ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 - ตอนที่ 227-1 คัดค้าน
“แม่นางเมิ่งเป็นคนยึดถือมิตรภาพไม่เห็นแก่ตัว หากท่านดึงดันจะไม่รับเงิน เป็นไปได้ว่าครั้งหน้านางจะไม่มาซื้อสารส้มกับพวกเราอีก หากเป็นเช่นนั้น สู้พวกเราขายสารส้มให้นางในราคาทุน ให้ภายหน้านางวางใจมาซื้อกับพวกเราอีก ทั้งพวกเราก็ได้ลอบช่วยนางอีกแรง” หมอชราตอบ
เหวินซื่อกล่าวชม “ท่านคิดรอบคอบเสมอ ถึงว่าเมื่อครู่ท่านไม่พูดจำนวนเงินออกมา แต่พอคิดเสร็จกลับยื่นให้นางดูเอง กลัวพนักงานจะพลั้งปากพูดสินะ”
หมอชราผงกศีรษะ
วันนี้เมิ่งชื่อไม่ได้ไปโรงงานแต่ซักผ้าอยู่ที่บ้าน เห็นเมิ่งเชี่ยนโยวและเมิ่งเสียนไม่เพียงกลับมาเร็ว ด้านหลังยังมีรถม้าตามมาอีกคัน ให้นึกประหลาดใจ วางเสื้อผ้าในมือลง ลุกขึ้นเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนรอบเอว เดินมาหน้าประตู ถามอย่างไม่เข้าใจ “โยวเอ๋อร์ เจ้าซื้อสิ่งใดกลับมา?”
เมิ่งเชี่ยนโยวได้หารือกับเมิ่งเสียนระหว่างทางกลับมาแล้ว เรื่องนี้จะยังไม่ให้คนในบ้านรู้ จึงพูดสิ่งที่ทั้งสองคนเตรียมเอาไว้ “อ่อ พวกนี้เป็นสมุนไพรที่ซื้อมาจากร้านยาเต๋อเหรินเจ้าค่ะ ข้าอยากจะปรุงยาจำนวนหนึ่ง”
เมิ่งเชี่ยนโยวรู้วิชาการแพทย์ เมิ่งชื่อทราบดี นึกว่านางคงเป็นเหมือนหมอทั่วไป ยามว่างก็จะปรุงยาเก็บไว้ พอคนในบ้านปวดหัวตัวร้อนจะได้มีใช้สะดวก จึงไม่ได้คิดเป็นอื่น เข้าไปช่วยทั้งสองคนขนสมุนไพรเข้าไปเก็บในห้องฝั่งตะวันตก
ขนถ่ายสมุนไพรเสร็จ พนักงานบังคับรถม้ากลับไป
เมิ่งเชี่ยนโยวไม่พักผ่อนแล้ว เข้าไปหยิบมันฝรั่งจำนวนหนึ่งออกมาจากในครัว หลังจากชั่งน้ำหนักเสร็จ เมิ่งชื่อเข้ามาช่วยปอกและล้างน้ำจนสะอาด ถึงให้เมิ่งเสียนมาช่วยบดให้เป็นผง ตากจนแห้ง
ไม่มีเครื่องมือผ่อนแรง เมิ่งเสียนต้องใช้แรงไปไม่น้อยถึงทำเสร็จ
เมิ่งเชี่ยนโยวสกัดสารส้มออกมาเป็นก้อนเล็ก นำไปชั่งน้ำหนักเช่นกัน แล้ววางเตรียมเอาไว้
เมิ่งชื่อรู้สึกแปลกประหลาด ไม่ซักเสื้อผ้าแล้ว เข้ามาช่วยเป็นลูกมือ
เมิ่งเชี่ยนโยวให้เมิ่งชื่อไปต้มน้ำร้อนหนึ่งกระทะ ส่วนตัวเองเข้ามาหากะละมังกลมในครัวหนึ่งใบ ล้างให้สะอาด ผสมมันฝรั่งที่บดแห้งเป็นผงกับสารส้มและน้ำในปริมาณที่กำหนด โดยแกว่งสารส้มไปมาบนผิวน้ำไม่หยุด กระทั่งผงแป้งขุ่นจับตัวเป็นแผ่นแป้ง จึงวางกะละมังให้จมลงในน้ำทั้งใบ หลังจากแผ่นแป้ง กลายเป็นสีโปร่งใส ถึงตักออกมาวางไว้อีกด้าน ให้เมิ่งเสียนที่เตรียมน้ำเย็นไว้ก่อนแล้ว
เมิ่งชื่อและเมิ่งเสียนมองทั้งหมดนี้อย่างตะลึงลาน
หลังจากหล่อเย็นเสร็จ เมิ่งเชี่ยนโยวใช้กะละมังตักออกมา ควบคุมน้ำจนสะอาดแล้ว ถึงลอกแผ่นแป้งออกอย่างระวัง
เมิ่งชื่อเห็นแผ่นแป้งโปร่งแสงจุดเล็กจุดน้อย ถามอย่างยินดี “นี่ก็คือแป้งมันฝรั่งหรือ?”
เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า ฉีกแผ่นแป้งออกมาเป็นชิ้นเล็กๆ วางใส่ปากละเมียดชิม เพิ่งจะกัดหนึ่งคำก็บ้วนออกมาทันที ย่นหัวคิ้วพูดว่า “ใส่สารส้มมากเกินไป” พูดจบ แลบลิ้น เดินหาชาม กลั้วคอด้วยน้ำเย็น ถึงรู้สึกว่ารสชาติในปากไม่แย่เท่าเมื่อครู่แล้ว
เมิ่งชื่อเห็นท่าทีของนาง รู้ว่าจะต้องทำไม่สำเร็จ แต่ก็ใคร่รู้เลียนแบบท่าทางของนางฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่เข้าปาก แล้วหัวคิ้วก็ยู่ย่นเหมือนเมิ่งเชี่ยนโยวไม่ผิดเพี้ยน
เมิ่งเชี่ยนโยวรีบยื่นชามในมือไปตรงหน้านาง
เมิ่งชื่อกลั้วคอบ้วนทิ้งหลายครั้ง
เมิ่งเชี่ยนโยวมองดูปริมาณและอัตราส่วนที่จดไว้เมื่อครู่ ลดทอนสัดส่วนของสารส้มออกไป ทำซ้ำอีกครั้ง สุดท้ายทำออกมาได้ไม่ต่างจากเมื่อครู่
ทำซ้ำไปมาหลายครั้ง ก็ยังทำเส้นแป้งมันฝรั่งออกมาไม่ได้
เมิ่งชื่อมองดูมันฝรั่งต้องสูญเปล่าไปมากมาย ให้ปวดใจพูดเกลี้ยกล่อมนาง “โยวเอ๋อร์ ไม่ได้ก็อย่าทำเลย พวกเราขายมันฝรั่งอย่างเดียวก็ดีมากแล้ว”
เมิ่งเชี่ยนโยวพูด “ท่านแม่ ต่อไปจะไม่ได้มีแค่บ้านเราที่ปลูกมันฝรั่ง หากข้าคาดการณ์ไม่ผิด พรุ่งนี้จะต้องมีคนมาขอวิธีการปลูกมันฝรั่ง ถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าพวกเราจะปฏิเสธได้หรือไม่ ดังนั้นพอมีคนปลูกมันฝรั่งในปริมาณที่มากขึ้น อย่างมากไม่เกินสามปี ราคามันฝรั่งก็จะไม่แตกต่างจากพืชผักชนิดอื่น หนึ่งจินไม่กี่สิบอีแปะกระทั่งไม่กี่อีแปะก็ได้ แต่เส้นแป้งมันฝรั่งไม่เหมือนกัน ทุกคนรู้ว่านี่เป็นสูตรเฉพาะที่ครอบครัวเราคิดค้นออกมา ไม่มีใครกล้ามาร้องขอ ดังนั้น หากคิดจะทำกำไรระยะยาว จะต้องพึ่งพาเส้นแป้งมันฝรั่งนี้”
เมิ่งชื่อไม่เคยคิดถึงปัญหานี้มาก่อน ได้ฟังก็พูดว่า “พวกเขามาร้องขอพวกเราก็ต้องให้หรือ? พวกเราไม่ให้ พวกเขาจะแย่งชิงหรือไร?”
