ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 - ตอนที่ 127.1
ภรรยาเมิ่งต้าจินพยักหน้า แย้มยิ้มพลางเอ่ย “หากเป็นเช่นนั้นได้จริงจะดีมาก เหรินเอ๋อร์อายุได้สิบแปดปีแล้ว ควรมีคู่ครองนานแล้ว ถือว่าได้ขจัดเรื่องแน่นอกพวกเราไปได้เปราะหนึ่ง”
หญิงชราเมิ่งและเมิ่งชื่อพยักหน้าพร้อมกัน
เมื่อมีผ้าแพรพรรณ สิ่งของที่เหลือจึงเตรียมไม่ยากแล้ว ภรรยาเมิ่งต้าจินหันไปพูดกับเมิ่งต้าจิน “เจ้าไปบังคับรถเทียมเกวียนบ้านน้องเขย พวกเราเข้าเมืองไปซื้อของที่เหลือกลับมา ยิ่งเตรียมการเร็วใจของข้ายิ่งปล่อยวางได้เร็ว”
เมิ่งต้าจินพยักหน้า
เมิ่งชื่อหัวเราะ “พี่สะใภ้ใหญ่ บังคับรถเทียมเกวียนอะไรกัน ใช้รถม้าดีกว่านัก ทั้งเร็วและอบอุ่น”
ภรรยาเมิ่งต้าจินพูด “เช่นนั้นไม่เหมาะสม พวกเจ้าให้พวกเราใช้รถเทียมเกวียน พวกเราก็ซาบซึ้งใจมากแล้ว”
เมิ่งชื่อตอบ “หากพี่สะใภ้กล่าวเช่นนี้อีก แสดงว่าคิดเป็นอื่นเป็นไกล พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน รถม้าปล่อยทิ้งว่างไว้ นำออกมาใช้ถูกต้องแล้ว”
ภรรยาเมิ่งต้าจินซาบซึ้งใจจนพูดไม่ออก
เมิ่งชื่อพูดอีก “พี่สะใภ้ ไม่เช่นนั้นเอาอย่างนี้ เจ้าเก็บของให้เรียบร้อย พวกเราและพี่ใหญ่ไปที่บ้านข้า จากนั้นนั่งรถม้าตรงเข้าเมือง จะได้ไม่เสียเวลาวิ่งไปวิ่งมา”
ภรรยาเมิ่งต้าจินคิดแล้วก็เห็นด้วย จึงกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบเงินหลายสิบตำลึง มาที่บ้านเมิ่งเอ้ออิ๋นพร้อมเมิ่งชื่อและเมิ่งต้าจิน
เมิ่งต้าจินเข้าไปบังคับรถม้าที่ลานด้านหลัง เมิ่งชื่อพาภรรยาเมิ่งต้าจินเข้ามาในบ้าน ตัวเองก็เปลี่ยนเสื้อผ้า พกเงินจำนวนหนึ่งไว้กับตัว เดินพ้นประตูบ้านออกมาพร้อมภรรยาเมิ่งต้าจิน
เมิ่งเชี่ยนโยวเห็นทั้งสองคนแต่งกายแปลกตา แต่งเนื้อแต่งตัวดียิ่งกว่าวันขึ้นปีใหม่ จึงถามขึ้น “ท่านแม่ ป้าใหญ่ พวกท่านแต่งตัวดีเช่นนี้ จะไปทำสิ่งใดกัน”
เมิ่งชื่อตอบ “แม่กับลุงใหญ่และป้าใหญ่จะเข้าเมืองไปซื้อของหมั้นให้เหรินเอ๋อร์ ตอนบ่ายหากว่ากลับมาช้า พวกเจ้าทำกับข้าวกินเองนะ”
