนึกกระหยิ่มใจ เอาแต่พูดเรื่องที่เขารักหลินหว่านไม่น้อยไปกว่าเซียวจิ่งสือ หลินหว่านฟังแล้วรำคาญมาก กำลังคิดจะพูดขัดขึ้น บริกรก็ยกอาหารเช้าของเธอมาเสริฟ
ฮั่วเทียนอวี่มองดูอาหารเช้าชุดใหญ่บนถาด ดวงตาเป็นประกายวาว “หว่านหว่าน ทำไมคุณรู้ล่ะว่าผมยังไม่ได้ทานอาหารเช้า อุตส่าห์สั่งมาให้ผมเหรอ?” กำลังยื่นมือจะไปรับ หลินหว่านชิงยกอาหารเช้าของตัวเองมาก่อนที่เขาจะเอาไป
หลินหว่านไม่สนมือที่ยื่นค้างของฮั่วเทียนอวี่ เธอก้มหน้าก้มตาทานอาหารของตัวเอง ฮั่วเทียนอวี่วางมือลงอย่างขัดเขิน พูดว่า “หว่านหว่าน คุณยังโกรธผมอยู่จริงๆ …”
“คุณฮั่วคะ กรุณาอย่าพูดเองชงเองได้ไหมคะ?” หลินหว่านพูดขัดฮั่วเทียนอวี่ “วันนี้คุณนัดฉันออกมาคิดจะพูดอะไรคะ กรุณาอย่าทำให้ฉันเสียเวลาอีกเลยค่ะ!”
หลินหว่านกลืนอาหารลงคอไป พูดว่า “คุณพูดได้แล้วค่ะ”
ฮั่วเทียนอวี่สะกดกลั้นความโกรธที่พลุ่งพล่านขึ้นมา พยายามรักษาน้ำเสียงให้ดูเป็นปกติ “ขอเสนอของผมง่ายมาก ผมแค่ให้คุณไปบอกกับเซียวจิ่งสือว่า ให้เขาสละเก้าอี้ในบริษัทของเขาให้ผมก็พอ ให้ผมรับช่วงต่อเข้าไปลองเล่นในบริษัทพวกเขาดูบ้าง” ฮั่วเทียนอวี่พูดคำนี้ออกมาราวกับมันเป็นเรื่องสมเหตุสมผลเป็นที่สุด
ฮั่วเทียนอวี่คิดแค้นเซียวจิ่งสือมาตลอด เซียวจิ่งสือไม่เพียงแย่งผู้หญิงของเขา ยังทำให้เขาตกงานอีก เดิมทีเขาวางแผนว่าจะเป็นผู้จัดการแล้วเชียว! ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเซียวจิ่งสือ เขาต้องจ่ายค่าตอบแทนมา!
หลินหว่านวางช้อนในมือลง ช้อนกระทบขอบจานดัง “แกร็ง” ตามมาด้วยฮั่วเทียนอวี่หัวใจกระตุกวูบ