เมิ่งเชี่ยนโยวตั้งใจอธิบายให้นางฟัง “พวกเราไม่ให้ พวกเขาก็แย่งชิงไปไม่ได้ แต่ครอบครัวเราจะต้องผิดใจกับคนทั้งหมู่บ้าน โดยเฉพาะหัวหน้าสกุลอาวุโสเหล่านั้น พวกเขามีคุณธรรมบารมีสูงส่ง ลูกหลานในสกุลต่างเชื่อฟังพวกเขา หากพวกเขามีอคติกับครอบครัวพวกเรา ภายหน้าครอบครัวพวกเราคงมีชีวิตในหมู่บ้านอย่างยากลำบาก ทั้งยังต้องคอยระแวดระวังคนวางแผนกลั่นแกล้ง อีกอย่าง ท่านลุงใหญ่ก็เป็นผู้ใหญ่บ้าน หากเรื่องนี้ยังทำไม่ได้ ข่าวลือโคมลอยจะต้องมีออกมาไม่หยุด หากเป็นเช่นนี้ สู้พวกเราหาโอกาสเหมาะ บอกวิธีการเพาะปลูกมันฝรั่ง นอกจากจะได้รับคำชื่นชม ยังสร้างความน่าเกรงขามให้ท่านลุงใหญ่ได้อีกด้วย ต่อไปครอบครัวพวกเรากระทำการใดในหมู่บ้านก็จะยิ่งสะดวกสบาย”
เมิ่งชื่อฟังจบ แม้จะรู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็รู้ว่าเป็นจริงอย่างที่บุตรสาวกล่าวมา จึงไม่คัดค้าน หันไปต้มน้ำเงียบๆ ไม่พูดอะไรอีก
เมิ่งเสียนและเมิ่งเชี่ยนโยวนำอัตราส่วนแตกต่างกันที่จดบันทึกไว้เมื่อครู่ มาหารือกันอย่างละเอียด แล้วทำใหม่อีกครั้ง กระทั่งถึงเวลาเลิกเรียนของพวกซุนเหลียงไฉ ก็ยังทำไม่สำเร็จ
เมิ่งเสียนเริ่มท้อแท้ใจ
เมิ่งชื่อกลับไปวุ่นวายกับการทำอาหารเที่ยง
เมิ่งเชี่ยนโยวไม่หมดกำลังใจ ตั้งใจวิเคราะห์อัตราส่วนต่อไป
ซุนเหลียงไฉและเมิ่งเจี๋ยเมิ่งชิงเลิกเรียนกลับมา เห็นแป้งมันฝรั่งโปร่งแสงเป็นแผ่นๆ ให้สนใจใคร่รู้ ร้องถามว่ากินได้หรือไม่
เมิ่งเชี่ยนโยวเกิดอยากจะแกล้งพวกเขา พูดล่อหลอก “อร่อยยิ่งนัก เมื่อครู่ข้ากับพี่ใหญ่กินกันไปไม่น้อย”
เมิ่งเสียนเห็นท่าทีแก่นแก้วของนาง ยิ้มส่ายหน้าไปมา
ทั้งสามคนได้ยินดังนั้น ถามนางอย่างคาดหวัง “พวกเรากินบ้างได้หรือไม่?”
เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า “ได้ ใช้มือฉีกกินก็ได้แล้ว”
สิ้นเสียงนาง ทั้งสามก็ยื่นมือออกมาอย่างอดใจรอไม่ไหว ฉีกกันคนละชิ้นใส่เข้าปาก เคี้ยวหนุบหนับ เพิ่งจะเคี้ยวได้สองคำ ซุนเหลียงไฉก็บ้วนแป้งมันฝรั่งในปากออกมาทันที แลบลิ้นพูดว่า “นี่คืออะไรไม่อร่อยสักนิด?”