เมิ่งเชี่ยนโยวรีบพูด “ท่านแม่ ข้าจะไปกับพวกท่านด้วย”
เมิ่งชื่อตอบ “ไม่ต้องแล้ว แม่ไปกับป้าใหญ่สองคนก็พอ”
เมิ่งเชี่ยนโยวรีบร้อนพูด “ท่านแม่ ป้าใหญ่ วันนั้นข้าเห็นเด็กสาวคนนั้นแล้ว รู้ว่าเครื่องประดับแบบไหนเหมาะกับนาง พอถึงในเมืองข้ายังช่วยพวกท่านเลือกได้”
เมิ่งชื่อขบคิด พยักหน้าเห็นด้วย
เมิ่งเชี่ยนโยวบอกเมิ่งเสียนสองสามคำ จากนั้นกระวีกระวาดเข้าไปในห้องหยิบเงินจำนวนหนึ่งพกไว้ที่ตัว ขึ้นรถม้าที่จอดอยู่นอกประตูใหญ่ออกไปพร้อมกับเมิ่งชื่อและภรรยาเมิ่งต้าจิน คนทั้งหมดพูดคุยสัพเพเหระจนมาถึงตัวเมือง
เพิ่งจะผ่านพ้นวันปีใหม่ ตลาดสดในเมืองยังไม่เปิดทำการ ร้านรวงสองข้างทางมีหลายร้านที่ยังไม่เปิด ถนนทั้งเส้นยังคงเงียบเหงา
ภรรยาเมิ่งต้าจินสั่งเมิ่งต้าจินบังคับรถม้ามายังร้านที่ซื้อเครื่องประดับครั้งก่อน เห็นประตูเปิดอยู่ ก็โล่งใจ บอกให้เมิ่งชื่อและเมิ่งเชี่ยนโยวลงจากรถม้า
ช่วงเวลาปีใหม่น้อยคนที่จะออกมาจับจ่ายซื้อของ พนักงานในร้านกำลังยืนข้างตู้แสดงสินค้าอย่างเหงาหงอย พอเห็นรถม้าคันหนึ่งจอดหน้าประตูร้าน พลันมีชีวิตชีวา เดินผละจากตู้แสดงสินค้าออกมาต้อนรับ พูดอย่างเป็นกันเอง “ทุกท่านมาแล้ว เชิญเข้ามาดูก่อน ตอนปีใหม่ทางร้านนำเข้าเครื่องประดับชุดใหม่ รูปแบบหลากหลาย ฝีมือประณีต เชิญเลือกได้ตามสบาย”
เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพรายพูดกับพนักงาน “ก่อนปีใหม่ พวกเราเพิ่งจะมาซื้อเครื่องประดับไปไม่น้อย ร้านของพวกเจ้าก็นำเข้าสินค้าชุดใหม่มาอีกแล้ว”
ครั้งก่อนเมิ่งอี้เซวียนต้องการมอบเครื่องประดับให้เมิ่งเชี่ยนโยว ถูกเมิ่งเชี่ยนโยวลากออกไปอัดสั่งสอน พนักงานทั้งหมดต่างจดจำเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี และจดจำเมิ่งเชี่ยนโยวได้อย่างแม่นยำ พนักงานได้ยินนางพูด พอหันหน้าไปมอง ก็จำนางได้ทันที ยิ่งพูดอย่างกระตือรือร้น “แม่นางนี่เอง รีบเข้ามาเถอะ วันที่ยี่สิบแปดเดือนสิบสองทางร้านมีสินค้าชุดใหม่เข้ามาจริงๆ แม่นางเข้ามาเลือกดูก่อน”
คนทั้งหมดตั้งใจมาซื้อเครื่องประดับ ได้ยินพนักงานพูดเช่นนี้ ก็เดินมาข้างตู้แสดงสินค้า
