ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 - ตอนที่ 234-4 ร้านยาเต๋อเหรินเกิดเรื่อง
เมิ่งเชี่ยนโยวเดินเลี้ยวมายังเรือนรอง
พวกอู๋ต้าทั้งสิบคนได้ลาพักกลับไปฉลองปีใหม่แล้ว เหลือเพียงสามครอบครัวของเหวินเปียว เหวินหู่และเหวินเปียวพักอยู่ในเรือนรอง ในเวลานี้ทั้งสามครอบครัวกำลังเตรียมจะห่อเกี๊ยวด้วยกัน
เหวินเปียวที่กำลังหอบฟืนเดินจากลานบ้านไปห้องครัวเห็นเมิ่งเชี่ยนโยวเข้ามา ยังไม่ทันวางฟืนลง ก็ถามอย่างอ่อนน้อม “แม่นาง ท่านมีเรื่องอันใดหรือ?”
คนอื่นๆ ได้ยินเสียงเขา ต่างเดินออกมาจากในบ้าน เปล่งเสียงพินอบพิเทาทักทายนาย
เมิ่งเชี่ยนโยวพูดว่า “พวกเจ้าเก็บข้าวของเถอะ หยิบฉวยสิ่งที่เตรียมไว้ห่อเกี๊ยวตามข้าไปเรือนด้านหน้า ปีนี้พวกเราจะฉลองปีใหม่ด้วยกันอย่างคึกคักครื้นเครง”
คนทั้งหมดผงะอึ้ง
ครู่หนึ่งเหวินเปียวถึงพูดว่า “แม่นาง ไม่ได้หรอก คนรับใช้กับนายจะร่วมฉลองปีใหม่กันได้อย่างไรเล่า”
เมิ่งเชี่ยนโยวคาดเอาไว้แล้วว่าเหวินเปียวจะต้องพูดเช่นนี้ แสร้งชักสีหน้า พูดว่า “ข้าเป็นนาย ข้ามีสิทธิ์ขาด พวกเจ้ารีบหยิบข้าวของที่เตรียมเอาไว้แล้ว ไปเรือนด้านหน้า คนที่บ้านกำลังรออยู่”
พูดจบ ไม่รอให้เหวินเปียวได้เอ่ยปากคัดค้าน หันหลังเดินลิ่วออกไปจากลานเรือนรอง
คนในครอบครัวเหวินเปียวไม่มีใครขยับ ต่างมองมาที่เขาพร้อมกัน
เหวินเปียวยืนนิ่ง มองแผ่นหลังที่เลือนหายไปของเมิ่งเชี่ยนโยว ถอนหายใจยาว สั่งการคนในครอบครัว “นายหญิงดีต่อพวกเรา พวกเราต้องรู้จักพอ เมื่อไปถึงแล้ว อย่าได้ลืมสถานะของตนเอง พูดแต่น้อยทำให้มาก”
ทุกคนรู้ว่าเขายอมตกลงแล้ว ขานรับคำโดยพร้อมเพรียง หยิบข้าวของที่เตรียมไว้แล้ว เดินมายังเรือนด้านหน้าด้วยกัน
เมิ่งเจี๋ยและเมิ่งชิงเด็กน้อยผู้ไม่กลัวความหนาวนั่งเล่นอยู่ในลานบ้าน เห็นเหวินจิ้งและเหวินซงเข้ามา รีบกวักมือให้พวกเขา “พวกเจ้ามาทางนี้ พวกเรามาเล่นด้วยกัน”
อย่างไรทั้งสองก็ยังเป็นเด็ก ไม่ทันไรก็ลืมคำสั่งของเหวินเปียวไปสิ้น วิ่งเบิกบานตรงไปทันที
สะใภ้เหวินเปียวคิดจะเอ่ยปากร้องห้าม เห็นความเริงร่าสนุกสนานของพวกเด็กๆ จึงกลืนคำพูดที่ปลายลิ้นลงไป
สะใภเหวินทั้งสามคนพาเหวินเหลียนเข้ามาในห้องครัว วางข้าวของสำหรับห่อเกี๊ยวที่เตรียมไว้แล้วลงบนโต๊ะ จากนั้นสะใภ้เหวินเปียวก็รีบเดินไปตรงหน้าเมิ่งชื่อที่กำลังนวดแป้งอยู่ พูดว่า “ฮูหยิน ท่านไปพักเถอะ ข้าทำเอง”
เมิ่งชื่อส่ายหน้า “ไม่ต้อง ข้านวดใกล้เสร็จแล้ว พวกเจ้าไปรอทางนั้นก่อน อีกเดี๋ยวพวกเราจะได้ห่อเกี๊ยวกัน”
