เล่ห์รักกลกาล [ส่วนที่ 1] - ตอนที่ 14
นางพูดไป น้ำตาก็ไหลออกมากลับไม่ดูน่าสงสารเลย
เขาคิดไม่ถึงว่านางจะพูดเช่นนี้ เป่ยเฉินเสียเยี่ยนนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นตั้งใจมองนาง
เสียงอ่อนโยน ถาม “เคราะห์ดีที่สวรรค์คุ้มครองเจ้า? สวรรค์ตาถั่วหรือเปล่า”
ทุกคน “…” เตี้ยนเซี่ย ท่านอย่าทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า นี่ออกจะเ**้ยมโหดไปแล้ว
ซือถูเฉียงชะงักไปชั่วครู่
นางคิดไม่ถึงเลยว่า พี่เยี่ยนถึงกับเอ่ยคำพูดเช่นนี้ นางยังสงสัยว่าตนฟังผิดไป
เสี้ยวเวลานี้ น้ำตายิ่งไหลทะลักออกจากดวงตามากขึ้น
เห็นหญิงงามร้องไห้ หัวใจของบุรุษทั้งหมดในที่นี้รู้สึกสงสารไม่มากก็น้อย มีบางคนลอบมองเป่ยเฉินเสียเยี่ยนอย่างระวัง คิดว่าเขาจะมีการเคลื่อนไหวอะไรบ้าง
ที่เห็นคือคนผู้นนั้นยังมีทีท่าสง่างามดังเดิม ดูแล้วอ่อนโยนมาก หัวใจทุกคนยิ่งเย็นเฉียบ ไม่กล้าเอ่ยว่า
ซือถูเฉียงร้องไห้ “พี่เยี่ยน ท่านถึงกับ…ข้า…อย่างไรเสียข้าก็เป็นญาติผู้น้องท่าน ท่านถึงกับเอ่ยวาจาไม่ห่วงใยข้าเช่นนี้”
นางถูกนางแพศยารังแก ยังไม่ใช่เพราะชอบพี่เยี่ยนหรือไง พี่เยี่ยนถึงกับ…
อวี้เหว่ยทนไม่ไหวกลอกตาอีกครั้ง ‘ญาติผู้น้อง’ ตามนิสัยโหดเ**้ยมของเตี้ยนเซี่ย หากใส่ใจสิ่งที่เรียกว่าญาติผู้น้องก็แปลกน่ะสิ
เป่ยเฉินเสียเยี่ยนฟังแล้วกลับหัวเราะออกมา น้ำเสียงอ่อนโยนน่าฟัง สายตาชั่วร้ายมองซือถูเฉียง “อ้อ? ความหมายของญาติผู้น้องคือ ต้องการความห่วงใยจากเยี่ยนหรือ”
อวี้เหว่ยใจกระตุก ความห่วงใยของเตี้ยนเซี่ย? คนธรรมดาทั่วไปรับไม่ไหว สิ่งนี้ชักนำให้เขามองไปยังซือถูเฉียง รู้สึกเห็นใจขึ้นมาหลายส่วน
อีกทั้งซือถูเฉียงยังไม่รู้ตัว ไม่ตระหนักถึงความเห็นใจของอวี้เหว่ยเลยสักน้อย สะอื้นไห้มองเป่ยเฉินเสียเยี่ยน พยักหน้าด้วยความน้อยเนื้อน้อยใจ เห็นแววตาอ่อนโยนของเขา จวนจะหลงใหลเพิ่มขึ้นไปอีก
นางสะอื้น “พี่เยี่ยน เฉียงเอ๋อร์เจ็บขามาก เพราะนางแพศยานั่นเตะข้า เจ็บไม่หาย…”
เป่ยเฉินเสียเยี่ยนพยักหน้า คุกเข่าลงเบื้องหน้านาง มือยื่นออกไปอย่างอ่อนโยน จับขานางไว้ “ขาข้างนี้เจ็บมากใช่ไหม”
เมื่อเห็นท่าทางอ่อนโยนของเขา ชั่วขณะนั้นซือถูเฉียงรู้สึกว่าความลำบากที่ตนได้รับมาในวันนี้ล้วนคุ้มค่า รีบพยักหน้าทันที ความดีใจล้นเปี่ยมเป็นประกายอยู่ในดวงตา
