พันธกานต์ปราณอัคคี - ตอนที่ 637-2 ผลทารกกับกำแพงถ่ายทอด
เข้าไปในประตูใหญ่ สิ่งที่เข้ามาในครรลองสายตาเป็นทัศนียภาพของที่พำนักเซียน
ภูเขาสีเขียวสูงตระหง่าน ต้นไม้สีเขียวหนาแน่น ดอกไม้วิญญาณขึ้นเรียงรายอยู่เต็มภูเขา ผีเสื้อวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนบินหยอกล้อกันไปมา
ปราณวิญญาณเจ็ดสีแทบจะหนาแน่นกว่าปราณวิญญาณเซียน บ่มเพาะพืชพรรณประหลาดจำนวนนับไม่ถ้วน และยังมีนกกระเรียนวิญญาณนกกระจอกเซียนที่ถือกำเนิดขึ้นจากปราณวิญญาณเดินวนเวียนไปมาอยู่ในนั้น
อาคารห้องเรือนจริงๆ กลับมีไม่มากนัก ล้วนถูกภูเขาสีเขียวและดอกไม้พืชพรรณบดบัง บางครั้งก็เผยมุมหนึ่งออกมา
สภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทำให้ทั้งหกคนล้วนเกิดความคิดอยากนั่งสมาธิบำเพ็ญเพียร แต่ก็ต้องระงับความต้องการเอาไว้ อย่าเพิ่งสนใจดอกไม้วิญญาณและผลไม้อัศจรรย์เหล่านี้ ต้องไปที่หออาคารเหล่านั้นก่อน
ระหว่างนั้นผ่านน้ำพุวิญญาณแห่งหนึ่ง ในน้ำพุมีสะพานวิญญาณเจ็ดสีที่สร้างขึ้นจากปราณวิญญาณอยู่ บนสะพานมีคนตัวเล็กๆ ขนาดสองสามชุ่นเดินไปมา
“ผลทารก นี่ต้องเป็นผลทารกแน่!” เหมาเถาในน้ำเต้าร้องตะโกนออกมา
เห็นผู้อื่นไม่ได้หยุดชะงัก มั่วชิงเฉินก็เชื่อมโยงจิตใจอย่างเงียบๆ “ผลทารกอะไร เจ้าหมายถึงคนตัวเล็กเหล่านั้นหรือ”
เข้ามาในอาณาเขตเซียน ก็นึกขึ้นได้ว่านางและศิษย์พี่ไม่มีความรู้กว้างขวางเท่ากับผู้บำเพ็ญเพียรของจงหลางเพราะค่ายกลส่งตัวโบราณถูกตัดขาด มั่วชิงเฉินจึงเปิดน้ำเต้า เพื่อให้เหมาเถาชี้แนะสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าเขาจะพบความมหัศจรรย์อย่างรวดเร็ว
“ไม่ใช่ๆ!” เหมาเถาตื่นเต้นจนพูดจาซ้ำไปซ้ำมา “จากตำราลับของสำนักข้า ก้นบ่อน้ำพุมีดอกบัวเซียน เมล็ดในดอกบัวเซียน คือแสงวิญญาณมีชีวิตอายุหมื่นปี บนสะพานหมื่นปีมีเงาสะท้อน นี่ตรงกับที่อธิบายไว้อย่างไรอย่างนั้น เมล็ดบัวในดอกบัวเซียนนั้น ถึงจะเป็นผลทารก!”