ซุนเชี่ยนก็ไม่ยอมให้สะใภ้เหวินเปียวมาทำแทน
ทั้งสามหันสบตากัน ยืนอึดอัดอยู่อีกด้าน
เมิ่งชื่อและซุนเชี่ยนเตรียมสิ่งของทุกคนเสร็จแล้ว พวกผู้หญิงจึงเริ่มลงมือห่อเกี๊ยว พวกผู้ชายจับกลุ่มกันดื่มน้ำชาพูดคุยอยู่ในบ้าน
สะใภเหวินทั้งสามคนยังคงเจียมเนื้อเจียมตัว ยืนห่อเกี๊ยวในมุมหนึ่งของโต๊ะอย่างถ่อมตน
เมิ่งเชี่ยนโยวกลอกนัยน์ตาไปมา ฉวยโอกาสตอนเมิ่งชื่อไม่สังเกต จุ่มมือลงไปในแป้ง จงใจป้ายไปบนหน้าซุนเชี่ยน
ซุนเชี่ยนก็ยังมีนิสัยเด็กซุกซน ถูกนางป้ายเต็มหน้า ย่อมไม่ยอมแพ้ ก็เอามือจุ่มแป้ง ป้ายเมิ่งเชี่ยนโยวกลับ
เมิ่งเชี่ยนโยวหวีดร้องเบี่ยงตัวหลบ พอเดินผ่านเหวินเหลียนก็เอาแป้งที่ยังเหลือติดมือป้ายใบหน้านาง
ช่วงที่ผ่านมาเหวินเหลียนพอจะสนิทสนมกับเมิ่งเชี่ยนโยวแล้ว ลืมคำสั่งของเหวินเปียวไปสิ้น เอามือจุ่มแป้ง วิ่งไล่นางพร้อมกับซุนเชี่ยน
เมิ่งเชี่ยนโยวหลบซ้ายเบี่ยงขวา สุดท้ายก็ถูกทั้งสองป้ายหน้าคืน
คนทั้งหมดเห็นนางถูกป้ายขาวโพลนไปทั้งหน้า เหมือนตัวตลก ต่างหัวเราะครื้นเครง
บรรยากาศภายในห้องครัวผ่อนคลายขึ้นมาก
สะใภ้เหวินทั้งสามคนก็ไม่สงบเสงี่ยมมากแล้ว ต่างเม้มริมฝีปากยกยิ้มนั่งบนม้านั่งอีกด้าน
คนมากงานไว ใช้เวลาไม่นานไม่เพียงห่อเกี๊ยวของตอนค่ำเสร็จ แม้แต่เกี๊ยวของเช้าวันปีใหม่ก็ห่อเสร็จเรียบร้อย
ยังคงเป็นเหมือนปีที่แล้ว เมิ่งเชี่ยนโยวให้ทุกคนห่อเกี๊ยวไส้ต่างๆ กัน
คนทั้งหมดไม่รู้เลยว่าไส้เกี๊ยวสามารถห่อได้หลากหลายรสชาติ ต่างแปลกประหลาดใจ
มีคนกินเกี๊ยวจำนวนมาก เมิ่งเชี่ยนโยวเกิดความคิดแผลงๆ ขึ้น ถึงขั้นคิดให้เมิ่งชื่อห่อเกี๊ยวรสน้ำมันพริก
เมิ่งชื่อไม่เห็นด้วย เมิ่งเชี่ยนโยวจึงไปขอร้องซุนเชี่ยน พร่ำเรียกพี่สะใภ้ที่แสนดีให้นางห่อตามที่ตัวเองบอกหกเจ็ดลูก
เมิ่งชื่อทั้งโมโหทั้งขบขัน กล่าวตำหนิเมิ่งเชี่ยนโยว “เจ้าใส่เกี๊ยวไส้น้ำมันพริกลงไปมากเช่นนี้ หากวันพรุ่งมีคนกินเข้าไปหลายลูก ได้เผ็ดจนวิ่งไปทั่วลานบ้านเป็นแน่”
เมิ่งเชี่ยนโยวแลบลิ้นซุกซนปัดความรับผิดชอบ “ท่านแม่ ไม่เกี่ยวกับข้านะ พี่สะใภ้เป็นคนห่อเกี๊ยว”
คนทั้งหมดไม่เคยเห็นนางโบ้ยความผิดเช่นนี้ ต่างหัวเราะครื้นเครง
หลังกินเกี๊ยวเสร็จ ก็จะต้องเฝ้ายาม
พวกผู้หญิงจะพูดคุยสัพเพเหระในด้านหนึ่ง ส่วนพวกผู้ชายหารือเรื่องการพัฒนาการค้าของครอบครัวหลังปีใหม่ ส่วนเด็กๆ ยังคงวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานในลานบ้าน
เมิ่งเชี่ยนโยวกระเถิบไปตรงหน้าเมิ่งชื่อ ถามกระเง้ากระงอด “ท่านแม่ ปีนี้ท่านเตรียมเงินแต๊ะเอียไว้ให้ข้าเท่าใด?”
