ยอดหญิงอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 214 นวดคลายเส้น (2)
ตาน้ำ ผุดกระเซ็นเป็นฝอย บ่อแช่น้ำ สลักเป็นรูปกลีบบัว
น้ำพุมีสีใสราวกับคริสตัล มีบันไดหินอ่อนสีขาว เพื่อให้สะดวกต่อการขึ้นลง
บ่อน้ำ ล้อมรอบด้วยฉากกั้น ทำจากไม้สนแดงชั้นดี กันน้ำได้ ตัวไม้ แกะสลักเป็นรูปดอกชบา ตรงกลางดอกมีโพรงเล็กๆ ลวดลายผสมผสานเข้ากับทิวทัศน์ได้อย่างลงตัว ด้านบนเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่เพียงแต่ระบายอากาศได้ และคนนอกก็ไม่สามารถมองเข้าไปข้างในได้เช่นกัน
หากนี่เป็นที่พัก บ่อน้ำบ่อนี้ ก็คงจะเป็น——ห้องพักที่ดีที่สุดแล้วกระมัง
เขาปิดริมฝีปากลง
ยังไม่ทันเข้าใกล้ กลิ่นกำมะถันก็ลอยมาพร้อมกับไอหมอกร้อนๆ ผสมผสานกับกลิ่นหอมจากต้นไม้รอบๆ และกลิ่นหอมจากไอดิน ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ความเหนื่อยล้าทั้งหมดก็หายเป็นปลิดทิ้ง
คนงานดูแลบ่อน้ำพุร้อนเดินมาถึง ทำมาแล้วหลายเดือนจึงมีความชำนาญพอควร เขาน้อมทักทายด้วยรอยยิ้ม “ข้าน้อยขอช่วยท่านอ๋องถอดเสื้อออกเพื่อลงแช่น้ำขอรับ”
ทำไมถึงไม่ใช่นางล่ะ เขาขมวดคิ้วสงสัย แต่ก็มิได้พูดสิ่งใดออกมา เพียงกางสองแขนออก
พอถอดชุดคลุมชั้นนอกออก เขาสั่งหยุด “ที่เหลือข้าจัดการเอง”
“ผู้ชายด้วยกัน เผยอกเห็นหลัง จะอายใครกันขอรับ” คนงานชายนึกว่าเขาเขินอาย เตรียมยื่นมือจะแกะเข็มขัดออก
“ออกไป” สีหน้าพลันเลี่ยนเป็นเข้มขรึม
คนงานชายบ่นงึมงำสองคำ ก็นำชุดคลุมอาบน้ำพาดไว้ และเดินออกไป
เขาแกะกระดุมเสื้อออก เสื้อชั้นกลางไหลลงกับพื้น เผยให้เห็นหน้าอกและกล้ามเนื้อตรงหน้าท้อง รอยแผลเป็นลึกบางต่างๆ บนนั้นชวนให้คนเห็นแล้วรู้สึกตะลึงตกใจ
ใช้ครีมจื่อเฉ่าของนางมานาน ก็ดูเหมือจะได้ผลอยู่บ้าง รอยแผลเป็นที่เคยดูลึกบางจุด ก็ดูจางลงไปไม่น้อย
แต่ถ้าแผลพิษนี้ไม่หายสักที ก็ต้องใช้งูไร้ฟันดูดพิษออกทุกๆ เดือน รอยแผลเหล่านั้นหายไปและผุดขึ้นใหม่เรื่อยๆ รักษาไม่หมดเสียที
เขาเดินลงบ่อ น้ำกระเซ็นเบาๆ ร่างกายเกือบครึ่งตัวแช่อยู่ในน้ำ
น้ำพุธรรมชาติให้ความรู้สึกไหลลื่นราวกับผิวพรรณของหญิงแรกแย้ม อุณหภูมิน้ำกำลังดี เขารอไปแล้วครึ่งค่อนวันนางก็ไม่มาสักที
นี่ทิ้งตนให้อยู่เพียงลำพัง ราวกับไม่มีตัวตนเชียวหรือ
ช่างไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี
อดหลับทั้งคืนแล้วยังทำงานหนักตั้งหลายวัน เขาจึงกางแขนพาดไว้บนขอบสระ จากนั้นก็หลับตาลง
เวลาผ่านไปนานพอควร ก็มีเสียงเท้ากระทบพื้นเบาๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง ภายใต้ความสลืมสลือ ก็ได้ยินเสียงแตะน้ำอย่างแผ่วเบา เขาเป็นคนหลับไม่ลึก ตื่นง่าย แต่ตอนนี้กลับหลับตาไร้ความเคลื่อนไหว เพราะแค่ฟังเสียงเท้าก็รู้แล้วว่าเป็นใคร
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง กลิ่นหอมละมุนก็ลอยแตะที่ปลายจมูกพร้อมกับมีสองมือวางลงบนไหล่
