รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 92
ขณะที่หลินหว่านกับอันลั่วเฉิงกำลังพูดคุยกันในห้องของซวี่กวงนั้นเอง ก็มีเสียงเปิดประตูห้องดังมาจากทางหน้าห้อง จากนั้นเสียงของซวี่กวงก็ดังขึ้น “พวกคุณสองคนทำไมมาอยู่นี่ได้”
อันลั่วเฉิงพอเห็นซวี่กวงก็ถามขึ้นอย่างสงสัยว่า “นายกลับมาจนได้นะ! เมื่อสักครู่นี้ไปไหนมาล่ะ”
“ฉันแค่ไปร้านสะดวกซื้อน่ะ” ซวี่กวงตอบ พูดพลางเขาก็ยกถุงข้าวของในมือขึ้นวางบนโต๊ะ
หลินหว่านเห็นว่าของในถุงส่วนใหญ่เป็นของใช้ส่วนตัว เธอจึงอดรู้สึกไม่ได้ว่าซวี่กวงน่าจะเป็นคนที่รักสะอาดมากคนหนึ่ง
ตอนนั้นเอง สายตาของซวี่กวงก็เบนมาที่หลินหว่าน เขาถามว่า “หลินหว่าน คุณมาทำอะไรที่นี่”
“ฉ…ฉันมาขอลาหยุดค่ะ” หลินหว่านรีบตั้งสติตอบกลับไป
“ขอลาหยุด?” ซวี่กวงฟังแล้ว ขมวดคิ้วมุ่น
หลินหว่านเกรงว่าซวี่กวงจะเข้าใจเธอผิด จึงรีบอธิบายต่อว่า “คืออย่างนี้ค่ะ ผู้กำกับซวี่ ตอนบ่ายฉันมีนัดถ่ายโฆษณาชิ้นหนึ่ง การถ่ายตัวอย่างหนังจะเริ่มพรุ่งนี้ ฉันก็เลยจะขอลาหยุดช่วงบ่าย…”
เสียงของหลินหว่านค่อยๆ เบาลง พอพูดจบเธอก็มองซวี่กวงด้วยท่าทางกระสับกระส่าย
อวิ๋นซีบอกว่าซวี่กวงเป็นคนพูดยาก จึงไม่รู้ว่าเขาจะยอมหรือเปล่า ถ้าหากเขาไม่อนุญาตจะด่าเธอตรงนี้เลยหรือเปล่านะ…หลินหว่านคิดไปไกลโดยไม่รู้ตัว
ซวี่กวงฟังแล้วก็มองหลินหว่าน ผงกศีรษะเบาๆ พูดว่า “ได้สิ ขอแค่พรุ่งนี้คุณอย่ามาสายก็แล้วกัน”
“จ…จริงเหรอคะ ผู้กำกับซวี่” หลินหว่านได้ยินแล้วมองซวี่กวงอย่างคาดไม่ถึง เขารับปากเธออย่างง่ายดายแบบนี้เลย
ซวี่กวงผงกศีรษะให้หลินหว่านอีกครั้ง แต่ไม่พูดซ้ำคำพูดเมื่อครู่อีก
“ขอบคุณค่ะ ผู้กำกับซวี่” พอได้รับการยืนยันจากซวี่กวง หลินหว่านก็กล่าวขอบคุณอย่างดีใจ
พอกลับถึงห้องพักตัวเอง หลินหว่านยังไม่อยากเชื่อว่าซวี่กวงจะอนุญาตให้เธอง่ายดายแบบนี้ อวิ๋นซีบอกว่าซวี่กวงพูดยากไม่ใช่หรือไง
หลินหว่านโทรหาอวิ๋นซีแล้วบอกเธอว่าซวี่กวงอนุญาตให้เธอลาหยุดได้
“จริงเหรอ หว่านหว่าน ซวี่กวงเขาตอบรับง่ายๆ อย่างนั้นเลย” อวิ๋นซีย้อนถามอย่างคาดไม่ถึง
“ก็ใช่นะสิ ฉันรู้สึกว่าเขาก็ไม่ได้พูดยากอย่างที่ลือกันหรอกนะ” หลินหว่านนึกถึงท่าทีที่พอจะเรียกได้ว่าอบอุ่นอ่อนโยนของซวี่กวงแล้วพูดขึ้น
“งั้นเหรอ ดูท่าข่าวลือนี่ไม่น่าเชื่อถือนะ เอาล่ะ หว่านหว่าน เรื่องนี้เอาไว้ก่อน เธอเตรียมตัวก่อนนะ ฉันจะส่งคนไปรับ ตอนบ่ายไปถ่ายโฆษณาที่บริษัทโฆษณาด้วยกัน…” อวิ๋นซีเปลี่ยนเรื่องพูด
“ได้ค่ะ อวิ๋นซี” หลินหว่านตอบรับ
