เล่ห์รักกลกาล [ส่วนที่ 1] - ตอนที่ 311 แผนซ้อนแผน!
เยี่ยเม่ยดื่มน้ำชาจนหมดจอก จากนั้นไม่นานนางรู้สึกเจ็บหน้าอก
นางขมวดคิ้วทนความเจ็บปวดไว้ เปิดกาน้ำชาดมดูก็ไม่มีกลิ่นอะไร ดูท่าจะเป็นพิษไร้สีไร้กลิ่น
ใครกันที่วางยาพิษนาง
ไม่ช้าในห้วงสมองนางคิดถึงสาวใช้ที่ยังจับตัวไม่ได้ขึ้นมา คนของซือถูเฉียงอย่างนั้นหรือ บางทีอีกฝ่ายอาจเห็นว่าช่วงนี้นางรักสงบมากเกินไป ไม่ลงมือถอนรากถอนโคน เลยอดใจไม่ไหวโผล่มาดิ้นรนเช่นนี้หรือ
เมื่อความรู้สึกเจ็บปวดพุ่งขึ้นมา หน้าผากของเยี่ยเม่ยมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาแน่นขนัด แต่ยังดีที่ในไม่ช้ามีความอุ่นร้อนปราดพุ่งขึ้นมาที่บริเวณหน้า ทำให้เยี่ยเม่ยรับรู้ได้ว่า ก่อนยาต้านพิษที่นางเพิ่งดื่มลงไปไม่นานนี้กำลังแผลงฤทธิ์ ทำให้ความเจ็บปวดคลี่คลายลงทีละนิด
ยามนี้เยี่ยเม่ยคลายใจ เพียงแต่ในสมองกำลังคิด ตัดสินใจใช้แผนซ้อนแผน
นางเดินออกไปหน้าประตูด้วยท่าทางหายใจติดขัดไม่สะดวก ตะโกนออกมาว่า “ใครก็ได้ ใครก็ได้…”
เสียงนางดังมาก ไม่ช้าบ่าวไพร่จำนวนไม่น้อยก็กรูเข้ามา
เยี่ยเม่ยล้มลงแสร้งทำเป็นหมดสติทันที แต่ก่อนที่นางจะ ‘หมดสติ’ ไปยังเอ่ยว่า “รีบไปตามซือหม่าหรุ่ยมาช่วยข้า!”
บรรดาบ่าวไพร่หน้าประตูตกใจตื่นเต้นแทบคลั่ง
รีบไปรายงานซือหม่าหรุ่ย ในเมื่อมีหมอเทวดาอยู่ที่นี่ ก็ไม่มีใครคิดไปตามหมอคนอื่น
บ่าวไพร่รีบพยุงเยี่ยเม่ยขึ้น วางนางลงบนเตียง
ผ่านไปไม่นาน ซือหม่าหรุ่ยก็เข้ามาอย่างลนลาน ไม่เพียงแต่ซือหม่าหรุ่ย ยังมีเป่ยเฉินเสียเยี่ยนและจิ่วหุนติดตามมาด้วย สีหน้าทุกคนร้อนรนเป็นอย่างมาก
หลังจากซือหม่าหรุ่ยมาถึงหน้าประตู กวาดตามองเขาทั้งสองคน “พวกท่านรออยู่ข้างนอกก่อน อย่าเข้าไปขวางการตรวจของข้า!”
พูดจบ นางก็เข้าไปในห้องเยี่ยเม่ยเพียงลำพัง
ซือหม่าหรุ่ยย่อมรู้ดีว่า เป่ยเฉินเสียเยี่ยนและจิ่วหุนเป็นห่วงเยี่ยเม่ย ยามนี้เกิดเรื่องกับเยี่ยเม่ย พวกเขาคิดติดตามเข้ามาด้วย หากเข้ามาด้วยความลนลานใส่อารมณ์ กลับจะยิ่งส่งผลกับการวินิจฉัยโรคของนาง
หลังจากเข้ามาแล้ว นางก็ไล่คนทั้งหมดออกไป ค่อยปิดประตูลง
เป่ยเฉินเสียเยี่ยนตีหน้านิ่งยืนอยู่หน้าประตู ฟังบ่าวไพร่รายงานสถานการณ์ตอนนั้น ความจริงคนทั้งหมดก็ไม่รู้อะไรทั้งนั้น เล่าว่าตัวเองพลันได้ยินเสียงร้องให้ช่วยเหลือของเยี่ยเม่ย หลังจากเข้ามา แม่นางเยี่ยเม่ยก็สลบไปแล้ว
จิ่วหุนก็มีสีหน้าหนักอึ้ง เขากลับไม่ทำอะไร มองกระบี่ในมือตน เกิดจิตสังหารขึ้นมาอีกครั้ง
ภายในห้อง ซือหม่าหรุ่ยเดินเข้ามาข้างเตียงเพื่อตรวจอาการเยี่ยเม่ย
มือเพิ่งแตะถูกข้อมืออีกฝ่าย เยี่ยเม่ยก็ลืมตาขึ้น กะพริบตาให้ซือหม่าหรุ่ย หมอเทวดาตกใจไปเล็กน้อย จากนั้นก็กลับสู่ความสงบนิ่งอย่างรวดเร็ว รีบถามว่า “เจ้าคิดทำอะไร”
เยี่ยเม่ยไม่คิดปิดบังนาง เอ่ยเบาๆ “เจ้าตรวจก่อน!”