อุณหภูมิของร่างกายที่สูงขึ้นจากน้ำพุร้อน ก็ร้อนดั่งไฟอยู่แล้ว ยามเขาจะหันกลับไป แต่กลับถูกคนด้านหลังห้ามไว้ ได้ยินเพียงเสียงเอ่ยอย่างแผ่วเบาว่า “อย่าเพิ่งเจ้าค่ะ”
เขายอมให้นางจัดแจงราวกับวิญญาณได้หลุดลอยออกจากร่าง และยังยอมให้นางใช้สองมือทำอะไรบางอย่างตรงท้ายทอยและสันหลังของตน
ปลายนิ้วมือมีความมาตรฐาน กำลังกดหนักเบาสลับสม่ำเสมอ
วิธีการด้วยนวดมือคงไม่พ้นมีแปดวิธี กด ถู คลึง กลิ้ง ดีด บีบ ยืดเหยียดและดัด ซึ่งคนด้านหลังเห็นชัดว่าเป็นผู้มีความรู้ เพราะสามารถนวดตามเส้นลมปราณได้อย่างเหมาะสมทั่วถึง
กล้ามเนื้อที่ตึงแข็งคลายออกอย่างช้าๆ ความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมานานก็เริ่มหาย
“นี่กลิ่นหอมจากของสิ่งใด” สิ่งของที่ใส่เข้าไปในสระ คล้ายว่าจะกระจายตัวหมดแล้ว แต่กลิ่นหอมยังคงลอยแตะปลายจมูก ให้ความรู้สึกร้อนรุ่ม รูขุมขนเปิดกว้าง
นางกระซิบข้างหู “น้ำดอกกุหลาบป่าของต้าซวน แต่ข้าปรับสูตรเล็กน้อย ให้กลิ่นคงอยู่นานขึ้น และยังมีส่วนช่วยบำรุงรักษาร่างกายได้อีกเจ้าค่ะ”
“หืม” น้ำดอกกุหลาบป่าของต้าซวนมีประวัติยาวนานกว่าหนึ่งร้อยปี เป็นที่เลื่องลือรู้จักกันทั่ว ในต้าซวน นี่คือสิ่งของที่มีอยู่ตามโต๊ะเครื่องสำอางค์ของหญิงสาวตามเรือนต่างๆ ซึ่งซย่าโหวซื่อถิงนั้นรู้จักดี “น้ำดอกกุหลาบป่า ก็เพียงทำจากดอกกุหลาบป่ามิใช่หรือ จะช่วยบำรุงรักษาร่างกายได้อย่างไรกัน”
นางกลับยิ้มหัวเราะ “แท้จริงแล้ว เมืองต่างๆ ในแถบตะวันตก ผลิตน้ำดอกกุหลาบป่าจากดอกกุหลาบ ในเมืองเยี่ยจิงหามีดอกกุหลาบไม่ เลยใช้ดอกลีลาวดีกับดอกมะลิมาทดแทน อย่างมากก็จะผสมกลิ่นดอกกุหลาบจากแถบตะวันตกเล็กน้อย ดอกกุหลาบป่ากับดอกกุลหลาบเป็นพืชกุหลาบเหมือนกัน รูปร่างลักษณะก็คล้ายกัน เรียกได้ว่าเป็นดอกไม้แบบฉันท์พี่น้องก็ว่าได้ แต่ตัวดอกนั้นไม่เหมือนกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องหอมของจงหยวนจึงตั้งชื่อจากดอกกุหลาบป่าที่มีลักษณะคล้ายดอกกุหลาบเจ้าค่ะ เท่าที่ข้าได้ยินมา จนถึงวันนี้ก็หามีผู้ใดเคยเห็นดอกกุหลาบที่แท้จริงไม่”
“ดอก กุหลาบหรือ”
นางเอ่ยตอบ “อื้ม ได้ยินว่า เป็นที่นิยมในแถบตะวันตกมาก นอกจากสามารถสกัดเป็นน้ำได้แล้ว ยังมีคุณค่าในการชื่นชมอีกด้วย ระหว่างคู่รัก ก็จะนำดอกไม้ชนิดนี้มอบให้ซึ่งกันและกัน อันเป็นสัญลักษณ์แห่งใจถึงใจ ความรู้สึกจะคงอยู่ตลอดไป ข้าคิดว่า ด้วยชื่อเสียงลือนามนี้ เลยทำให้เป็นที่รู้จักไปทั่วเจ้าค่ะ”
คิ้วขยับเล็กๆ พลางเอ่ยขึ้นอีก “แล้วช่วยบำรุงรักษาอย่างไร”
“นำดอกกุหลาบป่าผสมกับพืชสมุนไพรอีกหลายชนิดแช่ในน้ำเปล่า จากนั้นก็นำไปต้มในหม้อปิดผนึก สารสกัดจากดอกไม้ก็จะระเหยไปยังน้ำ โดยกระบวนการนี้เรียกว่า ‘การสกัด’ เมื่อน้ำผสมกับสารสกัด สิ่งนั้นก็คือเหงื่อดอกไม้ และเมื่อใส่เข้าไปในน้ำพุร้อน ก็จะช่วยให้เลือดลมเปิดออก ขจัดลมเสียในร่างกายและบรรเทาความเหนื่อยล้าเจ้าค่ะ”