หลินหว่านออกจากห้องของซวี่กวงแล้ว ภายในห้องก็เหลือแค่อันลั่วเฉิงกับซวี่กวงเพียงสองคน
“นายบอกเธอเรื่องของเราสองคน?” ซวี่กวงมองอันลั่วเฉิงแล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็น
อันลั่วเฉิงเห็นแล้วยิ้มเป็นเชิงยั่วเย้า แกล้งพูดด้วยน้ำเสียงเกินจริงว่า “จะได้ยังไง ผู้กำกับใหญ่ซวี่ คุณเก็บเนื้อเก็บตัวขนาดนี้ ผมจะบอกหลินหว่านว่าพวกเราเป็นเพื่อนรักกันมานานได้อย่างไรกัน”
ซวี่กวงมองอันลั่วเฉิงด้วยสายตาเย็นชา ท่าทางบ่งบอกว่าไม่เชื่อคำพูดเขาเลยสักนิด
อันลั่วเฉิงเห็นท่าทีของซวี่กวงแล้วก็รีบพูดขึ้นว่า “ฉันไม่ได้บอกหลินหว่านจริงๆ นะ ฉันแค่บอกเธอว่าพวกเรารู้จักกัน อย่างอื่นก็ไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”
ซวี่กวงฟังแล้วดูเหมือนจะเชื่อคำพูดของอันลั่วเฉิง เขาถามอีกว่า “งั้นนายมานี่ทำไม”
อันลั่วเฉิงบอกกับซวี่กวงว่า “จะว่าไปก็บังเอิญนะ พักนี้ฉันมาทำงานที่นี่ พอดีนายก็มาพักที่โรงแรมเดียวกัน ก็เลยแวะมาเยี่ยมเยียนหน่อยน่ะ”
“อ้อ” ซวี่กวงฟังแล้วตอบรับเสียงเย็นคำหนึ่ง แล้วพูดว่า “งั้นนายกลับไปได้แล้ว”
อันลั่วเฉิงได้ยินแล้วไม่โมโหเลยสักนิด เขากับซวี่กวงเป็นเพื่อนรักกันมาหลายปี รู้ดีว่าซวี่กวงเย็นชาแบบนี้กับทุกคนมาตลอดนั่นล่ะ เขาเคยเห็นว่านอกจากซวี่กวงจะอารมณ์ขึ้นเพราะหนังของเขาแล้วก็ดูเหมือนจะไม่เคยเห็นเขามีอารมณ์กับอะไรอย่างอื่นอีก
หลินหว่านหลังจากขอลาหยุดกับซวี่กวงแล้ว ตอนบ่ายเธอก็มาถ่ายโฆษณาที่บริษัทโฆษณากับอวิ๋นซี
เนื่องจากเป็นสัญญาที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ หลินหว่านจึงไม่นับว่าแปลกหน้ากับโฆษณาชุดนี้ เธอแค่เตรียมตัวง่ายๆ เท่านั้นก็ถ่ายสำเร็จได้อย่างสบาย
หลังถ่ายโฆษณาเสร็จ หลินหว่านกำลังจะกลับเข้ากองถ่ายกับอวิ๋นซี ก็พบว่าเซียวจิ่งสือกำลังเดินมาหาเธอพอดี
เซียวจิ่งสือพอเห็นหลินหว่านก็ตาเป็นประกาย ถามว่า “หว่านหว่าน คุณถ่ายโฆษณาเสร็จแล้วเหรอ”
เขาเพิ่งโทรถามอวิ๋นซี จึงรู้ว่าหลินหว่านมาถ่ายโฆษณาที่นี่ แล้วก็เลยรู้เรื่องที่หลินหว่านเข้ากองถ่ายก่อนกำหนดเพื่อถ่ายตัวอย่างหนัง
หลินหว่านผงกศีรษะ ตอบว่า “ถ่ายเสร็จแล้วค่ะ ฉันกำลังจะกลับกองถ่ายพอดี”
เซียวจิ่งสือได้ฟังก็ถูกใจมาก เขาเอ่ยปากว่า “หว่านหว่าน ให้ผมส่งคุณกลับนะครับ”
“งั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” หลินหว่านคิดดูแล้วตอบรับยิ้มๆ
“งั้นประธานเซียวคะ หว่านหว่าน ฉันกลับก่อนนะคะ” อวิ๋นซีเห็นแล้วรู้สึกว่าเธอกลับเองน่าจะดีกว่าจึงพูดขึ้น
เซียวจิ่งสือผงกศีรษะรับ พออวิ๋นซีจากไปเขาก็ดึงตัวหลินหว่านไปด้วยกัน
แต่ที่ไหนได้ เซียวจิ่งสือกลับพาหลินหว่านมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
หลินหว่านเห็นแล้วกำลังตั้งท่าไม่พอใจ เซียวจิ่งสือก็กะพริบดวงตาพราวระยับคู่นั้น พูดออดอ้อนกับเธอว่า “หว่านหว่าน ถึงอย่างไรแล้วพรุ่งนี้ถึงจะเริ่มถ่ายตัวอย่างหนัง วันนี้คุณไม่ต้องรีบร้อนกลับกองถ่ายหรอก คุณอยู่ทานข้าวเป็นเพื่อนผมสักมื้อนะครับ”
หลินหว่านถอนใจเฮือก เซียวจิ่งสือรู้ดีแก่ใจว่าพอเขากะพริบตาพราวระยับกับอ้อนเธอเข้าหน่อยเธอก็ไม่อาจหักใจปฏิเสธเขาได้อยู่ดี เธอตอบอย่างอ่อนใจว่า “ได้ค่ะ แต่ว่า ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ…”
หลินหว่านพูดไม่ทันจบคำ ก็ถูกเซียวจิ่งสือจูงมือเข้าร้านไป
ระหว่างทานข้าว หลินหว่านเผลอพูดถึงเฉิงเฉิงโดยไม่ตั้งใจ ตั้งแต่เขากับอันซิงมีข่าวฉาวด้วยกัน เธอก็ไม่ได้ข่าวของเฉิงเฉิงบนอินเทอร์เน็ตอีกเลย ไม่รู้ว่าที่เธอขอให้เซียวจิ่งสือช่วยสืบเรื่องของเฉิงเฉิงนั้นตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว
ที่ไหนได้เซียวจิ่งสือพอได้ยินชื่อเฉิงเฉิงก็เกิดพายุหึงอาละวาด “หว่านหว่าน ที่แท้ตอนคุณทานข้าวกับผม ในใจก็คิดถึงแต่คนอื่น”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ เซียวจิ่งสือ…” หลินหว่านฟังแล้วไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอรีบพูดปลอบเซียวจิ่งสือเป็นระวิง
หลังอาหารเย็น เซียวจิ่งสือก็พาหลินหว่านส่งกลับโรงแรมที่พักของกองถ่าย
หลินหว่านลงจากรถ เซียวจิ่งสือเรียกหลินหว่านเอาไว้แล้วพูดกับเธออย่างเว้าวอน “หว่านหว่าน คุณอยู่ที่กองถ่ายต้องคิดถึงผมนะ ผมว่างเมื่อไหร่จะมาเยี่ยมคุณนะ”
เซียวจิ่งสือเพิ่งจะคิดได้ระหว่างทางขับรถมานี่เอง แม้ว่ากองถ่ายของซวี่กวงจะมีระเบียบว่าเปิดกล้องแล้วห้ามไม่ให้ออกนอกกองถ่าย แต่เขาเข้ามาได้นี่นา เขาสามารถอ้างว่าเข้ามาดูงานกองถ่ายเพื่อเยี่ยมหลินหว่านในกองถ่ายได้นี่
“เซียวจิ่งสือ คุณอย่าป่วนได้ไหมคะ” หลินหว่านฟังแล้วได้แต่มองดูเซียวจิ่งสืออย่างไม่รู้จะทำอย่างไรได้
เซียวจิ่งสือยิ้มยียวน “เอาล่ะ หว่านหว่าน คุณรีบกลับไปเถอะ บาย” จากนั้นปิดประตูรถ แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
หลินหว่านยืนนิ่งมองดูเซียวจิ่งสือที่ค่อยๆ ห่างไกลออกไป แล้วเธอค่อยไปจากตรงนั้น พรุ่งนี้ต้องถ่ายตัวอย่างหนังอีก คืนนี้เธอต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสียก่อน