กับดักรักในรอยแค้น - ตอนที่ 288 คุณต้องเชื่อผม / ตอนที่ 289 สงครามแห่งเกียรติยศ
ตอนที่ 288 คุณต้องเชื่อผม
ฉู่เจียเสวียนยกมือขึ้นปิดหน้าตามสัญชาตญาณ และถังถังก็กั้นคนจากด้านหน้าของเธอ “หยุดถ่ายได้แล้ว หยุดถ่ายได้แล้ว พวกคุณรีบกลับบ้านไปซะ”
แต่ว่านักข่าวกับแฟนคลับเหล่านั้นไม่ฟังคำของถังถังเลย ยังคงถ่ายเธอไม่หยุด
“คุณฉู่ ขอถามหน่อยครับคุณมีอะไรจะพูดหรือเปล่า”
ฉู่เจียเสวียนอยู่ภายใต้การปกป้องของถังถัง เดินไปข้างหน้า ปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ ของเขา
“ฉู่เจียเสวียน แกนังตัวดี กล้ายังไงทำให้นางฟ้าของฉันต้องอับอาย!”
พูดจบ คนนั้นก็ปาไข่ไก่ฟองหนึ่งมาที่ฉู่เจียเสวียน ไข่ฟองนั้นตกลงด้านหน้าของฉู่เจียเสวียนอย่างเฉียดฉิว โชคดีที่ไม่โดนตัวเธอ
ถังถังมองพร้อมบล็อคอยู่ด้านหน้าของฉู่เจียเสวียน “เธอไม่เป็นไรนะ?”
ฉู่เจียเสวียนส่ายหัว ยังไม่ทันได้หายใจ แฟนคลับของฉู่อีอีก็ปาไข่ไก่มาที่ฉู่เจียเสวียน
ยังไม่ทันได้ตอบสนอง จู่ๆ ฉู่เจียเสวียนก็โผเข้าสู่อ้อมกอดที่อบอุ่นของคนคนหนึ่ง ได้ยินเพียงเสียงที่อ่อนโยนดังขึ้น “เจียเสวียน คุณไม่เป็นไรนะ?”
มองคนนั้นด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของฉู่เจียเสวียนร้อนผ่าว “คุณมาได้ยังไง”
เธอฝากถังถังให้บอกเขาว่าให้ไปรอเธอที่บ้านเธอไม่ใช่หรอกเหรอ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
“ผมไม่วางใจคุณ รู้ว่าคุณไม่ได้อยู่บ้านแน่ๆ ผมก็เลยมาที่ร้านเช่าชุดเลย” ได้ยินน้ำเสียงเป็นห่วงของกงจวิ้นฉือ ฉู่เจียเสวียนรู้สึกซาบซึ้งใจ
ทันทีที่กงจวิ้นฉือมา ไข่ไก่ที่ปาใส่ฉู่เจียเสวียนในตอนแรกก็ตกลงบนตัวของกงจวิ้นฉือทันที เพราะว่าเขาบังตัวอยู่ด้านหน้าฉู่เจียเสวียน
มองดูกงจวิ้นฉือตรงหน้าที่เดินทางมาเพื่อบังลมบังฝนแทนเธอ ในใจของฉู่เจียเสวียนรู้สึกซาบซึ้งเหลือคณานับ
“คุณไม่น่ามาเลย” ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้วเอ่ย ดวงตาที่มองกงจวิ้นฉือเผยให้เห็นความกังวลใจ
“คุณป้าเป็นห่วงคุณมาก โทรหาคุณก็ไม่ติด” กงจวิ้นฉือกล่าว มองฉู่เจียเสวียนพร้อมกับพูด
อา เธอปิดมือถือแล้ว ลืมบอกแม่ว่าปลอดภัยดี ครั้งนี้เธอคงจะร้อนใจแย่แล้วมั้ง
หลังจากกงจวิ้นฉือมาแล้วก็พาฉู่เจียเสวียนฝ่าฝูงชนออกไปทันที และเมื่อเขาออกไปก็มีรถสีดำรออยู่ที่นั่นอยู่แล้ว
หลังจากออกมาแล้ว กงจวิ้นฉือเปิดประตูรถอย่างรวดเร็วและให้ฉู่เจียเสวียนกับถังถังขึ้นไป จากนั้นเขาจึงขึ้นรถ
เมื่อขึ้นรถแล้ว ทั้งสองคนจึงถอนหายใจโล่งอก
ฉู่เจียเสวียนมองดูถังถังกับกงจวิ้นฉือที่เลอะไข่ไก่ทั้งตัว ในใจก็มีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะพวกเขาสองคน คาดว่าเธอก็คงจมกองไข่ไก่พวกนั้นไปแล้ว
หลังจากกลับมาถึงวิลล่า ทั้งสามคนนั่งลงที่ห้องรับแขก เมื่อซูซานซานออกมาแล้วเห็นทั้งสามคนในสภาพสะบักสะบอมนั้น ความกังวลก็ผุดขึ้นในดวงตา
“พวกเธอไปอาบน้ำกันก่อนดีไหม” ซูซานซานเอ่ยปาก มองดูทั้งสามคนพร้อมกล่าวแนะนำ
ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า หลังจากหาเสื้อผ้าที่สะอาดให้ถังถังและกงจวิ้นฉือแล้ว ก็ปล่อยให้พวกเขาไปอาบน้ำ ส่วนตัวเธอนั้นสะอาดสะอ้าน เพราะเธอได้รับการปกป้องจากกงจวิ้นฉือตลอดเวลา
หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ทั้งสามคนก็นั่งอยู่ในห้องรับแขกครุ่นคิดหาทางออก
“ผมมีวิธีแล้ว” จู่ๆ กงจวิ้นฉือโพล่งขึ้นมา แววตามีรอยยิ้ม
“วิธีอะไร” ทันทีที่ถังถังผู้ใจร้อนได้ยินว่ากงจวิ้นฉือมีวิธีแล้ว เอ่ยถามทันที จ้องเขาตาไม่กระพริบ
ได้ยินน้ำเสียงที่ตื่นเต้นของถังถัง ฉู่เจียเสวียนหัวเราะ สายตาก็มองกงจวิ้นฉือ เขาคิดวิธีออกได้เร็วขนาดนี้เชียวเหรอ
“คุณมีวิธีจริงเหรอ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยถาม สายตาที่มองเขามีความข้องใจเล็กน้อย
“แน่นอน คุณต้องเชื่อผม” เสียงอบอุ่นดัวขึ้น ดวงตาของกงจวิ้นฉือเป็นประกาย
ซูซานซานออกมาจากห้องครัว ในมือถือถาด เดินมาหาทั้งสามคนพร้อมเอ่ย “มา พวกเธอดื่มน้ำกินผลไม้กันก่อน”
ตอนที่ 289 สงครามแห่งเกียรติยศ
วางผลไม้และน้ำชาในถาดลงบนโต๊ะกาแฟ ซูซานซานนั่งลงบนโซฟา
เมื่อได้ยินว่ากงจวิ้นฉือมีวิธี ก็เงยหน้ามองเขาเช่นกัน
“เจียเสวียน ยังจำวีดีโอที่ถ่ายก่อนหน้านี้ได้ไหม” กงจวิ้นฉือเอ่ยถาม ดวงตาที่มองฉู่เจียเสวียนมีรอยยิ้ม
วีดีโอ? ความสงสัยปรากฏอยู่ในดวงตาของฉู่เจียเสวียน ถังถังได้ยินแล้วก็มองเธออย่างสงสัยเช่นกัน
ฉู่เจียเสวียนถ่ายวีดีโออะไรตั้งแต่เมื่อไรกัน
เมื่อเห็นแววตาไม่เข้าใจของทั้งสองคน กงจวิ้นฉือเอ่ยปากสบายๆ “ตอนที่คุณเป็นอาสาสมัครในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า คุณทำหน้าที่เป็นทูตส่งเสริมไม่ใช่เหรอ”
กงจวิ้นกล่าวเตือนสติถึงตอนที่ฉู่เจียเสวียนเป็นอาสาสมัครในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตอนที่เพิ่งกลับมาใหม่ๆ ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นทูตเท่านั้น แต่ยังบริจาคเลือดสองร้อยห้าสิบมิลลิลิตรให้กับเด็กที่ต้องการเลือดในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกด้วย เพื่อเป็นการขอบคุณฉู่เจียเสวียน ครูใหญ่ยังตั้งใจบันทึกวีดีโอให้กับเธออีกด้วย
เมื่อกงจวิ้นฉือพูดเช่นนี้ ถังถังกับฉู่เจียเสวียนนึกออกทันที เธอคลับคล้ายคลับคลาว่ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น
“ใช่แล้ว ตอนนั้นฉู่เจียเสวียนถูกถ่ายวีดีโอไว้จริงๆ แต่ว่าวีดีโอนั่นลบไปแล้วไม่ใช่เหรอ” เธอจำได้ว่าตอนนั้นเมื่อฉู่เจียเสวียนรู้ว่ามีวีดีโอนี้อยู่ ก็ลบมันทิ้งไปแล้ว ตอนนี้จะไปหาที่ไหนล่ะ
กงจวิ้นฉือได้ยินคำพูดของถังถัง มุมปากยกยิ้มแล้ว “ส่วนของเขาลบไปแล้ว แต่ผมมีข้อมูลสำรอง”
ฉู่เจียเสวียนเงยหน้าขึ้นมาอย่างประหลาดใจ มองกงจวิ้นฉืออย่างเหลือเชื่อ เขาแอบเก็บตัวสำรองไว้งั้นเหรอ
“จริงเหรอ ถ้าหากมีวีดีโอนั่นล่ะก็ งั้นภาพพจน์ของฉู่เจียเสวียนจะต้องดีขึ้นแน่นอน!” สำหรับฉู่อีอีแล้ว หากวีดีโอนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เช่นนั้นก็เป็นการตบหน้าเธอโดยตรง!
