ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 - ตอนที่ 156.2
เมิ่งเชี่ยนโยวพูดกับชายฉกรรจ์ “พวกเราจะไปโรงเตี๊ยมเยว่ไหลทางตะวันออกของเมือง พวกเจ้าตามไปได้หรือไม่”
ชายฉกรรจ์พยักหน้า
เมิ่งเสียนจูงรถม้ามา เมิ่งเชี่ยนโยวตะโกนพูดกับเปาอีฝาน “คุณชายเปา พวกเราขอกลับโรงเตี๊ยมก่อน จัดการพวกเขาเรียบร้อยแล้ว พวกเราค่อยไปหาพี่ซุน”
เปาอีฝานขานรับ ก้าวขึ้นรถม้า กลับไปโรงเตี๊ยมพร้อมเมิ่งเชี่ยนโยว
หลงจู๊และเสี่ยวเอ้อเห็นเปาอีฝานเข้ามาด้วย ยิ่งทักทายอย่างพินอบพิเทา
เมิ่งเชี่ยนโยวล้วงเงินออกมาวางบนโต๊ะคิดเงิน พูดกับหลงจู๊ “ท่านช่วยจองห้องธรรมดาให้ข้าเพิ่มอีกห้าห้อง อีกประเดี๋ยวจะมีคนตามมา”
หลงจู๊รับคำด้วยความยินดี เก็บไว้เรียบร้อย หยิบกุญแจห้าดอกมอบให้เสี่ยวเอ้อ
เมิ่งเชี่ยนโยวพูดกับเสี่ยวเอ้ออีกว่า “เจ้าช่วยไปต้มน้ำจำนวนหนึ่ง พอพวกเขามาถึงให้พวกเขาได้อาบน้ำก่อน”
เสี่ยวเอ้อพยักหน้า เดินไปบอกเสี่ยวเอ้อหลังร้านให้ต้มน้ำมากหน่อย เดี๋ยวจะมีคนอาบน้ำ
ทำเรื่องทั้งหมดนี้เสร็จ เมิ่งเชี่ยนโยวและเปาอีฝานนั่งรอคนพวกนั้นมาถึงในโถงกลาง
รอได้ครู่ใหญ่ พวกเขาก็ยังมาไม่ถึง เปาอีฝานขมวดคิ้วมุ่น พูดว่า “พวกเขาคงไม่หนีไปแล้วดอกนะ?”
เมิ่งเชี่ยนโยวส่ายหน้า พูดอย่างมั่นใจ “ไม่มีทาง”
รออีกสองเค่อ คนทั้งหมดถึงเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า
ชายฉกรรจ์เดินมาตรงหน้าเมิ่งเชี่ยนโยว พูดว่า “พวกเราไม่ได้มีเจตนาจะถ่วงเวลา แต่เพราะพวกเราไม่เคยมายังอำเภอนี้ ไม่รู้ว่าโรงเตี๊ยมอยู่ที่ไหน ต้องถามทางมาตลอดถึงหาเจอ”
เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า พูดสั่งเสี่ยวเอ้อ “เจ้าไปเปิดห้องพักห้าห้องที่ข้าจองไว้ แล้วนำน้ำร้อนไปส่ง ให้พวกเขาได้ล้างเนื้อล้างตัว”
เสี่ยวเอ้อเห็นคนเหล่านี้คือทาสหลวงที่ถูกคุมตัวมาเมื่อวาน ยืนตะลึงงันอ้าปากค้างนานแล้ว ได้ยินคำพูดของเมิ่งเชี่ยนโยว ถึงหันกลับไปมองหลงจู๊
หลงจู๊เองก็ตกใจไม่น้อย แต่เพราะทำการค้ามานานหลายปี ย่อมสุขุมหนักแน่นกว่าเสี่ยวเอ้อ ไม่แสดงออกทางใบหน้า สั่งการเสี่ยวเอ้อ “รีบไป!”
