ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 - ตอนที่ 176-1 ตกตะลึง
ตี้ซือพยักหน้า ลอบครุ่นคิดตริตรอง เด็กสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่งก็มีความคิดปราดเปรื่องได้ถึงเพียงนี้ คาดว่าเด็กน้อยคนนั้นก็คงจะไม่เลวเช่นกัน แอบคาดหวังรอคอยเมิ่งอี้เซวียนรางๆ ในใจ
เมิ่งจงจวี่นำตี้ซือเข้ามาในเรือนหลังแรกอย่างพินอบพิเทา เปิดบานประตูเรือนออก กล่าวว่า “เรือนหลังนี้เพิ่งจะปลูกเสร็จไม่นาน ยังไม่เคยเข้าพักอาศัย เครื่องเรือนภายในก็เป็นของใหม่ เชิญท่านพักอาศัยอย่างสบายใจ หากยังประสงค์สิ่งใด ก็ขอให้รีบบอก พวกเราจะรีบนำส่งมาให้”
ตี้ซือกวาดตามองโดยรอบแวบหนึ่ง เห็นภายในมีทุกอย่างครบถ้วนแล้ว จึงยิ้มแล้วพูดว่า “ใช้ได้แล้ว พวกท่านเตรียมพร้อมได้อย่างครบถ้วนแล้ว”
กลุ่มคนด้านหลังก็เดินตามเข้ามาในห้อง
ตี้ซือชี้หญิงสูงวัยคนหนึ่งกล่าวแนะนำ “นี่คือฮูหยินของข้า”
เมิ่งจงจวี่เป็นผู้นำคนทั้งหมดแสดงความเคารพ
ฮูหยินชราโน้มตัวเล็กน้อย ถือเป็นการรับความเคารพ
ตี้ซือยังชี้ไปที่ชายอายุราวสามสิบกว่าปีและหญิงอีกคนข้างกายเขารวมถึงเด็กน้อยสองคนแล้วพูดว่า “นี่คือครอบครัวทั้งสี่คนของบุตรชายคนโตข้าโจวเสี้ยว”
โจวเสี้ยวและภรรยาแสดงความเคารพเมิ่งจงจวี่
ตี้ซือชี้ชายอายุราวยี่สิบกว่าปีและหญิงข้างกายเขารวมถึงเด็กน้อยสองคนกล่าวว่า “นี่คือครอบครัวบุตรชายคนรองข้าโจวหลี่”
โจวหลี่และภรรยาแสดงความเคารพเมิ่งจงจวี่เช่นกัน
สุดท้ายตี้ซือกล่าวว่า “คิดว่าพวกท่านคงจะทราบแล้ว ข้าเคยเป็นตี้ซือ บัดนี้อายุมากแล้ว จึงเกษียณตัวกลับบ้านเกิด บุตรชายทั้งสองของข้ากตัญญู มุ่งมั่นจะกลับไปพร้อมข้า ดูแลปรนนิบัติข้าในยามชรา ท่านแม่ทัพฉู่มีบุญคุณต่อข้า เพื่อตอบแทนบุญคุณนี้ พวกเราทั้งครอบครัวจึงมายังที่แห่งนี้ หากหลานชายท่านสามารถทำให้ข้าพึงใจได้ ข้าจะอยู่ที่นี่สอนสั่งเขาสามปี หวังว่าต่อไปพวกท่านจะไม่เอาแต่กริ่งเกรงข้า ให้เห็นข้าเป็นดั่งคนในครอบครัว และเพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากที่ไม่จำเป็น นับจากนี้ไป สถานะตี้ซือของข้านี้อย่าได้หยิบยกขึ้นมากล่าวถึงอีก เพียงเรียกข้าว่าอาจารย์โจวก็พอ”
เมิ่งจงจวี่น้อมรับคำอย่างพินอบพิเทา จากนั้นก็ชี้เมิ่งต้าจินและภรรยาแนะนำว่า “นี่คือบุตรชายคนโตของข้าเมิ่งต้าจิน เป็นผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านนี้”
แล้วชี้ไปที่เมิ่งเอ้ออิ๋น “นี่คือบุตรชายคนรองของข้าเมิ่งเอ้ออิ๋น เป็นบิดาของอี้เซวียนที่จะมาคารวะท่านเป็นศิษย์”