เมิ่งเชี่ยนโยวพูดกับพนักงาน “ข้าต้องการซื้อเครื่องประดับเป็นของหมั้นให้พี่สะใภ้ในอนาคต ไม่เอาแบบที่เชยเกินไป และหรูหราเกินไป พวกเจ้านำแบบที่เหมาะสมออกมาให้พวกเราดูหน่อยเถิด”
พนักงานรับคำ รีบเดินเข้าไปด้านในตู้แสดงสินค้านำเครื่องประดับที่เหมาะสมออกมา
ภรรยาเมิ่งต้าจินและเมิ่งชื่อเลือกครู่หนึ่ง ถึงเลือกต่างหูเงินที่เหมาะสมออกมาได้คู่หนึ่ง หยิบขึ้นมาพูดกับเมิ่งเชี่ยนโยว “โยวเอ๋อร์ เจ้าดูสิว่าต่างหูเงินนี้งามหรือไม่”
เมิ่งเชี่ยนโยวมองแวบหนึ่ง ส่ายหน้า “ดูระโยงระยาง มีความฟุ้งเฟ้อไปสักหน่อย ไม่เหมาะให้เด็กสาวสวมใส่”
เมิ่งชื่อมองอย่างพินิจกล่าวว่า “แม่ว่าพอใช้ได้นะ รูปแบบน่าดู ฝีมือก็ประณีต เหมาะให้เด็กสาวใส่ติดตัว”
ภรรยาเมิ่งต้าจินก็รู้สึกว่าเหมาะสม
เมิ่งเชี่ยนโยวเดินขึ้นหน้า หยิบต่างหูข้างหนึ่งมาลองใส่กับหูตัวเอง ถามขึ้น “ท่านแม่ ท่านป้าใหญ่ พวกท่านดูว่างามหรือไม่”
เมิ่งชื่อมุ่นหัวคิ้ว หันไปพูดกับภรรยาเมิ่งต้าจิน “พี่สะใภ้ใหญ่ เหมือนว่าจะไม่เหมาะสมจริงๆ พอใส่แล้วทำให้ดูแก่”
ภรรยาเมิ่งต้าจินก็พยักหน้าเห็นด้วย
เมิ่งเชี่ยนโยวหันไปพูดกับพนักงาน “ยังมีต่างหูที่เหมาะให้เด็กสาวสวมใส่หรือไม่”
พนักงานลังเลเล็กน้อย พูดขึ้น “ยังมีอีกแบบ แต่ราคาค่อนข้างสูง ยี่สิบตำลึงได้”
ภรรยาเมิ่งต้าจินสูดลมหายใจเข้าปาก รีบร้อนห้ามปราม “ช่างเถอะ พวกเราเอาชิ้นนี้เถอะ รูปแบบโบราณหน่อยไม่เป็นอะไร เพียงเท่านี้ ในละแวกนี้ก็ไม่มีใครเทียบพวกเราได้แล้ว”
เมิ่งเชี่ยนโยวหันไปพูดกับพนักงาน “นำต่างหูนั้นออกมาให้ข้าดู”
พนักงานนำกล่องจากตู้อีกหลังออกมาเปิดออกอย่างระวัง ด้านในเป็นต่างหูเงินลายดอกกล้วยไม้หยกคู่หนึ่ง เห็นปุ๊ปก็รู้ว่าใช้วัสดุเนื้อดี ดอกกล้วยไม้หยกแกะสลักด้านบนนั้นแม้จะเล็กกระจุ๋มกระจิ๋ม กลับแกะออกมาได้ราวกับของจริง
เมิ่งเชี่ยนโยวหยิบออกมาจากกล่องอย่างชื่นชอบ ลองใส่ที่หูตัวเองถามขึ้น “ท่านแม่ ท่านป้าใหญ่ เป็นอย่างไร”
เมิ่งชื่อพูดอย่างพอใจ “งดงามนัก น่าพิศกว่าคู่เมื่อกี้มาก”
ภรรยาเมิ่งต้าจินก็พยักหน้าสนับสนุน
