รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 83
แต่ว่าเรื่องนี้เมื่อเทียบกับความนิยมหนังของเสวี่ยลี่แล้วก็ไม่เป็นอะไรเลย
ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังเป็นบทนางเอกเบอร์หนึ่งของหนังแฟนตาซีฟอร์มยักษ์ที่เสวี่ยลี่เป็นคนเขียนบทอีกด้วย ถ้าหากหลินหว่านเล่นเรื่องนี้ให้ดีๆ ย่อมจะช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับเธอได้อย่างมากแน่นอน ถึงตอนนั้น
หลินหว่านก็จะพูดได้เต็มปากว่าโด่งดังเป็นซุปตาร์ในวงการบันเทิงตัวจริง
เมื่อนึกถึงตรงนี้ อวิ๋นซีก็สนับสนุนเต็มที่ให้หลินหว่านแสดงหนังเรื่องนี้ และให้เธอเตรียมตัวให้พร้อม “ไม่เป็นไรหรอก หว่านหว่าน สู้ๆ นะ!”
“พวกคุณกำลังคุยกันเรื่องอะไรน่ะ” ตอนนั้นเอง จู่ๆ เสียงของเซียวจิ่งสือก็ดังขึ้นที่ข้างหลังอวิ๋นซีกับ
หลินหว่าน
เซียวจิ่งสือเดินมาตรงหน้าหลินหว่าน พอเห็นว่าหลินหว่านมีสีหน้าดีใจ เขาก็ถามด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดี “หว่านหว่าน มีอะไรถึงดีใจขนาดนี้ บอกให้ผมดีใจด้วยคนสิ”
หลินหว่านเห็นท่าทางยิ้มแย้มของเซียวจิ่งสือแล้วก็รีบเล่าเรื่องที่เสวี่ยลี่เชิญเธอไปเล่นบทนางเอก
เบอร์หนึ่งในหนังเรื่องใหม่ของเธอให้เขาฟัง
เซียวจิ่งสือฟังแล้ว ตอนแรกก็ดีใจแทนหลินหว่านเต็มที่ แต่พอได้ยินว่าหลินหว่านต้องไปถ่ายทำหนังเรื่องนี้ที่ต่างประเทศตลอดเรื่องสีหน้าก็เปลี่ยนไป “คุณจะบอกว่า คุณเล่นหนังเรื่องนี้ต้องอยู่ที่ต่างประเทศกี่เดือนนะ”
“ใช่ค่ะ นี่เป็นหนังแฟนตาซีนี่ เทคโนโลยีของต่างประเทศสุดยอดกว่าในประเทศ ก็เลย…” หลินหว่านฟังแล้วอธิบายกับเซียวจิ่งสือ
“ไม่ได้ หว่านหว่าน ปฏิเสธหนังเรื่องนี้ไป” ไม่รอให้หลินหว่านพูดจบ เซียวจิ่งสือก็พูดตัดบทขึ้น
“ทำไมล่ะคะ” หลินหว่านฟังแล้ว ถามอย่างประหลาดใจ
“ถ้าคุณไปถ่ายหนังที่ต่างประเทศผมจะเจอคุณได้ยังไงล่ะ ผมไม่อยากให้คุณห่างจากผม” เซียวจิ่งสือ
ตอบอย่างเป็นเหตุเป็นผล
“เซียวจิ่งสือ คุณ…” หลินหว่านได้ฟังเหตุผลของเซียวจิ่งสือแล้วรู้สึกแปลกใจสุดๆ “คุณเป็นอย่างนี้ได้ยังไงคะ”
“เพราะไม่อยากให้ฉันห่างจากคุณก็เลยให้ฉันปฏิเสธหนังเรื่องนี้ คุณถามความรู้สึกฉันแล้วหรือยังคะ”
พอหายประหลาดใจ หลินหว่านก็รู้สึกเดือดขึ้นมาจึงย้อนถามเอากับเซียวจิ่งสือ
“ประธานเซียวคะ หว่านหว่านได้รับความชื่นชมจากเสวี่ยลี่ นี่เป็นโอกาสของเธอ คุณจะห้ามหว่านหว่านได้ยังไงคะ” อวิ๋นซีที่ด้านข้างเห็นแล้วเข้ามาชี้แจงกับเซียวจิ่งสือ
