กับดักรักในรอยแค้น - ตอนที่ 296 เธอดังแล้ว / ตอนที่ 297 ผมจะแต่งกับคุณ
ตอนที่ 296 เธอดังแล้ว
เผชิญหน้ากับนักข่าวที่ยิงคำถามรัวๆ ฉู่เจียเสวียนพยายามรักษารอยยิ้มที่สง่างงามบนใบหน้า
นึกถึงเมื่อสองวันก่อน ขณะที่นักข่าวเห็นเธอก็ต่างพูดจาแย่ๆ ใส่เธอ ตอนนี้เมื่อถูกนักข่าวห้อมล้อมอีกครั้งก็กลายเป็นฝ่ายที่ถูกใฝ่หา โลกมนุษย์มันช่างไม่แน่นอนจริงๆ เธอในใจถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า
ริมฝีปากแดงของฉู่เจียเสวียนอ้าเล็กน้อย “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณมากๆ นะคะทุกคนที่สละเวลามาสัมภาษณ์ฉัน แต่ว่าฉันจะไม่เข้าวงการบันเทิง ฉันเป็นแค่คนธรรมดาคนนึง อยากใช้ชีวิตเหมือนคนปกติและจำเป็นต้องใช้ชีวิตอย่างคนปกติ”
“คุณฉู่ พูดแบบนี้คุณจะไม่เสียใจเหรอคะ”
ได้ยินนักข่าวตอบเช่นนี้ ฉู่เจียเสวียนยิ้มสดใส “ไม่ค่ะ ทุกคนล้วนอยากมีชีวิตของตัวเอง และฉันก็รู้ดีว่าตัวเองต้องการชีวิตแบบไหน ฉะนั้นต่อไปทุกคนได้โปรดอย่ารบกวนฉันอีกนะคะ ฉันไม่อยากให้เพื่อนของฉันกับคนที่ฉันแคร์ต้องได้รับผลกระทบ”
ฉู่เจียเสวียนพูดจบ ก้าวเท้าเดินไปยังร้านเช่าชุดแต่งงานท่ามกลางฝูงนักข่าว เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นฉู่เจียเสวียนแล้วก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยฉู่เจียเสวียนเคลียร์เส้นทาง
ฉู่เจียเสวียนจึงสามารถเดินออกมาจากฝูงนักข่าวได้
ถังถังกำลังชมการถ่ายทอดสดอยู่ในออฟฟิศ ชูนิ้วโป้งให้เธอในใจ
เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นฉู่เจียเสวียน เธอรีบลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วปรี่เข้าไปหาฉู่เจียเสวียนทันที “ที่รัก เธอเท่ห์มากจริงๆ เธอรู้หรือเปล่าว่าฉันมาทำงานวันนี้ได้ใบสั่งซื้อสินค้าเยอะแค่ไหน คิดว่าพวกเรามีงานให้ยุ่งแล้ว เธออาจจะไม่มีแม้แต่เวลาเดทแล้วนะ”
ทันทีที่ถังถังเห็นฉู่เจียเสวียนก็พูดไม่หยุด วันนี้ตอนที่เธอเพิ่งถึงที่ทำงานก็ได้รับใบสั่งซื้อกองโต เป็นไปตามคาดเลย ฉู่เจียเสวียนทำให้ร้านของพวกเธอลุกเป็นไฟแล้ว คราวนี้เธอไม่ต้องห่วงอีกต่อไปแล้วว่าธุรกิจจะไม่ดี ฮาๆ หัวเราะอย่างบ้าคลั่งอยู่ในใจ
ฉู่เจียเสวียนมองถังถังที่อารมณ์ดีสุดขีด ผลักๆ เธอ “จริงเหรอ”
เอ่ยปากอย่างไม่ใส่ใจ ฉู่เจียเสวียนตรงไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง ถังถังเดินตามหลังเธอแล้วพูดต่อ “จริงอยู่แล้ว ฉันจะบอกเธอให้ เช้านี้ฉันได้รับใบสั่งซื้อตั้งห้าหกใบเชียวนะ เธอคิดดูสิว่าห้าใบต่อวันพวกเราได้เงินเท่าไรแล้ว”
ถังถังพูดด้วยความดีใจไม่หยุด ในหัวคิดคำนวณกำไรอย่างต่อเนื่อง
“แค้ห้าหกใบเองเหรอ” ฉู่เจียเจียเสวียนตั้งใจแซวถังถัง “ฉันยังนึกว่าจะมีอย่างน้อยร้อยใบซะอีกเธอถึงมีความสุขขนาดนี้”
“ว้าว เธอขี้งกกว่าฉันอีกนะ” ถังถังเอ่ย มองฉู่เจียเสวียนแล้วหัวเราะ
หลังจากทั้งสองคนคุยกันอย่างนี้สักพัก จากนั้นก็เริ่มทำงานแล้ว สุดท้ายแล้วเมื่อได้รับใบสั่งซื้อก็ต้องทำงานไม่ใช่เหรอไง ไม่ใช่ว่ารับมาแล้วไม่ทำหรอกนะ
ในห้องทำงานท่านประธานของบริษัทกลุ่มเผย
เผยหนานเจวี๋ยดูการถ่ายทอดสด มองดูฉู่เจียเสวียนที่มีเสน่ห์และยิ้มอย่างงดงามในนั้น ในใจรู้สึกขมขื่น
ชีวิตปกติงั้นเหรอ
ฉู่เจียเสวียน ผมควรทำอย่างไร เหมือนกับว่าผมจะรักคุณเข้าแล้ว เผยหนานเจวี๋ยพูดเบาๆ อยู่ในใจ หลับตาลงช้าๆ
ในวิลล่าบ้านเผย
ฉู่อีอีกำลังดูรายงานข่าว สายตาจับจ้องฉู่เจียเสวียนที่อยู่ในข่าวจนแทบทนไม่ไหวต้องการสับเธอเป็นพันชิ้น!
