กับดักรักในรอยแค้น - ตอนที่ 498 คุณงี่เง่าแค่ไหน / ตอนที่ 499 จะไม่ปล่อยให้เธอทนทุกข์ทรมานอีก
- Home
- กับดักรักในรอยแค้น
- ตอนที่ 498 คุณงี่เง่าแค่ไหน / ตอนที่ 499 จะไม่ปล่อยให้เธอทนทุกข์ทรมานอีก
ตอนที่ 498 คุณงี่เง่าแค่ไหน
เห็นฉู่เจียเสวียนนขมวดคิ้ว เผยหนานเจวี๋ยก้มหน้า จึงเห็นว่าฉู่เจียเสวียนถูกเขากดอยู่บนกระจกมองข้าง
“ฉู่เจียเสวียน คุณนี่งี่เงาแค่ไหนกันนะ” เผยหนานเจวี๋ยคำรามใส่ฉู่เจียเสวียน
เผยหนานเจวี๋ยคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะแรงเยอะขนาดนั้น กระจกมองข้างถูกเขากดไว้จนเสียรูปทรง ในใจอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงหลังของฉู่เจียเสวียน ผู้หญิงคนนี้โง่จริงๆ เจ็บก็จะไม่รู้จักร้องหรือไง? ยังจะทนอยู่ได้?
ฉู่เจียเสวียนเจ็บปวดมากเกินไปแล้ว ในเวลานี้เธอรู้สึกเพียงว่าแผ่นหลังด้านชา
เผยหนานเจวี๋ยดึงฉู่เจียเสวียนเข้ามากอด เขาต้องการจะดูบาดแผลบนตัวของเธอ
“คุณทำอะไรน่ะ” ฉู่เจียเสวียนร้องอุทาน เธอรับความเป็นห่วงเป็นใยแบบนี้จากเผยหนานเจวี๋ยไม่ได้จริงๆ
“ดูหลังของคุณ” เผยหนานเจวี๋ยขมวดคิ้วเอ่ย น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความกังวล
“ไม่ ฉันไม่เป็นไร” ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วจะยอมให้เขาดูที่ไหนกัน สองมือปัดกันพัลวันราวกับปลาหมึก ไม่ยอมให้เผยหนานเจวี๋ยดู แต่ราวกับว่าการดิ้นรนของเธอกลับไร้ผล
เผยหนานเจวี๋ยดึงดันที่จะดูบาดแผลบนหลังของเธอ ยื่นมือออกไปถกเสื้อที่ด้านหลังของฉู่เจียเสวียนขึ้นมา เห็นว่าแผ่นหลังของเธอกลายเป็นสีดำไปแล้ว เธอทรมานมากจริงๆ
“ช้ำแล้ว” ฉู่เจียเสวียนเกือบจะทำให้เผยหนานเจวี๋ยโมโหตายอยู่แล้ว เธอมีความอดทนมากไม่ใช่เหรอ พูดเก่งมากไม่ใช่เหรอ ทำไมเจ็บแล้วถึงไม่พูด แสดงความอ่อนแอต่อหน้าเขาแล้วมันเป็นยังไงเหรอ
“ไม่เป็นไร” เมื่อก่อนตอนที่อยู่บ้านฉู่ เธอถูกฉู่อีอีรังแกทุกวัน บนร่างกายมักจะมีบาดแผลบ่อยๆ เธอชินชานานแล้ว
ตอนที่แต่งงานกับเขาสามปี ร่างกายของเธอก็มีบาดแผลเหมือนกันไม่ใช่เหรอ
ฉู่เจียเสวียนไม่เข้าใจว่าตอนนี้เขาจะตื่นเต้นไปเพื่ออะไร ทั้งๆ ที่เธอมักจะบาดเจ็บเพราะเขา ตอนนี้จะทำท่าทีวิตกกังวลไปเพื่ออะไร
“ไม่ได้ ต้องทายาเดี๋ยวนี้” เผยหนานเจวี๋ยไม่อนุญาตให้ฉู่เจียเสวียนคัดค้านใดๆ การเอาตัวเองเป็นใหญ่คือนิสัยของเขาอยู่แล้ว
เขาอุ้มฉู่เจียเสวียนออกจากรถโดยไม่ปล่อยให้มีคำอธิบายใดๆ สีหน้าเจ็บปวด คำขอโทษติดอยู่ในลำคอ พูดไม่ออก
“ซูหราน ยังมียาแก้ฟกช้ำหรือเปล่า” เผยหนานเจวี๋ยพูดกับซูหรานที่อยู่ในบ้านเสียงดัง
ซูหรานยื่นศีรษะออกมาด้วยความงงงวยเล็กน้อย เมื่อครู่กำลังเตรียมตัวจะออกไปไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ถึงอยากได้ยาแก้ฟกช้ำล่ะ
“ท่านประธาน ยังมีครับ” แม้จะสงสัยในใจ แต่เขาก็ยังตอบตามความจริง ไม่ได้ถามอะไร
เผยหนานเจวี๋ยได้ยินดังนั้น ก็อุ้มฉู่เจียเสวียนเข้าไปในห้องรับแขกอย่างร้อนรน
“ช่วยเธอจัดการรอยฟกช้ำบนหลังหน่อย” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากกับซูหราน น้ำเสียงเต็มไปด้วยการออกคำสั่ง
“อ่อ” ซูหรานยังคงมีท่าทีประหลาดใจ
เผยหนานเจวี๋ยวางฉู่เจียเสวียนลงบนโซฟา ฉู่เจียเสวียนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับเขาจริงๆ ได้แต่นั่งอยู่บนโซฟาเงียบๆ ปล่อยให้เขาตัดสินใจ
ถึงอย่างไรเธอพูดอะไรเขาก็ไม่ฟัง เช่นนั้นก็ทำตามเขาเงียบๆ จะดีกว่า
เผยหนานเจวี๋ยถกเสื้อที่ด้านหลังฉู่เจียเสวียนขึ้น เมื่อซูหรานเห็นรอบฟกช้ำที่บนหลัง ดวงตาเผยประกายตื่นตกใจ ช้ำจริงๆด้วย ทำไมท่านประธานถึงไม่อ่อนโยนเลยสักนิด? ทั้งๆ ที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ผิวพรรณก็ละเอียดอ่อนขนาดนั้น ให้ตายเถอะ หากให้ท่านประธานรู้ความคิดในใจของเขา จะต้องฆ่าเขาแน่ๆ?
