กับดักรักในรอยแค้น - ตอนที่ 510 ไปแหลมเทียนหยาไหเจี่ยวด้วยกัน / ตอนที่ 511 เริ่มรู้สึกกับเขาตั้งแต่เมื่อไร
- Home
- กับดักรักในรอยแค้น
- ตอนที่ 510 ไปแหลมเทียนหยาไหเจี่ยวด้วยกัน / ตอนที่ 511 เริ่มรู้สึกกับเขาตั้งแต่เมื่อไร
ตอนที่ 510 ไปแหลมเทียนหยาไหเจี่ยวด้วยกัน
สำหรับแหลมเทียนหยาไหเจี่ยวอันเลื่องชื่อนั้น ฉู่เจียเสวียนต้องอยากเห็นอยู่แล้ว เธอต้องการเห็นธรรมชาตินี้ด้วยตาของตัวเอง
วันนี้เป็นวันที่สี่ที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ในตอนแรกพวกเขาตกลงกันแค่สามวันเท่านั้น ตอนนี้ผ่านไปสามวันแล้ว เธอต้องพูดกับเขาอย่างไรกันนะ
ราวกับมองทะลุความคิดของฉู่เจี๋ยเสวียน เผยหนานเจวี๋ยมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วพูดเบาๆ “ผมจองตั๋วเครื่องบินแล้ว วันนี้บ่ายสาม”
หลังจากเมื่อคืน เขาคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาไม่สามารถบังคับเธอได้ เขาไม่สามารถบังคับให้เธออยู่เคียงข้างเขาอีกต่อไป พวกเขาไม่เหมาะที่จะอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
“อ่อ” ฉู่เจียเสวียนตอบแผ่วเบา ในใจรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
หลังจากกลับมาในช่วงบ่าย พวกเขาทั้งสองก็ต้องแยกกันแล้ว ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นผลลัพธ์ที่มีความสุข แต่ว่าทำไมเธอกลับไม่ดีใจเลย
“ตอนนี้เก้าโมงแล้ว พวกเรารีบกันเถอะ” น้ำเสียงของเผยหนานเจวี๋ยเริ่มเย็นลงอีกครั้ง ข่มความรู้สึกมากมายในใจเอาไว้
พวกเขารีบเก็บข้าวของของตัวเองอย่างรวดเร็ว เวลาเที่ยง พวกเขาก็รีบไปที่ “แหลมเทียนหยาไหเจี่ยว”
ฉู่เจียเสวียนและเผยหนานเจวี๋ยไม่หิวเลย แล้วเริ่มออกเที่ยวด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า
ทั้งสองนิ่งเงียบ ฉู่เจียเสวียนเดินไปที่ด้านล่างของหินเทียนหยา เงยหน้าขึ้นมองก้อนหินขนาดใหญ่ ที่นี่มีเพียงหินและน้ำทะเล ในความเป็นจริงไม่มีอะไรน่าดูเลย มีเพียงก้อนหินที่มีชื่อเสียงของเทียนหยาไหเจี่ยวเท่านั้น
“พวกเรากลับกันเถอะ” เผยหนานเจวี๋ยไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีกต่อไป ก่อนมาที่นี่ เขามีอารมณ์ที่สับสน แต่ตอนนี้จิตใจได้สงบลงแล้ว ขืนดูต่อไปมีแต่จะเป็นบ้า แค่มาดูก็เพียงพอแล้ว
“อืม” ได้ยินคำพูดเผยหนานเจวี๋ย ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรอีก
พวกเขารีบมารีบกลับ เหมือนกับทำงานลุล่วงแล้ว ทุกอย่างดูเหมือนถูกกำหนดไว้แล้ว
หลังจากกลับมาที่วิลล่าเพื่อเก็บข้าวของแล้ว พวกเขาก็รีบไปที่สนามบิน
ฉู่เจียเสวียนกำลังรอเครื่องบินที่สนามบิน ฉากของการคลุกคลีกับเผยหนานเจวี๋ยสามวันนี้ปรากฏอยู่ในหัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้เป็นเหมือนความฝัน
