ยอดหญิงอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 252.2 ผ่าคลอดทารก เชือดไก่ให้ลิงดู (2)
เนี่ยมอมอเอ่ยเสียงขื่นว่า “มาแล้วก็เกรงว่าจะไม่มีประโยชน์ เรื่องการทำคลอดนี้ ไม่แน่ว่าพวกเราเคยผ่านมาเยอะกว่าเหยาย่วนพั่นเสียอีก บ่าวว่าไปลองดูอีกรอบ เฮ้อ ทำได้เพียงสุดแต่สวรรค์แล้ว!” กล่าวจบก็หันหลังเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว
มอมอทั้งสองคนเป็นนางผดุงครรภ์ในวังมาสิบกว่าปี ไม่ว่าสถานการณ์เช่นไรล้วนเคยประสบพบเจอมาแล้วทั้งสิ้น หากพวกนางบอกว่าแย่ เช่นนั้นก็คงใกล้จะหมดหวังแน่แล้ว ฉีไหวเอินสีหน้าเขียวคล้ำ
ในขณะนั้นเอง เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นด้านนอกหอเหยาไถ เหยากวงเหย้าเดินนำคนสองคนที่แต่งตัวเหมือนขุนนางแพทย์เข้ามา
“ไอ้หยา เหยาย่วนพั่นเหตุใดท่านเพิ่งจะมาเล่า” เหนียนกงกงเข้าไปต้อนรับ ใบหน้าที่แต่ไหนแต่ไรมาเปล่งปลั่งมีเลือดฝาดของเหยากวงเหย้ายามนี้ทะมึนยิ่งนัก ไม่มีเวลามาพูดพร่ำทำเพลง เขายื่นมือขวางเหนียนกงกงไว้ กำชับฉีไหวเอินให้เรียกมอมอที่ทำคลอดมาถามสถานการณ์อย่างละเอียด ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็สาวเท้าเข้าไป
“นี่ๆ เหยาย่วนพั่นสั่งการอยู่ด้านนอกก็พอแล้ว เข้าห้องคลอดไม่ได้นะ…” เหนียนกงกงห้ามไว้ ฉีไหวเอินรีบนำพวกนางกำนัลของหอเหยาไถมาขวางเขาไว้ “นี่มันเวลาใดกันแล้ว! หากฝ่าบาททรงอยู่ต้องอนุญาตเป็นแน่!”
นั่นก็จริง เหนียนกงกงเงียบลง ไม่พูดอันใดอีก
เหยากวงเหย้าให้ขุนนางแพทย์สองคนอยู่ด้านนอก เขาก้าวเข้าไปในห้องคลอดตัวคนเดียว เห็นเพียงคนบนเตียงสองตากึ่งปิด ลมหายใจคล้ายแผ่วเบา สีหน้าไร้สีเลือดแม้แต่น้อย จุดฝังเข็มบริเวณท้องเต็มไปด้วยแผ่นยา และยังมีรอยนิ้วมือและรอยฝังเข็มทั้งหนักทั้งเบาอีกด้วย ทั้งหมดล้วนเพื่อนวดให้ช่วยคลอด แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ หนังบนท้องก็ยิ่งนูนกว่าเดิม ยังคงไร้วี่แววการเคลื่อนไหว
สายตาอันช่ำชองและดุดันกวาดมองบนโต๊ะรอบหนึ่ง ใช้ยาอย่างครบครัน สิ่งที่มอมอที่เป็นนางผดุงครรภ์ควรจะทำก็ล้วนทำหมดแล้ว หากยังคลอดไม่ได้อีก จำต้อง…
“ท่านอาจารย์” คนบนเตียงเห็นผู้มาใหม่ ริมฝีปากบางที่แตกก็ขยับไหว แย้มยิ้มตัวสั่นเทิ้ม
เหยากวงเหย้ามองนางนิ่ง “เด็กน้อย เจ้าวางใจได้ พวกเจ้าสองแม่ลูกไม่ตายหรอก”
ช่วงเวลาสุดท้ายของชาติที่แล้ว เหยาย่วนพั่นเคยช่วยนาง คิดไม่ถึงว่าในช่วงเวลาของความเป็นความตายในชาตินี้ก็ยังเป็นเหยาย่วนพั่น อวิ๋นหว่านชิ่นเกิดความมั่นใจขึ้น พยักหน้าให้
จนกระทั่งเหยากวงเหย้าออกมา สีหน้าก็ยิ่งหนักอึ้งมากกว่าเดิม ฉีไหวเอินกับเหนียนกงกงกำลังจะถาม ทว่าเห็นเขาเดินไปยังเบื้องหน้าของขุนนางแพทย์ทั้งสองที่มาด้วยกัน บอกสถานการณ์ด้านในให้ฟังครู่หนึ่ง
ขุนนางแพทย์หนึ่งในนั้นฟังจบก็หันไปเอ่ยกับอีกคนว่า “ขึ้นอยู่กับหมอตู้แล้ว”
หมอตู้รึ คืออะไรกัน เหนียนกงกงกับนางกำนัลกลุ่มหนึ่งต่างมองไปด้วยความตกใจ เห็นเพียงขุนนางแพทย์สองคนถอดหมวกออก ทันใดนั้นก็นิ่งอึ้งไป
