กับดักรักในรอยแค้น - ตอนที่ 688 ปฏิเสธอยู่เสมอ / ตอนที่ 689 ตอนนี้เขาไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร
- Home
- กับดักรักในรอยแค้น
- ตอนที่ 688 ปฏิเสธอยู่เสมอ / ตอนที่ 689 ตอนนี้เขาไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร
ตอนที่ 688 ปฏิเสธอยู่เสมอ
เผยหนานเจวี๋ยยืนอยู่ที่ระเบียง พร้อมมองขึ้นไปที่พระจันทร์เสี้ยวบนท้องฟ้า นึกถึงเงาของฉู่เจียเสวียนอยู่ในหัว ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเตือนของข้อความเข้า เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ก่อนจะพบว่ามันมาจากฉู่เจียเสวียน เช่นนั้นก็รีบกดโทรศัพท์ทันที
ฉู่เจียเสวียนไม่ได้คาดหวังว่าเผยหนานเจวี๋ยจะโทรกลับหาเธอ ริมฝีปากสีแดงยกยิ้มโดยไม่รู้ตัว หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา “ยังไม่นอนอีกเหรอ”
“อืม คิดถึงคุณเลยนอนไม่หลับ” เมื่อเผยหนานเจวี๋ยพูดคุยกับฉู่เจียเสวียนเขามักจะพูดคำหวานๆ อย่างเป็นธรรมชาติ
“ปากหวานให้มันน้อยๆ หน่อย” ฉู่เจียเสวียนกล่าวเสียงเบา ความสุขแบบนี้ทำให้เกิดความรู้สึกไม่สมจริงเล็กน้อย
“ช่วงนี้อารมณ์ดีขึ้นบ้างไหม เจอผมได้แล้วหรือยัง คุณไม่ละเลยผมแล้วได้ไหม?” เผยหนานเจวี๋ยถามคำถามออกมาติดๆ กัน ทำให้ฉู่เจียเสวียนหัวเราะออกมาแล้ว
“ฉันละเลยคุณที่ไหนกัน อย่ามากล่าวหาฉันโดยไม่มีหลักฐานนะ” ฉู่เจียเสวียนหัวเราะเสียงเบา
“พรุ่งนี้เจอกันไหม?”
“มะรืนได้ไหม พรุ่งนี้ฉันต้องกลับไปที่ร้านชุดแต่งงาน ไม่รู้ว่าที่ร้านยุ่งหรือเปล่า” ฉู่เจียเสวียนหัวเราะเสียงเบา ยืนขึ้นและเดินไปที่หน้าต่างเพื่อชื่นชมบรรยากาศค่ำคืนนี้
“มะรืนอีกแล้ว พรุ่งนี้เช้าผมจะไปรับคุณทำงาน” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปาก น้ำเสียงเอาแต่ใจ
“ไม่ต้อง ฉันจะขับรถไปเอง พรุ่งนี้ตอนบ่ายฉันรับปากถังถังไว้แล้วว่าจะไปช้อปปิ้งกับเธอ” ฉู่เจียเสวียนหัวเราะเบาๆ เมื่อนึกถึงถังถัง ดวงตาของเธอเปื้อนด้วยรอยยิ้มโดยไม่รู้ตัว
“คุณปฏิเสธผมตลอดเลย” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากอย่างไม่พอใจ เมื่อไรกันนะที่เขาจะมีความสำคัญมากกว่าเพื่อนของเธอ เมื่อไรกันนะที่เขาจะเป็นที่หนึ่งในใจของเธอ
“เอาเถอะ ไม่คุยกับคุณแล้ว ต่อไปพวกเราก็ยังมีโอกาสอีก นี่ก็ดึกมากแล้ว รีบพักผ่อนเถอะ” ฉู่เจียเสวียนไม่คิดที่จะคุยกับเผยหนานเจวี๋ยดึกไปกว่านี้
“ก็ได้ ราตรีสวัสดิ์”
“ราตรีสวัสดิ์”
หลังจากวางสาย ริมฝีปากแดงของฉู่เจียเสวียนก็ยกยิ้มขึ้น บางครั้งหากปล่อยวางให้มากหน่อยการผูกมัดก็จะน้อยลง อย่ากดดันตัวเองมากจนเกินไป
พลิกตัวนอนลงบนเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมบนร่างแล้วค่อยๆ หลับไป
ในตอนเช้า หยาดน้ำค้างคริสตัลใสบนกิ่งไม้ค่อยๆ ระเหยทีละน้อยๆ ไปพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่กำลังขึ้น ลมพัดโชยผ่านโลกที่มีสีสันเบาๆ อากาศบริสุทธิ์กำลังล่องลอยอยู่เหนือเมือง A
