เล่ห์รักกลกาล [ส่วนที่ 1] - ตอนที่ 257 เยี่ยนไม่ยอมให้ใครทำร้ายเจ้าได้แม้แต่น้อย
คล้ายกับการรักษาชีวิตยามเดินทางเมื่อคืน
เป่ยเฉินอี้เอ่ยออกมาว่าสร้างสถานการณ์สังหารจิ่วหุนไว้แต่แรก เช่นนั้นก็หมายความว่า ทันทีที่เป่ยเฉินอี้รู้สึกถึงความอันตราย ก็จะลงมือกับจุดอ่อนของผู้อื่น เพื่อนำมาคานอำนาจอีกฝ่ายให้สถานการณ์ตรงหน้าสงบลง
เมื่อนางเอ่ย เป่ยเฉินเสียเยี่ยนกลับยิ้มแล้ว ดวงตาร้ายกาจกวาดมองนาง เอ่ยว่า “ไม่ผิด!”
เป็นเช่นนี้จริง
ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยประลองกับเป่ยเฉินอี้ซึ่งๆ หน้า นั่นก็เพราะเข้าใจว่า ทันทีที่ประลองกันตรงๆ เป่ยเฉินอี้ต้องวางแผนการให้เขากับเสินเซ่อเทียนต้องเป็นศัตรูกันอย่างแน่นอน เป่ยเฉินอี้คือคนที่คานอำนาจได้อย่างโดดเด่นที่สุด
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ตั้งแต่เมื่อก่อนเขาจึงหลบหลีก
เยี่ยเม่ยพยักหน้าบ่งบอกว่าเข้าใจ นาทีถัดมาก็กล่าว “ในเมื่อเป็นนี้ อย่างนั้นการเคลื่อนไหวของเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ พวกเราก็สงสัยได้อย่างเต็มที่ว่า บางทีนี่อาจเป็นการจัดฉากอีกฉากหนึ่ง!”
ต่อให้ไม่ใช่การคานอำนาจ เกรงว่าจะเป็นกระบวนท่าลอบสังหาร
ระหว่างเอ่ยเซียวเยว่ชิงก็นำทหารออกรบ พวกเซียวเยว่ชิงนำทหารโรมรันพันตูกับพวกเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ ทหารสองฝ่ายต่อสู้กัน ในระยะเวลาสั้นเพียงชั่ววูบ ทหารในมือของเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ก็แตกพ่ายถอยทัพ
ไม่สมกับความสามารถในการออกรบของทหารต้ามั่วเอาเสียเลย
สายตาเยี่ยเม่ยยามนี้ทวีความล้ำลึก มีปัญหาจริงๆ! เป้าหมายของเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ในวันนี้คือการแพ้ศึกสักยกหนึ่งอย่างนั้นหรือ
หากแพ้จริงๆ อย่างนั้นสำหรับต้ามั่วแล้วมีประโยชน์อันใดเล่า
แววตาเยี่ยเม่ยลุ่มลึกลง เอ่ยเสียงนิ่ง “ดูท่า หากข้าไม่ไปเยี่ยมเสด็จอาของท่านเสียหน่อย ก็สมควรมีคนมาเยี่ยมข้าเองแล้ว!”
ครั้นนางเอ่ยออกมา เป่ยเฉินเสียเยี่ยนหันหน้ามองเยี่ยเม่ยคราหนึ่ง
อย่างไรเขาก็มิใช่คนโง่
เวลาเพียงชั่วครู่พลันคิดอะไรออก เดินเข้าหานางสองก้าว จากนั้นถามออกด้วยเสียงเบาพอให้ได้ยินกันเพียงสองคน “เจ้ากับจิวมั่วเหอร่วมมือกันอย่างนั้นหรือ”
หากคำพูดนี้เป็นคนอื่นถามออกมา เยี่ยเม่ยย่อมไม่ยอมรับอย่างแน่นอน ทันทีที่ยอมรับว่าติดต่อกับฝ่ายศัตรู ไม่ว่าเป้าหมายสุดท้ายของนางทำเพื่อรักษาเมืองหรือไม่ แต่จะถูกมองเป็นคนทรยศทันที
แต่เมื่อคนถามคือเป่ยเฉินเสียเยี่ยน
นางปรายตามองเขา ตอบตามตรง “ใช่แล้ว!”
เป่ยเฉินเสียเยี่ยนพยักหน้า เสียงน่าฟังค่อยๆ กล่าว “หากเป็นเช่นนี้ เขาย่อมต้องมาหาเจ้าแล้ว!”
เฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่นำทหารออกรบ พูดให้ชัดคือ จิวมั่วเหอถูกตัดออกจากหมากกระดานนี้ไปแล้ว
สถานการณ์ยามนี้สำหรับจิวมั่วเหอ สมควรเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการควบคุมต้ามั่ว จิวมั่วเหอต้องไม่ยอมให้ตัวเองถูกกันออกในเวลานี้เด็ดขาด หากเป็นเช่นนี้ สิ่งที่เขาทำและแผนทั้งหมดก็ละลายไปกับสายน้ำ ภายหลังยังต้องเสียเวลารักษาตัวอีก
“อืม!” เยี่ยเม่ยพยักหน้า
มองเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่พ่ายแพ้ ทำทหารถอยทัพหนีเอาชีวิตรอด
เยี่ยเม่ยพลันเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีอยู่ในใจ รู้สึกว่าตัวเองถูกดึงเขามาอยู่ในสถานการณ์นี้ ทว่าไม่เข้าใจชัดเจนว่า ก้าวต่อไปของคนวางแผนจะเดินไปทางไหน ทำให้นางรู้สึกไม่สงบ
ถัดมา
เป่ยเฉินเสียเยี่ยนยื่นมือออกไปจับมือนางไว้
ทำให้เยี่ยเม่ยตกใจเล็กน้อย หันข้างมองเขา
ไม่ช้า เสียงน่าฟังของเป่ยเฉินเสียเยี่ยนก็เอ่ยอีกว่า “ไม่ต้องกลัว ต่อให้เป็นแผนการ เจ้าก็ไม่เกิดเรื่องแน่! ต่อให้ไม่อาจรักษาเมืองนี้ไว้ เยี่ยนก็ไม่ยอมให้คนทำร้ายเจ้าได้สักน้อย!”
เยี่ยเม่ยตะลึงงันไปเล็กน้อย ก่อนจะคลี่ยิ้ม
น้ำเสียงยังนิ่งเย็นเหมือนเคย ทว่าสีหน้าอ่อนโยนขึ้นมา “ข้าเข้าใจแล้ว พวกเขาคิดทำร้ายข้าหรือสังหารข้า ล้วนไม่ใช่เรื่องง่าย สิ่งที่พวกเขาทำได้อย่างมากที่สุดก็เหมือนกับที่ทำต่อจิวมั่วเหอ ผลักไสออกจากหมากตานี้เสีย เรื่องนี้มีผลกับข้าไม่มาก แต่ข้าไม่ชอบถูกคนวางแผน”
ถูกต้อง ถูกผลักออกไปจากหมากตานี้ไม่มีผลกับนางมากมายนัก
ตอนแรกที่รั้งอยู่ชายแดนก็เพราะว่าคำพูดของราชาต้ามั่ว บอกจะคิดบัญชีกับนาง เรื่องที่นางบุกทะลวงค่ายทหารต้ามั่ว แต่ว่าวันนี้ ประเด็นนี้ไม่มีใครเอ่ยขึ้นมาอีกแล้ว ต่อให้นางฉวยโอกาสนี้ถอนตัว ก็ไม่กระทบกับสถานการณ์ทั้งหมด
สงครามที่พวกเขาต้องต่อสู้ก็ยังต้องดำเนินต่อไป ชายแดนของราชสำนักเป่ยเฉิน เป่ยเฉินเสียเยี่ยนยังไม่ใส่ใจเลย นั่นย่อมไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาง
แต่นางไม่ชอบถูกคนวางแผน ไม่ชอบถูกคนไล่ออกจากสงคราม หรือถูกคนเห็นเป็นตัวหมากโง่เง่า
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เยี่ยเม่ยมองเป่ยเฉินเสียเยี่ยน เอ่ยนิ่งๆ “ท่านดูเอาเถอะ ข้าต้องชนะแน่! ข้าเพียงแค่ต้องการเวลา หลายวันนี้ท่านช่วยข้ารวบรวมข้อมูลของเป่ยเฉินอี้ การวางแผนทั้งหมดของเขา เรื่องราวเล็กใหญ่ทั้งหลาย ข้าต้องการอย่างชัดเจน”
เมื่อนางเอ่ยออกมา แววตาร้ายกาจของเป่ยเฉินเสียเยี่ยนตะลึงไปเล็กน้อย รู้สึกไม่พอใจ
