ยอดหญิงอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 252.1 ผ่าคลอดทารก เชือดไก่ให้ลิงดู (1)
“เร็วเข้า ขอยืมมือหน่อย ช่วยข้าประคองที” ชูซย่าเอ่ยเรียก
ฉีไหวเอินก็ไม่ชักช้า รีบเข้าไปประคองอวิ๋นหว่านชินไว้ ทว่าแอบมองอวิ๋นหว่านชิ่นอยู่แวบหนึ่ง
อวิ๋นหว่านชิ่นเดิมทีเข้าใจว่าฉีไหวเอินเห็นตนไม่กลับหอเหยาไถเสียทีจึงได้มาหา ยามนี้เห็นเขาหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ และหอบหายใจแรง นึกไม่ถึงว่าหางตายังมีร่องรอยของคราบน้ำตาที่แห้งแล้วอยู่ ท่าทางเหมือนได้รับความตกใจมาอย่างไรอย่างนั้น
นางใจกระตุก ไม่ขยับเดิน เอ่ยถามไปว่า “เป็นอันใดไปรึ”
“ปะ…เปล่าพ่ะย่ะค่ะ” ฉีไหวเอินตอบอึกอัก
“เกิดอันใดขึ้นกันแน่!” ชูซย่าเห็นถึงความผิดปกติของเขาเช่นกัน จึงถุยน้ำลายใส่
“บอกว่าไม่มีก็ไม่มีสิ!” ฉีไหวเอินมองชูซย่าอย่างดุดัน
“พูดมา” อวิ๋นหว่านชิ่นเอ่ยขึ้นเสียงเย็น ฉีไหวเอินไม่กล้าปิดบังต่ออีก เขาก้มหน้าลงเล่าเรื่องที่ได้ยินมาให้ฟังอย่างไม่ขาดตกบกพร่องด้วยเสียงอันแหบพร่า
อวิ๋นหว่านชิ่นใจกระตุก ไม่ขยับไปไหนอยู่พักใหญ่ ทั้งสองเห็นนางนิ่งก็ไม่กล้าขยับ
นางพลันรู้สึกปวดท้องน้อย เหมือนมีบางอย่างขยับลงไปด้านล่าง ชูชย่ามองไป นึกไม่ถึงว่าจะเห็นด้านล่างกระโปรงมีน้ำนอง ยังไม่ทันจะได้สติคืนมา กลับเป็นฉีไหวเอินที่หลายวันมานี้ไปหาเนี่ยมอมอและชีมอมอเพื่อถามเรื่องคลอด จึงมีปฏิกิริยาขึ้นมาก่อน “เร็ว เร็วเข้า น้ำคล่ำแตกแล้ว เกรงว่าจะคลอดแล้ว!”
ตกค่ำมา ข่าวคราวของแม่นางอวิ๋นแห่งหอเหยาไถก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งวังหลัง
ภายในหอ เนี่ยมอมอกับชีมอมอได้เตรียมการคลอดให้แก่อวิ๋นเหม่ยเหรินไว้นานแล้ว เห็นนางกำนัลมาส่งเอวิ๋นหม่ยเหรินกลับมา ปฏิกิริยาก็รวดเร็วยิ่ง สั่งให้บรรดานางกำนัลไปต้มน้ำเตรียมเครื่องมือคลอด ลากม่านแล้วเดินเข้าไป
ชูซย่าไม่วางใจ อยากจะเข้าไปด้วย กลับโดนเนี่ยมอมอผลักด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อ “คลอดลูกไม่ใช่เรื่องที่คนมากแล้วจะทำให้ง่ายขึ้น อีกเดี๋ยวต้องใช้น้ำมาก แม่นางชูซย่าอยู่ด้านนอกคอยช่วยดูแลนางกำนัลต้มน้ำตักน้ำ ฆ่าเชื้อเครื่องมือดีกว่า”
ชูซย่าคิดว่าตัวเองเข้าไปก็ช่วยอันใดมิได้ จำต้องคอยอยู่ข้างนอกคอยดูแลประสานงาน