“ฉันแค่อยากใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ”
“หวังว่าทุกคนจะไม่รบกวนเพื่อนของฉันกับคนที่ฉันแคร์อีก”
ฉู่เจียเสวียน เธอคิดว่าเธอเป็นตัวอะไร เธอมีสิทธิ์อะไรครอบครองทุกอย่าง ฉู่เจียเสวียนกำแก้วทรงสูงในมือแน่น
ฉู่อีอีคำรามอยู่ในใจไม่หยุด ชีวิตอย่างคนปกติ? เธออยากได้ชีวิตเหมือนคนปกติไม่ใช่เหรอ ทำไมเธอต้องกลับมา ถ้าหากเธอไม่กลับมาก็จะไม่เกิดเรื่องเยอะขนาดนี้แล้วไม่ใช่เหรอ
ฉู่อีอีคำรามอยู่ในใจ
ตอนที่ 297 ผมจะแต่งกับคุณ
สองวันนี้ ฉู่อีอีซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเผยตลอด ไม่แม้แต่จะก้าวออกไปนอกประตู เพราะว่าตอนนี้เธอกลายเป็นเป้าหมายแห่งการต่อว่าของผู้คนนับพันนับหมื่นคนแล้ว
และการที่เธอกลายเป็นแบบนี้ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของฉู่เจียเสวียน ฉู่เจียเสวียน ฉู่เจียเสวียน!
“อ๊า…” จู่ๆ ฉู่อีอีก็รู้สึกโมโหในใจ ปาแก้วทรงสูงในมืออย่างแรง แก้วร่วงลงบนพื้น เศษแก้วแตกกระจาย
คนรับใช้เข้ามาเพราะเสียงแก้วที่ร่วงลงพื้น “คุณหนู…”
คนรับใช้ยังไม่ทันพูดจบก็ตกใจกลัวสายตาของฉู่อีอีจนไม่กล้าพูดต่อไปแล้ว หันหลังจากไป
หย่อนตัวนั่งบนโซฟาอย่างอ่อนแรง ความเกลียดชังในใจของฉู่อีอีนั้นแรงกล้า ถ้าหากตอนนี้ฉู่เจียเสวียนปรากฏตัวต่อหน้าเธอล่ะก็เชื่อว่าเธอจะต้องฆ่าฉู่เจียเสวียนโดยไม่ลังเลอย่างแน่นอน
นั่งเหม่อลอยครึ่งค่อนวัน ฉู่อีอีเอามือค้ำโต๊ะต้องการจะลุกขึ้น แต่ว่าฝ่ามือของกลับถูกเศษแก้วตำ เธอเจ็บจนมือลื่น ไม่ทันสังเกตว่ามีเศษแก้วชิ้นหนึ่งอยู่ด้านข้าง ทันทีที่มือพลิก เศษแก้วชิ้นนั้นก็บาดข้อมือของเธอแล้ว
เลือดสดๆ ก็ไหลออกจากมือเธอด้วยเหตุนี้อย่างไม่ทันตั้งตัว
“อีอี คุณกำลังทำอะไร” ยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยา ก็ได้ยินเสียงร้อนรนของเผยหนานเจวี๋ย
เดินเข้ามาหาเธอ พอเห็นมือของเธอมีเลือดออกก็รู้สึกผิด เขาควรใช้เวลาอยู่กับเธอให้มากกว่านี้
ฉู่อีอีอึ้งไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมาเห็นเผยหนานเจวี๋ยที่ปรากฏตัวกะทันหัน ทันในนั้นน้ำตาก็เอ่อล้นในดวงตา มองเผยหนานเจวี๋ยอย่างน่าสงสาร เขาจะยังเป็นห่วงเธออยู่หรือเปล่า
นึกถึงสีหน้าของเผยหนานเจวี๋ยที่เย็นชาใส่เธอสองวันนี้ ความน้อยใจก็ก่อตัวขึ้นในใจของฉู่อีอี
