กับดักรักในรอยแค้น - ตอนที่ 424 ฉู่อีอีถูกข่มขู่ / ตอนที่ 425 สะบัดมันให้หลุด
ตอนที่ 424 ฉู่อีอีถูกข่มขู่
“เฉิงเฮ่า แกมันปีศาจ!” ฉู่อีอีเอ่ยปาก ดวงตาแดงก่ำ
เธอรู้ดีว่าเขาจะต้องทำได้อย่างที่พูด แต่ว่าเธอก็ไม่อยากทำร้ายเผยหนานเจวี๋ย ทำอย่างไรดี
“ฮ่าๆ คุณก็ไม่ได้รู้จักผมวันแรกสักหน่อย ช่วงนี้เผยหนานเจวี๋ยบดขยี้ผมจนน่าสมเพศมาก ถ้าจะโทษคุณก็โทษเผยหนานเจวี๋ยเถอะ เขาบังคับให้ผมทำแบบนี้เอง” เฉิงเฮ่าพูดอย่างอ่อนโยน แต่กลับทำให้ฉู่อีอีทนไม่ไหวจนแทบอยากจะฆ่าเขา
ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในที่สุดฉู่อีอีก็ต้องรับปาก เธอไม่กล้าขัดขืน เฉิงเฮ่าเป็นคนอย่างไร เธอรู้ดีที่สุด
หลังจากออกจากโรงแรมแล้ว ฉู่อีอีก็กลับวิลล่าบ้านเผย แต่คิดไม่ถึงว่าเผยหนานเจวี๋ยจะอยู่บ้าน หัวใจของเธอเต้นตึกตัก หลังจากเปลี่ยนรองเท้าแล้วก็เดินเข้าไป สีหน้านิ่งเรียบเหมือนปกติ
“หนานเจวี๋ย ทำไมวันนี้คุณกลับมาเร็วจังเลย” ฉู่อีอีเดินไปนั่งลงข้างเผยหนานเจวี๋ย บนใบหน้ามีรอยยิ้มอ่อนโยน มองเขาพร้อมกับพูด
“คุณไปไหนมา” เผยหนานเจวี๋ยไม่ได้ตอบฉู่อีอี แต่กลับมองเธออย่างมีความหมายลึกซึ้ง
หัวใจของฉู่อีอีเต้นรัว แสร้งทำหน้าเป็นปกติ พูดขึ้น “ไปถ่ายหนังที่กองถ่ายน่ะ ทำไมเหรอ” ฉู่อีอีกล่าว เสียงที่ไพเราะลอยออกมาจากปากของเธอ
กวาดตาสำรวจสีหน้าของเผยหนานเจวี๋ย คาดเดาว่าทำไมเขาถึงถามแบบนี้ ก่อนหน้านี้เผยหนานเจวี๋ยก็ไม่เคยถามเธอ
ได้ยินคำตอบของฉู่อีอีลแว้ ความผิดหวังผ่านวูบในดวงตาของเผยหนานเจวี๋ย เขาส่ายหัว แล้วเดินออกไปข้างนอก
“หนานเจวี๋ย คุณจะไปไหนน่ะ” ฉู่อีอีลุกขึ้นยืนด้วยความงุนงงเล็กน้อย พูดกับแผ่นหลังของเผยหนานเจวี๋ย แต่ว่าคำตอบที่เธอได้กลับเป็นเพียงเสียงปิดประตู
ฉู่อีอีกัดฟันกรอด มันเกินอะไรขึ้นกันแน่ สายตาของเขาเมื่อครู่มันหมายความว่าอะไรกัน
ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงสายจาของเผยหนานเจวี๋ยเมื่อครู่ หัวใจของเธอก็ว้าวุ่นอย่างยิ่ง
หลังจากเผยหนายเจวี๋ยออกจากวิลล่าแล้วก็ขับรถกลับไปที่บริษัทโดยตรง ตอนนี้เขายิ่งผิดหวังในตัวฉู่อีอีมากขึ้นทุกที
วันนี้นัดลูกค้าคุยงาน คิดไม่ถึงว่าจะเห็นเธอเข้าไปในโรงแรมรอยัล เดิมทีไม่คิดจะสงสัยอะไรเธอ แต่ว่าหลงัจากเข้าไปนานแล้วก็ไม่ได้ออกมา
ดังนั้นเขาจึงตั้งใจกลับบ้านมารอเธอ ดูว่าเธอจะพูดความจริงหรือไม่ แต่ว่าตอนนี้ดูแล้ว เขาไม่ควรจะมีความหวังใดๆ เธอโรงแรมเพื่อไปเจอใครกันแน่
นำความคิดนี้กลับไปยังบริษัท เผยหนานเจวี๋ยขอให้ผู้ช่วยของเขาตรวจสอบความเป็นไปของฉู่อีอีทันที แม้แต่สืบเรื่องทุกอย่างก่อนที่ฉู่อีอีจะไปต่างประเทศ เขารู้สึกว่าฉู่อีอีนั้นช่างแตกต่างจากเด็กหญิงตัวเล็กๆ ในความประทับใจของเขาจริงๆ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าเขารักษาระยะห่างจากฉู่อีอีหรือเปล่า ดังนั้นเวลาที่เขาเห็นเธอ ตอนนี้จึงรู้สึกแปลกหน้าไปแล้ว