แล้วจึงชี้ไปที่เมิ่งเชี่ยนโยว “นี่คือหลานสาวของข้า และเป็นพี่สาวของอี้เซวียน”
คนทั้งหมดแสดงความเคารพต่ออาจารย์โจวอีกครั้ง
สุดท้ายจึงพูดว่า “ข้าคือซิ่วไฉชราของหมู่บ้านนี้เมิ่งจงจวี่”
เมื่อทั้งสองฝ่ายแนะนำตัวเสร็จ เมิ่งจงจวี่เห็นอาจารย์โจวมีอิริยาบถอ่อนล้า จึงพูดขึ้นว่า “ท่านเดินทางไกลเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามาตลอดทาง คิดว่าคงไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ พวกเราทั้งหมดขอตัวลาก่อน สำหรับที่พักอาศัยของคุณชายทั้งสองรวมถึงคนอื่นๆ คือเรือนอีกสองหลังที่อยู่ด้านหลัง พวกเราไม่นำทางพวกท่านแล้ว ฟืนฟางน้ำมันเกลือในครัวแต่ละเรือนพวกเราก็เตรียมพร้อมไว้ให้หมดแล้ว พวกท่านใช้สอยได้อย่างสบายใจ”
แม้จะไม่ได้รีบเร่งเดินทาง แต่นั่งรถม้ามาหลายวัน ตี้ซือก็รู้สึกว่าร่างกายตัวเองรับไม่ไหวแล้ว ได้ฟังก็ไม่บอกปัด กล่าวขอบอกขอบใจ
เมิ่งจงจวี่โบกมือ กล่าวว่านี่เป็นสิ่งที่ตนเองสมควรทำ แล้วพาคนทั้งสามล่าถอยออกไป
เมิ่งอี้เซวียนยังไม่กลับมา ตี้ซือยังไม่ทำการตัดสินใจ รองแม่ทัพชุยย่อมต้องอยู่รอด้วย
หลังจากเมิ่งจงจวี่นำคนทั้งหมดเดินพ้นออกมาจากเรือนหลังใหม่ ก็ให้โล่งใจไปหนึ่งเปราะ กล่าวว่า “ตี้ซือไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไปจริงๆ ให้ความรู้สึกน่าเกรงขามได้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว โชคดีที่ข้าอายุปูนนี้แล้วยังทนทานไหว ไม่เช่นนั้นได้กลายเป็นตัวตลกเป็นแน่”
เมิ่งต้าจินและเมิ่งเอ้ออิ๋นพยักหน้า
เมิ่งเชี่ยนโยวเห็นท่านปู่มีอาการทุกข์ทรมาน อยากให้เขากระปรี้ประเปร่าขึ้น กล่าวขึ้น “ตี้ซือก็เพียงมีความรู้มากไปหน่อยเท่านั้น นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากท่านเลย”
เมิ่งจงจวี่รีบยับยั้งนาง “โยวเอ๋อร์ เจ้าพูดผิดแล้ว จะเอาคนอย่างปู่ไปเทียบกับตี้ซือได้อย่างไร สิ่งที่ปู่ร่ำเรียนมาหาเทียบได้กับหนวดเพียงเส้นเดียวของเขาไม่ เจ้าพูดกับพวกเรากันเองได้ แต่ห้ามไปพูดเช่นนี้ต่อหน้าคนอื่นเด็ดขาด”
เห็นท่านปู่ยำเกรงตี้ซือเช่นนี้ เมิ่งเชี่ยนโยวจึงพยักหน้าอย่างว่านอนสอนง่าย
เมิ่งจงจวี่วางใจลงเดินนำคนทั้งหมดกลับไปบ้าน
จู่ๆ หมู่บ้านก็มีรถม้าหลายคันวิ่งเข้าไปอยู่ในเรือนใหม่ของบ้านเมิ่ง คนในหมู่บ้านต่างก็ประหลาดใจ ว่าคนที่มามีสถานะเช่นใดกันแน่ พอเห็นพวกเขาเดินตรงมา คนที่อายุมากหน่อยเข้าไปซักถามอย่างอยากรู้อยากเห็น “ซิ่วไฉเมิ่ง คนใหญ่คนโตที่ไหนมาอาศัยอยู่ในเรือนใหม่ของบ้านพวกเจ้ารึ?”
