ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 - ตอนที่ 229-3 ดังระเบิด
ก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งสามชุดที่ลูกค้าคนแรกต้องการทำเสร็จแล้ว เหวินเป้ายกออกมา วางลงตรงหน้าเขาบนโต๊ะ
เมิ่งเชี่ยนโยวเดินไปข้างตู้ตั้งพื้นด้านหลัง หยิบไหสั่งทำพิเศษที่ล้างสะอาดแล้วสามใบเข้ามา เทก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งทั้งสามชามลงในไหต่อหน้าลูกค้า จากนั้นปิดฝา ยกยิ้มพูดกับลูกค้าว่า “นี่เป็นไหที่พวกเราตั้งใจทำขึ้นสำหรับลูกค้าที่ซื้อกลับบ้าน หากท่านกินหมดแล้ว ล้างให้สะอาด ส่งกลับคืนมาให้พวกเรา พวกเราจะคืนค่าไหให้ใบละห้าอีแปะ”
ลูกค้าย่อมยินดี จ่ายเงินทันที
เมิ่งอี้ผูกเชือกไหทุกใบ ลูกค้ารับมาเดินออกไปอย่างเบิกบาน
ลูกค้าที่หัวใสหน่อยเริ่มไม่พอใจ ถามเสียงดัง “ถ้าไหใบหนึ่งได้เงินคืนห้าอีแปะ เช่นนั้นพวกเราที่กินในร้านไม่ขาดทุนเรอะ?”
เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มอธิบาย “ลูกค้าทุกคนที่กินอาหารในร้าน จะได้ผักดองเป็นของแถมหนึ่งจาน ผักดองนี้อย่าว่าแต่ข้างนอกไม่มีขาย ต่อให้มีขาย เงินห้าอีแปะก็ซื้อกินไม่ได้ ท่านคิดว่าท่านได้กำไรหรือขาดทุนกันเล่า?”
ลูกค้นคนอื่นตอบแทนเขา “ย่อมต้องได้กำไร”
ลูกค้าที่ไม่พอใจ ขยี้ศีรษะหัวเราะแหะๆ แก้เก้อ
ก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งถูกส่งเข้ามาไม่ขาดสาย ลูกค้าที่ได้กินต่างยกนิ้วโป้งชื่นชมไม่หยุดปาก ทำเอาคนที่มุงดูด้านนอกอดใจไม่ไหวเดินเข้ามากอีกกลุ่มใหญ่
ทุกคนต่างยุ่งจนหัวหมุน เมิ่งเชี่ยนโยวกำลังจะเข้าไปช่วย ที่ประตูมีคนพูดด้วยน้ำเสียงชื่นบาน “น้องโยวเอ๋อร์ ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว”
เมิ่งเชี่ยนโยวถามด้วยความประหลาดใจ “พี่หูจื่อ เป็นท่านได้อย่างไร? ท่านกลับมาเมื่อใด? เหตุใดข้าถึงไม่ได้ยินป้าหวังพูดถึงเลย”
หวังหู่เข้ามาในร้าน ด้านหนึ่งช่วยเก็บถ้วยชามบนโต๊ะ อีกด้านตอบนาง “ข้าเพิ่งกลับมาเมื่อวาน หลงจู๊ให้ข้าหยุดสามวัน ข้าเตรียมจะกลับบ้านวันนี้ เมื่อครู่หลงจู๊กลับไปบอกให้เสี่ยวเอ้อร์เข้ามาช่วยที่นี่ ข้าได้ยินเข้า จึงอาสาสมัครเข้ามา”
เมิ่งเชี่ยนโยวให้ฉงน “ท่านมิได้บอกว่าไม่นานก็จะกลับมาหรือ? เหตุใดถึงปล่อยเวลายาวนานเช่นนี้?”
หูจื่อตอบกลับ “ตอนที่ข้าเตรียมจะกลับบ้าน เกิดเรื่องกับเสี่ยวเอ้อร์สองคนในภัตตาคาร พวกเขาลาออกไป คนงานไม่พอ ข้าจึงต้องอยู่ในจังหวัดต่ออีกระยะหนึ่ง กระทั่งเสี่ยวเอ้อร์ที่รับเข้ามาใหม่คล่องงานแล้ว ข้าถึงได้กลับมา”
เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า
มีหูจื่อมาช่วย คนอื่นไม่มีท่าทีลนลานทำผิดทำถูกอีก เมิ่งเชี่ยนโยวจึงจัดวางงานใหม่ทั้งหมด ให้เหวินเหลียนมีหน้าที่ล้างชามหลังร้าน เหวินเป้าเป็นคนยกก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งที่ทำเสร็จแล้วเข้ามา เมิ่งอี้และหูจื่อมีหน้าที่ต้อนรับลูกค้าและเก็บโต๊ะ
เมิ่งเชี่ยนโยวก็ไม่ได้ว่าง นอกจากเก็บเงิน ลงบัญชีแล้ว ยังช่วยเก็บถ้วยชามเช็ดโต๊ะด้วย
เสียงปี่แตรด้านนอกคอยบรรเลงไม่หยุด ดึงดูดผู้คนเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ลูกค้าเหลาจวี้เสียนก็ถกถามกันว่าฝั่งตรงข้ามขายอาหารอะไรกันแน่ ถึงขายดีเช่นนี้
หลงจู๊ได้ยินลูกค้าถกถามกัน เปล่งเสียงพูดว่า “ฝั่งตรงข้ามคือร้านก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งเปิดใหม่ เป็นอาหารแปลกใหม่ที่ทำมาจากมันฝรั่ง เมื่อครู่ข้ากับพ่อครัวใหญ่ไปกินมาแล้ว รสชาติเลิศล้ำนัก และวันนี้เป็นวันเปิดกิจการวันแรก มีส่วนลดครึ่งราคา หนึ่งชามขายเพียงหนึ่งร้อยอีแปะ หากพวกท่านอยากลองชิม ข้าให้เสี่ยวเอ้อร์ไปซื้อกลับมาให้พวกท่านได้”
พวกลูกค้าต่างเคยกินมันฝรั่งแล้ว ไม่ว่าทำเป็นอาหารชนิดไหนก็อร่อยลิ้น ก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งที่ว่านี้มีรสชาติเช่นไร ทุกคนต่างสนใจใคร่รู้ อีกอย่างเงินหนึ่งร้อยอีแปะสำหรับลูกค้าที่มากินข้าวที่เหลาจวี้เสียนได้อย่างพวกเขาถือเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว มีคนร้องพูดขึ้นทันควัน “สั่งมาให้พวกเราทุกคนในโต๊ะนี้คนละหนึ่งชาม พวกเราอยากชิมความแปลกใหม่”
หลงจู๊รับคำ ตอบกลับ “ก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งมีทั้งหมดสี่รสชาติ ต้มยำ หมาล่า เผ็ดน้อย น้ำใส ไม่ทราบว่าท่านต้องการกินรสชาติใด?”
“พวกเรามีสี่คนพอดี เอามาชามละรสชาติก็แล้วกัน” ลูกค้าตอบ
หลงจู๊สั่งเสี่ยวเอ้อร์ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งสี่ชามกลับมาทันที
เสี่ยวเอ้อร์วิ่งเหยาะๆ เข้ามาในร้าน ร้องตะโกนว่า “แม่นาง ลูกค้าต้องการก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งสี่ชาม ชามละหนึ่งรสชาติขอรับ”
เมิ่งเชี่ยนโยวขานรับคำ “ทราบแล้ว เจ้ากลับไปบอกให้ลูกค้ารอสักครู่ เมื่อทำเสร็จข้าจะให้คนยกไปส่ง”
เสี่ยวเอ้อร์วิ่งเหยาะๆ กลับมา บอกลูกค้ารอสักครู่ ประเดี๋ยวจะมีคนยกก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งมาส่ง
เมิ่งเชี่ยนโยวบอกคนด้านหลังให้ต้มก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งสี่ชามนี้ออกมาก่อน ทั้งกำชับเหวินเป้า ประเดี๋ยวพอยกไปส่ง อย่าเพิ่งคิดเงินทันที ให้หลงจู๊เก็บเงินรวมสุดท้ายทีเดียว
ทุกคนทำงานว่องไว ไม่นานก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งรสชาติต่างกันสี่ชามก็ถูกยกลงจากเตา เหวินเป้าหยิบถาดวางก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งสี่ชามส่งมาที่เหลาจวี้เสียน บอกหลงจู๊ว่า “หลงจู๊ทำเสร็จแล้ว ไม่ทราบว่าลูกค้าโต๊ะไหนสั่งขอรับ?”