เมื่อครู่คนทั้งกลุ่มร้อนใจดั่งไฟเผา ไหนเลยจะมาสนใจขุนนางแพทย์ที่เหยากวงเหย้าพามาอย่างละเอียด พอมองไปจึงได้พบว่าทั้งสองเป็นขุนนางแพทย์ที่ไหนกัน นึกไม่ถึงว่าคนหนึ่งจะเป็นทูตแห่งต้าสือคนนั้นอย่างใต้เท้าเฟิ่งที่ต่อมาพักอยู่ที่เยี่ยจิง อีกคนคือคนที่โดนเฟิ่งจิ่วหลังเรียกว่า ‘หมอตู้’ ทำให้บรรดานางกำนัลยิ่งสูดหายใจลึก ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนชาติตะวันตกที่จมูกโด่งเบ้าตาลึกผมทองหนวดเคราเต็มหน้า อายุอานามดูๆ แล้วหกสิบกว่า ยามนี้ได้ฟังคำพูดของเฟิ่งจิ่วหลัง ก็สะพายกระเป๋าแพทย์จะเดินเข้าไปทางห้องคลอด
เหนียนกงกงปฏิกิริยาว่องไว รีบเข้าไปดึงเอาไว้ “นี่ใคร จะเข้าไปทำไม…”
เฟิ่งจิ่วหลังปัดมือเหนียนกงกง “ท่านหมอตู้นั่วหม่าประกอบอาชีพแพทย์ที่บ้านเกิดมาสามสิบปี เคยทำคลอดให้แก่สตรีที่คลอดยากมาไม่น้อย เรียกได้ว่าเป็นสหายเก่ากันกับข้า เพิ่งจะมาสอนที่ต้าเซวียน ยามนี้ อวิ๋นเหม่ยเหรินครรภ์แย่แล้ว จำต้องผ่าท้อง!”
การละเล่นของคนตะวันตกนั่นเหนียนกงกงไม่เข้าใจ ได้ยินแค่คำว่าผ่าท้องสองคำ สีหน้าก็ซีดขาว “ผ่าท้องรึ จะแหวกท้องน่ะรึ นั่นมิใช่ส่งไปตายหรือไร คนพอโดนผ่าท้องยังจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกรึ อย่ามาเหลวไหล!”
“วางใจได้ ข้าน้อยมียาชา สามารถระงับความเจ็บปวดของการคลอดได้ รอจนผ่าท้องเอาเด็กออกมาแล้ว ก็จะเย็บปิดอย่างรวดเร็ว” หมอตู้เอ่ย
ยังมาแทนว่าข้าน้อยได้ด้วย ชาวต่างชาติคนนี้รู้จักพูดจาไม่น้อย เหนียนกงกงไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ทว่าก็ยังไม่ยินยอมอยู่ดี “เหยาย่วนพั่นเข้าไปก็พอแล้ว คนผมทองตาฟ้าคนนี้เข้าไปจะไปทำอันใดได้ อวิ๋นเหม่ยเหรินจะไม่โดนเขามองจนพรุนเลยรึ นะ…นี่มันไม่เหมาะสมนะ!”
เฟิ่งจิ่วหลังได้ยินมาว่าอวิ๋นหว่านชิ่นจะคลอด ทั้งยังทราบว่าชาวฮั่นที่นี่มีสถิติการตายในการคลอดสูงมาก จึงได้บอกกับตู้นั่วหม่าเป็นพิเศษว่าให้ตระเตรียมให้พร้อมไว้ตลอดเวลา แล้วก็ได้เกริ่นบอกกับเหยาย่วยพั่นที่ร่วมกันรับผิดชอบผดุงครรภ์ไว้ด้วย
คิดไม่ถึงว่า วันนี้จะได้พบสถานการณ์อันตรายในการคลอดเข้าจริงๆ เหยากวงเหย้าได้ฟังสถานการณ์ของอวิ๋นหว่านชิ่น รู้ซึ้งว่าฝีมือการแพทย์ของจีนอาจจะช่วยเหลือด้านการคลอดได้อย่างจำกัด จึงส่งคนให้ไปตาม เฟิ่งจิ่วหลังจึงไม่ลังเลอีกต่อไป รีบเรียกหมอตู้นั่วหม่าให้เข้าวังไปกับเหยากวงเหย้าทันที
“ดินแดนแคว้นตะวันตก มีบุรุษทำคลอดให้สตรีมากมายถมเถไป ในสายตาของหมอไม่แบ่งแยกชายหญิง ไหนเลยจะมีความเหมาะหรือไม่เหมาะสม กงกงมาประวิงเวลาเช่นนี้ ฮ่องเต้ของพวกเจ้าได้มาคิดบัญชีกับเจ้าแน่” ดวงตาสีฟ้าของเฟิ่งจิ่วหลังดุดันขึ้น ไม่อธิบายต่อ ผลักตู้นั่วหม่าเข้าไปในห้องคลอดทันที
เหนียนกงกงกำลังจะไปขวางไว้อีก กลับถูกเหยากวงเหย้าดึงเอาไว้ไม่ปล่อย เขาทอดถอนใจออกมา ได้ ยังมีวิธีอื่นอีกรึ จำต้องลองดูเท่านั้นแล้ว!
