ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 - ตอนที่ 124.1
ตอนกลางคืนหลังจากกินเกี๊ยวโต้รุ่งในคืนข้ามปีเสร็จ ทั้งครอบครัวก็แยกย้ายไปพักผ่อน
วันรุ่งขึ้นฟ้ายังไม่ทันสาง เมิ่งชื่อก็ปลุกทุกคนตื่น
เมิ่งเชี่ยนโยวขยี้ตาถามอย่างสะลึมสะลือ “ท่านแม่ เหตุใดถึงตื่นเช้าเช่นนี้”
เมิ่งชื่อตอบ “ในชนบทมีประเพณีหนึ่ง ยิ่งตื่นเช้าเป็นลางดีว่าปีนี้จะมีชีวิตที่ดีกว่าปีก่อน”
เมิ่งเชี่ยนโยวพูดงึมงำเสียงแผ่ว “งมงาย”
เมิ่งชื่อได้ยินไม่ถนัด เอ่ยถาม “เจ้าว่ากระไรนะ”
เมิ่งเชี่ยนโยวรีบตอบ “ไม่มีอะไร ท่านแม่ ข้าจะตื่นเดี๋ยวนี้”
เมิ่งชื่อหันหลังเดินไปห้องครัว เมิ่งเอ้ออิ๋นจุดไฟต้มน้ำแล้ว
รอจนพี่น้องทั้งหมดล้างหน้าล้างตาเสร็จ เกี๊ยวต้มร้อนๆ หอมกรุ่นก็ออกจากเตา
เมิ่งชื่อตั้งเกี๊ยวต้มหนึ่งชามไว้บนโต๊ะเซ่นไหว้ก่อน ถึงตักเกี๊ยวต้มในหม้อออกมาวางบนโต๊ะอาหาร นั่งลงพร้อมเมิ่งเอ้ออิ๋น รอเด็กๆ ล้อมวงเข้ามากินข้าว
เมิ่งเสียนพาคนทั้งหมดเข้ามายังห้องหลัก หยิบพรมผืนใหญ่ที่เตรียมไว้นานแล้ววางใต้เท้า นำทุกคนคุกเข่า เมิ่งเชี่ยนโยว เมิ่งฉี เมิ่งอี้เซวียนและเมิ่งเจี๋ยก็คุกเข่าลงตาม เปล่งเสียงพูดพร้อมกัน “ท่านพ่อ ท่านแม่สวัสดีปีใหม่”
เมิ่งเอ้ออิ๋นและเมิ่งชื่อยิ้มตาหยีรอให้เด็กๆ โขกหัวคำนับเสร็จ ต่างล้วงหยิบอั่งเปาที่เตรียมไว้ออกมาจากแขนเสื้อ มอบให้เด็กๆ ทุกคน
สองชาติภพรวมกันนี่เป็นครั้งแรกที่เมิ่งเชี่ยนโยวได้รับอั่งเปา ดีอกดีใจออกนอกหน้า แอบเปิดดูอย่างอดใจไม่ไหว เยี่ยมไปเลย ข้างในมีเงินถึงสิบตำลึง แกว่งไกวอั่งเปาอย่างลิงโลดพูดกับคนทั้งหมดว่า “ข้ารวยแล้ว อั่งเปาข้ามีเงินเยอะแยะเลย”
เมิ่งเจี๋ยก็ชูอั่งเปาตัวเองร้องตะโกน “ข้าก็รวยแล้ว อั่งเปาข้าก็มีเงินเต็มเลย”
เมิ่งเอ้ออิ๋นและเมิ่งชื่อหลุดหัวเราะ
เมิ่งชื่อพูดอย่างอ่อนโยน “รีบกินเกี๊ยวเถอะ กินเกี๊ยวเสร็จแล้วพวกเรายังต้องไปสวัสดีปีใหม่ท่านปู่ท่านย่าอีก”
ทั้งหมดพยักหน้า หยิบตะเกียบคีบเกี๊ยวมากิน
เพิ่งกินไปไม่กี่ชิ้น เมิ่งอี้เซวียนก็ร้องอุทาน “อ่ะ เหมือนข้าจะกินถูกเกี๊ยวเต้าหู้” ทุกคนพลันหันมองไปที่เขา เห็นเป็นเกี๊ยวไส้เต้าหู้จริงๆ
เมิ่งชื่อหัวเราะพูด “กินเกี๊ยวเต้าหู้ แปลว่ามีโชคดี อี้เซวียนเป็นคนแรกในครอบครัวเราที่มีโชคดี”
“ข้าก็อยากเป็นคนที่มีโชคดี” เมิ่งเจี๋ยตัวน้อยพูดขึ้น พูดจบคีบเกี๊ยวเข้าปากเคี้ยวคำโต
