กับดักรักในรอยแค้น - ตอนที่ 606 ความรักคืออะไร / ตอนที่ 607 เป็นห่วงเขา
ตอนที่ 606 ความรักคืออะไร
ฉากแบบนี้ ทำให้เธอนึกถึงตอนที่อยู่ต่างประเทศ กงจวิ้นฉือก็เคยได้รับบาดเจ็บสาหัสแบบนี้เพราะเธอ
“หนานเจวี๋ย ตอนกลางคืนฉันจะไปดูแลจวิ้นฉือ ทางนี้คุณก็ให้หลี่เฮ่าดูแลไปนะ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากพูดออกมา
เผยหนานเจวี๋ยได้ยินแล้วมองเธอด้วยความผิดหวัง แม้จะรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติ แต่ว่าเขาก็ยังไม่สบายใจอยู่บ้าง
เมื่อคิดว่าฉู่เจียเสวียนจะทิ้งเขาไปดูแลกงจวิ้นฉือแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็รู้สึกไม่สบายใจเลย
ฉู่เจียเสวียนเมื่อเห็นสีหน้าไม่สบายใจของเผยหนานเจวี๋ยแล้วก็อดที่จะใส่ใจไม่ได้ เธอเดินเข้าไปหาเขา ก่อนเอ่ยว่า “อย่าลืมกินยาให้ตรงเวลา”
“ต้องห่มผ้าให้ดีด้วยนะ ตอนนี้ร่างกายของคุณยังอ่อนแอมาก” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยย้ำเตือนอยู่ข้างหูเผยหนานเจวี๋ย
ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เผยหนานเจวี๋ยคงจะไม่ฟังแม้แต่คำเดียวแน่นอน แต่ว่าคนคนนี้คือฉู่เจียเสวียน เขาจึงตั้งใจฟังเป็นพิเศษ ในใจรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา เพราะเขารู้สึกได้ถึงความเป็นห่วงที่ฉู่เจียเสวียนมีต่อเขา
“ฉันไปก่อนนะ” ฉู่เจียเสวียนจำเป็นต้องเอ่ยปากขึ้น ที่จริงแล้วเธอไม่อยากจากเผยหนานเจวี๋ยไปเลย แต่ว่า
ทางกงจวิ้นฉือนั้นต้องการเธอมากกว่า
ทันทีที่ได้ยินว่าฉู่เจียเสวียนจะไป เผยหนานเจวี๋ยก็ดึงมือของฉู่เจียเสวียนเอาไว้ พอดึงฉู่เจียเสวียนก็นั่งอยู่บนเตียงของเขา เขากระซิบอยู่ข้างหูของเธอว่า “จูบผมหน่อย จูบผม แล้วผมจะให้คุณไป”
หลี่เฮ่าที่อยู่ด้านข้างราวกับเป็นมนุษย์ล่องหน แสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน
แต่ว่าฉู่เจียเสวียนนั้นไม่สามารถจูบเขาต่อหน้าคนอื่นได้ สายตาของเธอมองไปยังหลี่เฮ่าโดยไม่รู้ตัว เธอปล่อยวางต่อหน้าคนภายนอกไม่ได้
มองดูใบหน้าขวยเขินของฉู่เจียเสวียนแล้ว เผยหนานเจวี๋ยก็ส่งสายตาไปยังหลี่เฮ่า หลังจากได้รับสายตาจากเผยหนานเจวี๋ย หลี่เฮ่าก็หาข้ออ้างจากไป
ฉู่เจียเสวียนมองดูหลี่เฮ่าที่จากไปด้วยสีหน้าอึดอัด มุมปากของเผยหนานเจวี๋ยยกทำมุมยิ้มชั่วร้าย
“ไม่มีใครแล้ว คุณคงจูบผมได้แล้วสินะ?” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยขึ้น เธอต้องการไปดูแลผู้ชายคนอื่น เขาก็ต้องต่อสู้เพื่อผลประโยชน์อะไรบางอย่างไม่ใช่หรือ?