ถึงแม้ยาของอาจารย์เชื่อถือได้ แต่ตรวจหน่อยก็จะดีกว่า
ซือหม่าหรุ่ยตรวจอาการให้เยี่ยเม่ยด้วยความฉงน หลังจากนั้นก็เอ่ยปากว่า “ถูกพิษจริงๆ ด้วย เป็นหงอนกระเรียนแดงที่ผ่านกระบวนลบกลิ่นไปแล้ว หงอนกระเรียนทั่วไปมีกลิ่นแรง หากคนที่พอรู้เรื่องยาบ้างก็ดมออก แต่ว่าเมื่อผ่านกระบวนการก็จะไร้กลิ่น ก่อนหน้านี้เจ้าคงเคยกินยาถอนพิษร้อยชนิด…”
“ไม่ผิด!” เยี่ยเม่ยเล่าเรื่องยาให้ซือหม่าหรุ่ยฟัง
ซือหม่าหรุ่ยฟังแล้วยังแปลกใจ “ผู้เฒ่าเสี่ยวเถียนไช่ดีกับเจ้าไม่เลวเลย ของสิ่งนี้ยังดีกว่ายาแก้พิษร้อยชนิดอีก ยาแก้พิษร้อยชนิดหาได้น้อยมาก ข้ามีอยู่เม็ดเดียว เคยให้เจ้ากินไปในปีนั้นแล้ว อีกอย่างยาเม็ดนั้นมีฤทธิ์ถอนพิษได้แค่ครั้งเดียว แต่ของสิ่งนี้ต่างออกไป ภายในระยะเวลาหนึ่งปี เจ้าจะปลอดภัยจากพิษ!”
พูดไปแล้ว นางก็เอ่ยต่อ “ดีที่มีสิ่งนี้ ไม่อย่างนั้นเมื่อดื่มหงอนกระเรียนไปคงต้องตายอย่างมิต้องสงสัย แต่ว่า คนที่มีความสามารถหาหงอนกระเรียนแบบนี้มาได้ หากไม่ใช่ร่ำรวยก็ต้องมียศถาบรรดาศักดิ์ เจ้าของสิ่งนี้ต้องผ่านกระบวนการซับซ้อน หากมิใช่ตระกูลใหญ่ร่ำรวย ก็ไม่มีทางซื้อได้ เยี่ยเม่ยเจ้าเดาว่าคือใครกัน”
“หากข้าเดาไม่ผิด น่าจะเป็นซือถูเฉียงที่หลงรักเป่ยเฉินเสียเยี่ยนอย่างไม่อาจถอนตัว!” เยี่ยเม่ยตอบทันควัน คนในชายแดนที่เคยมีข้อพิพาทกับนางเช่นนี้ นอกจากซือถูเฉียงแล้วก็ไม่มีใครอีก
ซือหม่าหรุ่ยขมวดคิ้ว “ทำไมเจ้าไม่สงสัยเป่ยเฉินอี้”
เยี่ยเม่ยส่ายหน้า “นี่ไม่ใช่วิธีการของเป่ยเฉินอี้ ปราชญ์สังหารคน ล้วนฉกฉวยผลประโยชน์จากคนผู้นั้นก่อนตายให้มากที่สุด เขาสังหารข้าเช่นนี้ ไม่ได้รับผลให้วางแผนอะไรต่ออีก ยังทำให้เป่ยเฉินเสียเยี่ยนและจิ่วหุนสงสัยเขา ดึงปัญหาใส่ตัวเองอีก”
ดังนั้น เป่ยเฉินอี้ไม่ทำเรื่องประเภทนี้แน่ ในเมื่อเป็นอย่างนั้นก็เหลือแค่ซือถูเฉียงแล้ว สตรีคลุ้มคลั่งนั่นลงวางแผนทำร้ายจิ่วหุน นางคิดทำเรื่องบ้าบออะไรอีก เยี่ยเม่ยก็ไม่แปลกใจเลย
เมื่อนางตอบ ซือหม่าหรุ่ยถามว่า “อย่างนั้นเจ้าคิด…”
“คนที่แฝงตัวอยู่ในเมืองยังหาตัวออกมาไม่ได้ แต่ว่าปัญหานี้ภายหน้าข้าเพียงแค่ระวังหน่อยก็ใช้ได้แล้ว! แต่ว่าซือถูเฉียงไม่อาจเก็บไว้” สถานการณ์ตึงเครียดเต็มทีแล้ว เมื่อก่อนนางคร้านจะคิดเล็กคิดน้อยกับสตรีนางนั้น มาตอนนี้นางไม่ว่างมานั่งรับมือกับสตรีหึงหวงจนคลุ้มคลั่ง ไม่สู้ลำบากกำจัดครั้งเดียวก็หมดเรื่อง