เมิ่งเจี๋ยและเมิ่งชิงก็รีบบ้วนแป้งมันฝรั่งในปากออก ย่นหัวคิ้วกระทืบเท้าพูด “ไม่อร่อยเลย ท่านพี่หลอกพวกเรา”
เมิ่งเชี่ยนโยวหัวร่องอหาย
เมิ่งชื่อยิ้มอ่อนมองทั้งหมดนี้
ผ่านไปอีกหลายวัน เมิ่งเชี่ยนโยวไม่ได้ออกจากบ้านเลย เอาแต่ลากเมิ่งเสียนและเมิ่งชื่อมาช่วยทำเส้นแป้งมันฝรั่ง สิ่งที่ทำออกมาได้รสชาติแย่แตกต่างกันไป เมิ่งชื่อและเมิ่งเสียนที่คอยช่วยชิมต่างคิดว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป ลิ้นตัวเองจะต้องตายด้าน กลัวว่าต่อไปจะรับรสใดๆ ไม่ได้อีก
คนในครอบครัวก็ไม่มีใครสนใจใคร่รู้อีก โดยเฉพาะพวกซุนเหลียงไฉสามคนที่ถูกหลอกครั้งก่อน ทุกครั้งจะหลบลี้ห่างออกมา กลัวเมิ่งเชี่ยนโยวจะลากพวกเขาไปช่วยชิมรส มีเพียงเมิ่งอี้เซวียนที่พอกลับมาจากเลิกเรียน จะมาช่วยชิมรสชาติทุกครั้ง ทั้งเสนอคำชี้แนะ จากนั้นร่วมถกปัญหาอัตราส่วนกับเมิ่งเชี่ยนโยวและเมิ่งเสียน
วันนี้ เมิ่งชื่อทนต่อไปไม่ไหวแล้ว พูดว่า “หากโยวเอ๋อร์ทำออกมาไม่ได้ก็อย่าทำอีกเลย เจ้าดูสิ่งที่พวกเราทำออกมาหลายวันนี้ แม้แต่ไก่บ้านป้าหวังก็ไม่ยอมกินแล้ว”
เมิ่งเชี่ยนโยวไม่พูดอะไร จับจ้องครุ่นคิดอัตราส่วนตัวเลขที่บันทึกไว้
เมิ่งเสียนส่งสัญญาณบอกเมิ่งชื่ออย่าไปรบกวนนาง แล้วแยกตัวไปบดเป็นผงอีกครั้ง
เมิ่งชื่อไม่พูดอะไรอีก เดินมาข้างเตาเตรียมจะต้มน้ำอีกครั้ง
จู่ๆ เมิ่งเชี่ยนโยวก็ร้องตะโกนขึ้น “สำเร็จแล้ว ครั้งนี้ไม่มีปัญหาแล้ว”
เมิ่งชื่อและเมิ่งเสียนหยุดงานในมือ ยื่นหน้ายื่นตาเข้ามาถามไถ่ “เจ้าคำนวณได้แล้วหรือ? ทำได้แล้วจริงๆ หรือ?”
เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า ให้เมิ่งเสียนเอาผงมันฝรั่งชุดใหม่เข้ามา ชั่งน้ำหนัก ทำตามอัตราส่วนที่ตนเองคำนวณ ใส่สารส้มและน้ำลงไป ทำตามกรรมวิธีใหม่ หลังจากได้แป้งมันฝรั่งแล้ว วางลงหล่อเย็นในน้ำ
หลังจากหล่อเย็นเสร็จ ก็ฉีกชิ้นเล็กๆ ออกมาใส่ปากด้วยความมั่นใจ เคี้ยวหนุบหนับ พยักหน้าพึงพอใจ “รสชาตินี้ล่ะ”
เมิ่งชื่อและเมิ่งเสียนได้แต่มองนางอย่างคาดหวัง เห็นนางพยักหน้า รู้ว่าทำสำเร็จแล้ว ดีใจกินหนึ่งคำ อร่อยนุ่มละมุนลิ้น ไม่มีรสแปลกประหลาดอีก