เสี่ยวเอ้อเดินนำหน้า เปิดห้องพักธรรมดาห้าห้องของชั้นหนึ่งออก
เมิ่งเชี่ยนโยวหันไปพูดกับชายฉกรรจ์ “ข้าจองห้องพักไว้ห้าห้อง พวกท่านเข้าไปชำระล้างเนื้อตัวก่อน เมื่อเสร็จเรียบร้อยให้ร้องเรียกเสี่ยวเอ้อ ให้เขาเตรียมสำรับอาหารให้พวกเจ้า”
ชายฉกรรจ์พูดอย่างตื้นตัน “ขอบคุณแม่นาง”
คนอื่นก็กล่าวขอบคุณตาม
เสี่ยวเอ้อเปิดห้องพักทั้งห้าไว้แล้ว ชายฉกรรจ์และคนอื่นๆ ในครอบครัวแยกย้ายกันเดินเข้าไป
เสี่ยวเอ้อเดินไปหลังร้านให้คนหาบน้ำร้อนเข้ามา นำไปวางไว้ทุกห้อง
เมิ่งเชี่ยนโยวล้วงเงินสองสามตำลึงออกมาวางบนโต๊ะคิดเงิน พูดกับเสี่ยวเอ้อ “เจ้าเห็นรูปร่างของพวกเขาแล้ว ช่วยไปซื้อเสื้อผ้ามาให้พวกเขาคนละชุดด้วยเถอะ”
เสี่ยวเอ้อรับคำ หยิบเงินแล้ววิ่งออกไป
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ เมิ่งเชี่ยนโยวพูดกับเปาอีฝานอย่างรู้สึกผิด “คุณชายเปา ข้ายังต้องรออยู่ที่นี่ เอาอย่างนี้เถอะ ท่านไปหาพี่ซุนก่อน เลือกสถานที่ให้แน่นอน ประเดี๋ยวข้าจะตามไปพบพวกท่าน”
เปาอีฝานใคร่ครวญ เห็นพ้อง ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไป
ไม่นานเสี่ยวเอ้อก็ซื้อเสื้อผ้ากลับมา
เมิ่งเชี่ยนโยวลุกขึ้นยืน เดินมาหน้าห้องห้องหนึ่ง เคาะประตูห้อง เปล่งเสียงดังพูด “ข้าให้เสี่ยวเอ้อซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้พวกเจ้า วางไว้หน้าประตู พวกเจ้าอาบน้ำเสร็จแล้ว ออกมาเอาด้วย” พูดจบ นำเสื้อผ้าวางไว้หน้าประตู
เสียงขอบคุณอีกครั้งของชายฉกรรจ์ดังลอยมา
เมิ่งเชี่ยนโยวเดินกลับมานั่งที่โถงกลาง รอคอยอย่างอดทน
หลังจากที่ทุกคนอาบน้ำเสร็จ เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดชุดใหม่แล้ว ต่างออกมาเบื้องหน้าเมิ่งเชี่ยนโยวอย่างไม่เป็นสุข
เมิ่งเชี่ยนโยวพูดกับเสี่ยวเอ้อ “ไปยกอาหารมาให้พวกเขา”
เสี่ยวเอ้อพยักหน้า วิ่งไปหลังเรือน
เมิ่งเชี่ยนโยวพูดกับชายฉกรรจ์ “ข้ายังมีธุระ ต้องออกไปอีก ยังไม่รู้ว่าจะกลับมาตอนไหน พวกเจ้ากินข้าวอิ่มแล้ว อย่าเที่ยวเดินสะเปะสะปะ กลับไปพักผ่อนในห้อง พรุ่งนี้พวกเราถึงจะกลับบ้านได้”
นับตั้งแต่ออกมาจากสำนักคุ้มภัยถูกทางการจับกุมตัว คนเหล่านี้ไม่รู้เลยว่าตัวเองจะต้องมีจุดจบเช่นใด ต่างประหวั่นพรั่นพรึง ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตอนนี้ในที่สุดก็ถูกเมิ่งเชี่ยนโยวซื้อตัวมา ผ่อนคลายความรู้สึกลง ความเหนื่อยล้าสารพันถาโถมเข้ามา ได้ยินเมิ่งเชี่ยนโยวพูดเช่นนี้ ดีใจยกใหญ่ ต่างพูดขอบคุณด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณแม่นาง ขอบคุณแม่นาง”
เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เมิ่งเชี่ยนโยวเดินออกจากโรงเตี๊ยม มาหยุดข้างรถม้า เห็นเมิ่งเสียนกำลังยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตรงนั้น ก็หลุดขำ
เมิ่งเสียนพูดตำหนิ “เจ้ายังจะหัวเราะ อยู่ๆ เจ้าก็ซื้อคนมากเช่นนี้ กลับไปจะบอกท่านพ่อท่านแม่อย่างไร?”