หลงจู๊ใช้มือบอก เหวินเป้ายกถาดเดินผ่านโต๊ะหลายตัว มาถึงโต๊ะของลูกค้า วางก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งทั้งสี่ชามต่อหน้าพวกเขาคนละชาม
บริเวณที่เหวินเป้าเดินผ่าน กลุ่มคนจะได้กลิ่นหอมประหลาดลอยผ่าน ต่างทำจมูกฟุดฟิด สายตาเคลื่อนตามร่างของเขาไปถึงโต๊ะตัวนั้น เห็นลูกค้าหยิบตะเกียบขึ้นกินคำโต อากัปกิริยาพออกพอใจนั้น ทำพวกเขาหวั่นไหว
เหวินเป้าหันหลังเดินมาโต๊ะคิดเงิน พูดกระซิบกับหลงจู๊ “แม่นางพวกเราบอกว่า ให้ท่านช่วยเก็บเงินค่าก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งด้วยขอรับ”
หลงจู๊เข้าใจโดยพลัน พยักหน้าพึงพอใจ
เหวินเป้าถือถาดเดินกลับไป ยังไม่ทันก้าวพ้นประตู ก็มีลูกค้าตะโกนพูด “ข้าขอด้วยหนึ่งชาม”
เสียงตะโกนฉับพลันนี้ ทำลูกค้าคนอื่นๆ ก็สั่งก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งให้มาส่งตามไปด้วย
หลงจู๊บอกให้เหวินเป้ากลับไป แล้วยิ้มพูดกับลุกค้า “ทุกท่านอยากได้กี่ชาม รสชาติอะไร บอกกับข้า ข้าจะให้เสี่ยวเอ้อร์ไปสั่งให้ขอรับ”
ลูกค้าต่างบอกรสชาติที่ตัวเองต้องการ หลงจู๊จดบันทึกตามลำดับการสั่งก่อนหลังยื่นให้เสี่ยวเอ้อร์ ให้เขาส่งไปให้เมิ่งเชี่ยนโยว
ช่วงเวลาไม่นาน ลูกค้าในร้านเปลี่ยนไปหลายชุดแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะผลจากกลยุทธ์ส่วนลด หรือคนที่กินแล้วนำไปโฆษณาบอกต่อ หรือเพราะบรรยากาศการเปิดร้านวันแรกเต็มไปด้วยความคึกคัก ดึงดูดให้คนเข้ามามาก สรุปก็คือลูกค้าในร้านมากขึ้นเรื่อยๆ ภายในร้านที่ใหญ่โตกว้างขวางเต็มไปด้วยผู้คน ไม่มีที่ว่างเลยสักที่
เมิ่งอี้และหวังหู่วิ่งวุ่นกันจนแม้แต่น้ำยังไม่มีเวลาดื่ม เส้นเสียงแหบแห้งไปตามๆ กัน
สะใภ้เหวินทั้งสามคนยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่ได้มีเวลายืดหลังขึ้นมาเลย
แม้แต่เมิ่งเชี่ยนโยวก็ยุ่งจนเหนื่อยล้าไปหมด
เสี่ยวเอ้อร์นำรายการสั่งก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งรสชาติต่างๆ ที่ลูกค้าต้องการส่งมาให้ เมิ่งเชี่ยนโยวไม่รู้ว่าควรจะยินดีหรือกลัดกลุ้มกันแน่