“ผลทารกมีประโยชน์อย่างไร” มั่วชิงเฉินเอ่ยถามถึงจุดสำคัญ
เหมาเถาเลียปากเอ่ยว่า “ผลทารกมีประโยชน์ไม่มากกับผู้บำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ สามารถผนึกจิตวิญญาณดั้งเดิม และกายเนื้อให้แข็งแกร่งขึ้น แต่สำหรับจิตวิญญาณดั้งเดิมบริสุทธิ์เช่นข้ากลับมีประโยชน์อย่างมาก กินแล้วก็เท่ากับอาภรณ์ชุดสมบัติ และไม่ถูกทำลายได้ง่ายๆ”
“ที่แท้ก็มีประโยชน์กับเจ้า มิน่าเล่าถึงได้ตื่นเต้นเช่นนี้” มั่วชิงเฉินมุมปากกระตุก เดินผ่านน้ำพุวิญญาณไปพร้อมกับคนเหล่านั้น
เหมาเถารีบตะปบหูลูบแก้ม เห็นมั่วชิงเฉินไม่ทำอะไรลำแสงวิญญาณก็สว่างวาบแล้วเอ่ยว่า “สหาย ไม่ทราบว่าท่านมีอสูรวิญญาณหรือไม่ ผลทารกนี้ยังมีประโยชน์อีกอย่างหนึ่ง สามารถช่วยให้อสูรวิญญาณแปลงกายได้!”
“เจ้าพูดอะไรนะ” มั่วชิงเฉินใจเต้น
อสูรวิญญาณสามตัวของนาง หมาป่าน้อยอยู่ในระดับยอดสุดของระดับเจ็ดแล้ว เขาน้อยอยู่ในขั้นปลายของระดับเจ็ด มีเพียงอู๋เย่ว์ที่เพิ่งจะเข้าสู่ระดับเจ็ดได้ไม่นาน หากเป็นเช่นนั้น การจะฝึกฝนให้ไปอยู่ในระดับยอดสุดของระดับเจ็ดก็เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าก็เร็วแล้ว
การแปลงกาย เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับอสูรวิญญาณ หมาป่าน้อยติดอยู่ในระดับนี้ตั้งนานแล้ว นางกำลังขบคิดแทนพวกเขาว่าจะหาสมบัติมหัศจรรย์หรือสมุนไพรวิญญาณ มาช่วยพวกเขาอีกแรง
เมื่อเห็นท่าทีสนใจของมั่วชิงเฉิน เหมาเถาก็รีบร้อนเอ่ยว่า “อสูรวิญญาณที่อยู่ขั้นปลายของระดับเจ็ด แค่กินผลทารกเข้าไป ก็สามารถดึงดูดทัณฑ์อัสนีแปลงกายได้ เมื่อผ่านทัณฑ์อัสนี ก็สามารถแปลงกายได้แล้ว”
มั่วชิงเฉินได้ฟังก็ใจเต้น
ในวัฏสงสารทั้งหก ภพภูมิเดรัจฉานก็ด้อยกว่าภพภูมิมนุษย์อยู่แล้ว หากอยากเป็นเซียนก็ต้องเป็นมนุษย์ก่อน
ปีศาจอสูรแปลงกาย ต้องสัมผัสได้ถึงฟ้าดิน ผ่านทัณฑ์อัสนีอันยากลำบาก ปีศาจอสูรระดับยอดสุดของระดับเจ็ดส่วนใหญ่ล้วนขาดการตระหนักรู้เพียงเล็กน้อย สุดท้ายก็ไม่มีหวังที่จะแปลงกายได้
ส่วนทัณฑ์อัสนีนั้น เดิมร่างกายของปีศาจอสูรก็แข็งแกร่ง อสูรวิญญาณที่ทำพันธะสัญญากับมนุษย์บำเพ็ญเพียร ทัณฑ์อัสนีแปลงกายก็อาจจะถูกเจ้านายรับเอาไว้ส่วนหนึ่ง กล่าวได้ว่าไม่อันตรายมากนัก
มั่วชิงเฉินตัดสินใจ เพื่ออสูรวิญญาณเหล่านั้น ต้องเอาผลทารกนี้มาให้ได้
“จะเด็ดผลวิญญาณนี้อย่างไร”
เมื่อได้ยินมั่วชิงเฉินเอ่ยถามเช่นนี้ เหมาเถาก็เอ่ยพึมพำออกมา “ผลทารกไม่อาจเปื้อนโลหิต”
“นั่นหมายความว่าอย่างไร”
เนิ่นนาน เหมาเถาจึงได้เอ่ยอย่างอ้ำๆ อึ้งๆ ว่า “หมายความว่า สิ่งมีชีวิตที่ร่างกายมีโลหิตไม่อาจแตะต้องได้”
“ผู้ใดจะไม่มีโลหิตล่ะ…” มั่วชิงเฉินเอ่ยมาถึงตรงนี้ จิตสัมผัสก็แผ่ไปห่อหุ้มเหมาเถา
เหมาเถาตกใจกลัว “ไม่ได้ๆ ข้าน้อยออกไปไม่ได้ สภาพของข้าหากออกไป ผู้บำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ คนหนึ่งก็สังหารข้าได้!”