เพื่อให้เขายิ่งสงสารตน นางทำเป็นน้อยใจ สะอื้นเอ่ย “พี่เยี่ยน หากมิใช่นางแพศยานั่นเตะขาเฉียงเอ๋อร์เกือบหัก เฉียงเอ๋อร์ไม่มีทางสั่งให้คนยิงนาง เฉียงเอ๋อร์…”
ร้องไห้จนถึงเวลานี้ นางพูดไม่ออกอีกราวกับเสียใจเป็นอย่างมาก
เป่ยเฉินเสียเยี่ยนพยักหน้าอีกครั้ง ยื่นมืออีกข้างออกมาจับขานางไว้
สองมือบิดเบาๆ
กร๊อบ เกิดเสียงดังขึ้น
ชั่วขณะนั้นซือถูเฉียงส่งเสียงร้องอย่างอนาถราวกับหมูถูกเชือด ล้มลงพื้นทันที “โอ๊ย โอ๊ย ช่วยด้วย…”
เลือดสดอาบขานาง ไหลลงมาเต็มกางเกงจนถึงพื้นดิน
นางเจ็บจนพูดไม่ออก เจ็บจนไม่สนใจภาพลักษณ์กลิ้งอยู่ที่พื้น ปากร่ำร้องอย่างอนาถ
คนทั้งหมดแทบไม่เชื่อสายตา
ทุกคนต่างคิดว่าเตี้ยนเซี่ยห่วงใยขาของท่านหญิง เห็นท่าทางอ่อนโยนเช่นนั้น…ใครจะคิดว่าเขาถึงกับหักขาของท่านหญิงขาด
นี่…
ทุกคนมองเขาด้วยสายตาสยดสยอง ทว่าเห็นเขาลุกขึ้นช้าๆ สีหน้าไม่ยี่หระต่อสิ่งใด
ถัดมาเขาจัดเสื้อผ้าตนให้เข้าที่ด้วยกริยาสง่างาม คล้ายเมื่อครู่ไม่เกิดอะไรขึ้น
กล่าวอย่างอ่อนโยน “ญาติผู้น้องเจ็บขา ข้าสมควรเป็นห่วง เชื่อว่าวันนี้หักขาแล้ว เจ้าทนผ่านไปได้ ขาก็จะไม่บาดเจ็บได้ง่ายอีก ทั้งยังไม่เปิดโอกาสให้ผู้อื่นเตะแล้ว ดั่งเช่นญาติผู้น้องกล่าวว่า เพราะเจ้าเจ็บขาถึงได้สั่งคนทำร้ายคนที่เยี่ยนรัก ขาข้างนี้ทำให้เจ้าโหดร้าย ไร้คุณธรรมความเป็นคน สูญเสียความเมตตา ดังนั้นเยี่ยนหวังดีช่วยเจ้าหักมันทิ้ง ก็คือความห่วงใยของเยี่ยน เจ้าไม่ต้องซาบซึ้ง”
ทุกคนตัวสั่นงกไม่มีใครกล้าส่งเสียง ขาหักแล้ว ภายหน้าก็ไม่มีใครเตะได้อีก ผ่านครั้งนี้ก็ไม่เจ็บแล้ว…
นี่เรียกว่าความห่วงใยเหรอ
ถัดมาเป่ยเฉินเสียเยี่ยนมองทุกคน สั่งการว่า “ไปหาตัวนางให้พบ ตอนที่ข้ายังมีความอดทนอยู่”
“ขอรับ” ทุกคนรีบหมุนตัวกลับ แม้แต่พวกที่กลิ้งอยู่ที่พื้นยังตะเกียกตะกายออกไปหาคน เกรงว่าตนจะเป็นแบบซือถูเฉียง
`ท่านหญิงสั่งให้ฆ่าแม่นางผู้นั้น ญาติผู้น้องแท้ๆ ยังได้รับการปฏิบัติจากเตี้ยนเซี่ยเช่นนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเขา…
แม่ทัพหลี่ตกใจจนสติกระเจิง สั่นไม่หยุด ไม่รู้ว่าตนสมควรรออยู่ที่นี่เพื่อรับผิด หรือออกไปหาคนกันแน่
วินาทีถัดมาได้เห็นเป่ยเฉินเสียเยี่ยนมองแม่ทัพหลี่ ถามด้วยเสียงอ่อนโยน “แม่ทัพหลี่ เจ้าสั่นทำไม เจ้าก็ต้องการความห่วงใยขององค์ชายอย่างข้าใช่ไหม”