กับดักรักในรอยแค้น - ตอนที่ 386 คิดถึงคุณก็เลยมา / ตอนที่ 387 อยากอยู่กับเขา
ตอนที่ 386 คิดถึงคุณก็เลยมา
นึกถึงตอนที่เธอเจอถังถังเมื่อครู่ก็ตกใจ ยังไม่ทันจะทักทาย เธอก็เดินเข้ามากอดเธออย่างร้อนรน หลังจากพูดว่าอรุณสวัสดิ์คำเดียว ก็พรวดพราดออกไปแล้ว
“เขาน่ะ นิสัยก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ หนูชินแล้ว” ฉู่เจียเสวียนกินอาหารเช้าพลางพูดกับซูซาน
หลังจากอาหารเช้า ฉู่เจียเสวียนก็ขับรถไปยังร้านชุดแต่งงาน ทันทีที่ลงจากรถก็เห็นเงาของกงจวิ้นฉือ
หลังจากฉู่เจียเสวียนจอดรถก็ลงจากรถ และเห็นว่ากงจวิ้นฉือเดินมาตรงหน้าของเธอแล้ว
ไม่รู้ว่าทำไม วันนี้เมื่อได้เห็นกงจวิ้นฉือแล้ว เธอรู้สึกระคายเคืองตาเล็กน้อย
“จวิ้นฉือ คุณมาได้ยังไง” ฉู่เจียเสวียนกล่าว พยายามซ่อนเร้นความรู้สึกที่แปลกประหลาดในใจ
“คิดถึงคุณผมก็เลยมา จู่ๆ ผมก็รู้สึกเหมือนว่าพวกเราไม่ได้ไปผ่อนคลายกันนานแล้ว วันนี้เราไปผ่อนคลายกันหน่อยดีไหม” กงจวิ้นฉือยืนอยู่ตรงหน้าของฉู่เจียเสวียน มองดูใบหน้าที่งดงามของเธอพร้อมกับพูด แววตาเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม
เขารู้ดีว่าระยะหลังมานี้เธอเจอกับเรื่องมากมาย ตั้งแต่กลับมาจากต่างประเทศ เธอก็ไม่ได้พักผ่อนหรือลาพักร้อนอย่างเต็มที่ วันนี้เขาได้ทิ้งงานทุกอย่างเพื่อที่จะพาเธอออกไปเที่ยว
ฉู่เจียเสวียนคิดไม่ถึงโดยสิ้นเชิงว่ากงจวิ้นฉือจะพูดกับเธอแบบนี้ เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เธอยิ้ม
ในสายตาของเธอ กงจวิ้นฉือมักจะเป็นคนอ่อนโยนและสง่างามอยู่เสมอซึ่งชวนให้รู้สึกอบอุ่น ในเวลานี้คำพูดที่เป็นห่วงเป็นใยหลุดออกมาจากปากของเขา มันทำให้เธอรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย
เดิมทีเขามีงานที่ต้องจัดการ แต่ว่าตอนนี้ เขากลับปรากฏตัวข้างกายเธอ เพราะว่ากลัวเธอจะเสียใจ
ที่จริงเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว ตอนนี้เธอไม่เป็นไรแล้วจริงๆ แต่ว่าเมื่อเห็นเขาอยู่ตรงหน้าในตอนนี้ก็ปฏิเสธไม่ออกแล้ว
“ก็ได้ งั้นฉันจะไปบอกถังถังก่อน คุณรอฉันแป๊บนึงนะ” ฉู่เจียเสวียนพูดจบก็เดินเข้าไปในร้านชุดแต่งงาน
ถ้าจะลางานหนึ่งวัน ก็ต้องบอกกับถังถังสักหน่อย ไม่อย่างนั้นเมื่อถึงเวลาแล้วถังถังหาเธอไม่เจอจะทำอย่างไร
“ถังถัง วันนี้ฉันหยุดหนึ่งวันนะ ฉันจัดการงานที่สำคัญไว้หมดแล้ว” ฉู่เจียเสวียนเข้าออฟฟิศมาก็เห็นถังถังกำลังทำงานด้วยความจริงจัง หรือว่าเธอรีบกลับมาทำงานงั้นเหรอ
ไม่หรอกมั้ง เธอกลายเป็นคนขยันแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร
“อืม ไปเถอะๆ” ถังถังไม่ได้เงยหน้า เมื่อได้ยินฉู่เจียเสวียนแล้วก็โบกมือพร้อมพูด