บนเครื่องบิน เผยหนานเจวี๋ยนั่งข้างๆ ฉู่เจียเสวียน ฉู่เจียเสวียนมองดูเผยหนานเจวี๋ยที่หลับตาสนิท เก็บซ่อนอารมณ์ทั้งหมดที่อยู่ในดวงตาเอาไว้ หันมองนอกหน้าต่าง
เครื่องบินลงจอดที่สนามบินในเมือง A อย่างมั่นคง พวกเขาลงมาจากเครื่องบินทีละคน รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยที่สุดและแปลกประหลาดที่สุด
“คุณกลับไปเถอะ” เผยหนานเจวี๋ยรู้ว่าเธอจะต้องอยากไปจากเขามากอย่างแน่นอน จึงพูดกับเธอ
ฉู่เจียเสวียนได้ยินคำพูดของเผยหนานเจวี๋ย เงยหน้ามองเขา ต้องการพูดอะไรบางอย่างแต่หยุดชะงัก หลังจากผ่านไปสักพักจึงเอ่ยขึ้น “ลาก่อน”
เมื่อฉู่เจียเสวียนพูดออกไปแล้วก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้คิดแบบนี้
“ลาก่อน” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวอย่างเศร้าโศก หลังจากยิ้มให้ฉู่เจียเสวียนแล้วก็โบกมือให้เธอ จากนั้นก็หันหลังจากไป
เขากลัวว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และต้องการที่จะรักษาเธอไว้เคียงข้างตัวเอง
มองดูเผยหนานเจวี๋ยที่หันหลังไปอย่างเด็ดขาด ฉู่เจียเสวียนรู้สึกเจ็บปวดในใจ ในที่สุดเธอก็บีบบังคับให้เผยหนานเจวี๋ยจากไป อย่าว่าแต่ทำดีต่อกันเลย เกรงว่าต่อไปนอกจากเรื่องงานแล้ว พวกเขาก็จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก
ฉู่เจียเสวียนละสายตากลับมา สงบสติอารมณ์ สูดหายใจลึก รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า เธอคือฉู่เจียเสวียนที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจอีกครั้ง
ฉู่เจียเสวียนคิดจะกลับบ้าน แต่ว่ายังเดินไม่ทันไร ก็มีรถคันหนึ่งมาจอดข้างๆ หัวใจของฉู่เจียเสวียนมืดมน เธอจำได้ว่ารถคนนี้เป็นของเผยหนานเจวี๋ย
ตอนที่ 511 เริ่มรู้สึกกับเขาตั้งแต่เมื่อไร
ฉู่เจียเสวียนมองดูกระจกรถที่ลดระดับลงมา แต่ว่ากลับไม่ใช่ใบหน้านั้นที่เธอคุ้นเคย ในใจผิดหวังเล็กน้อย
“คุณหนูฉู่ ประธานให้ผมส่งคุณกลับบ้าน” คนขับรถกล่าวกับฉู่เจียเสวียนด้วยความนอบน้อม
“ไม่ต้องหรอก”ฉู่เจียเสวียนปฏิเสธการจัดแจงของเผยหนานเจวี๋ย เมื่อสักครู่ทำไมเธอต้องประหลาดใจด้วย
“ท่านประธานบอกว่าผมจะต้องส่งคุณกลับบ้าน คุณหนูฉู่ขึ้นรถเถอะครับ” คนขับรถมองฉู่เจียเสวียนด้วยความลำบากใจเล็กน้อย รบเร้าให้เธอขึ้นรถ
ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของเผยหนานเจวี๋ย ฉู่เจียเสวียนก็ไม่อยากทำให้คนขับรถอึดอัด หลังจากครุ่นคิดแล้ว ก็เปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง
เมื่อปฏิเสธไม่ได้ ก็ยอมรับอย่างเปิดเผยเถอะ
รถเคลื่อนตัวออกอย่างเชื่องช้า ไม่นานก็ออกจากสนามบินแล้ว แต่ว่าด้านหลังของพวกเขามีรถเฟอร์รารี่สีดำขับตามมา เผยหนานเจวี๋ยขับตามรถคันนั้นที่ฉู่เจียเสวียนนั่งอยู่
เผยหนานเจวี๋ยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะตัวเอง ถูกฉู่เจียเสวียนปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่อยากจะเข้าใกล้เธอ