เมิ่งจงจวี่หัวเราะตอบ “คนใหญ่คนโตที่ไหนกัน เป็นอาจารย์ที่พวกเราเชิญมาสอนอี้เซวียน ให้พักที่เรือนหลังใหม่ไปก่อน”
กลุ่มคนพยักหน้าหงึกหงัก เปลี่ยนหัวข้อพูด กล่าวด้วยความอิจฉา “ซิ่วไฉเมิ่ง อี้เซวียนของพวกท่านอายุเพียงเท่านี้ก็สอบถงเซิงได้แล้ว ตอนนี้ท่านยังเชิญอาจารย์ที่มีความรู้มากมา เกรงว่าภายหน้าสกุลเมิ่งของพวกท่านทั้งหมดจะต้องเจริญก้าวหน้ารุ่งโรจน์ตามไปด้วย”
ได้ยินเช่นนี้เมิ่งจงจวี่ย่อมยินดีอิ่มเอม แต่ก็ยังคงพูดอย่างถ่อมตน “ขอเพียงมีสักวันที่เขาสอบเป็นขุนนางได้ สร้างชื่อเสียงให้วงศ์สกุล ข้าก็พึงพอใจแล้ว สำหรับที่ว่าสกุลของพวกเราจะได้เจริญก้าวหน้ารุ่งโรจน์หรือไม่ เป็นเรื่องเล็กน้อย”
คนทั้งหมดได้ยินความสำเร็จในภายหน้าของเมิ่งอี้เซวียน ก็ยิ่งให้อิจฉาในใจ
ข่าวที่สกุลเมิ่งเชิญอาจารย์ท่านหนึ่งมาสอนเป็นการส่วนตัวให้เมิ่งอี้เซวียนแพร่สะพัดไปทั่วทั้งหมู่บ้านโดยไว หัวหน้าสกุลแต่ละสกุลได้ยินข่าวเล่าลือนี้ ก็รับรู้ได้ทันทีว่าอาจารย์ท่านนี้จะต้องมีสถานะไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นตี้ซือ มีเพียงหัวหน้าสกุลเมิ่งที่หลังจากได้ยินข่าวนี้ ก็ลูบเคราตัวเอง หัวเราะเหอะๆ พูดงึมงำว่า “วันที่สกุลเมิ่งจะได้มีชื่อเสียงกำลังใกล้เข้ามาในอีกไม่ช้าแล้ว”
ไม่ว่าคนในหมู่บ้านจะคาดเดาอย่างไร คนในสกุลเมิ่งก็ปิดปากเรื่องสถานะของอาจารย์เอาไว้สนิท ผู้คนยิ่งทวีความอยากรู้อยากเห็น กลับไม่มีใครกล้าไปสอบถามหน้าประตูเรือนใหม่
เมิ่งจงจวี่กลับมาบ้าน คิดถึงเรื่องที่ภายหน้าอี้เซวียนจะได้รับการสอนสั่งจากตี้ซือโดยตรง ก็ให้ดีใจราวกับเป็นเด็กน้อย ดีอกดีใจยกใหญ่ ทำเอาหญิงชราเมิ่งหันมามองค้อนขวับหลายครั้ง
เมิ่งเอ้ออิ๋นและเมิ่งเชี่ยนโยวกลับมาถึงบ้าน เมิ่งชื่อถามพวกเขาว่าอาจารย์ที่เชิญมาเป็นอย่างไร เมิ่งเอ้ออิ๋นตอบกลับไปเพียงประโยคเดียว “หากได้รับการชี้แนะนำทางจากเขา อนาคตของอี้เซวียนจะต้องไร้ขีดจำกัด”
เมิ่งชื่อได้ฟังก็ดีใจเป็นหนักหนา
กระทั่งยามบ่าย เมิ่งเชี่ยนโยวและเหวินเป้าไปรับเมิ่งอี้เซวียนและซุนเหลียงไฉกลับมาด้วยกัน
เมิ่งเชี่ยนโยวคิดทบทวนเป็นนาน แล้วก็ตัดสินใจจะพาเมิ่งอี้เซวียนไปคำนับตี้ซือด้วยตัวเอง
เมิ่งชื่อเห็นพวกเขาจะไปคารวะอาจารย์ จึงให้เมิ่งอี้เซวียนเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ ทั้งจัดแจงแต่งเนื้อแต่งตัวให้เขาใหม่ เห็นอี้เซวียนเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ถึงพยักหน้าพึงพอใจ พูดกำชับเขา “หลังจากได้พบท่านอาจารย์จะต้องว่านอนสอนง่าย ท่านอาจารย์ถามอะไรก็ตอบไปตามนั้น อย่าได้พูดมากความเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ท่านอาจารย์ไม่พอใจ ไม่ยินดีสอนสั่งเจ้า”
เมิ่งอี้เซวียนพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ท่านแม่ วางใจเถอะ”
เมิ่งเชี่ยนโยวพาเมิ่งอี้เซวียนมุ่งหน้าไปบ้านท่านอาจารย์ เพื่อไม่ให้เมิ่งอี้เซวียนตื่นเต้น จึงเดินไปพูดไป “ท่านอาจารย์ก็เป็นคนปกติ เพียงแค่มีความรู้มากหน่อยเท่านั้น เมื่อเจ้าได้เจอแล้วไม่ต้องหวาดกลัว ทำตามความสามารถในยามปกติของเจ้าก็พอ”