ฉีไหวเอินยืนอยู่บนระเบียง เห็นนางกำนัลเร่งรีบเข้าๆ ออกๆ กันเป็นครั้งคราว แล้วได้ยินเสียงเจ็บปวดทรมานที่ดังลอดออกมาจากหน้าต่างแว่วๆ ในใจก็ร้อนดังไฟเผา เอาแต่ถามชูซย่าที่อยู่ด้านในตลอดว่า “เป็นอย่างไรบ้าง อีกนานหรือไม่ นายหญิงจะทนได้หรือไม่ก็ไม่รู้…”
ชูซย่าถึงแม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์แต่ก็เคยเห็นเคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยคลอดลูก และรู้ดีว่าการคลอดลูกก็เหมือนไปเยี่ยมประตูยมโลก เดิมทีก็อกสั่นขวัญแขวนอยู่แล้ว พอมาได้ยินฉีไหวเอินถามไม่หยุดไม่หย่อน ในที่สุดก็ทนไม่ไหว เลิกม่านขึ้นครึ่งหนึ่ง มองไปยังมือของเนี่ยมอมอที่กำลังถือกรรไกรโบกไปมา “ร้ายแรงหรือไม่ นานเพียงนี้แล้ว เหตุใดจึงยังไม่คลอดอีก…”
เนี่ยมอมอทำคลอดให้สตรตีในวังหลังมาไม่น้อย วันนี้รับทำคลอดให้อวิ๋นเหม่ยเหรินก็คุ้นเคยและคล่องแคล่ว ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร จึงเอ่ยปลอบว่า “ท้องแรกก็แบบนี้ ไม่ราบรื่นเพียงนั้นได้หรอก คลอดอยู่ทั้งคืนเลยก็มี วางใจเถิด ไม่เป็นอันใดหรอก อวิ๋นเหม่ยเหรินตอนนางตั้งครรภ์ก็บำรุงอย่างดี ซ้ำยังอ่อนเยาว์อยู่ ไม่มีปัญหาใดแน่ รอปากมดลูกเปิดก็คลอดออกมาง่ายแล้ว” กล่าวจบ ก็ให้ชีมอมอไปด้านนอกเอายาช่วยคลอดที่อีกเดี๋ยวอาจจะต้องใช้
ชูซย่าได้ยินที่เนี่ยมอมอว่าก็สงบลง
ทว่าชีมอมอออกจากห้องคลอดมา ไปหยิบยาในห้องข้างๆ เพื่อดูแลอวิ๋นเหม่ยเหรินได้ตลอดเวลา ห้องของมอมอทั้งสองจึงอยู่ด้านหลังของห้องนอนหลัก ไม่นานก็มาถึงห้อง ยาได้ตระเตรียมไว้นานแล้ว ชีมอมอหยิบมาเตรียมจะออกไป เพิ่งออกประตูมา กลับเห็นคนเดินเข้าไปสองสามก้าว ‘ปั้ง’ เสียงปิดประตูดังขึ้น “ชีมอมอ นี่คือยาที่จะให้อวิ๋นเหม่ยเหรินหรือ”
“จะ…เจ้าคือ…” เนี่ยมอมออาศัยแสงสว่างอันน้อยนิดมองออกว่าคนๆ นั้นคือใคร นึกไม่ถึงว่าจะเป็นสาวใช้ข้างกายของเจี่ยงฮุ่ยเฟยแห่งตำหนักถงกวง
สาวใช้เดินเข้ามาสองสามก้าว สายตาขยับไหวตกลงบนห่อยาที่ทำด้วยหนังวัวในมือชีมอมอ ก็แย่งมาโดยพลัน
“นี่ท่านกำลังทำอันใด…” ชีมอมอตกใจ ทว่าเห็นสาวใช้คนนั้นหยิบของอีกห่อออกมาจากอก ยัดใส่มือตน “ยานี้เป็นเหนียงเหนียงข้าเตรียมไว้ช่วยคลอดแก่อวิ๋นเหม่ยเหริน มอมอใช้อันนี้เถิด”
ชีมอมอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าในยานี้ไม่ชอบมาพากล วังหลังใช้เรื่องการคลอดมาทำร้ายคนถึงชีวิตมีน้อยที่ไหน นางตกใจหน้าถอดสีพลางโบกมือไป “ข้าทำเรื่องพรรค์นี้ไม่ได้หรอก เหนียงเหนียงโปรดไปหาคนอื่นเถอะ! หากใครรู้เข้า ข้าได้ตายแน่!”