ท่านประธานเผยผู้สง่างามอย่างเขาตกต่ำมาถึงจุดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ดูเหมือนว่าเขากลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่ที่เขาเริ่มหลงรักฉู่เจียเสวียน เวลาที่เขาต้องการเห็นหน้าเธอ เขาทำได้เพียงแอบมองอยู่ข้างๆ ดูเหมือนว่าหลังจากหลงรักเธอแล้ว เขาก็มักจะทำเรื่องแบบนี้อยู่เสมอ
ฉู่เจียเสวียนไม่ได้คิดว่าเผยหนานเจวี๋ยจะอยู่ข้างหลัง ตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่ที่เบาะหลังด้วยความสิ้นหวัง เดิมทีนึกว่าในที่สุดก็ไล่ให้เผยหนานเจวี๋ยจากไปได้แล้ว แต่ว่าเธอกลับเริ่มทำใจไม่ได้
ในใจหงุดหงิดเป็นอย่างมาก คิดว่าหลังจากที่เขาจากไปแล้ว ปัญหาทั้งหมดของเธอก็จะหายไป กลับคิดไม่ถึงว่าเธอมีแต่ยิ่งกระวนกระวายใจ
หัวใจเศร้าโศกและเจ็บปวดอย่างมาก ทั้งๆ ที่ไม่เต็มใจ แต่เธอก็ยังผลักเขาออกไป เธออยากจะหัวเราะเยาะตัวเองเสียจริง
รถมาจอดอยู่หน้าวิลล่า เผยหนานเจวี๋ยมองดูฉู่เจียเสวียนลงมาจากรถจากที่ไกลๆ เห็นเธอเข้าไปในบ้านแล้วปิดประตู ตัดขาดทุกอย่างระหว่างเขากับเธอ
ฉู่เจียเสวียนยืนอยู่เบื้องหน้าสถานที่ที่คุ้นเคย มองดูทุกอย่างที่คุ้ยเคยตรงหน้า เธอสูดหายใจลึก ที่นี่ทำให้เธอรู้สึกสบายใจ
เมื่อฉู่เจียเสวียนเธอกลับมาถึงบ้านและจัดการกับอารมณ์ที่อยู่ในใจแล้ว ก็เดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ เห็นซูซานนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก
“เจียเสวียน ลูกกลับมาแล้วหรอ” ซูซานหันมา เห็นฉู่เจียเสวียนกำลังยืนเปลี่ยนรองเท้าอยู่ที่หน้าประตู เธอก็เอ่ยปากทันที
“แม่” ฉู่เจียเสวียนเรียกซูซานอย่างอ่อนหวาน เปลี่ยนรองเท้าเสร็จแล้วก็เดินเข้าไปหาเธอ การได้เห็นคนในครอบครัว จิตใจของเธอดีขึ้นเยอะมาก
“มานั่งสิ” ซูซานยื่นมือดึงมือของฉู่เจียเสวียน ให้เธอนั่งลงข้างๆ
เธอไม่เห็นเป็นเวลาหลายวัน ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาฉู่เจียเสวียนจะโทรหาเธอทุกวัน เพื่อบอกเธอว่าจะไปทริปธุรกิจและจะไม่กลับมาสักพัก ตอนนี้เมื่อเธอเห็นเธอยืนอยู่เบื้องหน้า จิตใจเธอจึงสงบลง
“แม่ หนูคิดถึงแม่แล้ว” ฉู่เจียเสวียนมองซูซาน ยื่นมือโอบคอของเธอ ดวงตาเปียกชื้นเล็กน้อย
เธอต้องการบอกสิ่งที่อยู่ในใจเธอให้ซูซานฟังมาก แต่เธอทำไม่ได้ เธอจะทำให้เธอเป็นห่วงไม่ได้
“เด็กโง่ แม่ก็คิดถึงลูก ลูกหิวหรือเปล่า แม่จะไปทำอะไรให้กิน” ซูซานยื่มมือตบๆ หลังมือของฉู่เจียเสวียน เสียงที่อบอุ่นดังขึ้น
“หิวค่ะ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากตอบทันทีโดยไม่คิด
เธอหิวมากจริงๆ วันนี้ทั้งวันเธอยังไม่ได้กินอะไรเลย
ซูซานได้ยินแล้ว รีบปล่อยมือที่จับมือของเธอทันที ลุกจากโซฟาแล้วเดินไปยังห้องครัว “ลูกรอแป๊บนึงนะ แม่จะไปทำให้กิน”