(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 184 ตรวจดูสำรวจงานโครงการ / ตอนที่ 185 ดึกๆ ดื่นๆ ไม่กลับบ้านมานอน
- Home
- (Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์
- ตอนที่ 184 ตรวจดูสำรวจงานโครงการ / ตอนที่ 185 ดึกๆ ดื่นๆ ไม่กลับบ้านมานอน
ตอนที่ 184 ตรวจดูสำรวจงานโครงการ
เจียงมู่เฉินรู้สึกว่าซือเหยี่ยนมีท่าทีแปลกๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าแปลกตรงไหน คิดแล้วคิดอีกก็ตัดสินใจไม่ถามซักไซ้ต่อแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็มีธุระพอดี จะได้ไม่คิดเองเออเองอยู่ฝ่ายเดียวแล้วไม่ฟังซือเหยี่ยน
นั่งรออยู่ครึ่งชั่วโมงที่ชั้นสาม ในที่สุดซังจิ่งก็จบการสัมภาษณ์ เขารอให้ทีมงานออกไปหมดเรียบร้อยก่อน ถึงเพิ่งได้ลุกขึ้นแล้วไปที่ชั้นสาม
ในโซนที่นั่งส่วนตัว ซังจิ่งมองแวบเดียวก็เห็นเจียงมู่เฉิน
เจียงมู่เฉินคนนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ดึงดูดสายตาคนในแวบแรกที่มองจริงๆ
เขาค่อยๆ เดินเข้าไปอยู่ข้างๆ เจียงมู่เฉิน “ให้คุณรอนานเลย”
“ประธานซังยุ่งขนาดนี้ ต้องรอก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว”
“ทำไมวันนี้คุณถึงนึกมาหาผมได้ล่ะ” ตอนที่เขาได้รับสายจากเจียงมู่เฉินก็ยังว่าแปลกๆ ชอบกล ตามนิสัยของเจียงมู่เฉิน ไม่มีทางจะมานึกถึงเขาได้อยู่แล้ว
‘หรือว่ามาเพราะแผลถูกยิงบนตัวของเขา?’
“นายช่วยฉันไว้ ฉันก็ควรจะมาขอบใจนาย” เป็นอย่างที่คิดเจียงมู่เฉินหลุดปากเผยออกมาจนได้
ซังจิ่งหรี่ตาลง “คิดไม่ถึงว่าคุณชายเจียงมีน้ำใจให้กันขนาดนี้ ไม่เพียงแต่ส่งผมไปโรงพยาบาล ตอนนี้ยังตั้งใจมาหาผมเป็นพิเศษอีก”
“ไม่ต้องมาลองทดสอบหยั่งเชิงฉันเลย ครั้งนี้ที่ฉันมาก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ ก็แค่จะมาพูดขอบใจนาย” เจียงมู่เฉินยกมุมขึ้น “ถึงแม้ว่าที่จริงฉันจะไม่ค่อยชอบขี้หน้านายเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้ก็ส่วนเรื่องนี้ เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้น ครั้งนี้นายมีบุญคุณกับฉัน ต้องตอบแทนเป็นธรรมดา”
ซังจิ่งพินิจมองเจียงมู่เฉินอย่างจริงจัง “ถ้าผมบอกว่า ผมอยากได้คืบจะเอาศอกนิดหน่อยล่ะ คุณจะเห็นด้วยไหม”
เจียงมู่เฉินจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “นายอยากได้คืบจะเอาศอกยังไง”
“วันจันทร์หน้า ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง จะให้ผมไปตรวจดูงานในหุบเขาห่างออกไปจากตัวเมือง คุณอยากไปด้วยกันไหม คงจะประมาณสองสามวันเท่านั้นเอง”
เจียงมู่เฉินขมวดคิ้ว “ตรวจดูงาน? ตรวจดูงานอะไร?”