เมิ่งชื่อขบขันในท่าทีละโมบของนาง ตอบว่า “ปีนี้แม่หาเงินได้มาก แม่ทุ่มไม่อั้น ให้อั่งเปาพวกเจ้าทุกคนคนละห้าตำลึง”
เมิ่งเชี่ยนโยวดีใจลิงโลดกอดนางแน่น “ให้เงินมากเช่นนี้ ท่านแม่งดงามยิ่งแล้ว”
เมิ่งชื่อถูกนางแหย่เย้า ยื่นมือออกไปหมายจะตีนาง
เมิ่งเชี่ยนโยวหัวเราะคึกคักเดินมาตรงหน้าซุนเชี่ยน พูดพะเน้าพะนอ “ท่านพี่สะใภ้สิริโฉม ท่านเตรียมเงินแต๊ะเอียไว้ให้ข้าเท่าใด?”
ซุนเชี่ยนหยอกนาง “ข้าปรึกษากับพี่ใหญ่เจ้าแล้ว พวกเราเพิ่งจะแต่งงานกัน ยังมีเงินไม่มาก จะให้แต๊ะเอียคนละหนึ่งร้อยอีแปะ”
เมิ่งเชี่ยนโยวเก็บคืนรอยยิ้ม ร้องถาม “หนึ่งร้อยอีแปะ พวกท่านตระหนี่ไปแล้วกระมัง พี่ใหญ่ดูแลโรงงานหลายแห่งของครอบครัว พวกท่านตระหนี่เช่นนี้จะดีหรือ?”
ทุกคนหัวเราะครื้นเครง
เมิ่งเสียนได้ยินเสียงวาจานาง ยิ้มพูดว่า “พี่สะใภ้หยอกเจ้าหรอก พวกเราเหมือนกับท่านพ่อท่านแม่ จะให้แต๊ะเอียพวกเจ้าคนละห้าตำลึงเช่นกัน”
เมิ่งเชี่ยนโยวตมหน้าอกตัวเอง “ตกใจหมดเลย ข้านึกว่าพอพี่ใหญ่แต่งภรรยาก็จะลืมพวกเราเสียแล้ว ยังดีๆ ยังไม่ถูกพี่สะใภ้ชักจูงไปก่อน”
ทุกคนหัวเราะร่วนอีกครั้ง
ซุนเชี่ยนถูกพาดพิงถึงหน้าแดงเรื่อ ยื่นมือออกไปตีนางเบาๆ
เมิ่งเชี่ยนโยวรีบพูดพะเน้าพะนอ “พี่สะใภ้ หากท่านให้อั่งเปาข้าสิบตำลึง ท่านจะดียิ่งกว่าพี่ใหญ่ของข้าเลย”
ทุกคนหัวเราะครืนเพราะนางอีกครั้ง
บรรยากาศครื้นเครงทอดยาวไปจนถึงยามจื่อ[1] ทุกคนถึงทยอยแยกย้ายกันไป
กระทั่งทุกคนไปกันหมดแล้ว เมิ่งเชี่ยนโยวถึงพูดกับเมิ่งชื่อที่กำลังจะกลับเข้าห้องว่า “ท่านแม่ ท่านเตรียมแต๊ะเอียปีนี้ ให้พวกเด็กๆ บ้านเหวินด้วยนะเจ้าค่ะ จำนวนที่ให้เหมือนกับพวกเรา”
เมิ่งชื่อรับคำ “แม่รู้ เตรียมเอาไว้หมดแล้ว”
เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า แล้วแยกย้ายกลับเข้าห้องของตัวเอง
ล่วงพ้นยามจื่อแล้ว เมิ่งเชี่ยนโยวเริ่มมีอาการง่วงงุน หลังจากเอนตัวลงก็หลับผล็อยไปทันที
ตอนที่กำลังฝันหวานนั้นพลันถูกเสียงควบม้าดังกระชั้นเข้ามา เมิ่งเชี่ยนโยวเบิกตาโพลง เงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวด้านนอก
ม้าตัวนั้นวิ่งมาหยุดหน้าประตู มีคนเคาะประตูดังรัว ร้องตะโกนสุดชีวิต “แม่นางเมิ่ง แย่แล้วขอรับ ร้านยาเต๋อเหรินเกิดเรื่องแล้ว!”
เมิ่งเชี่ยนโยวกระโดดลุกพรวด คว้าชุดมาสวมเร็วรี่ ก้าวฉับๆ มาหน้าประตูใหญ่ เปิดประตูออก กลับต้องสะดุ้งตกใจกับภาพตรงหน้า เห็นเขาในสภาพสะบักสะบอม น่าสังเวช ราวกับประสบหายนะร้ายแรงมา
คนงานเห็นเมิ่งเชี่ยนโยวออกมา พูดด้วยเสียงกระเซ่าซ้ำอีกครั้ง “แม่นาง แย่แล้วขอรับ ร้านยาเต๋อเหรินเกิดเรื่องแล้ว มีคนล้อมสังหารพวกเรา หมอชราได้รับบาดเจ็บหนัก ใกล้จะทนไม่ไหวแล้วขอรับ”
[1] ยามจื่อ คือช่วงเวลา 23.00-01.00 น.