เมิ่งเชี่ยนโยวพูดเตือนเขา “พี่ใหญ่ ไม่ต้องเป็นห่วง ท่านพ่อท่านแม่เป็นคนจิตใจโอบอ้อม ถึงตอนนั้นข้าจะพูดถึงชีวิตของคนที่ซื้อมาให้น่าสมเพชเวทนาหน่อย พวกเขาจะต้องไม่ตำหนิพวกเรา”
เมิ่งเสียนเห็นว่านางคิดไว้แล้วว่ากลับไปจะพูดกับท่านพ่อท่านแม่อย่างไร ก็วางใจลง จงใจพูดว่า “พวกเราตกลงกันแล้ว พอกลับไปเจ้าต้องบอกท่านพ่อท่านแม่ เป็นเจ้าที่ตัดสินใจซื้อคนโดยพลการ ข้าไม่รู้เรื่องด้วย”
เมิ่งเชี่ยนโยวรู้ว่าเขาหยอกเย้าตัวเอง จึงส่งยิ้มพูด “เช่นนั้นได้อย่างไร หากท่านพ่อท่านแม่บันดาลโทสะ ข้ายังต้องให้พี่ใหญ่มาช่วยออกรับแทนนะ”
เมิ่งเสียนหลุดขำ ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจพูดว่า “เจ้านี่นะ”
เมิ่งเชี่ยนโยวแลบลิ้นปลิ้นตาอย่างซุกซนให้เขา
เมิ่งเสียนหัวเราะลั่น
เมิ่งเชี่ยนโยวมานั่งที่คานรถด้านหน้า พูดคุยสรวลเสกับเมิ่งเสียนจนมาถึงภัตตาคารที่นัดไว้
เปาอีฝานและซุนฮุ่ยรออยู่หน้าประตูนานแล้ว เห็นพวกเขาเข้ามา ซุนฮุ่ยร้องทักทายนางอย่างดีใจ “น้องโยวเอ๋อร์”
เมิ่งเชี่ยนโยวขานรับ กระโดดลงรถม้า
ซุนฮุ่ยตกใจสะดุ้ง รีบเข้าไปถามไถ่ “น้องเมิ่งเชี่ยนโยว เจ้าไม่เป็นอะไรนะ?”
เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มตอบ “ไม่เป็นไร”
ซุนฮุ่ยตำหนินาง “ข้าตกใจหมดเลย ต่อไปเจ้าห้ามทำเช่นนี้เด็ดขาด”
เมิ่งเชี่ยนโยวรู้ว่านางเป็นห่วงตัวเอง แย้มยิ้มตอบ “ก็เพราะข้าเห็นพี่ซุน ดีใจจนลืมตัว คราวหน้าจะไม่ทำเช่นนี้แล้ว”
ซุนฮุ่ยได้ยินแย้มยิ้มหวานละมุน
เปาอีฝานที่อยู่อีกด้านยิ้มมองพวกนาง
ซุนฮุ่ยดึงแขนเมิ่งเชี่ยนโยวมาอย่างสนิทสนม พูดว่า “ไป พวกเราขึ้นไปคุยกันข้างบนเถอะ”
เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า เดินตามนางเข้าภัตตาคาร
เมิ่งเสียนมอบรถม้าให้เสี่ยวเอ้อหน้าประตู เดินตามเปาอีฝานเข้ามาด้วย
คนทั้งหมดเข้ามาในห้องรับรอง นั่งเรียบร้อย เปาอีฝานถึงเอ่ยปากพูด “ข้าให้คนส่งข่าวบอกเจียงเฟิงและอี่หยวนแล้ว พวกเขาน่าจะใกล้ถึงแล้ว”
สิ้นเสียง ประตูห้องรับรองก็เปิดออก ฟินและอันอี่หยวนเดินเข้ามา
คนทั้งหมดร้องเรียกทักทายกัน แล้วทั้งสองจึงนั่งลง
เสี่ยวเอ้อยกอาหารที่สั่งไว้แล้วเข้ามา คนทั้งหมดเริ่มลงมือรับประทาน
ซุนฮุ่ยดีใจมาก เอาแต่คีบอาหารให้เมิ่งเชี่ยนโยวไม่หยุด “น้องโยวเอ๋อร์ ไม่เจอกันตั้งนาน ข้าคิดถึงเจ้าจะแย่แล้ว ไม่เช่นนั้นพอกินข้าวเสร็จตามไปนอนกับข้าที่บ้านสักสองสามคืนดีไหม”