“ยามนี้ในวังหลังฮุ่ยเฟยเป็นใหญ่ที่สุด เรื่องนี้เจ้าไม่พูด ฮุ่ยเฟยไม่พูด ใครจะมารู้ได้ ต้องปิดไว้ให้แน่นหนาอยู่แล้ว หากเรื่องนี้สำเร็จ มอมอก็จะเป็นบุคคลที่ทำคุณงามความดีคนแรกให้แก่เหนียงเหนียง ถึงเวลานั้นต้องจัดเตรียมตำแหน่งที่เงินหนากว่านี้ให้แน่” สาวใช้ควักทองใบหนักอึ้งออกมาห่อหนึ่ง ยัดใส่กระเป๋าเสื้อของชีมอมอ กระซิบว่า “นี่เป็นรางวัลล่วงหน้าให้แก่ชีมอมอ”
ชีมอมอลูบกระเป๋าแขนเสื้อนั่นดู ท่าทางก็ละโมบยิ่ง ยิ่งได้ยินว่าจะหาตำแหน่งที่ดีกว่านี้มาให้ก็ยิ่งจิตใจหวั่นไหว ตอนแรกคิดว่าติดตามอวิ๋นเหม่ยเหรินที่ตั้งครรภ์มังกรก็ไม่เลว แต่ก็ค่อยๆ พบว่าไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ติดตามนางมานานเพียงนี้ ฝ่าบาทไม่เคยเสด็จมาเลยสักครั้ง อวิ๋นเหม่ยเหรินนางนี้ก็ไม่เคยออกตัวเอาอกเอาใจก่อนเลยเช่นกัน คิดๆ ดูแล้วก็เป็นทางที่ไม่มีอนาคต หากกลายเป็นคนที่ได้รับความโปรดปรานข้างกายฮุ่ยเฟย ต้องแข็งแกร่งกว่าอวิ๋นเหม่ยเหรินแน่
ชีมอมอคิดพลางกัดฟัน กำห่อยาไว้แน่น รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว วิ่งกลับไปยังห้องคลอด
ราตรีดึกสงัด อากาศร้อนอบอ้าวเพราะบรรดานางกำนัลเข้าๆ ออกๆ หอเหยาไถหลายครั้งกว่าเดิม เหมือนมีไฟซ่อนสุมไว้ จึงยิ่งแน่นหนากว่าเดิม
เหนียนกงกงได้รับบัญชาจากฝ่าบาทให้มาด้วยตัวเอง เดิมทีพอฝ่าบาทได้ยินว่าอวิ๋นหว่านชิ่นจะคลอดในคืนนี้ก็อยากจะเสด็จมา แต่ว่าแนวหน้าของแดนเหนือเพิ่งจะเกิดเรื่องนั้นขึ้น กำลังปรึกษาหารือกับเหล่าขุนนางอยู่ จึงเสด็จมาไม่ทัน
เห็นเสียงครวญครางด้านในม่านหนักขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ยังคงระงับไหว นึกไม่ถึงว่าต่อมาจะค่อยๆ ห้ามเสียงร้องไว้ไม่อยู่แล้ว ทว่ายังไม่มีเสียงร้องของทารก ชูซย่ามีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง ในขณะนั้นเอง เนี่ยมอมอภายในม่านก็เอ่ยขึ้นว่า “แย่แล้ว”
ชูซย่าใจเต้นกระหน่ำ เลิกม่านขึ้น “เกิดอันใดขึ้น!” เห็นชีมอมอยืนอยู่ข้างเตียงคลอด สีหน้าตื่นตระหนก เนี่ยมอมอคิ้วขมวด ถลกแขนเสื้อขึ้นสูง คล้ายว่ากำลังดันท้องเพื่อช่วยคลอด เห็นชูซย่าเข้ามา สีหน้าก็ไม่ผ่อนคลายเหมือนตอนที่ปลอบใจเมื่อครู่อีกแล้ว “เมื่อครู่ยังราบรื่นดีอยู่เลย ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ยามนี้ปากมดลูกไม่เปิดแล้ว ใช้วิธีเร่งคลอดตามปกติก็มิได้ผล…”
“หมายความว่าอย่างไร”
“ปากมดลูกไม่เปิดขึ้นอีก เกิดน้ำคล่ำหมดแล้วล่ะก็ อย่าว่าแต่จะรักษาเด็กไว้ไม่ได้เลย แม่ก็อันตรายเช่นกัน…” เนี่ยมอมอร้อนรน แล้วหันไปเร่งคลอดที่ข้างเตียงต่อ
ชูซย่าไม่อยากออกไปอีกแล้ว นางไปยังหน้าตั่งเตียง จับมือผู้เป็นนายเอาไว้แล้วอยู่เป็นเพื่อนข้างกาย
ด้านนอกลานบ้าน เหนียนกงกงกับฉีไหวเอินทราบสถานการณ์ด้านในจากนางกำนัล สีหน้าของทั้งสองก็เปลี่ยนไปมาก
“เมื่อครู่ยังดีอยู่เลยมิใช่หรือ เหตุใดจึงเกิดสถานการณ์การคลอดที่อันตรายได้เล่า!” เหนียนกงกงตบต้นขาแล้วสั่งขันทีน้อยว่า “เร็ว รีบไปเชิญเหยาย่วนพั่นมา ปรึกษากันว่าจะทำเช่นไร!”
ในขณะที่พวกเขากำลังรอการแจ้งจากด้านใน พริบตาเดียวก็ดึกดื่นขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เสียงครวญครางที่ได้ยินก่อนหน้านี้เบาลงไม่น้อย หากแต่เห็นได้ชัดว่ามิใช่เพราะไม่เจ็บแล้ว แต่เพราะหมดแรงแล้วต่างหาก
ภายในห้องคลอด เนี่ยมอมอใจคอไม่ดี เกรงว่าอวิ๋นเหม่ยเหรินกับโอรสจะฝืนกันไม่ไหวแล้ว จึงออกไปแจ้งด้วยน้ำตานองหน้าว่า “ฝังเข็ม ยาดื่ม ยาทา ดันท้องล้วนทำมาหมดแล้ว ไม่ได้ผลเลยเจ้าค่ะ หากคลอดไม่ได้ต่อไป นายหญิงฝืนไม่ไหว เจ็บปวดทรมานจนตายแน่”
“เหตุใดเหยาย่วนพั่นยังไม่มาอีก!” ฉีไหวเอินกระทืบเท้าอย่างร้อนใจ