ยินดีที่ในที่สุดก็เป็นเหมือนกับที่ตนเองคาดคิดไว้ อาศัยใบบุญของเหลาจวี้เสียน ตนเองไม่ต้องป่าวประกาศก็มีลูกค้าเรียกร้องอยากซื้อก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่ง กลัดกลุ้มก็คือพวกเขาต้องการทีเดียวยี่สิบสามสิบชุด หากทำให้พวกเขาเสร็จ เกรงว่าลูกค้าในร้านตัวเองคงต้องทนรอไม่ไหว
เมิ่งเชี่ยนโยวมองลูกค้าที่นั่งรอกินก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งเต็มร้าน แล้วมองใบรายการในมือ ขบคิดครู่หนึ่ง หยิบเงินอีแปะ ให้หูจื่อไปซื้อเม็ดก๋วยจี้จำนวนหนึ่งมา
หูจื่อคุ้นเคยกับในเมืองดี ไม่นานก็ซื้อเม็ดก๋วยจี้กลับมา
เมิ่งเชี่ยนโยววางเม็ดก๋วยจี้ไว้ในจานผักดอง วางไว้โต๊ะละจาน แล้วยิ้มพูดกับลูกค้าที่กระวนกระวายใจรอคอย “วันนี้ลูกค้าค่อนข้างมาก ทำให้ทำไม่ทัน ทุกท่านทำใจร่มๆ แทะเม็ดก๋วยจี้รอสักครู่นะเจ้าคะ”
ลูกค้าไม่เคยเจอเรื่องดีเช่นนี้มาก่อน นั่งรอก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งยังมีเม็ดก๋วยจี้ให้กินเล่น จิตใจที่กระสับกระส่ายค่อยผ่อนคลายลง คว้าเม็ดก๋วยจี้ขึ้นมากำหนึ่งกินไปพลางคุยไปพลาง
เสียงอึกทึกจางหายไปถนัดตา เมิ่งเชี่ยนโยวโล่งอก นำใบรายการของหลงจู๊วางตรงหน้าสะใภ้เหวินเหวินเปียว สั่งการนาง “ทำส่งไปให้เหลาจวี้เสียนก่อนห้าชาม จากนั้นค่อยทำในร้านห้าชาม แล้วทำวนกลับไป กระทั่งทำก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งที่ส่งให้เหลาจวี้เสียนเสร็จ”
สะใภ้เหวินเปียวพยักหน้ารับ
แม้ลูกค้าที่ยังไม่ได้กินก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งในร้านไม่ส่งเสียงร้องเร่งเร้าแล้ว แต่ด้านนอกยังมีคนเดินเข้ามาไม่ขาด ลูกค้าที่กินแล้วยังไม่ย่อยดี ก็จะถูกคนด้านหลังรบเร้าไล่กดดัน ต้องการที่นั่ง
เมิ่งเชี่ยนโยวเห็นว่าไม่ได้การ หันไปบอกเมิ่งอี้ “พี่เมิ่งอี้ เช่นนี้ไม่ถูกต้อง พวกเราต้องคิดหาวิธีหาคนมาช่วยเพิ่ม”
สิ้นเสียง ด้านนอกมีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา คนนำหน้าเดินไปพลางพูดว่า “ก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งเป็นอาหารแปลกใหม่ วันนี้ข้าเลี้ยงเอง ทุกคนกินกันให้เต็มที่”
สิ้นเสียงก็เดินเข้ามาในร้านแล้ว ตะโกนพูดเสียงลั่น “พวกเราต้องการห้า…”
คำต่อจากนั้นถูกกลืนกลับลงไปหลังจากเห็นเมิ่งเชี่ยนโยว ไม่พูดพร่ำทำเพลง หันหลังเตรียมเผ่น
เมิ่งเชี่ยนโยวเห็นเขาให้ดีใจยกใหญ่ ตะโกนดังลั่น “หยุดเดี๋ยวนี้”