รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 81
หลินหว่านอดประหลาดใจไม่ได้ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมผู้กำกับนิกจึงไม่แจ้งเธอก่อนล่วงหน้า แต่รอจนเธอมาถึงที่นี่แล้วจึงบอกว่าบทของเธอมีคนแสดงแล้ว หลินหว่านอดรู้สึกผิดหวังไม่ได้ เธอไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยตอบอย่างไรได้แต่มองดูเขานิ่งอยู่
นิกก็รู้สึกผิดอยู่บ้าง เขาอ้ำๆ อึ้งๆ ว่า “ผมหาบทให้คุณไว้ คุณแสดงฉากของวันนี้ไปก่อนก็แล้วกันนะ ต่อไปคุณก็เล่นบทนี้แล้วกัน พรุ่งนี้คุณมีฉากแสดงร่วมกับพระเอกเบอร์หนึ่งด้วย คุณเตรียมตัวด้วยล่ะ” นิก
ยื่นบทให้กับหลินหว่าน
หลินหว่านรับบทมาพลางถอนหายใจโล่งอก ในเมื่อมาถึงนี่แล้วมีบทให้แสดงก็นับว่าดีมากแล้ว
ไม่นานนักหลินหว่านก็แสดงบทในส่วนของตัวเองเสร็จแล้วกลับเข้าห้องพัก เนื่องจากวันนี้ตอนมาถึง
เร่งรีบเกินไป ตอนนี้เธอจึงรู้สึกเหนื่อยมาก คิดว่าอาบน้ำเสร็จจะขึ้นเตียงไปอ่านบทแล้วจึงพักผ่อน
“ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น
หลินหว่านมีสีหน้าประหลาดใจ ขณะที่ในใจรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้างเธอคิดว่าคงเป็นอวิ๋นซีที่ลืมอะไรสักอย่างจึงกลับมา
หลินหว่านเปิดประตูอย่างรำคาญอยู่บ้างแต่พอเงยหน้าขึ้นก็สะดุ้งเฮือก เบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ อึ้งไปชั่วครู่จึงพูดขึ้น “คุณคือ…คุณคือพระเอกของหนังเรื่องนี้สินะคะ เอ้อ สวัสดีค่ะ นี่ก็ดึกแล้วคุณมีธุระอะไรเหรอคะ”
พระเอกยิ้มกรุ้มกริ่มมองดูหลินหว่าน ไม่รอให้หลินหว่านเอ่ยปากก็เดินเข้าห้องมา กลายเป็นว่าหลินหว่านเดินตามหลังเขามา
หลินหว่านมัวคิดว่าดึกขนาดนี้แล้วเขายังมาที่ห้องเธอ อีกทั้งเข้ามาอย่างไม่เกรงใจเลย เหมือนกับที่นี่เป็นบ้านของเขาอย่างนั้น หลินหว่านรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมา แต่เนื่องจากเพิ่งพบหน้าเป็นครั้งแรก หลินหว่านจึงยังรักษามารยาทกับเขาอยู่
“วันนี้ผมเห็นคุณแต่ไกลตั้งแต่คุณมาถึงแล้ว ผมคิดว่าคุณน่าจะรู้แล้วว่าพรุ่งนี้คุณกับผมต้องเข้าฉากร่วมกัน ผมมันคนรักในอาชีพอย่างมาก ผมหวังว่าจะไม่ต้องเสียเวลาในวันพรุ่งนี้ก็เลยจะใช้เวลาคืนนี้ซ้อมบทก็แล้วกัน” พระเอกพูดพลางนั่งบนโซฟาแล้วยกเท้าขึ้นไขว่ห้าง
หลินหว่านกลับมารู้สึกดีต่อเขาอีกครั้ง ที่แท้เขาก็เป็นศิลปินที่รักในงานอาชีพ ดึกดื่นขนาดนี้แล้วยังคิดถึงการแสดงในวันพรุ่งนี้อีก หลินหว่านจึงตัดสินใจว่าจะรับปากเขา สำหรับเธอแล้วสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนักแสดงก็คือความรักในอาชีพนี่นะ
