ยอดหญิงอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 90-4 ดอกไม้ไฟริมน้ำ กับ อับอายในคืนวิวาห์
ด้านอวิ๋นหว่านถง ขณะนั่งอยู่ในเกี้ยวที่ถูกแบกเข้ามาในจวนเว่ยอ๋อง ก็เลิกผ้าคลุมหน้าขึ้นเงียบๆ แล้วกวาดตามองไปทั่ว พอเห็นว่าจวนอ๋องใหญ่โตกว่าจวนบิดาตนไม่ต่ำกว่าสิบเท่า ก็ตาวาว จิตใจที่หดหู่ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ค่อยรู้สึกดีขึ้นเป็นกอง
ทว่าอวิ๋นหว่านถงนั่งรออยู่ในห้องหอชายารองครึ่งค่อนวัน ก็ไม่เห็นเว่ยอ๋องมาเสียที พอตกกลางคืน ที่สุดแล้ว ก็มีสาวใช้ในจวนเข้ามากันหลายคน ช่วยถอดผ้าคลุมหน้า ถอดชุดเจ้าสาวให้ บอกว่ามารับใช้ตนก่อนเข้านอน
เข้านอน? จนถึงตอนนี้ตนยังไม่เห็นเจ้าบ่าว จะให้นอนหลับได้อย่างไร
อวิ๋นหว่านถงขมวดคิ้ว “ท่านอ๋องดื่มจนเมาแล้วใช่ไหม ยังอยู่ในงานเลี้ยงหรือเปล่า ข้าไปปรนนิบัติหน่อยจะดีกว่า อากาศเย็นลงแล้ว เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา”
พ่อบ้านส่งสาวใช้นางหนึ่งชื่อยวนยาง มาปรนนิบัติผู้มาใหม่ นางอ้ำๆ อึ้งๆ อยู่นาน ก่อนว่า
“ชายารองไม่ต้องไปปรนนิบัติหรอกเจ้าค่ะ ท่านอ๋องเข้าเรือนแล้ว แขกก็กลับกันหมดแล้ว ชายารองพักผ่อนก่อนเถิด”
เข้าเรือน? เข้าเรือนไหน คืนวันวิวาห์ ไม่เข้าเรือนตน ยังจะเข้าเรือนไหนได้?
อวิ๋นหว่านถงยกมือปัดมือของยวนยางออก แล้วเดินออกจากห้องไป ยวนยางเห็นว่านางเหมือนจะเดินทั่วทั้งจวนเพื่อตามหา จึงรีบเดินตามไป พลางว่า
“ชายารอง ท่านอ๋องไปเรือนรุ่ยเสวี่ย คืนนี้ไม่มาแล้วเจ้าค่ะ ท่านเข้านอนก่อนเถิด”
เรือนรุ่ยเสวี่ย? ชื่อเริ่ดซะไม่มี น่าจะเป็นที่อยู่ของนางจิ้งจอกที่จวนอ๋องเลี้ยงไว้
อวิ๋นหว่านถงมั่นใจในตัวเองมากว่า หลังบ้านจวนอ๋องนั้นตนใหญ่สุด ไหนเลยจะยอมให้นางบำเรอหน้าไหนมาครอบครองเจ้าบ่าวของตนในคืนวิวาห์เล่า หลายปีมานี้ ขณะอยู่บ้านสกุลอวิ๋น แม้ตนสงบเสงี่ยมเจียมเนื้อเจียมตนตามท่านแม่ แต่สิ่งที่ควรเรียนรู้ก็ได้เรียนรู้โดยไม่ตกหล่น วันนี้ถ้าไม่แสดงฤทธิ์เดชให้เห็น หญิงสาวทั้ง
จวนอ๋องอาจดูแคลนตนได้ พอคิดเช่นนี้ จึงยกเครื่องหัวเจ้าสาวออก แล้ววิ่งไปยังเรือนรุ่ยเสวี่ยทันที ขนาดยวนยางกับสาวใช้อีกสองสามคนรีบวิ่งตามก็ยังตามไม่ทัน
พอคลำทางมาถึงเรือนรุ่ยเสวี่ย เพียงยืนอยู่นอกชานเรือน อวิ๋นหว่านถงก็ได้ยินเสียงพูดคุยหัวเราะต่อกระซิกดังมาจากด้านในแล้ว
หนึ่งในเสียงๆ นั้นก็คือเสียงของเว่ยอ๋อง ซย่าโหวซื่อยวน ส่วนอีกเสียงหนึ่ง แม้ไมได้ยินไม่ถนัด แต่ก็เป็นเสียงที่นุ่มนวลมาก ความหึงหวงจึงพุ่งปรี๊ด อวิ๋นหว่านถงอยากเห็นเหลือเกินว่า เป็นนางจิ้งจอกพันธุ์ไหน ที่ดึงดูดใจจนท่านอ๋องถึงกับก้าวขาไม่ออกในคืนวิวาห์ได้!
อวิ๋นหว่านถงข่มกลั้นความริษยา เคาะประตู แล้วพูดเสียงเบา “ท่านอ๋อง ข้าเอง”
พอรู้ว่าเป็นคุณหนูอวิ๋นมาขัดจังหวะความสุข เว่ยอ๋องก็พยายามระงับความโกรธ
“เจ้ามาทำไม เด็กๆ ยังไม่พาชายารองกลับไปอีก”
ให้ตายอย่างไรอวิ๋นหว่านถงก็ไม่ยอมกลับ “ท่านอ๋อง คืนนี้เป็นคืนวิวาห์ของท่านกับข้า พรุ่งนี้เช้าต้องมีคนในวังมา หรือท่านจะไม่ไปที่เรือนข้าจริงๆ”
“ข้ามีธุระ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน!”