เมื่อเห็นว่าเผยหนานเจวี๋ยมีท่าทางเอาแต่ใจ ฉู่เจียเสวียนก็จนใจ จูบแก้มของเผยหนานเจวี๋ยอย่างรวดเร็ว
“พอใจแล้วใช่ไหม” ฉู่กล่าวอย่างจนปัญญา ทำไมเขายิ่งเหมือนเด็กน้อยขึ้นทุกทีนะ
“ไม่พอ” เผยหนานเจวี๋ยส่ายหน้า “ผมยังไม่รู้สึกอะไรเลย ขออีกรอบ”
“เผยหนานเจวี๋ย!” ฉู่มองเขาด้วยความโมโห
“เร็วสิ ไม่อย่างนั้นผมไม่ให้คุณไปนะ” เผยหนานเจวี๋ยพูดต่ออย่างอันธพาล
“ปล่อยฉัน ฉันจะไปแล้ว” ฉู่เจียเสวียนพยายามดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนของเผยหนานเจวี๋ย แม้ว่าตอนนี้ร่างกายของเผยหนานเจวี๋ยจะอ่อนแอเป็นอย่างมาก แต่เขากลับมีพลังไม่น้อย ไม่ว่าเธอจะดิ้นรนอย่างไรก็สลัดไม่หลุด
“ดูท่าทางคุณไม่อยากไปเลยนะ” เผยหนานเจวี๋ยพูดด้วยน้ำเสียงขี้โกงของเขาต่อ
ถ้าหากปล่อยให้คนนอกเห็นอีกด้านหนึ่งของผู้ชายที่เยือกเย็นดุจน้ำแข็งแบบนี้ จะต้องหัวเราะฟันร่วงแน่ๆ
จุ๊บ ฉู่เจียเสวียนประทับจูบลงบนแก้มของเผยหนานเจวี๋ยอย่างแรง หน้าแดงโดยไม่รู้ตัวแล้ว
ครั้งนี้ ในที่สุดเผยหนานเจวี๋ยก็ปล่อยฉู่เจียเสวียนไปด้วยความพอใจ รอยยิ้มบนใบหน้าราวกับแมวที่ได้ขโมยปลาย่างอย่างไรอย่างนั้น
เผยหนานเจวี๋ยเห็นเงาของฉู่จากไป ความผิดหวังก่อตัวขึ้นในใจ
ความรักในโลกใบนี้คืออะไรกันแน่
“ดูแลตัวเองให้ดีนะ เจียเสวียน” ทันทีที่ฉู่เจียเสวียนก้าวออกจากประตูห้องผู้ป่วย เผยหนานเจวี๋ยกล่าวขึ้น
“อืม คุณก็ด้วย” ฉู่เจียเสวียนหันตัวมาด้วยความอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย จากนั้นก็จากไป
“คุณหนูฉู่” หลี่เฮ่ายืนอยู่ที่หน้าประตู อมยิ้มมองฉู่เจียเสวียน
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่เฮ่า ฉู่เจียเสวียนก็กัดริมฝีปาก แอบก่นด่าความเอาแต่ใจของเผยหนานเจวี๋ยอยู่ในใจ
ตอนที่ 607 เป็นห่วงเขา
เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดวันนี้ มันกะทันหันเกินไปสำหรับฉู่เจียเสวียน เมื่อเธอเข้าไปในห้องผู้ป่วยของกงจวิ้นฉือ เห็นเขานอนอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าไร้สีเลือด ฉู่เจียเสวียนก็รู้สึกปวดใจ
ก๊อกๆ จู่ๆ ก็มีเสียเคาะดังขึ้นที่หน้าประตู
คุณย่ากงผลักประตูเข้ามา เห็นได้ชัดว่าฉู่เจียเสวียนคิดไม่ถึงเป็นอย่างมาก
“คุณย่า คุณย่ามาได้ยังไงคะ” ตอนนี้ร่างกายของคุณย่ากงยังอ่อนแอมาก เธอเพิ่งจะเป็นลมไป แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้
“ฉันเป็นห่วงเขา” ขณะที่คุณย่ากงตื่นขึ้นมาเห็นว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล เธอก็รู้สึกตื่นตระหนก เธอไม่รู้ว่ากงจวิ้นฉือฟื้นขึ้นมาแล้วหรือยัง
เมื่อรู้ว่ากงจวิ้นฉืออยู่ในห้องถัดไป เธอก็ไม่สามารถที่จะนอนลงได้อีก ดังนั้นเธอจึงมาหาเขาที่นี่
“แต่คุณหมอบอกว่าคุณย่ายังต้องดูแลร่างกายให้ดีนะคะ” ฉู่เจียเสวียนกล่าวด้วยความเป็นห่วง
“ฉันไม่เป็นไร เขาฟื้นแล้วหรือยัง” คุณย่ากงมองดูกงจวิ้นฉือที่อยู่บนเตียง เธอก็รีบเอ่ยปากอย่างเป็นกังวลด้วยเพราะไม่รู้ว่าเขาฟื้นขึ้นมาแล้วหรือยัง
“ยังเลยค่ะ น่าจะเป็นเพราะยาสลบแรงเกินไป” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากปลอบโยนเธอ
คุณย่ากงพยักหน้า และไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ในเวลานี้เธอดูแก่กว่าปกติถึงสิบปี
ฉู่เจียเสวียนมองท่าทางที่อ่อนแอของคุณย่ากง รู้สึกว่าไม่ต้องการให้เธอฝืนต่อไปแล้วจริงๆ “คุณย่า ให้ฉันประคองคุณย่าไปพักผ่อนเถอะนะคะ ร่างกายของท่านยังไม่แข็งแรงดี”
“ฉันอยากอยู่กับเขาที่นี่ ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น…” คุณย่ากงส่ายหน้า
“ถ้าอย่างนั้นคุณย่าเอนตัวที่นี่หน่อยเถอะค่ะ” ฉู่เจียเสวียนยื่นมือชี้ไปยังเตียงของญาติผู้ป่วยที่อยู่ด้านข้างพร้อมเอ่ยขึ้น
“ไม่ต้อง” คุณย่ายังคงเอ่ยต่อด้วยความดื้อรั้น เธอจะต้องเห็นเขาฟื้นขึ้นมา
“คุณย่าคะ ถ้าคุณย่ายังคงดึงดันทำแบบนี้ต่อไป ไม่เพียงแต่จวิ้นฉือจะไม่ฟื้น แต่คุณย่าก็ล้มพับไปอีกคน คุณย่าอยากให้เขาเป็นห่วงท่านอย่างนั้นหรือคะ” ฉู่เจียเสวียนพูดอย่างจริงจัง
ในที่สุดคุณย่ากงก็เชื่อฟังฉู่เจียเสวียน เอนกายนอนลงบนเตียงญาติผู้ป่วยที่อยู่ด้านข้าง
ฉู่เจียเสวียนเห็นเช่นนั้นก็พลันคิดว่าเป็นแบบนี้ยังสะดวกให้เธอดูแลพวกเขาได้ในเวลาเดียวกัน แบบนี้ก็ดีแล้ว
ตอนกลางคืน หลังจากฝนห่าใหญ่ผ่านไปแล้ว ฝนก็ตกลงมาปรอยๆ น้ำฟ้าเบาบางด้านนอกหน้าต่างนั้นตกตลอดทั้งคืน
ฉู่เจียเสวียนเฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดเวลา ช่วงครึ่งแรกของค่ำคืน เธอนอนหลับไม่สนิทเป็นอย่างมาก จนกระทั่งช่วงครึ่งหลังของค่ำคืน ในที่สุดฉู่เจียเสวียนก็ผล็อยหลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้น ฝนที่นอกหน้าต่างหยุดตกแล้ว อากาศแจ่มใสขึ้นมาในทันใด อากาศสดชื่นเป็นพิเศษ หลังจากที่ฝนตกหนักเมื่อวานนี้ ถนนก็ถูกชะล้างจนสะอาดหมดจด รวมถึงใบไม้กิ่งก้านก็เป็นสีเขียวทั้งหมด
ในเวลานี้ฉู่เจียเสวียนยังคงนอนฟุบอยู่ที่เตียงของกงจวิ้นฉือ
ขนตาของกงจวิ้นฉือขยับไหวเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่เห็นนั้นมีเพียงสีขาวว่างเปล่า
ผ่านไปครู่หนึ่งเขาถึงมีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาจำได้ว่าเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้ก็คงจะอยู่ที่โรงพยาบาล
เมื่อหันหน้าไปเห็นใบหน้าเล็กๆ ที่งดงามของฉู่เจียเสวียน ความเจ็บปวดก็ผุดขึ้นใจดวงตาของเขา
“เจียเสวียน…” กงจวิ้นฉือเอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
“หืม?” ฉู่เจียเสวียนสะลึมสะลือขึ้นมา ตอบรับเสียงเบา
ฉู่เจียเสวียนดูอ่อนล้ามาก กงจวิ้นฉือยกมุมปากขึ้นยิ้ม ทว่าไม่ได้พูดอะไร ให้เธอนอนไปเถอะ เขาขอมองเธอเงียบๆ อยู่อย่างนี้ก็พอแล้ว
กงจวิ้นฉือมองดูฉู่เจียเสวียนเงียบๆ มองดูคิ้วของเธอที่ขมวดเข้าหากัน ราวกับกำลังฝันร้ายอย่างไรอย่างนั้น
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ฉู่เจียเสวียนก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นมา เมื่อลืมตาก็เห็นกงจวิ้นฉือกำลังมองเธอ เธอดีใจพูดออกมาว่า “จวิ้นฉือ คุณตื่นแล้วเหรอ”
“เจียเสวียน” น้ำเสียงของกงจวิ้นฉือนั้นแหบแห้ง แววตาที่มองเธอมีความอบอุ่น
“หิวน้ำหรือเปล่า เดี๋ยวฉันจะรินน้ำให้คุณนะ” ฉู่เจียเสวียนว่าพลางลุกขึ้นไปรินน้ำให้กงจวิ้นฉือ