“เอาล่ะ งั้นพวกเราก็เริ่มกันเถอะ วันนี้ฉันเหนื่อยมาก หวังว่าพวกเราจะซ้อมเสร็จกันเร็วหน่อย ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์ปลีกตัวมาซ้อมบทกับฉันถึงนี่ หวังว่าพวกเราพยายามกันในคืนนี้ เข้าฉากวันพรุ่งนี้จะทำให้
ผู้กำกับพอใจในคราวเดียว” หลินหว่านพูดด้วยรอยยิ้มเต็มไปด้วยความยินดี
แต่ระหว่างการซ้อมบทกับพระเอกนั้นไม่ได้สวยงามอย่างที่หลินหว่านคิดไว้ พระเอกเบอร์หนึ่งคอยจะแตะเนื้อต้องตัวเธอ แบบตั้งใจบ้างไม่ตั้งใจบ้างอยู่บ่อยๆ ตอนเริ่มแรกเหมือนเป็นแค่เข้ามาประชิดอย่างเกรงใจ แต่ตอนหลังกลายเป็นการสัมผัสอย่างตั้งใจ อีกทั้งมักจะใช้สายตาโลมเลียเธอตลอดเวลา
“คุณหลินหว่าน คุณเซ็กซี่ขนาดนี้ เต้นท่าลีลาเร่าร้อนคงต้องน่าดูมากแน่ๆ ” พระเอกยิ้มแฝงเลศนัยขณะเลื่อนมือลงด้านล่าง
หลินหว่านรู้สึกอึดอัดมาก เธอรู้สึกได้ว่ามือของพระเอกไม่เรียบร้อยนัก ความโกรธพุ่งขึ้นมา เธอผลักพระเอกให้ออกห่างแล้วตวัดมือขึ้นฟาดฉาดใหญ่ไปที่ใบหน้าพระเอกเบอร์หนึ่งเต็มแรง
แน่นอนว่าทั้งสองจากกันอย่างไม่ดีนัก แม้ว่าหลินหว่านไม่ได้ถูกเขาเอาเปรียบ แต่คำพูดเยาะเย้ย
ถากถางของพระเอกนั่นทำให้เธอยิ่งโกรธขึ้นไปอีก หลินหว่านกลัวว่าเซียวจิ่งสือจะเป็นห่วงเธอ จึงไม่ได้บอกเขาเรื่องนี้
วันรุ่งขึ้นตอนหลินหว่านเข้าฉากกับพระเอกนั่น เธอไม่ได้พูดกับเขาสักคำ สำหรับหลินหว่านแล้วเขาไม่ใช่คนที่จะเป็นเพื่อนได้อีก แต่เนื่องจากต้องทำงานร่วมกัน หลินหว่านจึงเลือกที่จะไม่พูดอะไรกับพระเอกให้มากความ
การเงียบและอ่อนข้อให้ของหลินหว่านไม่ได้ทำให้พระเอกนั่นเก็บอาการลง หลังฉากระหว่างการถ่ายทำเขามักจะคอยเยาะเย้ยหลินหว่านอยู่เสมอ ทำให้หลินหว่านรู้สึกกลุ้มใจมาก แต่นอกจากผู้จัดการแล้วเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดกับใครได้อีก ระหว่างนี้จึงได้แต่อดทนกับพระเอกนั่น แต่เขายิ่งย่ามใจหนักข้อมากขึ้น
หลินหว่านรู้สึกรังเกียจเขามาก ระหว่างการถ่ายทำก็มักเกิดเรื่องมากมายซึ่งกระทบต่อการทำงานของหลินหว่านอย่างมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งหลังจาก NG มาหลายครั้งจนเกินไป ผู้กำกับเรียกหลินหว่านมาที่ด้านหนึ่ง
“คุณหลินหว่าน นี่มันเรื่องอะไรกัน ผมเชื่อในความสามารถของคุณมาตลอด แต่นี่เมื่อครู่แค่ฉากสั้นๆ ไม่กี่นาที คุณกับพระเอก NG กันไปกี่ครั้งแล้ว คุณรู้ไหมว่ามันกระทบตารางงานของเราแค่ไหน แล้วผมยังเห็นว่าระหว่างพวกคุณดูเหมือนจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ ทำไมพวกคุณไม่พูดคุยกันเลย หรือว่าหลายวันนี้สภาพร่างกายคุณไม่ดี หรือเป็นอะไรแน่” ผู้กำกับนิกขมวดคิ้วมองหลินหว่านอย่างไม่เข้าใจ
