ยอดหญิงอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 252.4 ผ่าคลอดทารก เชือดไก่ให้ลิงดู (4)
ฉีไหวเอินเข้าใจในเจตนาของนาง เป็นปรปักษ์กับเจี่ยงอวี๋ที่มีตำแหน่งสูงสุดในวังหลังยามนี้ ก็ต้องให้ศัตรูอยู่ในที่แจ้ง เราอยู่ในที่ลับ ไม่อาจให้ฮุ่ยเฟยรู้ได้ว่าเหม่ยเหรินรู้การกระทำของพวกเขาแล้ว
เขาพยักหน้า แบกชีมอมอออกจากประตูด้านข้างของเรือนไปยังหลังเรือน
พอเขาออกไป เนี่ยมอมอดูจนเหงื่อเย็นผุดซึมเต็มหลังตั้งนานแล้ว ก็อุ้มองค์ชายน้อยไว้แน่น ไม่กล้าส่งเสียง
อวิ๋นหว่านชิ่นมองนางแวบหนึ่ง เอ่ยเสียงนุ่มว่า “ทำเนี่ยมอมอตกใจแล้ว ข้าไม่ทำเช่นนี้กับคนรับใช้ที่จงรักภักดีหรอก”
เนี่ยมอมอไหนเลยจะไม่รู้ว่าเหม่ยเหรินจงใจให้ตนที่อยู่ ณ ที่นั้นด้วยได้ดูละครเชือดไก่ให้ลิงดู นางอุ้มห่อผ้าอ้อมไว้แล้วคุกเข่าลง “บ่าวจะไม่ทำผิดเหมือนแม่นางชีเด็ดขาดเพคะ ต่อให้คนทางด้านตำหนักถงกวงจะถามถึงการตายของนาง บ่าวก็จะช่วยต้อนรับขับสู้กำจัดความสงสัยของพวกนางให้เพคะ ขอเหม่ยเหรินโปรดวางใจ แต่นี้ไปบ่าวมีเพียงเหม่ยเหรินและองค์ชายน้อยเป็นนายเพคะ!”
“ไทฮองไทเฮาเพิ่งจะส่งของบำรุงอันโด่งดังมาให้ ข้าคนเดียวกินไม่หมดมากมายเพียงนั้น อีกเดี๋ยวข้าจะให้ชูซย่าเอาไปให้เจ้าที่ห้อง เจ้าจะเอาไปกินเองก็ดี หรือจะส่งออกไปให้คนในครอบครัวเปลี่ยนมาเป็นเงินก็ดี ล้วนได้ทั้งหมด” อวิ๋นหว่านชิ่นแย้มยิ้มบางเอ่ยขึ้น
เนี่ยมอมอรีบเอ่ยว่า “เพคะ ขอบพระทัยนายหญิงเพคะ” กล่าวจบก็อุ้มทารกออกไปด้วยความระมัดระวัง
ภายในห้องเงียบสงบลง อวิ๋นหว่านชิ่นถอนหายใจออกมา พอมีสมาธิ ก็เจ็บแผลขึ้นมาอีก นึกไปถึงรายงานของฉีไหวเอินที่หน้าฝอถังเมื่อวานนี้ จิตใจก็ไหวหวั่น แผลก็ยิ่งเจ็บมากกว่าเดิม
ชูซย่าเดาได้ว่านางกำลังคิดอันใดอยู่ สีหน้าก็มืดมนขึ้นมาไม่น้อย ในขณะที่กำลังจะเอ่ยขึ้น กลับได้ยินเสียงนางกำนัลดังขึ้นมาจากด้านนอก “เหนียนกงกงมาแล้วเพคะ”
ด้านนอกม่าน เสียงยินดีปรีดาของเหนียนกงกงดังขึ้น “ยินดีกับอวิ๋นเหม่ยเหรินที่ได้พระโอรสด้วย ฝ่าบาทให้บ่าวมามอบของขวัญให้ และฝากบ่าวมาบอกด้วยว่าให้เหม่ยเหรินพักผ่อนหลังคลอดให้ดี”