เมิ่งเชี่ยนโยวนำต่างหูนั้นวางใส่กล่อง หันไปพูดกับพนักงาน “พวกเราต้องการต่างหูคู่นี้ รบกวนเจ้าหากล่องสวยๆ ใส่ให้ข้าด้วย”
พนักงานรับคำอย่างยินดี พนักงานอีกคนรีบนำกล่องงดงามใบหนึ่งออกมา
ภรรยาเมิ่งต้าจินร้อนรนพูดขึ้นอย่างทนไม่ไหว “โยวเอ๋อร์ ต่างหูคู่นี้แพงเกินไป การหมั้นหมายไม่มีใครใช้เครื่องประดับดีเช่นนี้ หมู่บ้านในละแวกเดียวกับพวกเราอย่างดีก็ใช้เครื่องประดับห้าตำลึงเท่านั้น พวกเราซื้อเครื่องประดับยี่สิบตำลึงจะเกิดเหตุไปหน่อยหรือไม่”
เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มตอบ “ท่านป้าใหญ่ พวกเราซื้อต่างหูดีเช่นนี้ถึงจะแสดงได้ว่าพวกเราให้ความสำคัญกับสะใภ้ในอนาคตคนนี้มากเพียงใด โอ้โลมให้นางดีใจ ภายหน้าเมื่อแต่งเข้ามาจะได้กตัญญูต่อท่านอย่างไร”
ภรรยาเมิ่งต้าจินรู้ว่าที่เมิ่งเชี่ยนโยวพูดมาถูกต้อง แต่ตอนที่ตัวเองออกจากบ้านพกเงินติดตัวมาทั้งหมดสามสิบตำลึง ยังต้องซื้อผ้า ขนมและเนื้อ หากซื้อต่างหูในราคายี่สิบตำลึง เงินที่เหลือจักต้องไม่พอซื้อของอย่างอื่น แต่เมื่อครู่นางก็เห็นแล้ว ต่างหูที่เมิ่งเชี่ยนโยวลองใส่ให้ดูงดงามน่าพิศจริงๆ หากว่าซื้อไว้ เป็นเครื่องประดับของหมั้น จักต้องทำให้เด็กสาวพึงพอใจ ไม่แน่ว่าหากพวกเขาร้องขออีกสองเดือนให้หลังให้นางแต่งงานกับเหรินเอ๋อร์ บ้านฝ่ายหญิงจะต้องรับคำอย่างเต็มใจ คิดถึงตรงนี้ ภรรยาเมิ่งต้าจินก็กัดฟัน ล้วงเงินออกมาจากอกเสื้อพูดขึ้น “ป้าใหญ่เชื่อเจ้า ซื้อต่างหูคู่นี้”
เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มแล้วผลักเงินคืนกลับไป พูดว่า “ท่านป้าใหญ่ ข้ากับสะใภ้ในอนาคตคนนี้พูดคุยกันถูกคอ ต่างหูคู่นี้ข้างซื้อแทนท่านเอง”
ภรรยาเมิ่งต้าจินรีบผลักเงินคืนกลับไป “เช่นนี้ไม่ได้จริงๆ มีอย่างที่ไหนให้เจ้ามาจ่ายเงินแทน”
เมิ่งเชี่ยนโยวผลักเงินคืนกลับไปอีกครั้ง “ท่านป้าใหญ่ไม่ต้องปฏิเสธแล้ว เงินนี้เก็บไว้ใช้ตอนงานแต่งพี่ใหญ่เถอะ”
ภรรยาเมิ่งต้าจินยังคงปฏิเสธ เมิ่งชื่อหยิบเงินนั้นมา วางใส่มือนาง พูดด้วยรอยยิ้ม “พี่สะใภ้ใหญ่ โยวเอ๋อร์อยากซื้อก็ให้นางซื้อเถอะ นี่เป็นน้ำใจของนาง ท่านอย่าปฏิเสธเลย”
