กับดักรักในรอยแค้น - ตอนที่ 684 การพัวพันของกงจวิ้นฉือ / ตอนที่ 685 ไม่เป็นท่าแบบนี้
ตอนที่ 684 การพัวพันของกงจวิ้นฉือ
“ฉันไม่อยากให้พวกเราต้องมาถึงขั้นที่แม้แต่เพื่อนก็เป็นไม่ได้” ฉู่เจียเสวียนรู้ดีว่าเขาจะยอมแพ้ได้ก็ต่อเมื่อพูดกับเขา ถ้าหากในใจของเขายังห่วงใยเพื่อนอย่างเธอคนนี้แล้วละก็ ก็ไม่ควรที่จะพัวพันแบบนี้อีกต่อไป
ไม่อย่างนั้นต่อให้เธอไม่จัดการกับเขา เผยหนานเจวี๋ยก็จะไม่เกรงใจอยู่ดี เธอไม่ต้องการให้กงจวิ้นฉือได้รับอันตรายใดๆ
“ไม่ ผมจะไม่ยอมแพ้” กงจวิ้นฉือกัดฟันเอ่ย จะขอให้เขาเลิกกับฉู่เจียเสวียน เขาทำไม่ได้ ถ้าเขาทำได้ เขาคงปล่อยวางไปนานแล้ว ทำไมต้องมาใช้ชีวิตที่น่าสังเวชทุกวันด้วย
“จวิ้นฉือ…” มองดูแผ่นหลังของกงจวิ้นฉือที่เดินจากไป ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากอย่างเป็นกังวลอยู่บ้าง
แต่กงจวิ้นฉือหายตัวไปต่อหน้าเธออย่างรวดเร็วราวกับว่าไม่ได้ยินอย่างไรอย่างนั้น
สายลมยังคงพัดอย่างต่อเนื่อง ดวงตาของฉู่เจียเสวียนกลายเป็นสีแดงก่ำ เธอหลับตาลง หายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินไปที่ราวจับเพื่อตากลมเย็น พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองครู่หนึ่ง
ในช่วงสองสามวันถัดมา กงจวิ้นฉือเข้ามารบกวนฉู่เจียเสวียนทุกวัน ไม่ว่าฉู่เจียเสวียนจะบอกกงจวิ้นฉืออย่างไร กงจวิ้นฉือก็ไม่ฟัง ยังคงดำเนินแผนพัวพันตามเป้าหมายของตัวเองต่อไป
ในที่สุด เผยหนานเจวี๋ยก็โกรธเมื่อรู้ว่ากงจวิ้นฉือมายุ่งเกี่ยวกับฉู่เจียเสวียนทุกวัน เขาส่งคนไปกดดันกลุ่มบริษัทกงเพื่อเตือนเขาและหวังว่าเขาจะถอนตัวออกไปเสีย
อย่างไรก็ดีกงจวิ้นฉือไม่สนใจ ในขณะที่รับมือกับวิกฤตของบริษัทเขาก็ยังคงรบกวนฉู่เจียเสวียนต่อไป
บริษัทของกงจวิ้นฉือถูกเผยหนานเจวี๋ยบดขยี้จนเหนื่อยล้าไปทั้งกายและใจ ทว่าเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ให้กับฉู่เจียเสวียน ยืนกรานที่จะซื้ออาหารให้เธอทุกเช้า และรอเธอที่ประตูทางเข้าร้านชุดแต่งงานในตอนกลางคืน
กงจวิ้นฉือเกือบจะทำให้ฉู่เจียเสวียนเป็นบ้าอยู่แล้ว เธอไม่รู้จริงๆ ว่าเมื่อไหร่ที่คนคนหนึ่งหมกมุ่นอยู่กับสิ่งหนึ่ง จะสามารถหมกมุ่นได้ถึงขั้นนี้
เผยหนานเจวี๋ยเห็นว่าการเตือนนั้นไร้ประโยชน์ ก็เริ่มใช้วิธีที่รุนแรงขึ้น เขาตัดสินใจให้กงจวิ้นฉือชดใช้ ดังนั้นเขาจึงเพิ่มความกดดันให้กับกลุ่มบริษัทกง กลุ่มบริษัทกงตกอยู่ในวิกฤตในทันทีและทำให้ผู้คนตื่นตระหนก
จากนั้นไม่นานหนังสือพิมพ์ข่าวเมือง A ก็รายงานวิกฤตของบริษัทกลุ่มตระกูลกง อ้างถึงข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่กลุ่มบริษัทเผยโจมตีกลุ่มบริษัทกงเพราะว่าประธานกลุ่มบริษัทกงเข้าไปพัวพันกับแฟนสาวของประธานกลุ่มบริษัทเผย ดังนั้นกลุ่มบริษัทเผยจึงโจมตีกลุ่มบริษัทกงอย่างรุนแรง