ภายในลานบ้าน ทุกคนผ่านพ้นวันไปราวกับผ่านไปเป็นปี เหงื่อเปียกชุ่มอาภรณ์ เห็นนางกำนัลยกกะละมังเลือดเข้าๆ ออกๆ หลายครั้ง ก็ยิ่งกลัวและกังวลจนอยู่ไม่สุข
นี่มันผ่าเปิดท้องเชียวนะ! เหนียนกงกงเสียใจขึ้นมาอีกครั้งที่ปล่อยให้หมอตู้เข้าไปโดยง่าย ฝ่ามือมีเหงื่อออก ล้วนเตรียมใจจะกลับไปรายงานการตายแก่ฝ่าบาท และขอรับโทษทัณฑ์แล้ว
เหยากวงเหย้ากับเฟิ่งจิ่วหลังมั่นอกมั่นใจ เหนียนกงกงกับฉีไหวเอินกลับเดินกลับไปกลับมา ยืนอยู่นิ่งๆ ไม่ได้
ท่ามกลางเสียงจักจั่นและแมลงร่ำร้องสอดประสาน ราตรีค่อยๆ ดึกสงัดขึ้นเรื่อยๆ มุมด้านตะวันออกเฉียงเหนืออันเงียบสงบของวัง ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องของทารกดังก้องขึ้น เสียงร้องดังเสียดฟ้า กำลังมากพอดู ราวกับนกขุนทองตัวน้อยที่ร้องเพลงเสียงดังตั้งแต่แรกเกิด พละกำลังไม่น้อย คนในตำหนักใกล้เคียงต่างได้ยินกันอย่างชัดเจน
“ไอ้หยา เสียงร้องนี้ดังจริงๆ ร้ายกาจ! ต่อไปต้องเก่งกาจมากแน่!” เหยากวงเหย้าไม่อาจหักห้ามใจได้
เพียงไม่นาน ก็มีนางกำนัลวิ่งออกมา ตื่นเต้นจนหน้าแดง “คลอดแล้วเจ้าค่ะ คลอดแล้ว!”
“ยามนี้นายหญิงเหม่ยเหรินเป็นอย่างไรบ้าง!” ฉีไหวเอินเบิกตาโต
“เป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง” เหยากวงเหย้าเอ่ยเสริม
“เป็นองค์ชายน้อยเจ้าค่ะ มารดาปลอดภัย แต่หมอต่างชาติคนนั้นยังเย็บแผลให้นายหญิงอยู่ อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ว่าหมอต่างชาติคนนั้นบอกว่าน่าจะไม่มีปัญหาใด ใกล้จะเสร็จแล้ว! เมื่อครู่ เหม่ยเหรินรู้สึกตัว ดูโอรสน้อยไปแล้วด้วย” นางกำนัลหอบหายใจ
เหยากวงเหย้ากับเฟิ่งจิ่วหลังถอนหายใจออกมา
ในขณะนั้นเอง เนี่ยมอมอก็อุ้มทารกแรกเกิดออกมาหน้าห้อง
เพราะในตอนที่ตั้งครรภ์อยู่มารดาบำรุงดี ทารกน้อยจึงสมบูรณ์จ้ำม่ำ ยามนี้ยังไม่ทันจะได้อาบน้ำให้ ก็ห่อไว้ในพรมไหม ตัวแดงไปทั้งตัวเหมือนแมวแรกเกิด ทว่าไม่เหี่ยวย่นเหมือนทารกทั่วไป เขามีกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นน้ำนมอย่างธรรมชาติ
เนี่ยมอมอแหวกมุมพรมออกเล็กน้อย เผยให้เห็นเครื่องเพศที่องอาจและทรงพลัง ให้เหนียนกงกงได้ตรวจดูเพื่อกลับไปทูลรายงาน ซ้ำยังดึงเลิกขึ้นอย่างปรีดา “เหนียนกงกงดูสิ เป็นองค์ชาย”
ทารกน้อยถูกคุกคามในที่สงวนคิ้วจึงพลันขมวดมุ่น ร้องไห้อุแว้ออกมาดังกว่าเดิม
“ดี เสียงร้องร้ายกาจ กระทั่งหนอนน้อยก็งอกออกมาแล้ว! โตไปไม่รู้ว่าจะมีสตรีมากมายเพียงใดมาถูกใจจนถอนตัวไม่ขึ้น!” เหยากวงเหย้าพอได้ปรีดาขึ้นมาก็ไม่สนใจระวังคำพูดแล้ว
ฉีไหวเอินพยักหน้าหงึกหงัก แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ดูเสียบ้างว่าเป็นลูกชายของใคร!