เยี่ยเม่ยที่รับรองว่าต่อไปจะใคร่ครวญเรื่องราวจากมุมมองของเขา ในยามนี้ก็รีบครุ่นคิดพลันเข้าใจสาเหตุที่เขาไม่ยินดีแล้ว นางแค่นเสียงเย็น “ท่านไม่ต้องคิดมาก ข้าไม่ได้ทำเพื่อเข้าใจบุรุษอื่น ข้าเพียงต้องการทำความเข้าใจศัตรู รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง! ท่านคงไม่ยอมให้ข้าทำความเข้าใจศัตรูเพราะ เป่ยเฉินอี้เป็นบุรุษรูปงาม แล้วทำให้ข้าถูกเขาทำร้ายหรอกนะ”
คำพูดของนางเรียบง่ายทว่าจริงใจ
เยี่ยเม่ยค่อยพบว่า การพัฒนาความสามารถด้านความรู้สึกหาใช่เรื่องยากขนาดนั้น เพียงแต่ต้องคิดจากมุมมองของอีกฝ่าย ถึงเข้าใจสาเหตุที่อีกฝ่ายไม่พอใจหรือโมโหออกมาได้ทันที
หากเป็นเมื่อก่อน นางเห็นอารมณ์ไม่พอใจของเป่ยเฉินเสียเยี่ยนในเวลานี้ จะต้องงุนงงอย่างแน่นอน ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเขาเป็นอะไรไปแล้ว
ครั้นเห็นว่านางอธิบายได้อย่างสมเหตุสมผล ในที่สุดก็คลี่คลายสาเหตุความไม่พอใจของเขาได้
เป่ยเฉินเสียเยี่ยนพยักหน้า เอ่ยว่า “งั้นก็ดี ภายในสามวันเยี่ยนจะให้อวี้เหว่ยรวบรวมข้อมูลเรียบเรียงให้เรียบร้อยมาให้เจ้าจนครบ!”
อวี้เหว่ยที่ติดตามอยู่ด้านหลังมุมปากกระตุก
ก่อนหน้านี้เขามักรู้สึกว่าการติดตามอยู่ข้างกายเตี้ยนเซี่ยเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอันตราย เพราะนิสัยยากคาดเดาของเตี้ยนเซี่ย แต่ตอนนี้คิดๆ ดูแล้ว เมื่อก่อนตัวเองเสพความสุขเกินไปแล้ว ในทุกๆ วันนอกจากติดตามเตี้ยนเซี่ยออกไปทรมานคน ก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำอีก
ตอนนี้ก็ดีเลย ยังต้องไปรวบรวมข้อมูล
ทั้งยังต้องเรียบเรียงให้เรียบร้อยด้วย
ซ้ำยังต้องส่งมอบให้เยี่ยเม่ย ทั้งยังต้องภายในเวลาสามวันอีก !
อวี้เหว่ยอยากถามเหลือเกินว่า เงินเดือนเพิ่มขึ้นหรือไม่ ?!
ในขณะที่เฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่นำทหารหนีตาย เซียวเยว่ชิงส่งคนมารายงานเยี่ยเม่ย “แม่นางเยี่ยเม่ย แม่ทัพเซียวถามว่าจะตามหรือไม่”
ติดตามไปในเวลานี้จะพลาดตกหลุมพรางของศัตรูเอาง่ายๆ ภายใต้สถานการณ์ปกติ ผู้นำทัพย่อมไม่ตัดสินใจให้ตามต่อ
แต่ว่า…
เยี่ยเม่ยสายตาเป็นประกายเย็นวาบ ยกมุมปาก สั่งการเสียงเย็นชา “ตาม! นอกเสียจากว่าด้านหน้ามีศัตรูล้อมไว้ หรือเป็นค่ายของต้ามั่ว ไม่เช่นนั้นเจอหนึ่งคนก็ฆ่าหนึ่งคน ทางที่ดีสังหารราบคาบ!”
“ขอรับ!” ทหารชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลงไปถ่ายทอดคำสั่ง
เพียงแค่เสี้ยวนาทีเดียว เป่ยเฉินเสียเยี่ยนก็เข้าใจความคิดของเยี่ยเม่ย
หลูเซียงฮั่วที่อยู่ด้านข้างเยี่ยเม่ยขมวดคิ้ว “แม่นางเยี่ยเม่ย หากต้องไล่ตามไป ไม่แน่อาจตกหลุมพรางศัตรู”
เยี่ยเม่ยหัวเราะเย็นชา หันหลังกลับไปมองเขา “ศัตรูต้องมีปราชญ์คนหนึ่งคอยวางแผนให้เขา เจ้ารู้หรือไม่ การต่อกรกับปราชญ์ย่อมไม่อาจใช้วิธีการธรรมดาทั่วไป!”