คนทั้งหมดกินต่อ
ผ่านไปไม่กี่อึดใจ เมิ่งเชี่ยนโยวก็ร้องอุทาน “โอ๊ะ ข้าก็กินถูกเกี๊ยวเต้าหู้”
คนทั้งหมดหันมองไปอีกครั้ง เห็นนางก็เป็นเกี๊ยวไส้เต้าหู้เหมือนกัน
เมิ่งชื่อหัวเราะ “ดีๆ ปีนี้พวกเจ้าล้วนเป็นคนที่มีโชคดี”
ต่อมา เมิ่งเสียนและเมิ่งฉีก็กินถูกเกี๊ยวเต้าหู้ ต่างดีอกดีใจยกใหญ่ มีเพียงเมิ่งเจี๋ยที่ยังกินไม่โดน เด็กตัวน้อยเริ่มกระวนกระวาย
เมิ่งชื่อเห็นเช่นนั้น ฉวยโอกาสตอนเขาก้มหน้ากินเกี๊ยว แอบเอาเกี๊ยวเต้าหู้ในถ้วยตัวเองคีบใส่ถ้วยของเขา
พอเมิ่งเจี๋ยกินเกี๊ยวในปากหมด ก็รีบคีบเกี๊ยวที่เมิ่งชื่อใส่ในถ้วยตัวเอง กัดหนึ่งคำ พลันดีใจหันพูดกับเมิ่งชื่อ “ท่านแม่ ข้ากินถูกเกี๊ยวเต้าหู้แล้ว ข้าก็เป็นคนมีโชคดี”
เมิ่งชื่อลูบหัวเขา พูดอย่างอ่อนโยน “ใช่ เจี๋ยเอ๋อร์ของพวกเราก็เป็นคนมีโชคดี”
เมิ่งเจี๋ยดีใจจนกลั้นไม่อยู่ กินเกี๊ยวที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งหมดในคำเดียว
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ เมิ่งชื่อนำเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ตัดเย็บเอาไว้นานแล้วออกมา วางตรงหน้าเด็กทุกคน กล่าวว่า “รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ เปลี่ยนชุดเสร็จพวกเราจะไปสวัสดีปีใหม่ท่านปู่ท่านย่า”
เด็กทั้งหมดหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่กลับเข้าห้องอย่างเริงร่า ไม่นานก็เปลี่ยนเสร็จเดินออกมา เมิ่งเชี่ยนโยวยังประดับศีรษะด้วยปิ่นปักผมผีเสื้อที่เมิ่งฉีซื้อให้ ทำให้ดูมีชีวิตชีวาสดใสยิ่งขึ้น
เมิ่งฉีเห็นน้องสาวติดปิ่นปักผมที่ตนซื้อให้ ดีใจจนปากหุบไม่ลง
เมิ่งอี้เซวียนสะท้อนแววตา ไม่พูดอะไร
เมิ่งเอ้ออิ๋นและเมิ่งชื่อก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เตรียมตัวพาเด็กๆ ไปสวัสดีปีใหม่ที่บ้านใหญ่
เมิ่งเชี่ยนโยวพูดขึ้น “ท่านแม่ ท่านติดเครื่องประดับที่พวกเราซื้อมาวันก่อนด้วยเถอะ”
เมิ่งชื่อลังเลเล็กน้อย “เครื่องประดับพวกนั้นแพงเกินไป ประเดี๋ยวคนเข้าคนออก หากทำหายไปจะไม่ดี”
เมิ่งเชี่ยนโยวพูดโน้มน้าว “ท่านแม่ เป็นเพราะวันนี้มีคนมามากถึงบอกให้ท่านนำมาใส่ คนอื่นจะได้รู้ว่า บ้านพวกเรามีชีวิตที่สุขสบายแล้ว อีกอย่าง คนที่มาสวัสดีปีใหม่เห็นการแต่งองค์ทรงเครื่องที่หรูหราฟู่ฟ่าของท่าน ไม่แน่จะมีคนสนใจอยากเป็นแม่สื่อให้พี่ใหญ่ สอดคล้องกับความนึกคิดของท่านพอดีไม่ใช่หรือ”