มั่วชิงเฉินขมวดคิ้ว หมายจะบีบบังคับอีก ฉับพลันนั้นก็ได้ยินเสียงส่งมาจากถุงเก็บอสูรวิญญาณ “นายท่าน ให้ข้าไปเถิด”
มั่วชิงเฉินพลันตกตะลึง “แดงน้อยหรือ”
ดอกเบญจมาศแดงพยักหน้าเป็นพัลวัน “นายท่าน ข้าเป็นพืช ในร่างของข้าไม่มีโลหิตนะ”
“แดงน้อย เป็นกังวลแทนเจ้านาย เจ้าเติบโตแล้วจริงๆ พวกหมาป่าน้อยจะต้องขอบคุณเจ้าแน่” มั่วชิงเฉินรู้สึกผ่อนคลายลง
ดอกเบญจมาศแดงในถุงเก็บอสูรวิญญาณก็เกือบจะร้องไห้ออกมา ในใจขบคิดว่า ข้ากล้าไม่แสดงตัวได้หรือ ได้ฟังคำพูดของพวกท่าน คอของข้าก็ใกล้จะถูกอู๋เย่ว์ตัดขาดแล้ว หมาป่าน้อยก็เกือบจะเลียใบของข้าแล้ว!
มั่วชิงเฉินกลับไม่รู้สิ่งที่พวกอู๋เย่ว์ทำ
เพื่อให้อสูรวิญญาณมีห้วงมิติของตนเอง นางจึงไม่ค่อยแทรกจิตสัมผัสเข้าไป ทั้งยังอยากเพิ่มประสบการณ์ให้พวกมัน นอกจากเวลาส่วนตัวแล้วก็ไม่ตัดความสัมพันธ์กับถุงเก็บอสูรวิญญาณและโลกภายนอก จะได้ให้พวกมันสัมผัสประสบการณ์ทั้งหมดของตนเอง
ดอกเบญจมาศแดงเป็นพืช ไม่สะดุดตาในอาณาเขตเซียนที่มีพืชประหลาดมากมายกำเนิดขึ้น เพราะกลัวว่าผู้บำเพ็ญเพียรระดับก่อกำเนิดด้านหลังจะทำลายผลทารกโดยไม่ได้ตั้งใจ มั่วชิงเฉินจึงปล่อยมันออกมาเงียบๆ แล้วออกคำสั่งให้มันไปเด็ดผลทารกมา และปล่อยผึ้งวิญญาณเลือดมรกตตัวหนึ่งออกไปนำทางมัน
รอจนพวกซีอวิ๋นเจินจุนอ้อมผ่านศาลากลางน้ำไป ยามที่ยืนศึกษากำแพงตรงหน้า ดอกเบญจมาศแดงก็ใช้กลีบดอกของตนเองประกบดอกบัวสีทองดอกหนึ่งเอาไว้ แล้วถูไปมาอย่างช้าๆ
มั่วชิงเฉินจงใจยืนให้ห่างจากทุกคน เห็นพวกเขากำลังศึกษาอย่างจริงจัง ก็ค่อยๆ เก็บดอกเบญจมาศแดงกลับมา แล้วเอ่ยถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง”
กลับได้ยินเสียงดอกเบญจมาศแดงร้องคร่ำครวญ
ฉับพลันนั้น จึงรีบแผ่จิตสัมผัสเข้าไปตรวจสอบในถุงเก็บอสูรวิญญาณ ก็มองเห็นอีกาไฟกำลังอยู่บนร่างของดอกเบญจมาศแดง ใช้ปีกกดไปทั่วร่าง ปากก็เอ่ยพึมพำไม่หยุด “ไหนล่ะ ไหนล่ะ”
หมาป่าน้อยเข้ามาใกล้ ปากก็เลียร่างของดอกเบญจมาศแดงทั่วร่าง
มีเพียงเขาน้อยที่อยู่นิ่งๆ อยู่ด้านข้าง แต่กลับขวางทางหนีของดอกเบญจมาศแดงอยู่พอดี
มั่วชิงเฉินพลันหน้าดำคร่ำเครียด “พอได้แล้วพวกเจ้าทั้งสาม ไปยืนตรงนั้น!”