ฉู่เจียเสวียนเลิกคิ้ว เข้าไปใกล้ถังถัง ต้องการจะดูว่าเธอกำลังยุ่งกับอะไรกันแน่ ท่าทางที่ลับๆ ล่อๆ ช่างกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเธอเสียจริง
“ว้าว ถังถัง นี่เธอกำลังออกแบบชุดแต่งงานให้ใครน่ะ” ฉู่เจียเสวียนอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับชุดแต่งงานในมือของเธอ
“เพื่อนคนนึง เขาใกล้จะแต่งงานแล้ว ก็เลยให้ฉันช่วยออกแบบชุดเจ้าสาว เธอจะไปเที่ยวไม่ใช่เหรอ ไปเถอะๆ” หลังจากถังถังเหลือบตาขึ้นมองฉู่เจียเสวียนแล้ว ก็ก้มหน้าร่างภาพในมือของเธอต่อ
“ก็ได้ งั้นลำบากเธอหน่อยนะ ฉันไปก่อนล่ะ” พูดจบฉู่เจียเสวียนก็ออกไปจากออฟฟิศ เดินไปหากงจวิ้นฉือ
เมื่อออกมาที่ประตูก็เห็นกงจวิ้นฉือยืนอยู่ตรงนั้น แสงแดดส่องอยู่บนตัวของเขา ทำให้เขาดูเหมือนเทวดาอย่างไรอย่างนั้น
“พวกเราไปกันเถอะ เจ้านายถังให้ฉันลาหยุดวันนึงแล้ว” มุมปากของฉู่เจียเสวียนยกขึ้น บนใบหน้ามีรอยยิ้มสวยงาม สายตาที่มองกงจวิ้นฉือเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม
กงจวิ้นฉือพยักหน้า หลังจากเปิดประตูให้ฉู่เจียเสวียนขึ้นรถแล้ว เขาจึงกลับหลังหันขึ้นรถไป
ทางนี้ฉู่เจียเสวียนไปเที่ยวกับกงจวิ้นฉืออย่างมีความสุข แต่ทางบ้านคุณแม่เผย เผยหนานเจวี๋ยกับฉู่อีอีกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก ส่วนคุณแม่เผยนั่งอยู่ที่ที่นั่งของเจ้าบ้าน มองฉู่อีอีกับเผยหนานเจวี๋ยด้วยสายตาเย็นชา
ตอนที่ 387 อยากอยู่กับเขา
เผยหนานเจวี๋ยไม่ได้ไปที่ออฟฟิศเพราะว่าหงุดหงิดจึงพาฉู่อีอีกลับบ้านแม่ โดยอ้างว่าอยากลาหยุดและผ่อนคลายสักหน่อย แต่ความจริงแล้วในใจยังสับสนจนแทบทนไม่ไหว
หลังจากที่ถังถังส่งคนมาล้มพิธีแต่งงานของฉู่อีอีกับเผยหนานเจวี๋ยแล้ว นี่คือครั้งที่สองที่ฉู่อีอีมาบ้านของคุณแม่เผย
ตอนนี้เผยหนานเจวี๋ยหงุดหงิดใจสุดขีด ไม่ต้องการฟังคุณแม่เผยกับฉู่อีอีโต้เถียงกัน เขารู้ว่าอีกประเดี๋ยวทั้งสองคนจะต้องทะเลาะกันอย่างแน่นอน เขาไปนั่งที่สวนดอกไม้สักหน่อยจะดีกว่า
ทันทีที่ลุกขึ้นก็ถูกคนคว้ามือไว้ สายตามองไปยังแขนเสื้อก็เห็นฉู่อีอีกำลังเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาที่พร่ามัว ท่าทางน่าสงสาร
“หนานเจวี๋ย คุณจะไปไหน” ฉู่อีอีกล่าว มองเขาพร้อมถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น
เธอไม่อยากเผชิญหน้ากับยายแก่นี่คนเดียวนี่นา ถ้าอีกประเดี๋ยวเขาไม่อยู่ด้วยล่ะก็ ไม่แน่ว่าเธออาจจะพูดจาอะไรไม่รื่นหูกับเธอก็ได้
“เป็นอะไรไป ลูกชายฉันจะไปไหนต้องรายงานเธอด้วยหรือไง” ทันทีที่คุณแม่เผยได้ยินเสียงของฉู่อีอีก็อดไม่ไหวที่จะเอ่ยปาก แววตาเปี่ยมไปด้วยความไม่พอใจ