เมิ่งเสียนหน้าแดง “บอกให้ท่านแม่ใส่เครื่องประดับ เหตุใดถึงโยงมาที่ตัวข้าได้ ข้ายังเด็ก เรื่องคู่ยังไม่รีบร้อน”
เมิ่งเชี่ยนโยวหัวเราะพูด “ท่านไม่รีบร้อนแต่ท่านแม่รีบร้อน ท่านเห็นไหมท่านแม่ร้อนใจจนผมจะขาวหมดหัวแล้ว”
เมิ่งเอ้ออิ๋นเริ่มไม่พอใจ พูดขึ้น “พูดเพ้อเจ้อ หัวแม่เจ้ามีผมขาวที่ไหนกัน”
เมิ่งเชี่ยนโยวหัวเราะครืน
เมิ่งชื่อก็หน้าแดงเรื่อ
เมิ่งเอ้ออิ๋นพูดเกลี้ยกล่อมบ้าง “โยวเอ๋อร์พูดถูก เจ้าใส่เครื่องประดับเถอะ แต่งงานกันมาหลายปี เจ้าไม่เคยมีเครื่องประดับที่ดูดีสักชิ้น ตอนนี้อุตส่าห์ซื้อมาแล้ว อย่าเอาแต่เก็บไว้เลย”
เมิ่งชื่อหน้าแดง หยิบปิ่นปักผม ต่างหูและกำไลในกล่องออกมาใส่
เมิ่งเชี่ยนโยวพูดหยอกเย้า “ท่านพ่อ ท่านดูท่านแม่ในตอนนี้สิ ลดอายุไปเป็นสิบปีเลยใช่หรือไม่”
เมิ่งเอ้ออิ๋นพยักหน้าตอบ “อ่อนเยาว์ลงไปไม่น้อย หากอยู่บนท้องถนน พ่อคงจำไม่ได้ในทันทีว่าเป็นภรรยาตนเอง”
เมิ่งเชี่ยนโยวหัวเราะครืนอีกครั้ง แม้แต่เมิ่งเสียนและคนที่เหลือก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
เมิ่งชื่อเขินหน้าแดง พูดเอ็ด “ต่อหน้าลูกๆ พูดซี้ซั้วอะไรออกมา”
เมิ่งเอ้ออิ๋นก็หัวเราะร่วน
ทั้งครอบครัวมาถึงบ้านใหญ่สกุลเมิ่งอย่างมีความสุข บ้านใหญ่กินข้าวเช้าเสร็จแล้ว ทั้งครอบครัวกำลังนั่งอยู่ในบ้านรอคนเข้ามาสวัสดีปีใหม่
เมิ่งเอ้ออิ๋นและเมิ่งชื่อพาเด็กๆ เข้ามาสวัสดีปีใหม่เมิ่งจงจวี่และหญิงชราเมิ่งก่อน เมิ่งจงจวี่และหญิงชราเมิ่งต่างแยกกันให้อั่งเปาพี่น้องทั้งหมด
เด็กๆ กล่าวขอบคุณ รับอั่งเปาใส่ในอกเสื้อ
เมิ่งเสียนพาน้องๆ ไปไหว้สวัสดีปีใหม่เมิ่งต้าจินและภรรยา เมิ่งต้าจินและภรรยาก็ให้อั่งเปาซองใหญ่แก่เด็กทุกคน
สุดท้ายมาถึงเมิ่งเสียวเถี่ย
เมิ่งเสียนมองเมิ่งเชี่ยนโยว เม้มริมฝีปาก นำทุกคนคุกเข่าต่อหน้าเมิ่งเสียวเถี่ย กล่าวว่า “อาสี่ สวัสดีปีใหม่”
เมิ่งเสียวเถี่ยไม่คิดว่าเมิ่งเสียนจะนำคนอื่นๆ มาสวัสดีปีใหม่ตนเอง พลันตะลึงงันอยู่ตรงนั้น
เมิ่งเชี่ยนโยวถามขึ้น “อาสี่คงไม่ขี้งก แม้แต่อั่งเปาปีใหม่ก็ไม่ได้เตรียมไว้ใช่หรือไม่”
เมิ่งเสียวเถี่ยตื่นจากภวังค์ ลนลานพูดกับเมิ่งชิง “ชิงเอ๋อร์ เร็วเข้า ไปหยิบเงินที่พ่อวางไว้ใต้หมอนออกมา”