“นายท่าน…” อีกาไฟร้องตะโกนอย่างไม่เต็มใจ
มั่วชิงเฉินโจมตีอย่างไม่ปรานี “อู๋เย่ว์ โดยเฉพาะเจ้า ต่อให้ได้ผลทารกมา พลังยุทธ์ของเจ้าในยามนี้ก็ยังกินไม่ได้!”
อีกาไฟร้องอย่างโศกเศร้า “นายท่าน ท่านไม่ต้องคอยเอาเกลือมาเทใส่บาดแผลก็ได้นี่นา!”
ผู้ที่ติดตามเจ้านายตัวแรกในยามนี้กลับมีพลังยุทธ์ต่ำต้อยที่สุด ช่างเป็นความจริงปวดในใจของมันจริงๆ!
“แดงน้อย เจ้านับสิว่ามีเมล็ดบัวกี่เมล็ด ผ่าผลทารกออกมาใส่ไว้ในขวดหยก” มั่วชิงเฉินโยนขวดหยกไป
ดอกเบญจมาศแดงผ่าเมล็ดบัวออกอย่างใจดีสู้เสือภายใต้สายตาดุจเปลวไฟของทุกคน ผ่าเมล็ดทารกขาวนวลออกมาใส่ไว้ในขวดหยกได้หกผล
เมื่อได้ผลทารกหกผล มั่วชิงเฉินก็อารมณ์ดีมาก โยนขวดหยกขวดหนึ่งให้เหมาเถาเก็บไว้ รอจนทุกอย่างสงบสุขแล้วค่อยให้พวกหมาป่าน้อยกิน
ยามนี้ ซีอวิ๋นเจินจุนและพวกศึกษาจนได้เบาะแสแล้ว กำแพงนี้คือกำแพงถ่ายทอด!
ความจริงแล้วเมื่อเห็นกำแพงนี้ เจินจุนทั้งสี่ก็มีความคิดคาดเดาเช่นนี้ หลังจากมั่นใจแล้วก็ตื่นเต้นอย่างปกปิดไม่มิด
ต้องเข้าใจว่ากำแพงถ่ายทอดที่ปรากฏขึ้นในอาณาเขตเซียน เป็นสิ่งที่ผู้บำเพ็ญเพียรสันโดษทิ้งเอาไว้ ด้านในอาจจะมีความรู้ของระดับผสานร่างหรือแม้กระทั่งระดับพิชิตเคราะห์กรรมอยู่!
เป็นเพราะสองสามพันปีก่อนมีกำแพงถ่ายทอดถือกำเนิดขึ้น ด้านในมีความรู้ของผู้บำเพ็ญเพียรที่ยิ่งใหญ่อย่างระดับก่อกำเนิด ระดับถอดดวงจิต หรือแม้กระทั่งระดับแยกวิญญาณ จงหลางถึงได้มีผู้บำเพ็ญเพียรระดับถอดดวงจิตถือกำเนิดขึ้น
ยามนี้เผชิญหน้ากับกำแพงถ่ายทอดที่เซียนสันโดษทิ้งเอาไว้ จะไม่สนใจได้อย่างไร!
“ทุกท่าน กำแพงถ่ายทอดเป็นวาสนาของแต่ละคน อย่ารอช้าอยู่ไย พวกเราเข้าไปกันเถิด!” ซีอวิ๋นเจินจุนเอ่ยด้วยเสียงอันดัง