หลังจากที่เผยหนานเจวี๋ยไปแล้ว ฉู่อีอีคิดยิ่งก็ยิ่งโมโห และเกลียดฉู่เจียเสวียนขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวแล้ว
ความมืดมนวูบผ่านในดวงตา หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา หลังจากกดเบอร์แล้วสั่งสองสามคำ ใบหน้าของเธอก็เผยรอยยิ้มภาคภูมิใจ
“ฉู่เจียเสวียน วันนี้ฉันจะให้เธอได้เห็น ว่าฉันไม่ใช่จะมาเล่นกันง่ายๆ ฉันบอกให้เธอจากไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เธอก็ไม่ยอม ครั้งนี้ ฉันจะทำให้เธออยู่ก็เหมือนกับตาย!”
“เรื่องนี้ยกให้เป็นหน้าที่คุณแล้ว มีอะไรรายงานฉันได้ทุกเมื่อ” เมื่อพูดจบก็วางสายแล้ว
ฉู่เจียเสวียน ทางสวรรค์มีแต่เธอไม่เดิน นรกไม่มีประตูแต่เธอกลับอยากจะลง ฉันเคยเตือนเธอแล้ว แต่เธอไม่ฟังรนหาที่ตายเอง ครั้งนี้อย่าโทษฉันก็แล้วกัน
เมื่อนึกถึงเรื่องที่เฉิงเฮ่าไหว้วานให้เธอทำ หลังจากเธอครุ่นคิดแล้วก็กัดฟันแน่น ตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะไปขโมยที่บริษัทของเผยหนานเจวี๋ยอีกรอบ สิ่งที่ฉู่อีอีไม่รู้ก็คือเผยหนานเจวี๋ยได้เตรียมการป้องกันไว้แล้ว
ตอนที่ 425 สะบัดมันให้หลุด
ตั้งแต่กรณีการประมูลครั้งสุดท้ายของเขาถูกเปิดเผย เขาก็เริ่มเตรียมการแล้ว ตอนนี้รอแค่เธอติดเบ็ดเท่านั้น
เพียงแต่เมื่อรู้ว่าบุคคลนั้นคือฉู่อีอี หัวใจของเขาก็โกรธจนทนไม่ได้ ทุกอย่างกำลังดำเนินการไปอย่างเชื่องช้า
ย่างเข้าสู่คืนฤดูใบไม้ร่วงแล้วมันจะไม่ร้อนเหมือนฤดูร้อนอีกต่อไป และเมื่อรวมกับละอองฝนในท้องฟ้าก็หนาวเย็นลงเล็กน้อย
หลังจากเลิกงาน ฉู่เจียเสวียนเดินไปยังลานจอดรถ ริมฝีปากแดงมีรอยยิ้ม
เธอทำเหมือนทุกครั้ง เดินไปที่รถ เปิดล็อครถและกำลังจะขึ้นรถ จู่ๆ ก็กวาดตาไปเห็นเงาสะท้อนของคนหนึ่งที่ตัวรถ
หัวใจของฉู่เจียเสวียนตื่นตระหนกในทันที มือทั้งมองข้างกำแน่นโดยไม่รู้ตัว เขาไม่ได้มาดีแน่ เธอรู้สึกเช่นนี้อยู่ในใจ
“ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ” เสียงที่ชัดเจนดังก้องอยู่ในลานจอดรถ แววตาของฉู่เจียเสวียนเผยประกายเย็นชา
อาจเป็นเพราะว่าสองคนนั้นรู้ว่าฉู่เจียเสวียนเห็นพวกเขาแล้ว ดังนั้นจึงเดินออก…
ฉู่เจียเสวียนเห็นว่าคนที่เข้ามามีรูปร่างสูงใหญ่ ฉู่เจียเสวียนที่กล้ามเนื้อเต้นกระตุกเห็นแล้วก็กลืนน้ำลาย กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัวแล้ว
สายตาเห็นเพียงคนที่โผล่มาอย่างกะทันหันเท่านั้น ไม่ได้สังเกตโดยสิ้นเชิงว่ามีคนกำลังค่อยๆ ย่องเข้ามาจากด้านหลัง
“แกคิดจะทำอะไร…อือ…” ฉู่เจียเสวียนยังไม่ทันพูดจบก็ถูกคนปิดปากแล้ว กลิ่นอันแปลกประหลาดอ้อยอิ่งอยู่ที่ปลายจมูก ได้แต่รู้สึกเวียนหัว ดิ้นรนอยู่สักพักหนึ่งแต่ก็ดิ้นไม่หลุด