เมิ่งชื่อทั้งดีใจและโล่งใจไปพร้อมๆ กัน “ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดเจ้าก็ทำสำเร็จ แม่รู้สึกว่าหลายวันมานี้ลิ้นแทบใช้การไม่ได้แล้ว”
ทำแป้งมันฝรั่งสำเร็จ หมายความว่าโรงงานเส้นแป้งมันฝรั่งสามารถดำเนินการได้แล้ว เมิ่งเชี่ยนโยวดีใจเป็นอย่างมาก ใช้มือเปียกชื้นคว้าแขนเมิ่งชื่อหมับ พูดอย่างซุกซนรักใคร่ “ท่านแม่สูงวัยที่รักของข้า เพื่อชดเชยลิ้นที่ได้รับความทุกข์ทรมานตลอดหลายวันที่ผ่านมาของท่าน ข้าตัดสินใจจะทำก๋วยเตี๋ยวเส้นแป้งมันฝรั่งต้มยำหนึ่งชามให้ท่านกิน”
เมิ่งชื่อคุ้นชินที่เมิ่งเชี่ยนโยวมักจะโพล่งวิธีพูดแปลกประหลาดออกมาเสียแล้ว ทว่ายังแสร้งชักสีหน้า “แม่ยังอ่อนเยาว์ สูงวัยที่ไหนกัน”
เมิ่งเชี่ยนโยวรีบพูดเอาใจ “ใช่ๆๆ ท่านแม่ของข้ายังสาวยังสวย เปล่งปลั่งดั่งดอกไม้แรกแย้ม”
เมิ่งชื่อโมโหจนขำ แสร้งทำมือจะตีนาง
เมิ่งเชี่ยนโยวปล่อยแขนนางวิ่งหนีไปไกลแล้ว
เมิ่งชื่อไม่ได้เห็นบุตรสาวมีความสุขเช่นนี้มานาน ให้รู้สึกปลาบปลื้มใจ
เมิ่งเชี่ยนโยวให้เมิ่งเสียนไปเอาน้ำมันพริกขวดเล็กมา ส่วนตัวเองหั่นแผ่นแป้งมันฝรั่งเป็นเส้นเรียวยาว จากนั้นเข้าไปหยิบผักสดในครัวออกมา บรรจงล้างจนสะอาด หั่นเป็นท่อนๆ วางรอไว้
เมิ่งชื่อจุดไฟตามที่นางบอก เมิ่งเชี่ยนโยวเทน้ำมันลงไป รอจนน้ำมันร้อน เทต้นหอมลงไปผัดด้วยไฟแรงก่อน ถึงเทน้ำมันพริกลงไป ใส่เครื่องปรุง กระทั่งมีกลิ่นหอมฟุ้งกระจาย ถึงใส่น้ำในปริมาณพอเหมาะ เทเส้นแป้งมันฝรั่งลงไปในกระทะ รอประเดี๋ยวหนึ่ง ใช้ตะเกียบคีบขึ้นมา รู้สึกว่าเกือบสุกแล้ว ถึงเทผักที่ล้างเตรียมไว้แล้วลงกระทะ บอกเมิ่งชื่อว่า “ใส่ผักสดได้ตามใจชอบ ชอบกินอะไรก็ใส่อย่างนั้นเจ้าค่ะ”
เมิ่งชื่อถูกดึงดูดจากกลิ่นหอมในกระทะ พยักหน้าหงึกหงัก
พอผักสุก ก๋วยเตี๋ยวเส้นแป้งมันฝรั่งก็เสร็จพร้อมรับประทาน
เมิ่งเชี่ยนโยวตักให้เมิ่งชื่อก่อนหนึ่งชาม “ท่านแม่ ท่านชิมดูก่อนว่าอร่อยหรือไม่?”
เมิ่งชื่อวางชามลงบนโต๊ะ ลากเก้าอี้เตี้ยข้างๆ มานั่ง ถึงคีบเส้นแป้งมันฝรั่งจำนวนหนึ่งเข้าปาก เคี้ยวหงุบๆ แล้วร้องอุทาน “อร่อยยิ่งนัก”
เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มตักให้เมิ่งเสียนหนึ่งชาม “พี่ใหญ่ ท่านก็ลองชิมดูเถิด”
สุดท้ายถึงตักให้ตัวเอง ทั้งสามคนนั่งล้อมวงกินอย่างเอร็ดอร่อย