เซียวจิ่งสือนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง นี่เป็นโอกาสของหลินหว่านจริงๆ แต่เขากลับทนไม่ได้ที่จะให้หลินหว่านอยู่ห่างเขาตั้งหลายเดือน
“ประธานเซียว คุณต้องนึกถึงหว่านหว่านด้วยนะคะ การได้แสดงหนังของเสวี่ยลี่เป็นโอกาสที่ไม่ได้มาง่ายๆ หนังเรื่องนี้สำหรับหลินหว่านแล้วถือเป็นโอกาสดีมากๆ อย่างแน่นอน คุณจะให้หว่านหว่านทิ้งไปง่ายๆ ได้ยังไงกันคะ” อวิ๋นซีเห็นว่าเซียวจิ่งสือยังลังเลไม่ตัดสินใจก็เอ่ยปากโน้มน้าวอีก
“แต่ว่า…” เซียวจิ่งสือยังไม่ยอมอีก
นี่เป็นโอกาสที่ดีมากของหลินหว่าน แม้ว่าเซียวจิ่งสือไม่อยากให้เธอไปจากเขา แต่เขาก็ไม่มีเหตุผลให้หลินหว่านปฏิเสธหนังเรื่องนี้ ละทิ้งโอกาสอันดีขนาดนี้ไป
สุดท้ายเซียวจิ่งสือยอมโอ่นอ่อนให้ “งั้นก็ได้”
“หว่านหว่าน ขอโทษนะ ผมแค่ไม่อยากให้คุณห่างจากผมนานเกินไป” พอคิดได้เซียวจิ่งสือก็พูดกับหลินหว่าน
หลินหว่านเดิมทีหน้าบูดบึ้งอยู่ด้วยความโมโหที่เซียวจิ่งสือจะให้เธอปฏิเสธหนังเรื่องนี้ แต่ว่าพอได้ยิน
คำขอโทษของเซียวจิ่งสือ เธอก็ใจอ่อนพูดว่า “เซียวจิ่งสือ ต่อไปคุณอย่าเป็นอย่างนี้อีกนะคะ”
อวิ๋นซีเห็นแบบนี้ก็รู้ว่าเซียวจิ่งสือฟังคำของเธอ ถอนใจอย่างโล่งออกแล้วจากไปเงียบๆ
“ครับ เมื่อกี้ผมหุนหันพลันแล่นไปหน่อย หว่านหว่าน ต่อไปผมจะไม่ทำแบบนี้อีก” เซียวจิ่งสือรีบพูดขึ้น
สุดท้าย เซียวจิ่งสือออดซ้ายอ้อนขวา บวกคำขอโทษ หลินหว่านจึงค่อยหายโกรธ
หลังจากนั้นสองวัน หลินหว่านขึ้นเครื่องไปต่างประเทศเพื่อทดสอบหน้ากล้อง โดยมีเซียวจิ่งสือไปกับเธอด้วย เนื่องจากต่อไปอาจไม่ได้เจอกับหลินหว่านเป็นเวลานาน ดังนั้นหลายวันนี้เซียวจิ่งสือจึงคอยวนเวียนอยู่ข้างกายเธอตลอด รวมทั้งการไปทดสอบหน้ากล้องคราวนี้ก็จะไปกับหลินหว่านด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้หลินหว่านได้ทำความเข้าใจว่าบทหนังเรื่องนี้ของเสวี่ยลี่เป็นบทหนังที่ดัดแปลงมาจาก
นวนิยายแฟนตาซีขายดีมากเรื่องหนึ่ง นวนิยายเรื่องนี้มีแฟนนิยายกลุ่มใหญ่จำนวนหนึ่ง หลินหว่านตั้งอกตั้งใจอ่านนวนิยายเรื่องนี้จนจบ เพื่อเตรียมพร้อมเต็มที่สำหรับการทดสอบหน้ากล้องครั้งนี้
เมื่อมาถึงสถานที่ทดสอบหน้ากล้อง หลินหว่านได้พบกับผู้กำกับการคัดเลือกนักแสดง ผู้กำกับส่งบทให้เธอเล่มหนึ่ง ให้เธอลองแสดงฉากหนึ่งในนั้น
ไม่มีฉากหลัง ไม่มีปูพื้นเรื่องให้ ไม่มีคนร่วมแสดงด้วย และไม่มีเอฟเฟคพิเศษอะไรเลย แต่หลินหว่านก็ยังแสดงฉากนี้อย่างตั้งใจตามความเข้าใจของเธอที่มีต่อบทบาทนี้