ฉู่เจียเสวียนตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงนกร้อง เธอลืมตาขึ้นพร้อมยกมือขึ้นบังแสง แล้วเหยียดยืดกายบิดขี้เกียจ
เลิกผ้านวมออกเพื่อลุกลงจากเตียง เดินไปที่หน้าต่างและสูดอากาศบริสุทธิ์ลึกๆ ซึ่งทำให้สดชื่นขึ้นในทันที
หมุนตัวเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา หลังจากจัดการตัวเองและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ก็กลับหลังหันลงชั้นล่างไป
ซูซานรอฉู่เจียเสวียนให้ลงมารับประทานอาหารเช้าอยู่ที่โต๊ะกินข้าวเช่นเคย
“อรุณสวัสดิ์ค่ะแม่” ฉู่เจียเสวียนลากเก้าอี้นั่งลงตรงข้ามซูซาน มองดูเธอด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน
“อรุณสวัสดิ์” ซูซานยิ้มเอ่ยเบาๆ เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเธออีกครั้ง หัวใจที่หนักอึ้งของเธอก็ปล่อยวางตามไปด้วย
“เดี๋ยวหนูกินข้าวเช้าเสร็จก็กลับบริษัทแล้ว คืนนี้หนูกับถังถังจะไปกินข้าวด้วยกัน แม่ไม่ต้องทำกับข้าวนะคะ” ฉู่เจียเสวียนพูดกับซูซานขณะทานอาหารเช้า
“อืม” ซูซานพยักหน้า ใบหน้าเปื้อนยรอยยิ้ม
หลังอาหารเช้า ฉู่เจียเสวียนขับรถตรงไปที่ร้านชุดแต่งงานทันที
เวลาก็เหมือนกับสายน้ำ เมื่อไหลไปแล้วไม่หวนกลับ สิ่งที่แตกต่างกันเกิดขึ้นทุกวันและทุกคนก็มีชีวิตที่แตกต่างกัน
ตั้งแต่ที่ฉู่เจียเสวียนเจอกงจวิ้นฉือในงานศพของคุณย่ากง เธอก็ไม่ได้เจอเขาในเวลาอื่นอีกเลย
เขาไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับเธออีกแล้ว ชีวิตของเธอก็กลับมาเป็นปกติ
ขณะที่เข้าไปในร้านชุดแต่งงาน ถังถังกำลังอ่านข่าวธุรกิจอย่างตั้งอกตั้งใจ
“วันนี้มีข่าวธุรกิจอะไรเหรอ” ฉู่เจียเสวียนเข้ามาในออฟฟิศอย่างสง่างามและใจเย็น พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
ตอนที่ 689 ตอนนี้เขาไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร
“ไม่มีข่าวอะไรเป็นพิเศษ” เมื่อฉู่เจียเสวียนเข้ามาแล้ว ถังถังก็โยนข่าวธุรกิจไปอีกทาง เธอแค่ดูแก้เบื่อก็เท่านั้น
“แต่เธอดูจริงจังมากเลยนะ” วางกระเป๋าลง ฉู่เจียเสวียนนั่งลงบนเก้าอี้ทำงาน
“ฉันก็ทำทุกอย่างด้วยความจริงจังไม่ใช่เหรอ? วันนี้ฉันไม่อยากทำงาน ตอนบ่ายพวกเราออกไปช้อปปิ้งกันเถอะ?” ถังถังเอ่ยปากอย่างน่าสงสาร เธอไม่ได้ช้อปปิ้งมานานแล้ว
ระยะหลังมานี้นอกจากทำงานและทำงาน เธอก็ยังทำงาน
“ตอนบ่ายค่อยว่ากัน ฉันยังมีงานอยู่ในมืออยู่เลย” ความคืบหน้าในงานของเธอตามหลังอยู่ก้าวใหญ่ เธอจะต้องรีบทำให้ทันถึงจะถูก ไม่อย่างนั้นถ้าทำไม่ทันก็จะส่งผลต่อการทำงานในภายหลัง
“งานในมือของเธอมีตอนไหนบ้างที่ไม่เยอะ” ถังถังกล่าวอย่างไม่พอใจ ตั้งแต่ร้านชุดแต่งงานเปิด เธอก็ไม่เห็นเธอว่างเลยแม้แต่วันเดียว
“ฉันจะรีบจัดการให้เร็วที่สุด แล้วพวกเราออกไปกัน” ฉู่เจียเสวียนส่ายหน้าและหัวเราะออกมาเบาๆ เธอช่างใจร้อนตลอดเวลาจริงๆ
“ก็ได้ เดี๋ยวฉันจะเรียกเธอ” ถังถังเอ่ยปากอย่างสบายใจ รอยยิ้มสดใสเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามเธอก็มีสิ่งที่ต้องทำ แต่ว่านี่ก็ช่วยไม่ได้ เธอไม่ได้อยากทำตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