“ฉู่อีอีทำไมคุณโง่แบบนี้ ผมจะส่งคุณไปโรงพยาบาล” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว มองดูฉู่อีอีเอ่ยปากร้อนรน มือยาวๆ ช้อนอุ้มเธอแล้ววิ่งออกไปข้างนอก
โง่? คิดทบทวนคำพูดของเผยหนานเจวี๋ยอยู่ในใจ ก็เข้าใจว่าเขานึกว่าเธอฆ่าตัวตายงั้นเหรอ
เงยหน้าขึ้นมองสีหน้าที่เป็นกังวลของเผยหนานเจวี๋ย จากนั้นก็เอ่ยปากอ่อนแอ “หนานเจวี๋ย ฉันนึกว่าคุณจะไม่แคร์ฉันอีกแล้ว…”
ยิ่งพูดฉู่อีอีก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจ
“ไม่มีทาง อีอีผมไม่มีวันไม่ต้องการคุณ”
“ถ้างั้นหนานเจวี๋ย คุณ…ยังจะแต่งงานกับฉันไหม ถ้าหากไม่มีคุณ ฉันอยู่ไม่ได้จริงๆ” ฉู่อีอีสะอื้นเอ่ย มองเผยหนานเจวี๋ยพร้อมพูดด้วยความน่าสงสาร
เผยหนานเจวี๋ยได้ยินคำพูดของฉู่อีอีแล้ว ริมฝีปากบางๆ เม้มกันเป็นเส้นตรง ถ้าแต่งงานกับเธอ งั้นฉู่เจียเสวียน…
หลังจากเห็นเผยหนานเจวี๋ยลังเล ฉู่อีอีเกลียดชังในใจ แอบกัดฟัน “หนานเจวี๋ย…คุณอย่ามาสนใจฉันเลย ปล่อยให้ฉันตายเถอะ”
ฉู่อีอีพูดพลางน้ำตาไหลริน สีหน้ามีความสิ้นหวัง
“ผมจะแต่งกับคุณ อีอี ผมส่งคุณไปโรงพยาบาลนะ” เผยหนานเจวี๋ยพูดกับฉู่อีอี
เพิ่งมาถึงสวน ประตูรถก็เปิดออก หลังจากเผยหนานเจวี๋ยพาฉู่อีอีเข้าไปในรถแล้ว จากนั้นเขาจึงตามเข้าไปนั่ง
ในโรงพยาบาล หลังจากคุณหมอทำแผลให้ฉู่อีอีเสร็จแล้ว เผยหนานเจวี๋ยก็อยู่ในห้องผู้ป่วยเป็นเพื่อนเธอ
“อีอี ครั้งหน้าจะทำอะไรโง่ๆ แบบนี้อีกนะ” มองดูใบหน้าที่ขาวซีดของฉู่อีอี เผยหนานเจวี๋ยกล่าวกับเธอ
อย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าฉู่อีอีจะฆ่าตัวตาย ถ้าหากเขาไปช้ากว่านี้อีกนิด ไม่ใช่ว่าเธอก็…
“หนานเจวี๋ย คุณอย่าทิ้งฉันไปได้หรือเปล่า คุณไม่สนใจฉันฉันปวดใจมากนะ คุณเกลียดฉันมากใช่ไหม” ฉู่อีอีเงยหน้ามองเผยหนานเจวี๋ยพลางพูด น้ำตาในดวงตาเป็นประกาย สายตาจ้องเผยหนานเจวี๋ยไม่กระพริบ
“อีอี ผมผิดเอง ผมไม่ควรละทิ้งคุณ” เผยหนานเจวี๋ยยื่นมือออกไปลูบศีรษะของฉู่อีอี ในสายตาเปี่ยมด้วยการตำหนิตัวเอง
ได้ยินคำพูดของเผยหนานเจวี๋ย ฉู่อีอีซบอยู่ในอ้อมอกของเขา ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย เผยหนานเจวี๋ยตบๆ หลังเธอเบาๆ เอ่ยปากปลอบโยนเธอ
ผ่านไปครู่หนึ่ง หลังจากรอจนฉู่อีอีหลับแล้ว เผยหนานเจวี๋ยจึงค่อยๆ ย่องออกมากจากห้องผู้ป่วย