อวิ๋นหว่านถงไม่ยอม จึงล้วงผ้าขาวออกมาผืนหนึ่ง แล้วยื่นเข้าไปทางช่องหน้าต่างที่แง้มอยู่ จงใจให้คนในห้องเห็น “ท่านอ๋อง ถ้าคืนนี้ท่านไม่เข้าหอ พรุ่งนี้จะอธิบายกับคนในวังอย่างไร”
พอเยี่ยหนานเฟิงเห็นคุณหนูอวิ๋นตามตื้อไม่เลิก ก็รู้สึกว่านางอึดกว่าหญิงสาวคนอื่นๆ ในจวนอ๋อง จึงแอบแค่นเสียงออกมาเบาๆ แล้วหันมาอิงแอบข้างกายเว่ยอ๋อง พลางพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน
“ไหนๆ ชายารองก็มาแล้ว ให้นางเข้ามาพูดในนี้เถิด อากาศหนาวนะเพคะ ถ้านางยืนจนตัวแข็ง เราจะทำอย่างไรกันดี ถ้าทางไทเฮารู้ จะหาว่าท่านห้า ดูแลคนที่ทรงมอบให้ไม่ดีนะเพคะ”
เสียงออดอ้อนจนน่าหมั่นไส้ อวิ๋นหว่านถงโมโหจนอยากผลักประตูเข้าไปเดี๋ยวนั้น นี่มันไม่เห็นตนอยู่ในสายตาชัดๆ
เว่ยอ๋องได้ยินเยี่ยหนานเฟิงกระเซ้ากระซี้ ค่อยตอบตกลง “ก็ได้ๆ เจ้าเข้ามาก่อน”
อวิ๋นหว่านถงเห็นว่า พอนางจิ้งจอกพูด เว่ยอ๋องก็ตอบตกลงทันที ก็ยิ่งกำมือแน่นเข้าไปอีก นำผ้าขาวยัดคืนเข้าไปในอกเสื้อ แล้วผลักประตู
พอก้าวเข้าไปในห้อง ก็ยืนตะลึงงัน
ในห้องอบอวลไปด้วยไออุ่นจากเตาทำความร้อนที่อยู่ใต้พื้นห้อง นางจิ้งจอกผมยาวประบ่า สวมชุดผ้าไหมบางเบา รูปร่างผอมเพรียวได้สัดส่วน ซบอย่างนุ่มนิ่มไร้กระดูกดุจดินโคลนอยู่บนร่างของเว่ยอ๋อง
ชัดเจนว่าเป็นผู้ชาย!
เยี่ยหนานเฟิงก็มิได้หลบเลี่ยงว่าตนคลอเคลียอยู่กับเว่ยอ๋อง เมื่ออยากดู ก็ดูเสียให้เต็มตา!
และพอเห็นว่าคุณหนูอวิ๋นตกตะลึง เยี่ยหนานเฟิงก็ลุกขึ้นยืน เดินเข้าหา ก่อนพูดอย่างนุ่มนวล
“บ่าวหนานเฟิง ถวายพระพรชายายรอง”
ดวงตาหงส์คู่งาม มองอย่างท้าทาย!
อวิ๋นหว่านถงเคยเห็นแต่ผู้หญิงกับผู้หญิงแย่งชิงอำนาจหลังบ้านกัน ท่านแม่ก็เคยสอนแค่ว่าให้สู้กับพวกนางจิ้งจอกอย่างไร ไหนเลยจะรู้ว่าเว่ยอ๋องก็รักผู้ชายด้วย! ถ้าแพ้ให้กับน้ำมือผู้หญิงยังพอทำเนา แต่ตอนนี้ตนแพ้ให้กับน้ำมือผู้ชาย ย่อมต้องกระอักโลหิต ขณะร้อนใจ อวิ๋นหว่านถงก็เงื้อมือขึ้น ตบไปหนึ่งฉาด
“เพี๊ยะ” ตบลงบนแก้มขาวๆ ด้านซ้ายของเยี่ยหนานเฟิงพอดี
ทำเอาชายหนุ่มเซไปด้านหลังสองก้าว ยกมือขึ้นกุมแก้ม แล้วร้องไห้ออกมา
“ท่านห้า ท่านห้า ชายารองลงไม้ลงมือตบตีคน…”
“ไร้เหตุผลสิ้นดี!”
เมื่อเว่ยอ๋องเห็นใบหน้าครึ่งหนึ่งของเยี่ยหนานเฟิงบวมขึ้นมา ก็ลุกพรวดขึ้นจากเตียง เดินดุ่มๆ เข้า
หาอวิ๋นหว่านถง แล้วตบกลับอย่างไม่ต้องคิด “ยังไม่กลับไปอีก!”
อวิ๋นหว่านถงไม่คาดคิดมาก่อน พอถูกตบก็ถอยหลังไปสองสามก้าว บังเอิญชนถูกกระถางกำยานหอมที่อยู่กลางห้องดัง “แคร้ง”
นางสะดุดล้ม หน้าผากชนเข้ากับด้านหนึ่งของกระถางกำยานหอม ทำให้เกิดแผลแตก โลหิตไหลออกทันที
เว่ยอ๋องเหลือบมอง แล้วรีบยื่นแขนออกไปดึงผ้าขาวออกจากอกเสื้อของอวิ๋นหว่านถง โดยไม่สนใจว่านางจะเจ็บจนอ้าปากร้อง ก่อนนำมาเช็ดโลหิตบนหน้าผากนาง ทำให้ผ้าขาวเปื้อนโลหิต
เว่ยอ๋องโบกมือเรียกสาวใช้ แล้วโยนผ้าขาวให้กับยวนยางที่วิ่งเข้ามา แล้วว่า
“พรุ่งนี้ก็มีคำอธิบายแล้ว!”