“ปัจจุบันนี้สังคมเราเร่งรีบ ยิ่งอยู่ในธรรมชาติยิ่งดึงดูดคนให้ชอบ เพื่อนผมคนนี้ถูกใจเขาลูกหนึ่งอยู่ที่ซีหนาน วางแผนจะซื้อมาทำโครงการตามธรรมชาติ แล้วก็จะสร้างโรงแรมน้ำพุร้อนอีกแห่งหนึ่งด้วย” เขามองเจียงมู่เฉิน “ไม่รู้ว่าคุณชายเจียงสนใจหรือเปล่า”
“ทำไม นายอยากให้ฉันร่วมหุ้นด้วยงั้นสิ”
ซังจิ่งหัวเราะ “ถ้าคุณชายเจียงอยากจะร่วมหุ้นด้วย ผมก็ไม่ขัดข้องอะไรอยู่แล้ว”
เจียงมู่เฉินคิดไตร่ตรองดูสักพัก รู้สึกว่าก็เป็นวิธีที่ไม่เลวทีเดียว อีกอย่างไปดูงานกับซังจิ่งก็ไม่มีอะไร เขาไปได้อยู่แล้ว
เขาพยักหน้ารับ “ได้ ได้ไปเปิดหูเปิดตากับประธานซังมากขึ้นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้”
“งั้นก็ตกลงตามนี้ วันจันทร์เจอกันที่สนามบิน”
พอได้มาอยู่กินอาหารเย็นเป็นเพื่อนซังจิ่ง พูดคุยเรื่องรายละเอียดต่างๆ เจียงมู่เฉินถึงได้รู้สึกว่าคนคนนี้หัวการค้าใช้ได้จริงๆ ถ้าตัดเรื่องไม่ถูกชะตากับตัวเองไป ก็ยังเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีกันได้
เพียงแต่เสียดาย ระหว่างเขากับซังจิ่งลิขิตไว้แล้วว่าไม่มีทางจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีกันได้
หลังจากทั้งสองคนกินข้าวเสร็จ ซังจิ่งก็เอ่ยเสนอ “อยากจะไปนั่งเล่นกันต่อที่หลานเยี่ยไหม คุณชายเจียงคงจะไม่ค่อยได้ไปเท่าไหร่ใช่หรือเปล่า”
เจียงมู่เฉินเลิกคิ้ว หลังจากอยู่ด้วยกันกับซือเหยี่ยน ก็ไม่เคยได้เข้าไปหลานเยี่ยอีกเลย จะว่าไปก็เป็นเวลานานแล้วจริงๆ
ซือเหยี่ยนน่าจะยังไม่กลับมาพอดี เจียงมู่เฉินคิดแล้วก็พยักหน้ารับ “ได้ งั้นไปนั่งเล่นที่หลานเยี่ยกัน”
ทั้งสองคนต่างขับรถของตัวเองมุ่งตรงไปยังหลานเยี่ย รถสปอร์ตคันสีแดงของเจียงมู่เฉินกับรถปอร์เชคันสีเงินจอดตระหง่านอยู่หน้าทางเข้าหลานเยี่ย เย่อหยิ่งไม่ต่างจากเจ้าของรถทีเดียว
ทันทีที่เจียงมู่เฉินก้าวเข้าไปหลานเยี่ยก็ดึงดูดสายตาคนอยู่ไม่น้อย เขาไม่ได้ปรากฏตัวนานขนาดนี้ ยังคิดกันเลยว่าคุณชายน้อยตระกูลเจียงผู้นี้จะกลับเนื้อกลับตัวไม่มาสถานที่แบบนี้อีกแล้ว
เฉิงฉีอยู่ชั้นสอง ตอนที่ผู้จัดการเข้ามารายงาน เขาเองก็เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เขาเดินออกจากห้องรับรองยืนอยู่มุมมุมหนึ่งบนชั้นสอง มองตามที่ผู้จัดการชี้ให้ดู
‘คนที่นั่งตรงข้ามเจียงมู่เฉินไม่ใช่ซือเหยี่ยน’
เฉิงฉีเลิกคิ้ว คงจะไม่ได้เปลี่ยนศัตรูคู่แค้นอีกคนหรอกใช่ไหม
“ส่งเหล้าให้พวกเขา บอกว่าฉันส่งมาให้”
ผู้จัดการพยักหน้า “ได้ครับ ผมรับทราบแล้ว”