ภรรยาเมิ่งต้าจินจำต้องเก็บเงินของตนเองขึ้น
พอซื้อต่างหูเสร็จ เมิ่งชื่อก็ช่วยเลือกกำไลให้อีกหนึ่งคู่ เครื่องประดับถือว่าครบถ้วนแล้ว
เมิ่งเชี่ยนโยวจ่ายเงินเสร็จ คนทั้งหมดเดินออกจากร้านเครื่องประดับอย่างอิ่มเอม เมิ่งเชี่ยนโยวให้เมิ่งต้าจินบังคับรถม้ายังมาร้านขนม
หวังเหลียงปีใหม่กลับบ้านยังไม่กลับมา พนักงานที่ทำงานแทนในร้านเห็นเมิ่งเชี่ยนโยวเข้ามา ยังคงทักทายอย่างเป็นกันเอง “แม่นาง เจ้ามาแล้ว วันนี้จะซื้อขนมแบบไหน”
เมิ่งเชี่ยนโยวตอบ “พี่ใหญ่ข้าจะไปหมั้นผู้หญิง พวกเรามาซื้อขนมชั้นเลิศสองกล่อง เจ้าช่วยนำมาให้สองกล่องเถอะ และขอขนมชั้นดีอีกสี่กล่อง พวกเราซื้อไปกินเอง”
พนักงานพยักหน้า บอกพนักงานอีกคนไปห่อขนม ส่วนตนเองกุลีกุจอรินน้ำชาให้คนทั้งหมด
พนักงานห่อขนมเสร็จโดยไว นำออกมา สี่กล่องเป็นกล่องธรรมดา อีกสองกล่องเป็นลวดลายหงส์มังกรแห่งสิริมงคล
เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้าพึงพอใจ
พวกเขายังยื้อยุดกันไปมา สุดท้ายเป็นเมิ่งเชี่ยนโยวที่ได้จ่ายเงิน
ออกจากร้านขนม ภรรยาเมิ่งต้าจินยืนข้างถนน พูดกับสองแม่ลูกเมิ่งอย่างขึงขัง “สะใภ้รอง โยวเอ๋อร์ พวกเราพูดกันให้รู้เรื่องก่อน ผ้าเนื้อละเอียดและเนื้อหมูพวกเราจะจ่ายเอง หากพวกเจ้ายังแย่งข้าจ่ายเงิน วันนี้ข้าจะไม่ซื้อแล้ว”
เมิ่งเชี่ยนโยวหัวเราะพรืด “ท่านป้าใหญ่ ท่านทำข้าตกใจหมดแล้ว ดูท่าทีขึงขังของท่านเข้า ข้านึกว่าข้าทำสิ่งใดให้ท่านไม่พอใจเสียแล้ว ที่แท้ท่านก็อยากจะจ่ายเงินเอง เช่นนั้นดี ส่วนที่เหลือท่านเป็นคนซื้อเอง เพราะเงินที่ข้าเตรียมมาวันนี้ก็ใช้หมดไปแล้ว”
ภรรยาเมิ่งต้าจินโล่งอก พูดขึ้น “ของในวันนี้เดิมควรเป็นข้าที่ซื้อ ตอนนี้ดีแล้ว ข้ากลายเป็นเพียงไม้ประดับ”
เมิ่งเชี่ยนโยวหัวเราะพูด “หากเป็นคนอื่น คงดีใจแย่แล้ว เหตุใดท่านป้าใหญ่กลับไม่ยินดี”
ภรรยาเมิ่งต้าจินตอบ “ไม่ใช่ป้าใหญ่ไม่ยินดี แต่ป้าใหญ่ทำใจรับไม่ได้จริงๆ ปกติพวกเจ้าก็ช่วยเหลือพวกเรามากแล้ว การหมั้นหมายครั้งนี้ยังให้พวกเจ้ามาซื้อของให้ ป้าใหญ่ละอายใจเหลือจะเอ่ยแล้ว”