เวลาหลังคลอดยังไม่ถึงครึ่งวันดี แต่ละตำหนักต่างส่งของขวัญมาให้ อวิ๋นหว่านชิ่นแจกจ่ายออกไปเป็นส่วนใหญ่ นับได้ว่าเป็นการมัดใจคน จะได้ไม่เกิดเรื่องอย่างแม่นางชีเช่นนั้นอีก บรรดานางกำนัลของหอเหยาไถต่างยินดีปรีดาไม่สิ้น
ภายในม่านเตียง อวิ๋นหว่านชิ่นขานรับว่า “ขอบคุณเหนียนกงกงยิ่ง และรบกวนเหนียนกงกงช่วยขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาทด้วย”
年公公答应了两句,正要告辞,却听屋内女子轻声一喊:“年公公,北方前线前些天是不是出事了。”
เหนียนกงกงขานรับ กำลังจะเอ่ยลากลับได้ยินเสียงสตรีในห้องเรียกไว้เบาๆ “เหนียนกงกง หลายวันก่อนแนวหน้าของแดนเหนือเกิดเรื่องขึ้นใช่หรือไม่”
เหนียนกงกงรู้ดีว่าข่าวต้องแพร่มาถึงหอเหยาไถ ทว่านึกไม่ถึงว่าจะไวเพียงนี้ เขาตอบแบบผ่านๆ ว่า “หมู่นี้แนวหน้าวุ่นแต่ทำสงคราม วันใดบ้างที่จะไม่เกิดเรื่อง”
อวิ๋นหว่านชิ่นกลับคล้ายไม่ได้ยิน น้ำเสียงนางสั่นเบาๆ ยังคงเอ่ยต่อไปว่า “สงครามที่เขาบงกชหิมะเมื่อวันก่อน ทัพของต้าเซวียนไม่ทันระวังตกหลุมพรางของเหมิงหนูเข้า คนและม้าตกลงไปในหุบเขา จนถึงตอนนี้ก็ยังไร้ข่าวคราว เป็นกองทัพของฉินอ๋องใช่หรือไม่”
ชูซย่าตกใจ ขมวดคิ้วมุ่น วันนั้นที่ฝอถัง นายหญิงได้ยินข่าวจากฉีไหวเอินจึงได้โดนกระตุ้นให้คลอดก่อนกำหนด วันนี้นายหญิงฟื้นแล้ว นางยังหวาดหวั่นไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจอย่างไรดี เห็นนายหญิงไม่ได้เอ่ยคำใด สนใจดูแลแต่บัวลอยน้อยอย่างเดียว นางจึงเบาใจลง คิดไม่ถึงว่ายามนี้จะมาถามเอากับเหนียนกงกง
เหนียนกงกงเห็นว่าในเมื่อนางเอ่ยขึ้นมาแล้ว ก็ไม่กล้าปฏิเสธอีก จึงเงียบงันไป
ชูซย่าเห็นเขาเงียบ ก็รีบมองไปยังอวิ๋นหว่านชิ่นทันที กลับเห็นนางพิงหัวเตียง ไม่มีการแสดงสีหน้าท่าทางมากมายอะไร มีเพียงเปลือกตาที่กระตุกเล็กน้อยเท่านั้น
ฉีไหวเอินที่อยู่ด้านนอกก็พุ่งเข้ามาคุกเข่า กอดชุดคลุมเหนียนกงกงไว้ “เหนียนกงกง…ให้คนไปหาด้านล่างเขาแล้วหรือยัง”
