(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล - ตอนที่ 193 อุ้มอีกแล้ว / ตอนที่ 194 รู้สึกใหม่อีกครั้ง
ตอนที่ 193 อุ้มอีกแล้ว
ระหว่างทางกลับซีเชวีย หลานเยี่ยหาเรื่องวุ่นหลานเฟิงไม่หยุด
“หลานเฟิงเจ้ารักข้าหรือไม่”
“รัก”
“จริงหรือ”
“จริง”
“รักมากเพียงใด”
“ในใจมีเพียงเจ้า”
หลานเยี่ยถามอยู่นาน ทุกคำถามนั้นถามซ้ำกลับไปมา หลานเฟิงก็ไม่รำคาญ ทุกคำถามล้วนตอบเขา ในที่สุดหลานเยี่ยก็เหนื่อย หยุดหอบหายใจ จากนั้นก็เดินต่อ
“หลานเฟิง ถามเจ้าคำถามหนึ่งได้หรือไม่” จู่ๆ หลานเยี่ยก็กลายเป็นลังเล ไม่รู้ว่าสมควรถามหรือไม่
“ได้”
“ตอนแรกที่เจ้าผนึกความทรงจำของข้าเจ้ามีความรู้สึกเช่นไร ตอนแรกที่เจ้าปลดผนึกความทรงจำของข้าเจ้ารู้สึกเช่นไร ตอนแรกที่เจ้าได้ยินข่าวการตายของข้าเจ้ารู้สึกเช่นไร ตอนที่พวกเราเจอหน้ากันครั้งแรกพบว่าข้าไม่รู้จักเจ้า เจ้ารู้สึกเช่นไร”
พูดไว้อย่างดีว่าหนึ่งคำถาม หลานเยี่ยกลับถามออกมาสี่คำถาม หลังจากถามเสร็จแล้วหลานเฟิงไม่พูด หลานเยี่ยเองก็ไม่ถามต่อ เดินต่อไปเงียบเชียบเช่นนี้
เส้นทางกลับซีเชวียจากจิ่วหลิวนั้นราบเรียบ ผ่านลำธารเล็กสายหนึ่ง หลานเยี่ยเงยหน้าขึ้นมอง ไม่พบว่ามีปลา มีเพียงหญ้าน้ำสองสามดอกลอยอยู่บนผิวน้ำ ลอยไปลอยมา ลอยไปแล้วก็ลอยมา ลอยจนทำให้จิตใจของหลานเยี่ยวุ่นวาย เพราะไม่มีความน่าสนใจ จากนั้นก็เดินต่อไปข้างหน้าอย่างไร้ซึ่งคำพูด
“เจ็บปวดมาก” จู่ๆ หลานเฟิงก็พูดออกมาสามคำ หลานเยี่ยกำหมัดแน่น หลานเฟิงไม่เคยเปิดเผยอารมณ์ความรู้สึกของตนเองให้เห็น ต่อหน้าเขาบางครั้งที่มีอารมณ์ก็มักจะเป็นความยินดี
หลานเฟิงพูดสามคำนี้ออกมาได้ อธิบายได้ว่าเจ็บปวดอย่างมาก เฉกเช่นใกล้ตาย หลานเยี่ยคิดในใจ ตนเองสูญเสียความทรงจำซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนที่เจ็บปวดที่สุดไม่มีใครเกินหลานเยี่ย แล้วตนเองยังมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ยืนหยัดอีกเล่า! ตนเองก็สามารถทำให้หลานเฟิงไม่เจ็บปวดอีกต่อไป
“เพราะว่าเจ็บปวดมาก ฉะนั้นหลังจากนี้จะไม่ให้เจ้าได้รับความเจ็บปวดเหล่านั้นอีก” หลานเฟิงพูดเสริมอีกประโยค
หลานเยี่ยฟัง ไม่ได้พูดอะไร ในดวงตานั้นเป็นประกาย แต่ไม่มีน้ำตา ตอนที่ควรจะเอาแต่ใจได้ผ่านไปแล้ว ตนเองไม่อาจมีน้ำตาได้อีก จะยินดีก็ดี เจ็บปวดก็ย่อมได้
จู่ๆ หลานเฟิงก็หยุดฝีเท้า มองหลานเยี่ย หลานเยี่ยเห็นหลานเฟิงหยุดลง จึงหันไปมองเขา ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย
“เสี่ยวเยี่ย ต่อหน้าข้าไม่จำเป็นต้องปิดบังตนเอง และไม่จำเป็นต้องกดดันตนเอง ยิ่งไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อข้า ขอแค่เป็นตัวเจ้าที่ดีที่สุดก็พอแล้ว”
ทันใดนั้นลมกระแสหนึ่งก็พัดผ่านมา หลานเยี่ยมองหลานเฟิงด้วยความตื่นตกใจ ลมแรงเกินไป หลานเยี่ยโดนพัดจนลืมตาไม่ขึ้น แต่น้ำตากลับไหลลงมาไม่หยุด หลานเฟิงก้าวขึ้นไปช่วยเช็ดให้เขาเบาๆ
วันนี้เกิดเรื่องขึ้นเยอะแยะมากมายเกินไป และเหนื่อยเกินไป หลานเยี่ยลืมตาขึ้นจู่ๆ ก็รู้สึกเหน็ดเหนื่อย เหนื่อยมากจริงๆ วันนี้ฝืนอยู่ทั้งวัน
“หลานเฟิง ข้าเหนื่อยเหลือเกิน ขอนอนสักหน่อย”
“ได้”
หลานเฟิงโน้มตัวอุ้มเขาขึ้นมา เดินตรงต่อไปข้างหน้า ตอนที่ท้องฟ้ารุ่งสาง หลานเฟิงและหลานเยี่ยกลับไปแล้ว ตอนที่เจียงหลิงเห็นพวกหลานเฟิงกลับมาริมฝีปากก็กระตุกขึ้นเล็กน้อย
‘เหตุใดทุกครั้งต้องอุ้มไว้ ช่วยเห็นใจคนที่ยังไม่แต่งงานบ้างได้หรือไม่’
“รอทางจิ่วหลิวส่งข่าวมาค่อยไปปลุกพวกเราให้ตื่น” หลังจากหลานเฟิงพูดกับเจียงหลิงเช่นนี้ก็จากไป เหลือเพียงเจียงหลิงยืนอยู่ท่ามกลางลมกระโชกแรงเพียงลำพัง
ปลุกพวกเราให้ตื่น…
ปลุกพวกเราให้ตื่น…
ปลุกพวกเราให้ตื่น…
คำสี่ตำลอยอยู่ในหัววนไปมา เจียงหลิงหัวแทบระเบิด หากเข้าไปแล้วเห็นสิ่งที่ไม่สมควรเห็นจะทำเช่นไรเล่า คงจะไม่กระมัง เคาะประตูจากข้างนอกก็พอแล้ว อ๊ากกก เจียงหลิงหัวแทบจะระเบิดออกแล้วจริงๆ
ตอนที่ 194 รู้สึกใหม่อีกครั้ง
ยังไม่ถึงเวลากลางวันหลานเยี่ยก็ตื่นขึ้นมาแล้ว ตาทั้งสองข้างลืมขึ้นเห็นหลานเฟิงนอนลงอยู่ข้างตนเอง นอนหลับยังไม่มีทีท่าจะตื่น
ไม่รู้เพราะเหตุใดในใจของหลานเยี่ยนั้นมีเสียงน้ำไหลตลอดเวลา เหมือนใบไม้แดง เหมือนลมในฤดูใบไม้ผลิ ยิ่งมองหลานเฟิงก็ยิ่งลึกล้ำขึ้น
หลานเฟิงขยับจับขนตาของหลานเฟิงเล็กน้อย ยาวมาก สวยงามมาก จากนั้นหลานเยี่ยก็ค่อยๆ ไล่นิ่วลงไปด้านล่าง ดวงตาก็สวย เหตุใดถึงได้เกิดมาน่ามองเช่นนี้ จากนั้นก็จมูก ดั้งโด่งตรง ลองจับบิดแล้วยังรู้สึกสบายด้วย
จากนั้นก็เป็นริมฝีปาก ริมฝีปากนุ่มมาก สบายมาก หลานเยี่ยจับพลัดจับผลูเอาริมฝีปากตนเองแนบลงไป ยังไม่ลืมแลบลิ้นเลียเล็กน้อย จากนั้นหลานเยี่ยก็เข้าใจว่าในใจรู้สึกอย่างไร
หลานเฟิงกำลังหลับสนิท ฝันไปอย่างที่ไม่เกิดขึ้นมานานแล้ว ในความฝันเขาและหลานเยี่ยขี่ม้าด้วยกันที่เขาหลานวั่ง จู่ๆ หลานเยี่ยก็หยุดลง หันมาจุมพิตดวงตาของตน จมูกของตน ตอนที่ยังไม่ทันถึงริมฝีปาก หลานเฟิงก็ตื่นขึ้นมาเสียก่อน
ตอนแรกยังรู้สึกเสียดายอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อตื่นแล้วก็ต้องพบว่าหลานเยี่ยกำลังประกบอยู่บนริมฝีปากของตน ใบหน้าเต็มไปด้วยความเพลิดเพลิน จู่ๆ ดวงตาทั้งสองคู่ก็สบมองกัน หลานเยี่ยตกใจรีบลุกขึ้นมา คิดเคยคิดว่าหลานเฟิงกลับพลิกกดเขาเอาไว้ลงบนเตียง
สิ่งที่ทำให้หลานเฟิงตกใจมากที่สุดคือหลานเยี่ยไม่ขัดขืน แต่กลับยิ้มแย้มหัวเราะน้อยๆ มองเขา ผ่านไปครู่หนึ่ง หลานเฟิงรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ลูบแผ่นอกของตนเองดู เหมือนว่ามีอะไรบางอย่าง ความรู้สึกที่เงียบสงบอย่างมากลึกล้ำอย่างมาก
หลานเฟิงเลิกลูบแผ่นอกของตนเอง ผ่านไปไม่นานก็ต้องถลึงตาโตในทันใด
“เสี่ยวเยี่ย ข้า…” หลานเยี่ยดึงเขาลงมา กอดเขาไว้
“ข้าจำได้หมดแล้ว จำขึ้นมาได้หมดแล้ว อีกทั้งยังสามารถรับรู้ความรู้สึกของเจ้าจากมุกหลิววั่งได้แล้ว เหมือนน้ำพุใส เหมือนลมในฤดูใบไม้ผลิ ลึกล้ำอย่างมากสบายอย่างมาก หลานเฟิง จริงๆ แล้วเจ้ารักข้าถึงเพียงนี้”
หลานเฟิงเอนตัวนอนลงบนร่างหลานเยี่ย ถูกหลานเยี่ยกอดเอาไว้ ตื้นตันใจอย่างมาก เมื่อครู่สิ่งที่ส่งถ่ายมาจากหลานเยี่ยล้วนเป็นความรักที่ล้นเหลือ ความรักที่ทำให้เขายินดีบ้าคลั่ง ความรักที่ยิ่งใหญ่กว่าแต่ก่อน
หลานเยี่ยสามารถสัมผัสได้ถึงอาการสั่นสะท้านของเขา ตบหลังเขาเบาๆ หลานเฟิงลุกขึ้นด้วยความตื่นเต้น จุมพิตเขาลงไป จุมพิตที่อ้อยอิ่งและสงบใจช่างสบายเช่นนี้เอง
เจียงหลิงเดินวนเวียนอยู่หน้าประตู จะเคาะประตูก็ไม่ใช่ ไม่เคาะก็ไม่ใช่ สุดท้ายจึงตัดสินใจเคาะประตู ครั้งที่หนึ่ง ไม่มีความเคลื่อนไหว ครั้งที่สอง ไม่มีความเคลื่อนไหว ครั้งที่สามยัง ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหว
เจียงหลิงลนลานแล้ว คราวนี้จะทำเช่นไร เจียงหลิงร้อนใจ ข่าวทางจิ่วหลิวได้กระจายออกไปแล้วต้องรีบฉวยโอกาส
เจียงหลิงฮึดตัดสินใจ ตอนนี้เป็นช่วงกลางวันน่าจะไม่มีอะไรกระมัง อีกทั้งคำสั่งของท่านหัวหน้าแม่ทัพคือหากจิ่วหลิวมีข่าวให้บอกเขา เขาจำเป็นต้องเชื่อฟังทำตามคำสั่ง คิดอย่างถูกต้องมีเหตุผลเช่นนี้เจียงหลิงจึงผลักประตูเข้าไป
แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้ต้องยืนซื่อไป ทั้งสองคนกำลังจุมพิตกันอยู่บนเตียงอย่างดูดดื่ม เสื้อผ้าของหลานเยี่ยนั้นไหลลงมาถึงไหล่ พอเจียงหลิงเห็นแล้วก็รีบถอยออกจากห้องไป พลางปิดงับประตูลง
“ข้า ข้า ข้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ท่านหัวหน้าแม่ทัพ ทางด้านจิ่วหลิวส่งข่าวมาแล้วทางทิศตะวันออกของตระกูลเยี่ยถูกครอบครองแล้ว ข้าบอกท่านแล้ว ข้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ข้าขอตัวขอรับ” เจียงหลิงรีบหนีไปด้วยความร้อนรน
ตอนที่ประตูถูกปิดลงเสียงดังทำให้ทั้งสองคนได้สติ หลานเยี่ยตั้งสติได้รีบผลักหลานเฟิงออก ใส่เสื้อผ้าของตนให้ดีจากนั้นก็ได้ยินเสียงเจียงหลิงพูดจากด้านนอก
ฟังคำพูดของเจีงหลิงแล้ว หลานเฟิงหันหน้ามามองหลานเยี่ยทีหนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะออกมา ใบหน้าของหลานเยี่ยแดงก่ำ
“หัวเราะอะไร เป็นเพราะเจ้าทั้งนั้น” หลานเยี่ยพูดออกมาด้วยความโกรธ
“โทษข้าทั้งนั้น แต่ไฟถูกจุดขึ้นมาแล้ว เอาลงไม่ได้จะทำเช่นไร” หลานเยี่ยเหลือบมองลงไปด้านล่างทีหนึ่ง รีบสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย วิ่งออกนอกห้องไป หลานเฟิงหัวเราะพลางมองตามเขา ไม่นานก็ออกไปเช่นเดียวกัน