การแสดงของหลินหว่านทำให้ผู้กำกับพอใจมาก บุคลิกลักษณะของเธอกับนางเอกเบอร์หนึ่งเข้ากันได้ดีมาก พอคิดว่าหลินหว่านเป็นนักแสดงที่คนเขียนบทแนะนำให้เขาแบบเน้นๆ ดังนั้นเขาจึงตกลงให้
หลินหว่านได้บทนี้ไปทันที
หลังกำหนดตัวแสดงของหลินหว่านแล้ว ผู้กำกับก็พูดกับเธอว่า “ดีมากเลย หลินหว่าน ไม่เสียทีที่เสวี่ยลี่แนะนำให้ผมด้วยตัวเอง คุณแสดงได้ดีมาก”
“คุณชมเกินไปแล้วค่ะ อย่างไรก็ขอขอบคุณคุณที่ให้โอกาสนี้กับฉันนะคะ” หลินหว่านพูด
ผู้กำกับฟังคำหลินหว่านแล้วยิ่งชอบใจกับท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตัวของเธอเข้าไปอีก เขาหัวเราะแล้วพูดกับเธอว่า “ฮ่าๆ คุณนี่ถ่อมตัวเกินไปจริงๆ อ้อ กำหนดเปิดกล้องหนังอีกหนึ่งเดือนหลังจากนี้ ตารางการถ่ายทำจะมีคนแจ้งคุณเอง คุณกลับไปก่อนนะ แล้วเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”
หลังจากหลินหว่านทดสอบหน้ากล้องแล้วก็กลับประเทศพร้อมกับเซียวจิ่งสือ เซียวจิ่งสือรู้สึกดีใจมากกับเรื่องนี้ เขาหาเหตุมาหาหลินหว่านเสมอ ใช้เวลาหนึ่งเดือนนี้ของพวกเขาให้มีค่าทุกเวลานาทีด้วยกัน
สามวันต่อมา หนังเรื่องนี้ก็ประกาศรายชื่อนักแสดงนำทั้งหมดอย่างเป็นทางการทางอินเทอร์เน็ต เพียงชั่วขณะเวยปั๋วก็ปั่นป่วนเป็นมรสุมเข้า
เนื่องจากหนังเรื่องนี้เป็นการดัดแปลงบทจากนวนิยาย บรรดาแฟนนิยายทั้งหลายกำลังตั้งท่าเตรียมแขวะ ‘เอฟเฟกต์ราคาถูก’ ของในประเทศ แต่พอเห็นผู้อำนวยการสร้างแล้วต่างพากันเลือกที่จะสงบปากคำ
เนื่องจากหนังเรื่องนี้มีทุนสร้างสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งถ่ายทำในต่างประเทศตลอดเรื่อง ทำให้แฟนนิยายทั้งหลายพากันวางใจ
แต่พอประกาศตัวทีมนักแสดง เหล่าแฟนนิยายก็เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ทุกตัวละครที่นักแสดงแต่ละคนรับบท
หลินหว่านในฐานะนางเอกเบอร์หนึ่งยิ่งเป็นที่ถกเถียงกันมาก
นักอ่านหนึ่งพันคนย่อมมีแฮมเล็ตหนึ่งพันแบบฉันใด เช่นเดียวกันแฟนนิยายสิบล้านคนย่อมต้องมีนางเอกสิบล้านแบบฉันนั้น
ในใจของแฟนนิยายแต่ละคนล้วนมีรูปลักษณ์ของนางเอกที่ตัวเขาเองเข้าใจและเห็นว่าเหมาะสม
บ้างก็บอกว่าหลินหว่านมีรูปลักษณ์คล้ายกับที่ตัวเองคิดไว้ บ้างก็ถึงกับเห็นว่าหลินหว่านเป็นนางเอกในใจเขาเลยทีเดียว พวกเขารู้สึกว่าหลินหว่านเป็นนางเอกที่ไม่มีใครจะมาเทียบได้ ต่างก็คาดหวังและรอคอยอย่างยิ่งที่จะได้ชมการแสดงของหลินหว่าน
แต่ก็มีบางคนที่เห็นว่าหลินหว่านแตกต่างจากรูปลักษณ์ของนางเอกในใจตัวเองมาก ไม่เหมาะสม
เอาเสียเลย
พวกเขาพากันไปด่ากราดที่เวยปั๋วของหลินหว่าน บอกให้เธอลาออกจากบทนางเอกแล้วถอนตัวจากหนังเรื่องนี้ซะ