เจียงมู่เฉินเลิกคิ้วมองดูเหล้าบนโต๊ะที่ถูกส่งมาให้
ตอนที่ 185 ดึกๆ ดื่นๆ ไม่กลับบ้านมานอน
“ประธานเฉิงให้ผมนำมาส่งให้คุณครับ บอกว่าเป็นเหล้าที่คุณโปรดปรานที่สุด” ผู้จัดการไนต์คลับเอ่ยเสียงต่ำ
เจียงมู่เฉินหัวเราะ “รู้แล้ว ลงบิลฉันด้วยแล้วกัน”
“ประธานเฉิงบอกว่ามอบให้คุณครับ ให้คุณ ‘เล่น’ อย่างมีความสุขครับ”
เจียงมู่เฉินเลิกคิ้ว คิดว่าเฉิงฉีคงจะเข้าใจผิดแล้ว แต่คิดๆ ไป ไม่ได้พูดอะไร ก็พยักหน้ารับ “ได้ งั้นก็ฝากไปขอบใจประธานเฉิงของนายด้วยแล้วกัน”
“เชิญคุณชายเจียงดื่มกันตามสบายเลยครับ”
หลังจากผู้จัดการร้านออกไปแล้ว ซังจิ่งมองดูเหล้าสองขวดบนโต๊ะ “เหล้านี้เป็นถึงเหล้าชั้นเยี่ยม ราคาก็ไม่เบา เพราะได้หน้าของคุณชายเจียงแท้ๆ ถึงได้มีของฟรีมาให้ดื่มแบบนี้”
“ประธานซังอยากดื่ม ไม่ใช่ว่าอะไรก็ได้หรือไง”
ซังจิ่งหัวเราะ “แต่ให้ฟรีแบบนี้ จะยิ่งดีไม่ใช่เหรอ”
เจียงมู่เฉินยกมุมปากขึ้น “ก็แค่ ของฟรีก็ใช่จะดีเลิศเสมอไป” เขามองซังจิ่ง คำพูดแฝงความนัย
ซังจิ่งยื่นมือไปเปิดขวดเหล้า แล้วรินใส่แก้วสองใบ แก้วหนึ่งวางต่อหน้าเจียงมู่เฉิน อีกแก้วถือไว้ในมือของตัวเอง “บอกตามตรง ได้มาดื่มเหล้ากับคุณชายเจียงแบบนี้ได้ ถือเป็นเกียรติของผมจริงๆ”
“ถึงยังไงผมก็คิดว่าด้วยความเกลียดชังของคุณชายเจียงที่มีต่อผมแล้ว เกรงว่าทั้งชีวิตจะไม่มีวันได้มีโอกาสนี้เลย”
เจียงมู่เฉินเลิกคิ้ว “ถ้านายไม่บาดเจ็บ ก็จริงตามนั้น”
“ดูท่าว่า ผมต้องช่วยคุณชายเจียงหลายๆ ครั้งซะแล้ว แบบนี้ไม่แน่ว่าคุณชายเจียงจะเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อผมได้”
เจียงมู่เฉินหัวเราะเสียงเย็น ก่อนเอ่ยต่อ “งั้นก็ล้างตารอดูได้เลย”
หลังจากดื่มเหล้ากันที่หลานเยี่ยเสร็จ ทั้งสองคนก็ต่างกลับบ้านของตัวเอง
ยามที่เจียงมู่เฉินกลับไป ซือเหยี่ยนก็ยังไม่กลับมา เขาขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก นี่ก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว ทำไมซือเหยี่ยนเจ้าหมอนั่นยังไม่กลับมาอีก
เขาหยิบมือถือออกมาโทรหาซือเหยี่ยน ถามไถ่ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่
โทรออกไปตั้งนานก็ไม่มีใครรับสาย เจียงมู่เฉินเลิกคิ้ว ตอนนี้ไม่ใช่แค่ดึกๆ ดื่นๆ ไม่กลับบ้านมานอน ยังไม่รับสายเขาอีกเหรอ
เขากดมือถือโทรออกอีกครั้ง
ครั้งนี้โดนตัดสายไปเลย
เจียงมู่เฉินมองดูมือถือที่ถูกตัดสายทิ้งในมือ เขาโมโหในพริบตา นึกไม่ถึงว่าจะกล้าตัดสายใส่เขา!