“เหงื่อดอกไม้” เขาเอนศีรษะหันมองเล็กน้อยพลางยิ้มเบาๆ “แต่ข้าเหงื่อออกท่วมแผ่นหลังแล้วนะ”
การเอนศีรษะหันมองนี้ กลับทำให้การยิ้มของเขาถึงกับชะงัก
หลังจากเข้ามายังบ่อน้ำพุร้อน อุณหภูมิจะค่อนข้างชื้น ด้วยความกลัวเสื้อผ้าจะเปียก นางจึงเปลี่ยนเป็นชุดคลุมบางเรียบร้อย
ภายใต้อุณหภูมิที่ร้อน ชุดคลุมก็ได้เปียกชุ่มไปเกือบครึ่งหนึ่ง ตัวผ้าแนบไปกับหน้าอกและบริเวณเอว จนเผยให้เห็นส่วนเว้านูนชัดขึ้น ผนวกกับใช้แรงนวดไปพักหนึ่ง ก็ยิ่งทำให้ชุดเปียกชุ่มไปหมด จนใบหน้าก็กลายเป็นสีแดงระเรื่อไปด้วย
แม้แต่การยกมือขึ้นปาดเหงื่อ ก็มีเสน่ห์ชวนให้หลงใหล
เหงื่อท่วมแผ่นหลัง อวิ๋นหว่านชิ่นได้ยินคำนี้พลันนึกถึงคำพูดของหมออิง และคิดตาม
เนื่องจากส่วนผสมในลูกกลอนห้ามเลือดเป็นของเย็น ต้องใช้ยาสมุนไพรที่มีคุณสมบัติเป็นของร้อน ถึงจะมีความสมดุล แต่ก็กลัวว่าหากเพิ่มเข้าไปจะทำให้สรรพคุณยาดั้งเดิมเปลี่ยนไป——
ถ้าเช่นนั้น บางที ก็อาจใช้น้ำพุร้อนแก้ไขปัญหานี้ได้
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ภายในใจพลันรู้สึกตื่นเต้น เดี๋ยวกลับไป จะรีบไปปรึกษาหมออิง ดูว่าวิธีนี้ใช้ได้หรือไม่
ภายใต้ไอหมอก ท่าทางของนางที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กับสองแก้มที่แดงรือเรื่อ ยิ่งชวนให้หลงใหลมากยิ่งขึ้น
ลมหายใจของเขาเริ่มไม่คงที่ จนต้องปรับลมหายใจเล็กน้อย แต่พอคงที่ เขาก็ดึงนางลงมาในบ่ออย่างไม่ลังเล
“อ๊า——” อวิ๋นหว่านชิ่นถึงกับเซตกลงไปในสระจนน้ำกระเซ็นเต็มไปหมด แต่ร่างกายตกไม่ถึงก้นสระ เพราะถูกเขาคว้าเอวไว้พลางเซเล็กน้อยจนยืนได้
ตอนนี้ ผมเพ้าและเสื้อผ้าเปียกโชกไปทั้งตัว นางเริ่มหายใจถี่พลางเอ่ยถาม “นี่ท่านทำอะไร!”
กลับรู้สึกว่ามือที่โอบรัด แน่นขึ้นกว่าเดิม และไม่ยอมคลายออก “เมียรักนวดคลายเส้นให้กับข้าจนเหนื่อยแล้ว ลงมาแช่น้ำกับข้าเสียหน่อยเถิด”
ชุมคลุมบางไม่สามารถซ่อนผิวพรรณอันเนียนขาวดุจหิมะได้อีกต่อไป ทั้งเนื้อตัวถูกความร้อนจนเนื้อตัวเป็นสีอมชมพู ช่างงดงามสวยสดเหลือเกิน จนหัวใจของเขาถึงกับเต้นมิเป็นจังหวะ ทุกครั้ง ก็ทำได้เพียงกดความรู้สึกนี้เอาไว้
“เดี๋ยวก่อน…” เสียงห้ามเหมือนดั่งเสียงนกขมิ้นที่ขานอยู่บนกิ่งไม้
ประเพณีต้าซวนจะเปิดกว้างเพียงไหน ก็คงไม่สามารถเปิดกว้างขนาดที่ว่า ให้ชายหญิงอาบน้ำด้วยกันเช่นนี้ได้!
รอ รอมาแล้วครึ่งค่อนวัน ก็เพื่อวินาทีนี้ จะปล่อยไปได้อย่างไร
เขากระชากเชือกที่ผูกไว้ตรงเอวออกอย่างรุนแรง
ที่ๆ ห่างจากบ่อน้ำพุร้อนไม่ไกล ชูซย่าได้ยินเสียงน้ำดังจุ๋ม พลางยืนขึ้นว่าจะไปดูเสียหน่อย แต่ทว่ากลับถูกซือเหยาอันห้ามไว้ “เจ้าจะทำอันใด”
“เมื่อครู่นี้ข้าได้ยินเสียงคนตกน้ำ มิรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นหรือไม่”