หลินหว่านลังเลว่าจะบอกเรื่องนี้กับผู้กำกับดีหรือไม่ พระเอกนี้มีชื่อเสียงในระดับโลกทีเดียว บอกผู้กำกับไปแล้วจะส่งผลเสียต่อเธอหรือเปล่า หลินหว่านเฝ้าคิดกังวลถึงแต่เรื่องพวกนี้อยู่ในหัว แต่ว่าเมื่อหลินหว่านแอบชำเลืองมองเห็นท่าทีร้อนใจของผู้กำกับ เธอคิดว่าไหนๆ ก็ร่วมงานกันมาสองครั้งแล้วจึงบอกเรื่องนี้กับผู้กำกับ
“มีอยู่คืนหนึ่งพระเอกนั่นมาหาฉันเพื่อขอซ้อมบทแต่ระหว่างนั้นเขาลวนลามฉัน ต่อมาพอถึงเวลาเข้าฉากก็มักจะทำเหมือนไม่ตั้งใจคอยยุ่มย่ามกับฉันอยู่เรื่อย ตอนนี้ฉันรังเกียจเขามากเลยค่ะ ก็เลยส่งผลกับการแสดง เรื่องนี้กระทบถึงการทำงานของพวกคุณ ฉันต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ” หลินหว่านก้มหน้าพูดออกมา
ผู้กำกับเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วก็ไม่ได้ตำหนิหลินหว่านอีก เขาไม่รู้ว่าจะปลอบใจหลินหว่านอย่างไรดี เขาคิดไม่ถึงว่าเธอจะถือสาเรื่องแบบนี้ถึงขนาดนี้ เรื่องแบบนี้ในวงการบันเทิงพบเห็นได้เป็นปกติมาก แต่เรื่องนี้กลับยิ่งทำให้เขาชื่นชมหลินหว่านมากขึ้น
นิกพูดเสียงเรียบว่า “หลินหว่าน การที่พระเอกทำกับคุณแบบนั้นพวกเราต้องขอโทษคุณอย่างมาก ผมเองก็ต้องขอโทษที่ตำหนิคุณไปเมื่อครู่นี้ด้วย อันที่จริงคุณไม่ต้องไปรังเกียจเขาขนาดนี้ เจ้านี่ก็เป็นคนแบบนี้ เจอใครก็ฝากรักไปทั่ว ตัวเขาโดยปกติแล้วเป็นคนดีมากนะ ถ้าคุณเข้าใจเขาแล้วคุณจะพบว่าเขาเป็นคนดีมากคนหนึ่ง”
หลินหว่านเหยียดยิ้มบางๆ ทีหนึ่ง สำหรับหลินหว่านแล้วเธอไม่เห็นว่านั่นเป็นแค่เรื่องรักสนุก เธอยังรู้สึกรังเกียจพระเอกนั่นอยู่ดี
ตกบ่ายกว่าจะได้เวลาพัก หลินหว่านดูมือถือไปพลางทานข้าวไปพลาง จู่ๆ พระเอกเบอร์หนึ่งก็มานั่งลงที่ตรงหน้าเธอ
“หลินหว่าน ผมขอโทษด้วยเรื่องก่อนหน้านี้ ที่ผมทำให้คุณต้องลำบากผมเสียใจจริงๆ ครับ ผมหวังว่าคุณจะยกโทษให้ผม ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจเลย ผมแค่อยากจะให้พวกเราใกล้ชิดเป็นมิตรกันมากขึ้นน่ะ” พระเอกพูดจบก็มองดูหลินหว่านที่ยังก้มหน้าดูมือถืออยู่ เขาพูดต่อว่า “หลินหว่าน คุณอย่าคิดมากแบบนี้ได้ไหม แค่ไม่ตั้งใจโดนตัวคุณไปไม่กี่ครั้งเองไม่ใช่หรือไง ตอนนี้ผมก็ขอโทษแล้ว ขอโทษจริงๆ นะ คุณก็อย่าโมโหอีกเลยนะ ในเมื่อพวกเราได้มาอยู่กองถ่ายเดียวกันแล้ว คุณก็ยกโทษให้ผมเถอะนะ”
หลินหว่านเงยหน้าขึ้นมองพระเอกเบอร์หนึ่งอย่างไม่อยากจะเสียสายตา พูดเสียงเรียบ “ฉันขอปฏิเสธคำขอโทษของคุณ นอกจากเวลางานแล้วกรุณาอย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีกค่ะ” หลินหว่านพูดจบก็เดินจากไป