เมิ่งเชี่ยนโยวปฏิเสธโดยอ้อม “พี่ซุน วันนี้น้องชายข้ามาเข้าร่วมการสอบถงเซิงระดับอำเภอ พรุ่งนี้พวกเราก็ต้องกลับแล้ว ไม่มีเวลาแล้วจริงๆ เอาอย่างนี้ เอาไว้พี่ซุนว่างเมื่อไหร่ มาอยู่ที่บ้านพวกเราสักระยะหนึ่งก็ได้”
ซุนฮุ่ยมองเปาอีฝานอย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง ยิ้มพูด “ข้าเองก็อยาก แต่คดีพวกค้ามนุษย์ของเขาอืดอาดไม่มีความคืบหน้า พวกเราก็เลยไม่มีหน้าไปหาเจ้า”
ได้ยินนางเอ่ยถึงคดีพวกค้ามนุษย์ เปาอีฝานรีบพูดต่อ “ข้าสืบมานาน ในที่สุดก็ได้เบาะแสบางอย่างแล้ว ในเมืองฟู่มีองค์กรค้าเด็กโดยเฉพาะแห่งหนึ่ง ได้ยินว่าพวกเขาแบ่งคนที่เข้าร่วมองค์กรเป็นกลุ่มย่อยแตกต่างกัน แต่ละกลุ่มย่อยมีหน้าที่รับผิดชอบไม่เหมือนกัน ไม่ก้าวก่ายกัน หลังจากจับเด็กได้ ก็จะส่งให้องค์กร คนในองค์กรจะดำเนินการขายเด็กทิ้ง ข้ายังสืบรู้มาว่าพวกมันจะลงมืออย่างระมัดระวัง จะไม่เคยอยู่ในที่เดิมสองครั้ง ครั้งก่อนที่พวกเราโชคดีเจอพวกมันได้ เพราะองค์กรพวกมันได้รับใบสั่งชุดใหญ่ อีกฝ่ายต้องการให้พวกมันจับเด็กชายและเด็กหญิงอย่างละยี่สิบคน คงเพราะใกล้ถึงวันนัดส่งมอบคนแล้ว พวกมันใจร้อน ถึงเสี่ยงพักอยู่ที่นั่นอีกคืน รอให้คนในเมืองส่งตัวเด็กออกมา”
ได้ฟังคำพูดเขา ซุนฮุ่ยพูดอย่างหวาดหวั่น “โชคดีที่พวกเขาละโมบ พักที่นั่นอีกคืน ไม่เช่นนั้นคงจะตามเมิ่งเจี๋ยกลับมาไม่ได้ง่ายๆ”
คนทั้งหมดพยักหน้า
เมิ่งเชี่ยนโยวพูด “เมื่อคุณชายรู้เรื่องพวกนี้แล้ว ก็ตามสืบต่อเถอะ ใช้เวลานานหน่อยก็ไม่เป็นไร รวบตัวพวกมันให้ได้ทั้งหมด จะได้ขจัดทุกข์ให้ราษฎรด้วย”
เปาอีฝานพยักหน้า “ข้าเองก็คิดเช่นนี้ ดังนั้นจึงไม่รีบร้อน แต่คนที่ส่งไปสืบข่าวเมื่อวานกลับมาบอกว่า อีกสองเดือน องค์กรนี้จะมีการรวมตัวกันครั้งใหญ่ที่เมืองฟู่ คนที่ถูกส่งไปในที่ต่างๆ จะต้องกลับมา ข้าคิดว่าถึงตอนนั้นค่อยลงมือ”
เมิ่งเชี่ยนโยวสนับสนุน “เป็นเรื่องดีอย่างหาที่สุดไม่ได้แล้ว ทางการจะได้ไม่ต้องสิ้นเปลืองแรงกำลังออกตามหาพวกเขา”
คนที่เหลือทั้งหมดพยักหน้าเห็นพ้อง
ซุนฮุ่ยคีบอาหารให้เมิ่งเชี่ยนโยวอีก พูดว่า “อย่าเอาแต่พูดคุย รีบกินอีกหน่อย อาหารจะเย็นหมดแล้ว”
เมิ่งเชี่ยนโยวกล่าวขอบคุณ เคี้ยวหงุบๆ
คนทั้งหมดก็ไม่พูดคุยอีก ก้มหน้ากินข้าว