คนที่เต็มใจบริจาคเลือดสองร้อยห้าสิบมิลลิลิตรให้แม้แต่คนแปลกหน้า มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำร้ายคนอื่น การบริจาคเลือดธรรมดาก็แค่สองร้อยมิลลิมิตรเท่านั้น
ผู้ชายปกติคนหนึ่งอาจไม่เต็มใจบริจาคเลือดถึงสองร้อยห้าสิบมิลลิลิตรด้วยซ้ำ!
“แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้ง” ดวงตาฉู่เจียเสวียนเผยความลังเล เธอไม่อยากกลายเป็นเป้าหมายการสนทนาของคนอื่น
ถังถังได้ยินคำพูดของฉู่เจียเสวียน อดไม่ได้ที่จะมองค้อนเธอ “มีอะไรไม่ดี หรือว่าเธออยากให้ฉู่อีอีอวดเก่งแบบนี้ต่อไปเหรอ จะบอกให้นะว่าพวกเราจะมีธุรกิจที่ต้องทำ จะปล่อยให้นักข่าวกับแฟนคลับสมองเพี้ยนพวกนั้นเฝ้าประตูตลอดไม่ได้หรอกนะ”
“อีกอย่าง ถ้าร้านเช่าชุดแต่งงานของพวกเราทำได้ไม่ดีก็จะให้เธอเข้าสู่สงครามเพื่อเกียรติยศ ธุรกิจจะได้ดีขึ้น”
กงจวิ้นฉือหัวเราะเบาๆ มองถังถังพร้อมเอ่ยปาก “ถูกต้อง ข่าวในวงการบันเทิงแม้ว่าจะเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด ข่าวนี้เป็นไปได้อาจจะใช้เวลาสองปีกว่าที่คนจะลืมกัน ตอนนี้ชื่อเสียงของคุณก็ได้รับผลกระทบแล้ว คุณเดินมาถึงวันนี้ได้ไม่ง่ายเลย หรือว่าคุณอยากจะยอมแพ้ไปแบบนี้เหรอ”
คำพูดของกงจวิ้นฉือกับถังถังทำให้ฉู่เจียเสวียนจมดิ่งอยู่ในความคิด
ถังถังเห็นดังนี้ก็เอ่ยปากพูดต่อ “นั่นสิ ที่รัก พวกเรายังมีอนาคตที่ยิ่งใหญ่นะ”
ในที่สุดฉู่เจียเสวียนก็ใจอ่อน พยักหน้า ตอนนี้นอกจากวิธีนี้ ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว
ถังถังเห็นฉู่เจียเสวียนพยักหน้าตกลง รู้สึกดีใจ มองตากับกงจวิ้นฉือ
“งั้นผมจะให้ผู้ช่วยปล่อยวีดีโอนี้ออกไป” กงจวิ้นฉือพูดจบ หยิบมือถือขึ้นมา แล้วกดโทรออก
“งั้นระหว่างนี้ฉันจะคอยดูข่าวในอินเทอร์เน็ต คอยรายงานพวกเธอว่ามีข่าวอะไรที่มีประโยชน์หรือเปล่า”
ฉู่เจียเสวียนได้ยินคำพูดของทั้งสองคน มองดูทั้งสองคนที่เริ่มยุ่ง ริมฝีปากแดงของฉู่เจียเสวียนยกยิ้มแล้ว ซูซานซานนั่งข้างฉู่เจียเสวียนตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ได้พูดอะไรเลย
หลังจากได้ยินว่าพวกเขาหาวิธีกันได้แล้ว คิ้วที่ขมวดกันในตอนแรกจึงผ่อนคลายลงมาบ้าง