เวลาในหนึ่งวันจะว่ายาวก็ยาว จะว่าสั้นก็สั้น ทันทีที่ฉู่เจียเสวียนเข้างาน ก็เต็มไปด้วยพลังทั้งร่างกายและจิตใจ ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเวลาเธอทำอะไรก็ต้องทำให้ดีที่สุด ไม่เช่นนั้นก็อย่าทำเลยจะดีกว่า
…
ในห้องทำงานของท่านประธาน ที่กลุ่มบริษัทเผย
เผยหนานเจวี๋ยกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน นั่งเท้าคางและกำลังจมอยู่ในความคิด และผู้ช่วยกำลังยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา
“ช่วงนี้บริษัทกงมีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง” น้ำเสียงเย็นชาของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น ดูเหมือนจะเอ่ยถามอย่างไม่ใส่ใจ
“ไม่มีความผิดปกติอะไรครับ ตั้งแต่คุณย่าของประธานกงจากไปแล้ว ก็เหมือนกับอยู่ตัวคนเดียว วันๆ เอาแต่ทำงาน อ้อ จริงสิครับ ช่วงนี้ตระกูลกงวางแผนที่จะเข้าตลาดของฝรั่งเศสด้วย” ผู้ช่วยพูดกับเผยหนานเจวี๋ยเพื่ออธิบายถึงสถานการณ์ของตระกูลกง
“ตลาดฝรั่งเศส?” เผยหนานเจวี๋ยขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดพึมพำ
“ใช่ครับ” ผู้ช่วยเอ่ยปากตอบรับอีกครั้ง
“โอเค ผมรู้แล้ว ช่วงนี้บริษัทมีปัญหาอะไรเร่งด่วนอีกไหม” เผยหนานเจวี๋ยเหลือบตาขึ้น จ้องตรงไปที่เขาด้วยดวงตาคมกริบ
“เอกสารพวกนี้ค่อนข้างด่วนครับ ถ้าท่านประธานมีเวลารบกวนเซ็นด้วยครับ” ผู้ช่วยเอ่ยปาก ยื่นเอกสารไปที่ตรงหน้าเขา เผยหนานเจวี๋ยพยักหน้า เป็นการบอกให้เขาวางเอกสารลงก่อน “จับตามองตระกูลกงต่อไป เลื่อนโครงการบันเทิงของฉู่เกอออกไปอีกหน่อย ไม่มีอะไรแล้ว คุณออกไปก่อนเถอะ”
“ครับ” ผู้ช่วยพยักหน้าอย่างนอบน้อม จากนั้นก็หมุนตัวจากไป
ประตูสำนักงานถูกปิดลง เผยหนานเจวี๋ยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรออกหาฉู่เจียเสวียน ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่
ไม่เจอเธอหนึ่งวันก็เหมือนไม่เจอกันเป็นเดือน เมื่อก่อนเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมีด้านที่ติดแฟนขนาดนี้
ทางนี้ ทันทีที่ฉู่เจียเสวียนขึ้นรถของถังถัง โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เมื่อหยิบออกมาดูแล้วพบว่าเป็นเผยหนานเจวี๋ยโทรหาเธอ ริมฝีปากแดงก็ยกยิ้มแล้ว “ฮัลโหล”
“เจียเสวียน คุณคิดถึงผมหรือเปล่า” เสียงที่ลุ่มลึกและไพเราะของเผยหนานเจวี๋ยดังออกมาจากโทรศัพท์
“คุณจริงจังหน่อยได้หรือเปล่า ถังถังอยู่ข้างฉันนะ” ฉู่เจียเสวียนเหลือบมองถังถัง มีความเขินอายเล็กน้อยในน้ำเสียง
“ฉันได้ยินหมดแล้วล่ะ พวกเธอสองคนอย่าทำร้ายฉันแบบนี้ได้ไหม” ถังถังเอ่ยปากแซว
ใบหน้าของฉู่เจียเสวียนแดงก่ำโดยไม่รู้ตัว แม้จะไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆ อีกต่อไป แต่เธอก็ยังรู้สึกขวยเขินที่ถูกเพื่อนล้อแบบนี้
“คราวก่อนผมใส่บัตรธนาคารในกระเป๋าสตางค์ของคุณ รหัสคือวันเกิดของคุณ ชอบอะไรก็ซื้อเถอะ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากอย่างเอ็นดู สีหน้าอ่อนโยน