ไม่นานภาพของคนที่อยู่เบื้องหน้าก็พร่ามัว เธอหมดสติไป
เนื่องจากเผยหนานเจวี๋ยอยากเห็นหน้าฉู่เจียเสวียน จึงออกมาจากบริษัท ในเวลานี้เพิ่งจะจอดรถและลงมาจากรถ เขาไปถามพนักงานที่ร้านชุดแต่งงาน พวกเขาบอกว่าฉู่เจียเสวียนเพิ่งจะออกไป ดังนั้นเขาจึงตามไปยังลานจอดรถ
เมื่อเข้ามาถึงลานจอด เผยหนานเจวี๋ยก็เห็นคนสองคนลากฉู่เจียเสวียนขึ้นรถ เพราะเขาเป็นคนที่ตัดสินใจแน่วแน่เด็ดขาด ทันทีที่เห็นก็รู้ว่ามันไม่ใช่การหลบหนีของพวกนักเลงใต้ดินแน่ ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงตัดสินใจว่าจะไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น
ตามปกติแล้วเขาจะต้องต่อสู้กับพวกเขาอย่างแน่นอน แต่ว่าคนเหล่านั้นรูปร่างสูงใหญ่ เมื่อเห็นก็รู้แล้วว่าสู้ไม่ไหว ต่อให้เขาเข้าไปก็ไม่มีประโยชน์
‘คนพวกนี้เป็นใครกันแน่ ทำไมต้องลงมือกับฉู่เจียเสวียนด้วย’ เผยหนานเจวี๋ยคิดอยู่ในใจ ตัดสินใจจะตามไปดูให้แน่ชัด
เมื่อเห็นว่าฉู่เจียเสวียนถูกพวกเขาพาขึ้นรถไปแล้ว เผยหนานเจวี๋ยก็ไม่สนใจอย่างอื่นอีก รีบกลับหลังหันขึ้นรถแล้วขับรถตามไป หลังจากขึ้นรถแล้ว เผยหนานเจวี๋ยก็รีบติดต่อผู้ช่วยให้เขาติดตามที่อยู่ของรถคันนั้น
บนทางด่วน รถตู้เคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว โดยมีรถเบนลี่สีดำตามหลังอยู่ไม่ไกล
“พี่ใหญ่ เหมือนว่ามีรถคันนึงตามพวกเรามา” คนขับรถสังเกตเห็นว่ารถข้างหลังคันนั้นตามเขามาไม่หยุดตั้งแต่ตอนแรก
ตอนแรกเขายังไม่สนใจ แต่ว่าตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะรู้แผนการของพวกเขาแล้ว
“สะบัดมันให้หลุด แล้วเปลี่ยนรถ” คนที่เป็นพี่ใหญ่พูด
อย่างไรก็ดีพวกเขากระทำผิดจนเคยชินแล้ว ฉะนั้นพวกเขาจึงมีประสบการณ์กับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แค่สะบัดเขาให้หลุดแล้วเปลี่ยนรถก็จบ ดังนั้นจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรให้คนเตรียมรถ
คนขับรถได้ยินแล้วก็พยักหน้า จากนั้นก็เพิ่มความเร็ว
เผยหนานเจวี๋ยเห็นดังนี้ ความโกรธวูบผ่านอยู่ในดวงตา บ้าจริง พวกมันรู้แล้ว
มองดูรถที่เร่งความเร็ว เขาก็เร่งความเร็วตามทันที ในหัวคาดเดาไม่หยุดว่าใครเป็นคนส่งพวกเขามา
เฉิงเฮ่า? นึกถึงคำที่เฉิงเฮ่าพูดกับเขาก่อนหน้านี้ ความโกรธก็ระเบิดอยู่ภายในหัวใจ เขาประมาทเกินไปแล้ว
รถค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้น คนที่ขับรถตู้มีทักษะดีมาก ไม่นานเผยหนานเจวี๋ยก็ตามไม่ทันแล้ว
ให้ตายเถอะ เมื่อตามรถคันนั้นทันก็พบว่าภายในรถตู้นั้นว่างเปล่า เขาอดไม่ได้ที่จะเตะล้อรถด้วยความโกรธ
แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรออกทันที