(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล - ตอนที่ 185 ร่วมรบ / ตอนที่ 186 มิอาจแยกร่าง
ตอนที่ 185 ร่วมรบ
ทางราชสำนักเพราะอำนาจทางทหารถูกมอบให้หลานอวี่เป็นการชั่วคราว ฉะนั้นการออกศึกครั้งนี้หลานอวี่จึงเป็นคนนำทัพ หลานอวี่เป็นคนตระกูลหลาน อีกทั้งพลังวิญญาณยังไม่อาจมองข้ามได้
ราชสำนักก่อนหน้านี้ออกทัพก่อกบฏ ทางตระกูลเยี่ยมีความคิดจะมอบบทเรียนให้กับราชสำนักมานานแล้ว ฉะนั้นตอนที่ราชสำนักส่งทหารออกศึกจึงปล่อยทหารพลังจำนวนมาก คิดจะโจมตีราชสำนักอย่างหนัก ทำให้พวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่อาจสู้ได้
แต่เดิมพวกเขาคิดว่าราชสำนักไม่มีทหารพลัง มีเพียงทหารปกติธรรมดากลุ่มหนึ่งเท่านั้นไม่อาจเอาชนะพวกเขาได้ แต่เมื่อมาถึงสนามรบพวกเขาถึงพบว่าครั้งนี้ที่ราชสำนักนำมาล้วนเป็นทหารพลังทั้งสิ้น พลังวิญญาณสีต่างๆ ล้วนมีให้เห็น รวมกันกลายเป็นทหารพลังของราชสำนักกลุ่มหนึ่ง
พลังวิญญาณสามสีบินว่อนไปมา มีคนล้มลงไป มีคนหลบหนี คนตระกูลเยี่ยรับมือกับทหารพลังราชสำนัก ไม่อาจสนใจเรื่องอื่นได้ ความแข็งแกร่งของกองทัพราชสำนักกลุ่มนี้ ไกลห่างจากความคิดของพวกเขายิ่งนัก
ผู้นำทัพคือหลานอวี่ แม้ก่อนหน้านี้เขาน้อยครั้งที่จะนำทัพ แต่แผนที่และแผนการที่หลานเยี่ยมอบให้ทำให้เขามีความมั่นใจในตนเอง หากครั้งนี้สำเร็จเช่นนั้นทิศเหนือของตระกูลเยี่ยจะถูกพวกเขาครอบครอง
ตอนที่ทั้งสองฝ่ายกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดนั่นเอง ทหารธรรมดากลุ่มหนึ่งของราชสำนัก ในมือถือคันธนู มุ่งโจมตีไปที่ทหารพลังตระกูลเยี่ย มีทหารพลังจำนวนมากที่หลบไม่ทันเมื่อโดนธนูยิงเข้าใส่ก็ตายไปในทันใด
คนตระกูลเยี่ยจำนวนหนึ่งไม่อาจปลีกตัวได้ อีกจำนวนหนึ่งใช้พลังวิญญาณโจมตีไปยังทหารธรรมดาเหล่านั้นที่อยู่ห่างออกไป แต่หลังจากพลังวิญญาณพุ่งเข้าไปแล้ว เขตม่านพลังสีฟ้าสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพลทหารธรรมดาเหล่านั้น ด้านหลังมีหลานอวี่และอีกคนหนึ่งนั่งอยู่คนละฝั่ง ใช้พลังวิญญาณค้ำเขตม่านพลังไว้
สถานการณ์สำหรับตระกูลเยี่ยถือว่ายิ่งเสียเปรียบขึ้นเรื่อยๆ จู่ๆ คนนำทัพของทหารพลังตระกูลเยี่ยก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง
“ใช้ยา” ในพริบตาเดียวทหารพลังตระกูลเยี่ยที่อยู่ในสนามรบทั้งหมดพากันควักห่อกระดาษออกมาจากหน้าอก เทกระจายไปทั่วฟ้า แต่ต่อให้ทหารพลังของราชสำนักได้ยินว่าเป็นยาก็ไม่ได้ถอยหนี
คนที่นำทัพสีหน้าได้ใจมองทหารพลังของราชสำนัก เหมือนว่าในเสี้ยววินาทีถัดไปทหารพลังของราชสำนักจะถูกจัดการล้มลงไปทั้งหมด
แต่รออยู่นานทหารพลังของราชสำนักล้วนไม่มีวี่แววจะแพ้พ่าย และยิ่งไม่มีวี่แววว่าสูญเสียพลัง คนนำทัพรู้สึกหวาดกลัว รีบเรียกทหารพลังตระกูลเยี่ยทั้งหมดให้ถอยหนี
“ถอยทัพ” แต่หลานอวี่ไม่คิดปล่อยพวกเขาไป ทหารพลังราชสำนักไล่ตามไม่ยอมปล่อย สุดท้ายก็บีบพวกเขาไปถึงด้านหลังหน้าผา สำหรับทหารพลังแล้วหน้าผาถือเป็นเรื่องเล็กน้อย ใช้พลังวิญญาณก็สามารถทำให้ตนเองมีชีวิตรอดได้ แต่ทหารพลังของราชสำนักกลับขวางทางรอบข้างหน้าผาเอาไว้
หลานอวี่ก้าวขึ้นมาข้างหน้า มองดูทหารพลังตระกูลเยี่ยที่หนีตายอย่างน่าอนาถ ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใด
“ตกใจมากใช่หรือไม่ว่าเหตุใดยาของพวกเจ้าถึงไม่มีผล ตกใจมากใช่หรือไม่ว่าทำไมพวกเราถึงได้คุ้นเคยกับภูมิประเทศของตระกูลเยี่ยเช่นนี้”
“พวกเจ้าทำอะไร”
“ไม่ได้ทำอะไร อยากรู้ก็ไปถามยมบาลเอา ฆ่า”
ทหารพลังของราชสำนักลงมือ ทหารพลังตระกูลเยี่ยทำการรับมือครั้งสุดท้าย แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ผ่านไปครึ่งชั่วยาม รอบข้างหน้าผาก็เหลือเพียงทหารพลังราชสำนักที่ยืนอยู่และร่างไร้ชีวิตที่นอนอยู่บนพื้น
หลานอวี่มีความสงสัยเล็กน้อย เหตุใดตระกูลเยี่ยจึงไม่ใช่กลุ่มจิ้งจอกราตรี แม้จะบอกว่าจำนวนจิ้งจอกราตรีมีจำกัด แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่บริเวณชายขอบจะไม่มีเลย หลานอวี่มองศพที่วางเรี่ยราดอยู่บนพื้นพลางครุ่นคิด
ทัพทหารตระกูลเยี่ยถูกกำจัดจนหมดสิ้น ทิศเหนือของตระกูลเยี่ยถูกราชสำนักครอบครอง เหวินเย่ว์ถูกตระกูลหลานครอบครอง มีเพียงพื้นที่สำคัญฝั่งตะวันออกของตระกูลเยี่ย ทหารพลังในพื้นที่จิ่วหลิวที่ยังต่อสู้กับตระกูลเยี่ยอยู่อย่างดุเดือด
คนตระกูลเยี่ยทางนั้นถอยห่างออกไปไกล แต่ทหารพลังตระกูลหลานเริ่มไม่สามารถเขยิบไปข้างหน้าเหมือนแต่ก่อนได้อีก ตระกูลเยี่ยใช้กลุ่มจิ้งจอกราตรี ทหารพลังตระกูลหลานหยุดลงชั่วคราว จัดระเบียบใหม่อีกครั้ง
ตอนที่ 186 มิอาจแยกร่าง
โจมตีตระกูลเยี่ยสามทิศทางพร้อมกัน ตระกูลเยี่ยมิอาจแยกร่างได้
“ทางราชสำนักส่งข่าวมา เข้าครอบครองพื้นที่ทิศเหนือของตระกูลเยี่ยสำเร็จ พื้นที่สำคัญของตระกูลเยี่ยใช้กลุ่มจิ้งจอกราตรี พวกเขาไม่อาจตีได้ แต่ก็ยังบีบให้ตระกูลเยี่ยถอยห่างออกไประยะหนึ่ง” หลานเฟิงพูดกับหลานเยี่ย แต่หลานเยี่ยกลับหาวอ้าปากกว้าง
หลานเฟิงเห็นดวงตาของหลานเยี่ยเริ่มมีเส้นเลือดฝอย พาลคิดถึงท่าเดินไร้เรี่ยวแรงเมื่อครู่ของหลานเยี่ย ก็เข้าใจทันทีว่าพวกเขาสองคนมีความต้องการมากเกินไป หลานเฟิงไม่รู้สึกอะไร กลับเป็นหลานเยี่ยที่แลดูอ่อนล้า
สิ่งแรที่กหลานเฟิงนึกถึงคือการบำรุงหลานเยี่ย ไม่ใช่การที่จะลดจำนวนเรื่องพายุฝนนี้ลงไป
“ทางราชสำนักนั้นอยู่ในการคาดการณ์อยู่แล้ว จิ่วหลิวเองก็คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว กลุ่มจิ้งจอกราตรีนั้นไม่ง่าย ตอนนี้มีเพียงแข็งข้อโจมตีเส้นทางนี้ ตอนนี้ตระกูลเยี่ยแตกกระจัดกระจาย ทิศเหนือมีคนของราชสำนัก ทิศใต้มีคนของพวกเรา ทิศตะวันออกมีทหารพลังของจิ่วหลิว ที่เหลือมีเพียงทิศตะวันตกแล้ว
วันนี้หลังจากพักผ่อนพอแล้ว ก็ไปทำให้เหวินเย่ว์กลายเป็นของตระกูลหลานโดยสมบูรณ์ ประชาชนก็รดี ทหารพลังที่พิการก็ดี”
“ตอนนี้ตระกูลเยี่ยมิอาจแยกร่างได้ จะต้องรีบจัดการพวกเขาก่อนที่ตระกูลเยี่ยจะฟื้นฟูกลับมา”
“คราวนี้โชคดีที่มีเทียนซี ถ้าไม่ใช่เพราะเขาให้ยาพิษกับพวกเรา พวกเราเองก็คงจะไม่แผนซ้อนแผนจนได้รับชัยชนะ”
“พวกเราลืมเรื่องอะไรไปหรือไม่” จู่ๆ หลานเยี่ยก็ถามหลานเฟิงขึ้นมา
“อะไรหรือ” หลานเฟิงเองก็มึนงง ไม่เข้าใจว่าหลานเยี่ยกำลังคิดอะไร หรือคิดถึงเรื่องไหนขึ้นมา
“รู้สึกอยู่ตลอดว่าลืมเรื่องสำคัญอะไรบางอย่างไป เจ้ารู้สึกเช่นนี้หรือไม่”
“ในใจของข้ามีเพียงเจ้าเท่านั้น”
“พูดจากะล่อนปลิ้นปล้อน” หลานเยี่ยกลอกตามองเขาทีหนึ่ง
เจียงหลิงพาคนไปจัดการเรื่องเหวินเย่ว์ ทหารพลังบางส่วนที่แตกกระจายอยู่ภายในเหวินเย่ว์ถูกพวกเจียงหลิงจัดการ จากนั้นก็เดินไปต่อจนถึงพื้นที่รุ่งเรือง ที่นี่คือสถานที่พักอาศัยของประชาชนธรรมดาของเหวินเย่ว์
สำหรับคนเหล่านี้แล้ว ไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้นำพวกเขา ขอแค่พวกเขามีชีวิตอย่างสุขสบาย ไม่ว่าเบื้องบนจะเป็นใคร พวกเขาก็ไม่สนใจ
เจียงหลิงนำคนไปสอบถามว่ายังมีทหารพลังตกหล่นอีกหรือไม่ แต่กลับหลงเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ
ด้านนอกที่แห่งนั้นเป็นป่าไผ่แห่งหนึ่ง แต่เมื่อเดินตรงไปข้างหน้าผ่านป่าไผ่ไปจะกลายเป็นพื้นหญ้ากว้างใหญ่ แม้นี่จะเป็นเรื่องปกติ แต่เจียงหลิงถือเป็นคนที่มีพลังวิญญาณ เขาสามารถสัมผัสได้ถึงเขตม่านพลังของที่นี่โดยทันที อีกทั้งคนที่ตั้งเขตท่านพลังยังมีตบะบำเพ็ญไม่เลว อาจถึงขั้นที่ทัดเทียมกับหลานเยี่ยได้เลยด้วยซ้ำไป
เจียงหลิงยกมือขึ้น คิดจะหาทางเข้าของพลังวิญญาณ แต่หลังจากลองไปแล้วหลายครั้ง กลับต้องพบว่าหาเบาะแสไม่เจอแม้แต่น้อย คิดจะทำลายเขตม่านพลัง ก็ยังหาที่ลงมือทำลายไม่ได้ด้วยซ้ำไป
เจียงหลิงยอมแพ้ ที่นี่ไม่ใช่เขตม่านพลังที่คนระดับเขาสามารถจัดการได้ ดังนั้นเจียงหลิงจึงรีบกลับไปหาหลานเยี่ยและหลานเฟิง
“หลานเฟิง วันนี้เจ้าเย็นชาจังเลยยย” หลานเยี่ยหยอกเย้าหลานเฟิง แต่หลานเฟิงไม่มีปฏิกิริยาแม้แต่น้อย
“เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าวันนี้ฝีเท้าของตนดูเบาโหวง อีกทั้งยังง่วงงุนอย่างมาก” หลานเฟิงเอ่ยปาก หลานเยี่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง เหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริงด้วย
“เล็กน้อย ทำไมหรือ” หลานเยี่ยมองหลานเฟิงอย่างไม่เข้าใจ หลานเฟิงมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง ก็พูดออกมา
“ความต้องการมากเกินเหตุ”
เจียงหลิงที่เร่งเดินทางมาเห็นฉากหลานเยี่ยนอนอยู่บนขาหลานเฟิงพอดี ทั้งสองคนอยู่บนต้นไม้ต้นหนึ่ง อีกทั้งยังได้ยินคำพูดสุดท้ายนั่นพอดี
เจียงหลิงกระแอมไอด้วยความอึดอัดทีหนึ่ง หลานเฟิงไม่ได้เงยหน้ามามอง เขารู้นานแล้วว่าเจียงหลิงว่า
“ท่านประมุข พวกเราค้นพบเขตม่านพลังแห่งหนึ่งที่เหวินเย่ว์ ความสามารถของข้าไม่อาจเปิดออกได้ ฉะนั้นขอเชิญท่านไปดูเถิดขอรับ”