หุ้นของกลุ่มบริษัทกงลดลงอย่างรวดเร็วในระยะหนึ่ง ผู้ถือหุ้นก็ยิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจ พวกเขาต้องการคำอธิบายจากกงจวิ้นฉือ
เมื่อคุณย่ากงเห็นรายงานข่าวดังนี้แล้วก็รีบเรียกให้กงจวิ้นฉือกลับบ้านทันที ขณะนี้กงจวิ้นฉือกำลังนั่งอยู่บนโซฟา ส่วนคุณย่ากงนั่งอยู่บนที่นั่งหลัก มองไปที่กงจวิ้นฉืออย่างโกรธเคือง
“หลานดูซิว่าหลานสร้างเรื่องอะไรขึ้น? รักษาผู้หญิงของตัวเองไม่ได้ก็ช่างเถอะ แต่ตอนนี้ยังถูกศัตรูเหยียบย่ำอีกเหรอ หลานไม่รู้สึกผิดต่อพ่อกับแม่ที่ตายไปแล้วบ้างเหรอ?” คุณย่ากงเอ่ยด้วยความโห ใบหน้าโกรธจนแดงก่ำ
“คุณย่า อย่าโมโหสิครับ” กงจวิ้นฉือกังวลว่าโรคหัวใจของคุณย่ากงจะกำเริบ จึงรีบปลอบเธอ
“จะไม่ให้ย่าโมโหได้ยังไง กลุ่มบริษัทกงในตอนนี้ถูกตระกูลเผยกดดันจนแทบล้มละลาย หลานพูดสิว่าทำไมหลานถึงได้น่าผิดหวังแบบนี้ ไม่ได้ผู้หญิงแล้วสุดท้ายก็จะเสียบริษัทไปด้วย!”
“ต่อไปหลานจะให้ย่าเผชิญหน้ากับพ่อแม่ของหลานที่ตายไปแล้วได้ยังไง ตอนที่พวกเขาถามย่าจะให้ย่าตอบยังไง”
“ย่าบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้น ตอนนี้ล่ะเป็นยังไง? เราไม่เหลืออะไรเลย!”
“คุณย่าครับ มันไม่เกี่ยวกับเจียเสวียน” กงจวิ้นฉือกล่าวอย่างขมขื่น
“จนป่านนี้แล้ว หลานยังปกป้องเธออีกเหรอ หา?”
“ต่อไปนี้ผู้หญิงคนนั้นอย่าได้คิดที่จะเข้าประตูบ้านกงของย่าอีก ย่าจะบอกให้นะชาตินี้ห้ามหลานคิดที่จะอยู่กับเธอเด็ดขาด” คุณย่ากงพูดด้วยความโมโห หน้าอกสะท้อนขึ้นลงอย่างรุนแรง
ตอนที่ 685 ไม่เป็นท่าแบบนี้
“คุณย่า” ความเจ็บปวดแผ่ซ่านอยู่ในดวงตาของกงจวิ้นฉือ เขาปล่อยเธอไปไม่ได้ ปล่อยไปไม่ได้จริงๆ
“หลานไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น หลานมันไม่ได้เรื่องจริง ย่าอุตส่าห์เสียแรงเลี้ยงหลานจนโต ตอนนี้หลานไม่มีความสามารถอะไรเลย ตระกูลเผยแค่กระดิกนิ้วนิดเดียว บริษัทหลานก็ล้มไม่เป็นท่าแบบนี้แล้ว หลาน…หลาน…” คุณย่ากงยิ่งพูดยิ่งหัวใจเต้นเร็ว จู่ๆ ก็หายใจไม่ทัน ตาเหลือกและล้มลงบนโซฟา
กงจวิ้นฉือใบหน้าถอดสี รีบเดินเข้าไปหาคุณย่ากง “คุณย่าครับ คุณย่า เร็ว รีบเรียกรถพยาบาลเร็วเข้า…”
“ครับ ครับ…”
“คุณย่า คุณย่าอย่าเป็นอะไรนะครับ อย่าเป็นอะไรเด็ดขาดนะครับ…” สองมือของกงจวิ้นฉือสั่นเทา มองดูคุณย่ากงที่ใบหน้าซีดขาว ดวงตาเปี่ยมด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว
คุณย่าเป็นญาติที่เหลือเพียงคนเดียวบนโลกใบนี้ของเขา ท่านจะเป็นอะไรเป็นไม่ได้จริงๆ เป็นอะไรไปไม่ได้จริงๆ
ในโรงพยาบาล กงจวิ้นฉือยืนอยู่หน้าห้องผ่าตัด ความวิตกกังวลในใจเริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาจับจ้องอยู่ที่ประตูห้องผ่าตัดที่ปิดอยู่ ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ไฟในห้องผ่าตัดก็ดับลง
กงจวิ้นฉือรีบก้าวเท้าเดินเข้าไป เอ่ยด้วยความตื่นเต้นว่า “คุณหมอ คุณย่าของผมเป็นยังไงบ้างครับ”