เมิ่งอี้เซวียนพยักหน้า
ทั้งสองมาถึงเรือนใหม่ หน้าประตูมีบ่าวรับใช้คอยเฝ้าอยู่หน้าประตูแล้ว
เมิ่งเชี่ยนโยวเดินมาถึงหน้าประตู พูดอย่างมีมารยาท “พวกเรามาคารวะท่านอาจารย์ รบกวนเจ้าช่วยไปรายงานหน่อยเถิด”
บ่าวเฝ้าประตูเคยเห็นนาง ย่อมจำนางได้ เห็นนางเป็นเพียงเด็กสาวพาเด็กชายงดงามคนหนึ่งเข้ามาลำพัง ก็ให้ประหลาดใจ แต่ก็ให้พวกเขารอสักครู่ ตนเองเข้าไปเรียนรายงาน
ตี้ซือได้พักผ่อนครึ่งค่อนวัน ร่างกายฟื้นคืนกระปรี้กระเปร่า ในตอนนี้กำลังนั่งอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอยู่ในห้อง ได้ยินคำรายงานของบ่าวรับใช้ วางหนังสือลงบนโต๊ะ สั่งกำชับบ่าวรับใช้ “ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ”
บ่าวรับใช้เดินออกมานอกประตู พาทั้งสองเข้ามาในลานบ้าน เปล่งเสียงตะโกนถาม “นายท่าน คุณหนูเมิ่งและคุณชายเมิ่งมาถึงแล้วขอรับ”
เสียงตี้ซือดังลอยออกมา “พาพวกเขาเข้ามาเถอะ”
บ่าวรับใช้เปิดม่านบังประตู เชิญทั้งสองคนเข้าไป
ทั้งสองเข้ามาในห้อง กำลังจะแสดงความเคารพตี้ซือ ตี้ซือกลับถลึงตัวลุกพรวด ชี้เมิ่งอี้เซวียนแล้วกล่าวว่า “เจ้า เจ้า เจ้า…”
เมิ่งเชี่ยนโยวและเมิ่งอี้เซวียนมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
ตี้ซือถลึงตาโต เดินมาตรงหน้าเมิ่งอี้เซวียน มองประเมินเขาขึ้นลงโดยทั่ว เอ่ยปากพูดพร่ำ “เหมือน เหมือนมาก หากเจ้ามิได้กำเนิดในชนบท ข้าคงสงสัยว่าเจ้าเป็นโอรสเชื้อพระวงศ์แล้ว”
เมิ่งเชี่ยนโยวได้ฟังขมวดคิ้วมุ่นถาม “เหมือนมากหรือ?”
ตี้ซือพยักหน้า “เหมือนมาก” พูดจบถึงตระหนักได้ว่าตนเองพูดอะไร พลันรู้สึกเสียใจ แต่พอคิดว่าเมิ่งเชี่ยนโยวก็เป็นเพียงเด็กสาวชนบท ไม่น่าจะรู้ว่าตนเองพูดอะไร ก็ให้โล่งใจลง
เมิ่งเชี่ยนโยวยิ่งขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม และมองพินิจเมิ่งอี้เซวียนอย่างถี่ถ้วน พบว่าเจ้าเด็กกะโปโลคนนี้ไปอยู่ที่ไหน ร่างกายจะมีบารมีสูงศักดิ์ที่มีติดตัวมาแต่กำเนิดออกมาด้วยเสมอ เพียงแต่ตนเองใกล้ชิดกับเขานานแล้ว ไม่ได้สนใจก็เท่านั้นเอง
เมิ่งอี้เซวียนเห็นท่านอาจารย์และเมิ่งเชี่ยนโยวใช้แววตาแปลกประหลาดมองประเมินตนเอง อดถามขึ้นไม่ได้ “ข้ามีอะไรผิดปกติหรือ?”
คาดไม่ถึงว่าพอเขาเอ่ยปาก ก็ทำให้ท่านอาจารย์ตกตะลึงพรึงเพริดอีกครั้ง “ข้ามิได้เกิดภาพหลอนหรอกนะ แม้แต่เสียงก็เหมือนกับพวกเขายามเยาว์มาก”
พูดจบ เหมือนจะคิดอะไรขึ้นได้ สั่งการบ่าวรับใช้ด้านนอก “ไปเรียกคุณชายใหญ่และคุณชายรองเข้ามา บอกว่าข้ามีเรื่องด่วนอยากพบพวกเขา”
บ่าวรับใช้รับคำ สาวเท้าจากไป
Comments for chapter "ตอนที่ 176-1 ตกตะลึง"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
รักแอดมินทุกท่านขอบคุณคร้าบ
ตอนแรกติดว่าอาจจะเป็นลูกแม่ทัพฉู่ สรุปไม่ใช่ดันกลายเป็นเชื้อพระวงศ์ซะงั้น อนาคตเป็นฮ่องเต้แน่อี้เซวียนฉัน โย่วเอ๋อร์ได้สามีอนาคตไกลสุดๆ
PPaahhTTAA
รอตอนต่อไป