เมิ่งชิงก้าวขาสั้นป้อมวิ่งออกไป
เมิ่งชื่อรีบเอ่ย “น้องสี่ ไม่ต้อง โยวเอ๋อร์พูดล้อเล่นกับเจ้า”
เมิ่งเสียวเถี่ยตอบ “พี่สะใภ้รอง สมควรแล้ว เด็กๆ มาสวัสดีปีใหม่จักต้องให้อั่งเปา”
เมิ่งชิงหยิบถุงผ้าเข้ามา เมิ่งเสียวเถี่ยเปิดออก หยิบเงินหลายสิบตำลึงออกมาส่งให้เมิ่งเสียนและคนอื่นๆ “รับไป อาสี่ไม่ได้เตรียมซองอั่งเปาไว้ ถือว่าเป็นเงินเต๊ะเอียให้พวกเจ้า”
เมิ่งชื่อร้องอุทาน “น้องสี่ เจ้าให้เยอะเกินไปแล้ว”
เมิ่งเสียนไม่กล้ารับ
เมิ่งเชี่ยนโยวกลับยื่นมือรับมา “ขอบคุณอาสี่” พูดจบ ส่งสายตาให้เมิ่งเสียนรับมา
เห็นนางรับเงินมา เมิ่งเสียนและคนอื่นๆ ก็ยื่นมือออกไปรับเงิน พูดโดยพร้อมเพรียง “ขอบคุณอาสี่”
เมิ่งเสียวเถี่ยยังหยิบเงินออกมาสิบตำลึงพูดกับเมิ่งเหริน “เหรินเอ๋อร์ นี่เป็นของเจ้า”
เมิ่งเหรินโบกมือ “อาสี่ ข้าโตแล้ว เงินเต๊ะเอียข้าไม่รับแล้ว”
เมิ่งเสียวเถี่ยยืนหยัด “รับไป ขอเพียงเจ้ายังไม่แต่งงาน ก็ยังเป็นเด็ก ต้องรับเงินเต๊ะเอียนี้”
เมิ่งเหรินหันไปมองเมิ่งต้าจิน
เมิ่งต้าจินพยักหน้า เมิ่งเหรินเดินขึ้นหน้า รับเงินมาแล้วพูดว่า “ขอบคุณอาสี่”
เมิ่งซานถงและภรรยาพาลูกๆ เข้ามา หลังจากสวัสดีปีใหม่เสร็จ เด็กๆ ทุกคนต่างได้รับอั่งเปาไม่น้อย พากันดีอกดีใจยกใหญ่ โดยเฉพาะเมิ่งเจี๋ย เมิ่งชิง ฮวาและเด็กเล็กคนอื่นๆ ต่างดีใจจนเกือบคลุ้มคลั่ง เทเงินในซองอั่งเปาลงกับพื้น เปรียบเทียบกันว่าใครได้เงินมากกว่าใคร
พูดคุยเฮฮากันครู่หนึ่ง คนในหมู่บ้านก็ทยอยเข้ามาสวัสดีปีใหม่ เมิ่งต้าจินและน้องชายทั้งสามคนรวมถึงเมิ่งชื่อและสะใภ้อีกสามคนก็พาลูกๆ ออกไปสวัสดีปีใหม่บ้านอื่นๆ
เริ่มจากบ้านหัวหน้าสกุลเมิ่ง หัวหน้าสกุลและภรรยาเห็นเมิ่งต้าจินและน้องๆ พาคนในครอบครัวเข้ามา ดีใจยิ้มปากหุบไม่ลง หยิบขนมที่ทำเองออกมาต้อนรับเด็กๆ
เมิ่งเหรินเมิ่งเสียนต่างโตแล้ว หลังกล่าวขอบคุณก็รับมาเล็กน้อยพอเป็นพิธี เมิ่งเจี๋ย เมิ่งชิง เด็กน้อยทั้งสองกลับคว้ามากำใหญ่
หลังจากนำทุกคนมาสวัสดีปีใหม่หัวหน้าสกุลและภรรยาแล้ว เมิ่งต้าจินก็พาคนทั้งหมดไปสวัสดีปีใหม่หัวหน้าสกุลอื่นๆ สุดท้ายถึงพาคนทั้งหมดไปสวัสดีปีใหม่ทั่วหมู่บ้าน