“รายงานทางการทหารของอี๋ซื่ออ๋องบอกว่า ได้ส่งคนไปค้นหาล่างผาอย่างช้าๆ แล้ว ตะ…แต่เขาบงกชหิมะเป็นเทือกเขาที่สูงและอันตรายที่สุดของแดนเหนือ หินแปลกประหลาดตะปุ่มตะป่ำมากมาย อุปสรรคทางธรรมชาติรอบด้าน เป็นหน้าผาที่ลึกที่สุด สูงชันดั่งกำแพง…” ประโยคอีกครึ่งหนึ่งด้านหลังเหนียนกงกงยังพูดไม่ทันจบ ทุกคนก็รู้แล้ว ครึ่งประโยคที่ไม่ได้พูดไปก็คือ ‘พวกเจ้าทำใจกันไว้เสียแต่เนิ่นๆ เถิด’
ฉีไหวเอินขอบตาแดงก่ำ ชูซย่าร่างกายอ่อนยวบ ผ้าไว้เช็ดน้ำตาให้นายหญิงในฝ่ามือก็ตกลงบนพื้น
ครู่ต่อมา อวิ๋นหว่านชิ่นจึงเอ่ยอย่างเนิบช้าว่า “ขอบคุณเหนียนกงกงยิ่งที่บอกกล่าว”
เหนียนกงกงเห็นนางสงบนิ่งเช่นนี้ กลับแปลกใจเล็กน้อย จึงได้ขอตัวลา
ฉีไหวเอินรอจนเหนียนกงกงกลับไป ก็เข้ามาคุกเข่าหน้าเตียงกับชูซย่า อวิ๋นหว่านชิ่นเห็นทั้งสองขอบตาแดงก่ำ ยกแขนเสื้อคล้ายจะเช็ดน้ำตา ดวงตากลับดุดันขึ้น “เอามือลง เช็ดน้ำตาอันใด! มีชีวิตอยู่ต้องเจอตัว หากตายแล้วก็ต้องเห็นศพ พวกเจ้าจะมาร้องห่มร้องไห้อันใดกัน!”
เหนียนกงกงบอกแล้วว่าเขาหิมะบงกชนั่นหน้าผาสูงชัน หากเขาตกลงไปจริงๆ เกรงว่าได้แหลกลาญแน่ ไหนเลยจะยังมีศพให้เห็นได้อีก ฉีไหวเอินได้ฟังก็ยิ่งเจ็บปวดใจ
ชูซย่าเห็นนายหญิงยังหอบความหวังไว้อยู่ ดีกว่าเลิกคิดอย่างเด็ดขาด จึงถอนหายใจออกมา หยิกเนื้อต้นขาของฉีไหวเอินอย่างแรง ฉีไหวเอินจึงได้ปล่อยแขนเสื้อลง
ในเมื่อทำสงคราม ก็ต้องมีอันตรายอยู่แล้ว เขาทนความทุกข์ยากมานานเพียงนี้ จะเสียชีวิตในหุบเขาแห่งหนึ่งได้เชียวหรือ
อวิ๋นหว่านชิ่นกอดความหวังว่าไม่ช้าก็เร็วเขาจะกลับมาเอาไว้ตั้งแต่ต้น นางค่อยๆ นอนลงช้าๆ ตาแป๋วไร้ผลกระทบใด ยามนี้คิดเพียงแค่อยากจะรักษาร่างกายให้หายโดยเร็ว จึงจะสามารถปกป้องบัวลอยน้อยได้
ยังไม่ถึงครึ่งเดือนดี อวิ๋นหว่านชิ่นก็สามารถลงจากเตียงออกมาเดินได้แล้ว แผลก็ปิดสนิทดีแล้ว ในระหว่างนั้น เฟิ่งจิ่วหลังวานให้เหยากวงเหย้านำยาที่หมอตู้นั่วหม่าได้มาจากแดนตะวันตกเข้าวังมาให้ เทียบกับวัตถุดิบยาของจงหยวนแล้ว ยาตะวันตกเห็นผลไวดีมาก ผนวกกับการบำรุงจากยาดีในวัง เรื่องให้นมมีแม่นมโดยเฉพาะ ร่างกายจึงฟื้นฟูได้ไวมาก