ผู้หญิงคนนี้นี่จริงๆ เลย ทุกครั้งที่เห็นเธอ เธอก็รู้สึกปวดหัว ยังดีที่พวกเขาไม่ได้แต่งงานกัน ไม่อย่างนั้นตอนนี้เธออาจปวดหัวยิ่งกว่าเดิม
คิดไปคิดมาก็รู้สึกว่าโชคดี ตอนนี้ถ้าหากเผยหนานเจวี๋ยปฏิเสธฉู่อีอีคนนี้แล้วล่ะก็ คิดว่าเธอคงจะยกทั้งมือและเท้าเพื่อชื่นชมเลยทีเดียว
ตอนนั้นฉู่เจียเสวียนก็ดีอยู่แล้ว ไม่เข้าใจเลยจริงว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ นิสัยฉู่อีอีแบบนี้ เขาก็ยังกล้าเอา
หากผู้หญิงสองคนนี้ไม่คุยกันท่าจะดี ทันทีที่คุย เผยหนานเจวี๋ยก็ยิ่งรู้สึกปวดหัว ผู้หญิงสองคนนี้คงเป็นคู่กัดกันโดยธรรมชาติล่ะมั้ง ทำไมต้องกัดกันทุกครั้งที่เจอหน้าด้วย
“แม่ อีอี พวกแม่พูดให้น้อยหน่อยได้ไหม” เผยหนานเจวี๋ยยกมือขึ้นนวดคลึงคิ้ว เขาก็รู้ว่าไม่ควรพาฉู่อีอีมา ไม่น่าใจอ่อนเลย
ตอนนี้เป็นไงล่ะ พอเธอมาก็กลายเป็นสงครามไปแล้ว
“แม่อะไรแม่ แม่พูดผิดหรือไง ลูกจะไปไหนต้องรายงานเขาด้วยเหรอ” คุณแม่เผยกล่าวอย่างไม่เกรงใจ สีหน้ายิ่งไม่พอใจ
“คุณป้าคะ หนูไม่ได้หมายความ…” สีหน้าของฉู่อีอีทำอะไรไม่ถูก แววตามีความน้อยใจ ที่จริงแล้วแอบด่าคุณแม่เผยอยู่ในใจ ทนไม่ไหวเหมือนอยากให้เธอตายๆ ไปซะ
เผยหนานเจวี๋ยเห็นสีหน้าของฉู่อีอี ในใจอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าฉู่อีอีกำลังเสแสร้งอยู่หรือเปล่า
“เอาล่ะ เธอกลับไปก่อนเถอะ ฉันยังมีเรื่องต้องคุยกันหนานเอ๋อ คืนนี้เขาคงไม่กลับบ้านแล้ว…ลุงหลิว ลุงหลิว” คุณแม่เผยมองฉู่อีอีมุ่ยปาก หันไปเรียกลุงหลิวที่หน้าประตู
“คุณป้า ฉันอยากอยู่กับหนานเจวี๋ย…” เมื่อฉู่อีอีได้ยินว่าคุณแม่เผยให้เธอกลับไป เธอก็รีบพูด เธอไม่ได้เจอเขามาหลายวันแล้ว
วันนี้ไม่ง่ายเลยที่ได้เจอเขา แต่กลับได้ยินเขาบอกว่าจะมาที่บ้านแม่ เธอก็ตามมาอย่างงอแง ถ้าไม่ใช่เพราะหลายวันนี้เผยหนานเจวี๋ยเย็นชากับเธอเกินไป เธอก็จะไม่มาเหยียบที่นี่อย่างแน่นอน
“ไม่เป็นไร อีอี คุณกลับไปก่อนเถอะ พรุ่งนี้ผมจะกลับไปอยู่กับคุณ” พอเผยหนานเจวี๋ยได้ยินคุณแม่เผยให้ฉู่อีอีกลับไปก็รู้สึกดีใจ แต่ไม่แสดงออกทางสีหน้า
หากปล่อยให้ฉู่อีอีกลับไปได้จะดีที่สุด แม้จะปวดหัวเมื่อเจอกับคุณแม่เผย แต่เขายิ่งไม่อยากเจอฉู่อีอีมากกว่า
อย่างน้อยแม่ของเขาก็จริงใจกับเขา ส่วนฉู่อีอีนั้นตอนนี้เขายิ่งไม่รู้จริงๆ ว่าหน้าไหนคือตัวตนที่แท้จริงของเธอกันแน่
“แต่ว่า…” ฉู่อีอีได้ยินคำพูดของเผยหนานเจวี๋ยแล้ว มุ่ยปากแดงๆ ดวงตาที่มองเผยหนานเจวี๋ยมีความพร่ามัว
“เอาล่ะ อีอี อย่าดื้อ ให้ลุงหลิวส่งคุณกลับบ้านก่อน ถ้าคุณอยู่บ้านแล้วรู้สึกเหงา ก็กลับไปอยู่กับแม่คุณ” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว น้ำเสียงไร้อารมณ์