‘ซือเหยี่ยนเจ้าหมอนี่ไปกินใจหมีไส้เสือ[1]มาหรือไง’
เขาโยนมือถือลงบนโต๊ะ ปิดประตูใส่กลอน มานอนบนเตียง ส่วนซือเหยี่ยนใครจะสนกัน
หนึ่งชั่วโมงให้หลัง ซือเหยี่ยนยืนอยู่หน้าประตู ยื่นมือไปจับลูกบิดประตูไว้ ยิ้มเบาๆ อย่างช่วยไม่ได้ ดูท่าว่าคุณชายเจียงของเขาจะโกรธจริงๆ แล้ว
ซือเหยี่ยนลงไปชั้นล่างเดินอ้อมจากสวนดอกไม้ ปีนระเบียงเข้ามา
เขามองดูใบหน้ายามหลับใหลของเจียงมู่เฉิน แล้วยกยิ้มมุมปากขึ้น ไม่อยากให้เขาเข้ามา แต่ทำไมกลับล็อกแค่ประตูห้อง ไม่ล็อกประตูระเบียง
‘ทำไมเฉินเฉินของเขาถึงไม่ระวังตัวแบบนี้นะ…’
ซือเหยี่ยนไม่ได้ส่งเสียงปลุกเจียงมู่เฉินให้ตื่น เขาตรงเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำถึงค่อยได้ออกมา เขาเดินไปที่ข้างเตียงอย่างระมัดระวัง พินิจมองเจียงมู่เฉินที่หลับสนิทอยู่บนเตียง ยิ่งมองก็ยิ่งชอบ
เขาทนไม่ได้แล้วจริงๆ จึงขึ้นคร่อมอีกคน แล้วกดจูบลงไปให้ถึงที่สุด
เจียงมู่เฉินถูกความอึดอัดปลุกให้ตื่น หายใจเข้าไม่ทันเกือบจะกลั้นใจตาย ลืมตาขึ้นมาก็ซือเหยี่ยนกดตัวเองไว้ แล้วจูบไปจูบมา
โกรธจนยกเท้าถีบใส่
“นางแม่งเป็นบ้าหรือไง ดึกป่านี้จะมาจูบอะไร!” อารมณ์โมโหยามตื่นนอนของเจียงมู่เฉินเดิมทีก็ใหญ่มากอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงที่เขายังจำเรื่องที่เจ้าหมอนี่วางสายใส่เขา
ซือเหยี่ยนลูบจมูกป้อยๆ ทำไม่รู้ไม่ชี้ “ผมคิดถึงคุณนี่”
เจียงมู่เฉินเคืองแล้ว ยกเท้าถีบใส่อีกครั้ง “ไสหัวไปซะ ฉันไม่คิดถึงนายเลยสักนิด”
‘ตอนตัดสายเขาทำไมไม่คิดถึงเขา ตอนนี้มาจูบเขาก็คิดถึงเขาแล้ว? เขาเจียงมู่เฉินไม่ใช่คนที่จะยอมขาดทุนไปเรื่อยๆ แบบนั้นหรอกนะ’
“คุณโกรธเหรอ” ดวงตาสีดำขลับของซือเหยี่ยนจ้องมองเขา “เพราะว่าผมกลับมาดึกเหรอ”
เจียงมู่เฉินยิ้มเยาะ “ฉันจะโกรธอะไร นายไม่กลับมา ฉันก็ไม่ได้สนใจหรอก” เขาโกรธที่ซือเหยี่ยนกลับมาดึกเหรอ ที่เขาโกรธคือไม่คิดว่าจะกล้าตัดสายตัวเองทิ้งได้ต่างหาก
“พูดมา ทำไมถึงตัดสายฉัน!”
ซือเหยี่ยนชะงักงัน มึนงงไปพักหนึ่ง เพิ่งจะเตรียมจะโต้แย้ง แต่กลับเหมือนจะคิดถึงอะไรได้ แล้วหยุดไป เขาไม่ได้ตัดสายเจียงมู่เฉิน ถ้าไม่ใช่เขา งั้นก็มีแค่…
[1] ใจหมีไส้เสือ เป็นสำนวนจีนเปรียบเปรยว่ามีความกล้าหาญมาก