“ท่านประธาน รอยฟกช้ำแบบนี้จะยังอยู่สักพัก” ซูหรานพูดความจริง เขาที่รู้แพทย์แผนจีนเพียงงูๆ ปลาๆ ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
“หืม?” เผยหนานเจวี๋ยได้ยินคำพูดของซูหราน มองเขาด้วยสายตาคมกริบทันที แววตานั้นราวกับว่าจะสับเขาออกเป็นหมื่นๆ ชิ้น
“การนวดทั่วไปจะเร่งให้รอยฟกช้ำหายเร็วขึ้น” เมื่อเห็นแววตาที่แหลมคมของเผยหนานเจวี๋ย ซูหรานรีบแก้คำพูด
ตอนที่ 499 จะไม่ปล่อยให้เธอทนทุกข์ทรมานอีก
“นานแค่ไหน” ฉู่เจียเสวียนที่กำลังนอนอยู่บนโซฟากำลังกังวล เนื่องจากดูจากสภาพการณ์ในตอนนี้แล้ว เช้านี้พวกเขาไม่ได้กลับในตัวเมืองแน่ๆ
“ครึ่งชั่วโมงมั้งครับ” ซูหรานพยายามตอบเวลาที่สั้นที่สุด
“ไม่ต้องรีบ ค่อยๆ ทำ” แน่นอนว่าเผยหนานเจวี๋ยเข้าใจความหมายในคำพูดของซูหราน การที่จะปล่อยให้อาการบวมแดงบนหลังของเธอทุเลาลง ครึ่งชั่วโมงคือเวลาอย่างน้อยที่สุด
“ฉันรีบมาก” ฉู่เจียเสวียนกล่าว เขาไม่รีบแต่เธอรีบนี่นา เธอยังมีเรื่องอีกมากมายต้องทำโอเคไหม? ที่กลุ่มบริษัทกงยังมีแผนงานรอให้เธอกลับไปจัดการอยู่นะ
“ซูหราน ขอร้องล่ะ คุณรีบบรรเทาอาการบวมให้ฉันหน่อย” เพราะว่าซูหรานเป็นคนของเผยหนานเจวี๋ย ฉู่เจียเสวียนจึงรู้สึกเกลียดชังเล็กน้อย แต่ว่าตอนนี้เธอรู้สึกว่าซูหรานคือพ่อพระ บนศีรษะของเขามีแสงเปล่งประกาย รอคอยให้มือวิเศษของเขารักษาเธอ
“ผมจะช่วยคุณหนูฉู่บรรเทาอาการบวมแน่นอนครับ” ซูหรานเผยยิ้มสดใส เขาไม่เคยปฏิเสธคำขอของสาวงามเลย
“อา! เจ็บจังเลย…เจ็บจังเลย” ฉู่เจียเสวียนรู้สึกเหมือนกับว่าความเจ็บปวดของเธอถูกทิ่มแทง เธอเจ็บจนน้ำตาเอ่อล้นดวงตา
ได้ยินเสียงร้องของฉู่เจียเสวียนราวกับหมูถูกเชือด เผยหนานเจวี๋ยจ้องซูหรานเขม็ง ความเยือกเย็นในดวงตาทำให้ซูหรานอดไม่ไหวที่จะตัวสั่น
เมื่อถูกเผยหนานเจวี๋ยจ้องมอง เหงื่อชั้นบางๆ ก็ซึมอยู่บนหน้าผากของซูหราน เมื่อถูกสายตาของเขาทำให้ตกใจกลัวแบบนี้ ชีวิตของเขาคงสั้นไปอย่างน้อยหลายปี
“ขอโทษครับ คุณหนูฉู่ เพื่อให้รอยบวมของคุณหายเร็วๆ คุณต้องทนหน่อยนะครับ” ซูหรานเอ่ยเสียงสั่น เขารู้สึกว่าเขาเริ่มพูดไม่ออกแล้ว
การติดตามเจ้านายที่อารมณ์ขึ้นลงแบบนี้ เขาไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะร้องไห้หรือหัวเราะดี
“ซูหราน ฝีมือของนายแย่ลงจริงๆ ฉันควรจะพิจารณาเรื่องเปลี่ยนพ่อบ้านคนใหม่ที่ดีกว่านี้หรือเปล่า” เสียงที่เย็นชาของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น ในใจราวกับสามารถรู้สึกถึงความเจ็บปวดของฉู่เจียเสวียนได้
“ท่านประธานครับ คุณหนูฉู่ผิวบอบบาง การที่รับความเจ็บปวดแบบนี้ไม่ได้เป็นเรื่องปกติ” ซูหรานเอ่ยปาก เขาแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว เขาจะเสียงานที่มีรายได้เป็นล้านต่อปีไม่ได้เด็ดขาด ต่อไปเขาจะหางานที่ดีแบบนี้และเจ้านายที่ดีแบบนี้ได้จากที่ไหน
อารมณ์ของเผยหนานเจวี๋ยไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ว่าในมุมอื่นนั้นดีมาก และเขาก็ไม่เคยทำให้เขาลำบากใจ
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ซูหรานก็ยิ่งขยันทำงาน เขาหวังว่าเขาจะสามารถรับความเจ็บปวดนี้แทนฉู่เจียเสวียนได้
“อย่าไปโทษเขา เพราะว่าฉันรับความเจ็บปวดไม่ได้เอง” ฉู่เจียเสวียนเอ่ย มองซูหรานอย่างรู้สึกผิด
“รับความเจ็บปวดไม่ได้?” เผยหนานเจวี๋ยยังไม่เคยเห็นผู้หญิงที่รับความเจ็บปวดได้ดีเท่าเธอเลย
ถ้าหากเป็นผู้หญิงคนอื่น ก็คงจะร้องโหวกเหวกโวยวายไม่หยุดไปนานแล้ว ไม่ระวังบาดโดยนิ้วก็คงจะร้องกรี๊ดเหมือนกัน ใครจะเป็นเหมือนเธอล่ะ
ทันใดนั้นในสมองก็นึกถึงตอนที่เธอยังไม่หย่ากับเขา ดูเหมือนว่าเขาจะทรมานเธอตลอดเวลา ตอนนั้นมีครั้งหนึ่งที่เขาทำขาเธอหัก เธอก็ไม่ส่งเสียง…
คิดยิ่ง สีหน้าของเผยหนานเจวี๋ยก็ยิ่งล้ำลึก ที่แท้เขาเคยทำร้ายเธอมากมายจริงๆ ฉู่เจียเสวียน จากนี้ไปผมจะไม่ปล่อยให้คุณต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป
ฉู่เจียเสวียนรู้สึกว่าหากเทียบความเจ็บปวดในตอนนี้กับความเจ็บปวดที่เอวเธอเกือบหักเมื่อครู่แล้ว เทคนิคการนวดอันยอดเยี่ยมของซูหรานทำให้เธอเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ เธอสงสัยว่าเขากำลังคิดจะซ่อมเธออยู่หรือเปล่า
ในที่สุดการนวดบรรเทาอันแสนทรมานก็สิ้นสุดลง แต่ว่าตอนนี้ฉู่เจียเสวียนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้แล้ว เผยหนานเจวี๋ยกวาดตามองซูหรานอย่างเย็นชา
ซูหรานไม่กล้ามองเผยหนานเจวี๋ย ได้แต่ก้มหน้ามองจมูกของตัวเอง
“ลุกขึ้นมาได้ไหม” เผยหนานเจวี๋ยมองดูเผยหนานเจวี๋ยที่นอน ‘ไม่ขยับเขยื้อน’ อยู่บนโซฟาพร้อมกล่าว
“ได้” ฉู่เจียเสวียนสูดหายใจลึก ตอบเสียงดังฟังชัด
ฉู่เจียเสวียนยกตัวขึ้นโงนเงน เผยหนานเจวี๋ยกอดอก มองดูเธอราวกับกำลังชมละครสนุกๆ
ฉู่เจียเสวียนเดินไปหาเผยหนานเจวี๋ยด้วยความยากลำบาก ใครจะรู้ว่าขาจะปวกเปียกลงฉับพลัน “อา” เผยหยานเจวี๋ยเห็นแล้วก็รีบยื่นมือรับเธอไว้
เผยหนานเจวี๋ยใช้โอกาสนี้กอดฉู่เจียเสวียนไว้ เธอรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เธอเป็นคนที่กอดเผยหนานเจวี๋ยก่อน