ตามกฎธรรมเนียมของวังหลวง หลังจากองค์ชายหรือองค์หญิงประสูติจะส่งให้สำนักลูกยาเธอเลี้ยง ทางด้านนี้ ก่อนอวิ๋นหว่านชิ่นจะคลอดได้เกริ่นกับเหนียนกงกงไว้แล้วว่านางอยากจะเลี้ยงเอง ทางฝ่าบาทก็ตอบมาแค่ว่าถึงเวลานั้นจะหาเหตุผลมาปล่อยเขาไป
การคลอดอย่างยากลำบากครานี้ เกือบจะเสียชีวิตกันทั้งแม่ทั้งลูก กลับเป็นเหตุผลชั้นดีพอดี ในนามของฝ่าบาท บุตรของแม่นางอวิ๋นแห่งหอเหยาไถเดิมก็คลอดก่อนกำหนด อีกทั้งยังคลอดยาก องค์ชายร่างกายอ่อนแอ ก่อนครบหนึ่งชันษาจึงให้เลี้ยงไว้กับมารดาชั่วคราว
หลังจากนั้นหนึ่งเดือนเต็ม อวิ๋นหว่านชิ่นก็ร่างกายเบาสบายมากขึ้นแล้ว เพื่อกระตุ้นการฟื้นฟู จึงมิได้เกียจคร้านอยู่แต่ในห้องต่อ นางจะเดินรอบลานบ้านหลายครั้งทุกวัน หากแต่บนหน้าท้องมีรอยแผลเป็นเพิ่มขึ้นมา ทว่าตอนตั้งครรภ์ นางก็ทายาลดรอยไปไม่น้อย กลัวว่าคลอดลูกแล้วผิวท้องจะมีลายพร้อย จิตใจรักสวยรักงามมีอยู่ตลอดเวลา ยามนี้การผ่าท้องคลอดผ่านไป ซ้ำยังมีรอยมีดเพิ่มมา นางจึงทายาลดรอยไปไม่น้อย หลังจากตื่นนอนในทุกๆ วันและก่อนนอนนางจะทาไว้ ไม่เพียงแต่จะได้ผลกับรอยแผลเท่านั้น ยังสามารถกระชับเอวให้บางได้อีกด้วย
เช้าวันนี้ อวิ๋นหว่านชิ่นตื่นขึ้นกำลังเปิดเสื้อตัวเล็กอยู่บนเตียง ใช้ยาหอมทาบริเวณท้องน้อย ชูซย่ายกน้ำเข้ามา ได้กลิ่นหอมจึงมองตามไป เสื้อผืนบางของคนบนเตียงแหวกออกกึ่งหนึ่ง นางโน้มท่อนบนลง ขนตายาวปิดเบาๆ ริมฝีปากอิ่มแดง งดงามทำคนหลงใหล แม้บนท้องจะมีรอยแผลเป็นจางๆ แต่ก็จางลงทุกวันแล้ว อีกไม่นานก็จะจางหายทั้งหมด
แม้จะเป็นสตรีเหมือนกัน แต่ชูซย่าก็อดจะมองจนหน้าแดงใจเต้นมิได้ นางเอ่ยอย่างจริงใจว่า “คนเขาบอกว่าสตรีที่คลอดลูกจะโทรม สู้เด็กสาวมิได้แล้ว ยามนี้บ่าวไม่เชื่อเลยสักนิด ตอนนี้ท่านสวยเสียยิ่งกว่าเมื่อก่อนอีกเจ้าค่ะ”
เพิ่งจะเอ่ยขึ้น นางกำนัลหอเหยาไถก็มายังนอกห้อง รายงานว่า “เหม่ยเหริน ตำหนักถงกวงมีจดหมายมาบอกว่าวันนี้อากาศเย็นสบาย ฮุ่ยเฟยจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ที่สวนหลวง เชิญสตรีในวังหลังไปร่วมจิบชารับลมเย็นๆ ด้วยกัน ได้ยินมาว่าเหม่ยเหรินร่างกายฟื้นตัวดียิ่ง จึงเชิญเหม่ยเหรินไปเที่ยวด้วยกันเป็นพิเศษเพคะ”