เมิ่งเชี่ยนโยวพูด “ท่านป้าใหญ่ไม่ต้องทำใจรับไม่ได้ ไม่เพียงพี่ใหญ่ ต่อไปพี่รอง ชิงเอ๋อร์ ยังมีน้องเล็กของอาสะใภ้สาม ข้าก็จะซื้อของเหล่านี้ให้พวกเขา ล้วนแต่เป็นพี่ชายน้องชายข้า ข้าซื้อสิ่งเหล่านี้ให้พวกเขาก็สมควรแล้ว”
ภรรยาเมิ่งต้าจินซาบซึ้งใจจนพูดไม่ออก ดวงตาร้อนชื้น พูดว่า “โยวเอ๋อร์ ป้าใหญ่ควรพูดอย่างไรดี เจ้าดีต่อพวกเรามากเกินไปแล้ว”
เมิ่งเชี่ยนโยวไม่ชอบช่วงเวลากระตุ้นเร้าอารมณ์เช่นนี้ที่สุด รีบพูดตัดบท “ป้าใหญ่ ข้าดีกับพวกเขาเพราะมีเป้าประสงค์ ภายหน้าเมื่อพวกเขาเจริญรุ่งเรือง จะต้องมาช่วยเหลือข้า ไม่เช่นนั้น ข้าจะไปคิดบัญชีทบต้นทบดอกกับพวกเขา”
ภรรยาเมิ่งต้าจินหัวเราะสะอึกสะอื้น “ช่างจำนรรจานัก ภายหน้าหากพวกเขาไม่ช่วยเหลือเจ้า ป้าใหญ่จะไม่ปล่อยพวกเขาไว้เป็นแน่”
“ขอบคุณป้าใหญ่” เมิ่งเชี่ยนโยวพูดประจบประแจง
แม้จะมีผ้าไหมสองพับที่เมิ่งเชี่ยนโยวมอบให้ แต่ยังขาดผ้าเนื้อละเอียดอีกสองพับ ครั้นแล้วคนทั้งหมดก็ขึ้นรถม้า มายังร้านขายผ้า หลงจู๊ยังคงต้อนรับพวกเขาด้วยมิตรไมตรี
ภรรยาเมิ่งต้าจินและเมิ่งชื่อเลือกผ้าเนื้อละเอียดมาสองพับ ครั้งนี้ไม่มีการยื้อแย่ง ภรรยาเมิ่งต้าจินเป็นคนจ่ายเงิน
เมื่อซื้อของทั้งหมดเสร็จ ภรรยาเมิ่งต้าจินและเมิ่งชื่อคำนวณคร่าวๆ ขาดเพียงเนื้อหมูยี่สิบจิน แต่ตลาดสดยังไม่เปิดทำการ จึงซื้อเนื้อหมูไม่ได้ ภรรยาเมิ่งต้าจินเริ่มกลัดกลุ้มใจ
เมิ่งต้าจินหยุดรถม้า เดินไปสอบถามร้านข้างๆ กลับมาพูดว่า “ข้าไปถามมาแล้ว วันที่แปดตลาดสดถึงจะเปิดทำการ”
ภรรยาเมิ่งต้าจินพูดอย่างว้าวุ่นใจ “เช่นนั้จะทำอย่างไร ข้าคิดจะซื้อให้ครบทั้งหมดภายในวันนี้”
เมิ่งชื่อพูดโน้มน้าว “พี่สะใภ้ อย่างไรวันหมั้นหมายยังเหลืออีกหลายวัน พวกเราไม่ได้รีบร้อนอะไร อีกอย่าง แม้ตอนนี้อากาศจะหนาวเย็น แต่เราซื้อเนื้อหมูกลับไปก่อนเช่นนี้ ก็ต้องวางทิ้งไว้หลายวัน ถึงตอนนั้นจะไม่สด ไม่เช่นนั้นหนึ่งวันก่อนวันหมั้น ให้พี่ใหญ่เข้าเมืองมาซื้อกลับไปอีกครั้ง”
“คงต้องทำเช่นนี้แล้ว” ภรรยาเมิ่งต้าจินตอบ