คุณหมอมองกงจวิ้นฉือพร้อมส่ายหน้า “ตอนที่ผ่าตัดมาได้ครึ่งทาง คนไข้ก็หยุดหายใจแล้ว คุณเตรียมใจไว้ดีกว่านะครับ”
สมองของกงจวิ้นฉือราวกับโดนฟ้าผ่า ทุกอย่างว่างเปล่า ทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ไร้ซึ่งสีสันไปในทันที ร่างของเขาถอยไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว ดวงตาแดงก่ำ ในสมองหมุนวนไม่หยุด
เป็นไปไม่ได้ คุณย่าของเขาจะไม่มีวันทิ้งเขาไปแบบนี้ ไม่มีวัน ไม่มีวัน
เขาเดินโซซัดโซเซเข้าไปในห้องคนไข้ เห็นคนบนเตียงถูกคลุมด้วยผ้าสีขาว เขายื่นมือออกไปเลิกผ้าคลุมออกด้วยมืออันสั่นเทา ภายใต้ผ้าสีขาวคือร่างที่ไร้ลมหายใจของคุณย่ากงที่ค่อยๆ แข็งตัว สีหน้าของท่านยังดูเหมือนแฝงด้วยความโมโหอยู่เลย
กงจวิ้นฉือเอ่ยขึ้นว่า “คุณย่าครับ คุณย่าตื่นขึ้นมาได้ไหมครับ อย่าทำให้ผมตกใจแบบนี้สิ…”
“คุณย่า ผมกลัว…”
“คุณย่า อย่าจากผมไปได้ไหมครับ ผมเหลือคุณย่าเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวแล้ว” กงจวิ้นฉือที่ไม่เคยหลั่งน้ำตาร้องไห้เหมือนเด็กอย่างเช่นในเวลานี้
เป็นเพราะเขา เขาควรจะเชื่อฟังท่าน
“คุณย่าครับ ผมผิดไปแล้ว ผมจะไม่ทำให้คุณย่าโกรธอีกแล้ว คุณย่าตื่นขึ้นมาเถอะครับ”
กงจวิ้นฉือยังคงเขย่าร่างของหญิงคุณย่ากงอย่างต่อเนื่อง ทว่าคนบนเตียงกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลยแม้แต่น้อย ได้แต่ปล่อยให้เขาเขย่าเช่นนั้น
เพราะอะไรกัน? สวรรค์ ทำไมแม้แต่ครอบครัวคนสุดท้ายของเขาก็ทิ้งเขาไป ทั้งๆ ที่ตอนนี้เขาไม่มีพ่อแม่แล้ว ทำไมสวรรค์ถึงยังใจร้ายกับเขาแบบนี้
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเผยหนานเจวี๋ย เป็นความผิดของเขาทั้งหมด ถ้าหากไม่ใช่เพราะเขา คุณย่าของเขาก็จะไม่ตาย เผยหนานเจวี๋ย ฉันจะไม่ปล่อยแกไปแน่นอน ไม่มีทางแน่นอน
หัวใจของกงจวิ้นฉือเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างรุนแรง ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ครอบครัวของเขาก็จะไม่ทิ้งเขาไป คนรักของเขาก็จะไม่ทิ้งเขาไป ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความผิดของเผยหนานเจวี๋ย
เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ความเกลียดชังผุดขึ้นในดวงตา ทันใดนั้นปากของเขาก็เต็มไปด้วยกลิ่นเลือด จากนั้นสองตาปิดลงแล้วหมดสติไป
คุณย่ากงเสียแล้ว ส่วนกงจวิ้นฉือเป็นลมอยู่ในห้องผ่าตัด
ระยะหลังมานี้กงจวิ้นฉือมีความกดดันมากเกินไป บวกกับการทำงานหนักหลายวันติดต่อกัน แล้วคุณย่ายังมาจากไปอีก ทำให้เขารับไม่ไหวไปชั่วขณะหนึ่งก่อนจะหมดสติไป
เมื่อฉู่เจียเสวียนได้รับข่าวว่ากงจวิ้นฉือหมดสติไป เธอก็รีบไปโรงพยาบาลทันที และในเวลาเดียวกันก็ทราบข่าวการเสียชีวิตของคุณย่ากง
ฉู่เจียเสวียนตกใจมาก น้ำตาของเธอไหลออกมาจากดวงตาในทันใด เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าทุกอย่างจะกลายเป็นแบบนี้