ผู้ใหญ่บ้านมีตำแหน่งใหญ่ที่สุดในหมู่บ้าน คนในหมู่บ้านต่างประจบเอาใจ เข้ามาสวัสดีปีใหม่กันแต่เนิ่นๆ ภรรยาผู้ใหญ่บ้านยังคงทำเหมือนก่อน เมินเฉยไม่แยแสต่อการมาสวัสดีปีใหม่ของพวกเขา คนในหมู่บ้านไม่กล้าถือสา สวัสดีปีใหม่เสร็จก้ไป ขนมสักชิ้นของบ้านพวกเขาก็ไม่กล้ากิน
เห็นเมิ่งต้าจินพาคนในสกุลเข้ามา ภรรยาผู้ใหญ่บ้านสะท้อนนัยน์ตา พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “โย่ พวกเจ้ามาสวัสดีปีใหม่แล้ว ประตูบ้านพวกเราต่ำ อย่าให้ชนหัวพวกเจ้าได้”
ผู้ใหญ่บ้านส่งเสียงกระแอม ภรรยาผู้ใหญ่บ้านกรอกตาขาวใส่เขา
หลิวต้าเป่าเดินออกมาจากบ้าน พูดกับเมิ่งเชี่ยนโยวอย่างนบนอบ “นายหญิง มาแล้ว เข้ามานั่งในบ้านเถอะ”
เสียงภรรยาผู้ใหญ่บ้านดังขึ้นอีกครั้ง “ต้าเป่า บ้านพวกเราคับแคบ จะไปรองรับคนใหญ่คนโตเช่นนั้นได้อย่างไร เจ้าไม่ต้องให้พวกเขาเข้ามา เดี๋ยวเกือกพวกเขาจะสกปรกเสียเปล่า”
ทุกคนหันหน้ามองกันเลิกลั่ก
เมิ่งเชี่ยนโยวเงียบปากไม่ส่งเสียง
ผู้ใหญ่บ้านตวาดเสียงดัง “พอแล้ว เหตุใดถึงพูดมากเช่นนี้ คนเขามาสวัสดีปีใหม่ด้วยเจตนาดี เจ้าระงับอาการก่อนไม่ได้หรือ”
ภรรยาผู้ใหญ่บ้านเบะปาก “พวกเขามาสวัสดีปีใหม่ที่ไหนกัน พวกเขามาเยาะเย้ยมากกว่า ลูกชายคนเดียวของพวกเราถูกขายให้พวกเขา พวกเขาจะมาโอ้อวดเสียไม่ว่า”
เมิ่งเชี่ยนโยวฝืนระงับโมหะ หันไปพูดกับเมิ่งต้าจิน “ลุงใหญ่ เมื่อบ้านผู้ใหญ่บ้านไม่ต้อนรับพวกเรา พวกเราก็อย่าหาเรื่องให้ลำบากใจเลย ต่อไปไม่ต้องมาสวัสดีปีใหม่อีก”
ตั้งใจมาสวัสดีปีใหม่ด้วยเจตนาดี กลับถูกพูดจากระทบกระเทียบ เมิ่งต้าจินก็เริ่มมีอารมณ์แล้ว ได้ยินเมิ่งเชี่ยนโยวพูดเช่นนี้ พยักหน้า นำคนทั้งหมดออกไปจากบ้านผู้ใหญ่บ้านโดยไม่พูดไม่จา
เสียงแหลมสูงของภรรยาผู้ใหญ่บ้านแว่วดังตามหลังมา “เห็นไหม ตอนนี้พวกเขามีเงินแล้ว ไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาสักนิด ข้าเพียงพูดไม่กี่คำ ไม่แม้แต่สวัสดีปีใหม่ก็ไปแล้ว นี่เรียกว่าสวัสดีปีใหม่ที่ไหน ตั้งใจจะมาแสดงบารมีต่างหาก”
เสียงหลิวต้าเป่าดังขึ้น “ท่านแม่ พูดน้อยๆ หน่อยเถอะ หลังปีใหม่ข้ายังต้องกลับไปทำงาน”
เสียงปรอทแตกของภรรยาผู้ใหญ่บ้านดังลอยออกมา “กลับไปทำงานแล้วอย่างไร หากพวกเขากล้าทารุณข่มเหงเจ้า ข้าจะเอาเรื่องพวกเขาให้ถึงที่สุด”
คนอื่นในหมู่บ้านที่เข้ามาสวัสดีปีใหม่ มองเมิ่งต้าจินนำคนในสกุลออกไป จากนั้นได้ยินบทสนทนาดังลอยออกมา ต่างเลี้ยวเปลี่ยนทิศทาง ไปสวัสดีปีใหม่บ้านอื่น