ซือหม่าหรุ่ยพยักหน้า จากนั้นเตือนเยี่ยเม่ย “แต่ยามปกติเจ้าก็ควรระวังไว้ วันนี้…”
“เจ้าวางใจเถอะ หากมิใช่เพราะอาจารย์ให้ข้ากินยาเม็ดนั้น ข้าก็ไม่มีทางประมาทแบบนี้” เพราะนางรู้ว่าต่อให้ถูกพิษก็ไม่เป็นอะไร ดังนั้นนางจึงไม่ระวังเรื่องอาหารการกิน
เยี่ยเม่ยกล่าวต่อ “ข้าคิดใช้แผนซ้อนแผน อีกเดี๋ยวเจ้าออกไปแล้วก็บอกทุกคนว่าข้าถูกพิษ ถึงเจ้าจะพยายามแล้ว ก็ยังต้องนอนพักรักษาต่อไปอีกหลายเดือน”
“เจ้าคิดจะทำอะไร” ซือหม่าหรุ่ยชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นถาม “หรือว่าคิดต่อกรซือถูเฉียง”
เยี่ยเม่ยแค่นหัวเราะเบาๆ กดเสียงต่ำเอ่ย “เจ้าคิดมากไปแล้ว! แค่ซือถูเฉียงคนเดียว ยังไม่คู่ควรให้ข้าใช้แผนการเช่นนี้ต่อกรกับนาง เพียงแต่การถูกพิษครั้งนี้กลับทำให้ข้าคิดวิธีร่วมมือกับจิวมั่วเหอเพื่อกำจัดเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ได้ในเร็ววัน! ขอเพียงกำจัดเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ได้ การร่วมมือของเป่ยเฉินอี้กับต้ามั่วก็จะแตกหัก การศึกครั้งนี้ก็เกือบจะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว!”
ซือหม่าหรุ่ยพลันตะลึงไป คิดไม่ถึงว่าในสายตาของเยี่ยเม่ยมุ่งไปที่สถานการณ์โดยรวมมานานแล้ว เรื่องอื่นนางล้วนตัดสินใจตามสถานการณ์ นำมาใช้ประโยชน์เพื่อตนเอง
ในใจซือหม่าหรุ่ยแอบลอบยินดีแทนนาง ท่านหมอเทวดาพยักหน้า “งั้นก็ดี ข้าจะจัดการเดี๋ยวนี้!”
เยี่ยเม่ยมองกาน้ำชาบนโต๊ะอีกครั้ง กล่าว “ในน้ำชามีพิษ แสดงให้เหมือนหน่อยล่ะ!”
“ได้!” ซือหม่าหรุ่ยเข้าใจทันที แต่ก็ถามขึ้นว่า “เป่ยเฉินเสียเยี่ยน…ก็อยู่หน้าประตูด้วย”
เยี่ยเม่ยสีหน้าแข็งค้าง หลุบตาลง “ไม่ต้องสนเขา สมควรทำอะไรก็ทำเถอะ!”
“อืม!” ซือหม่าหรุ่ยลุกขึ้น ก้าวเท้าออกไปจากห้อง
เมื่อประตูเปิดออก ก็ได้ยินน้ำเสียงน่าฟังของเป่ยเฉินเสียเยี่ยนกล่าวด้วยความร้อนรน “นางเป็นอย่างไรบ้าง”
ใบหน้าหล่อเหลาชั่วร้ายของเขายามนี้ขรึมลง มองไปคล้ายปีศาจร้ายกำลังจะพิโรธ ทำให้คนตัวสั่นเทิ้ม
สีหน้าจิ่วหุนก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร