(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล - ตอนที่ 195 สถานที่บริสุทธิ์ / ตอนที่ 196 โจมตีกลับอย่างถึงที่สุดแล้วเป็นอย่างไร
- Home
- (Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล
- ตอนที่ 195 สถานที่บริสุทธิ์ / ตอนที่ 196 โจมตีกลับอย่างถึงที่สุดแล้วเป็นอย่างไร
ตอนที่ 195 สถานที่บริสุทธิ์
มู่หลีกลับไปจิ่วหลิวพร้อมชิวลั่ว เคลื่อนย้ายสายลับทั้งหมดไปจัดการกวาดล้างผู้สอดแนมของตระกูลเยี่ย รายชื่อถูกต้องแม่นยำ ฉะนั้นทหารทั้งหมดแบ่งออกเป็นสามทาง ไปจัดการตัดขาดการส่งข่าวระหว่างพวกเขาก่อน จากนั้นค่อยเขาโจมตีทีละฝ่าย
เริ่มออกเดินทางตั้งแต่เที่ยงคืน มู่หลีและชิวลั่วเมื่อไปถึงที่ใด ก็จะกำจัดที่แห่งนั้น ท้องฟ้าค่อยๆ สว่างขึ้นก็จัดการได้มากพอสมควรแล้ว ชีวิตผู้สอดแนมเหล่านี้พวกเขาได้ตัดสินความเป็นความตายจากเรื่องที่พวกเขาทำมาก่อนหน้านี้
เมื่อใกล้ถึงเวลาเที่ยงวัน ทุกพื้นที่ก็ถูกจัดการจนหมด มู่หลีตบมือ บิดขี้เกียจ
“คราวนี้จิ่วหลิวก็เป็นสถานที่บริสุทธิ์อย่างมากแล้ว รอการศึกจบลง ข้าจะปล่อยกระจายแหล่งข่าวออกไป ไม่มีการแก่งแย่งชิงดี ไม่มีการป้องกันภัยต่างๆ มี ช่างดีเหลือเกิน” มู่หลีพูด
“ที่เจ้าพูดนั้นดีจริง เหมือนกับเป็นสถานที่ไร้ผู้คน ไม่มีคน ก็ไม่มีการแก่งแย่งชิงดี ก็ไม่มีการป้องกันภัยต่างๆ” ชิวลั่วพูดเยาะอยู่อีกข้าง
“ไว้หน้ากันหน่อยได้หรือไม่” มู่หลีซัดเขาเข้าไปฝ่ามือหนึ่ง แต่มือกลับถูกชิวลั่วจับเอาไว้
“ปล่อย”
“ไม่ปล่อย”
“เจ้าจะปล่อยหรือไม่” มู่หลีเห็นว่าแค่มือสู้ไม่ได้ ก็เริ่มใช้เท้าเตะเขา พอดีกับที่ชิวลั่วออกแรง อุ้มเขาขึ้นมา
“เจ้าทำอะไร ปล่อยข้าลง”
“ข้าไม่ปล่อย”
“ข้าจะบอกเจ้าให้ฟังชิวลั่ว อยู่บนเตียงเจ้าอยู่ข้างบนไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้ยังจะมาเอาเปรียบข้า” มู่หลีพองขนแล้ว
“บนเตียงเพราะเจ้าสู้เอาชนะข้าไม่ได้ ตอนนี้เพราะเจ้าเป็นภรรยาของข้า อุ้มภรรยาตนเองมีความผิดอะไรหรือ”
“ใครเป็นภรรยาเจ้า รีบปล่อยข้าลง ข้ายังต้องแจ้งหลานเยี่ยอีก! ชักช้าไปจะไม่ดี”
“ข้าแจ้งแล้ว ไม่ต้องกังวลใจ”
“เจ้า…เจ้าชอบอุ้มก็อุ้มไปเลย อย่ามาบ่นว่าข้าหนักก็พอ” มู่หลียอมลง ชิวลั่วสีหน้าได้ใจอุ้มมู่หลีกลับไปยังตระกูลเยี่ย
มู่เยี่ยและมู่ฮวาได้ทำการตัดสินแผนการทำศึกใหม่อีกครั้งที่ตระกูลเยี่ย ขับไล่คนตระกูลเยี่ยไปยังขอบทิศตะวันตก ตรงนั้นที่สถานที่อยู่อาศัยของคนธรรมดาตระกูลเยี่ย หากมีอะไรขึ้นมาแต่น้อยก็จะพาลกระทบไปถึงคนที่ไม่รู้เรื่องราว
หลานเยี่ยและหลานเฟิงมาถึงพื้นที่สุดขอบเหวินเย่ว์ จุดที่ใกล้กับตระกูลเยี่ย ตอนนี้ตระกูลเยี่ยถูกบีบบังคับให้ไปอยู่ทิศตะวันตกโดยสมบูรณ์แล้ว สำหรับพื้นที่บริเวณสุดขอบทิศตะวันตกนั้นกลับเป็นมหาสมุทรแห่งใหญ่ ไม่มีที่สิ้นสุด คนที่เคยออกไป ไม่เคยได้กลับมา
ตอนนี้คนตระกูลเยี่ยรวมกลุ่มอาศัยอยู่สุดขอบทิศตะวันตก ทหารพลังของราชสำนักอยู่ทิศเหนือ ทหารพลังของจิ่วหลิวอยู่ทิศตะวันออก ทหารพลังของซีเชวียอยู่ทิศใต้ กลายเป็นวงล้อมหนึ่งวง ล้อมรอบคนตระกูลเยี่ยเอาไว้ภายใน ไม่อาจขยับเคลื่อนไหว
“หากตอนนี้เปิดศึก คนธรรมดาตระกูลเยี่ยจะทำเช่นไร” หลานเยี่ยถามหลานเฟิง
“เจ็บตายไปกว่าครึ่ง” หลานเฟิงตอบ
“ตระกูลเยี่ยคงจะไม่ทำให้ประชาชนราษฎรของพวกเขาได้รับบาดเจ็บหรอกกระมัง” หลานเยี่ยพูดอีกประโยค
“ตัวชิวฉือจะรักษาชีวิตตัวเองยังยาก ไม่อาจมาสนใจประชาชนธรรมดาได้อีกแล้ว” หลานเฟิงพูดออกมาโดยไร้ซึ่งความรู้สึก เมื่อเทียบกันแล้ว หลานเยี่ยแลดูกังวลใจกว่านัก
“เจ้าจะไปทำอะไร” หลานเฟิงเห็นหลานเยี่ยเดินขึ้นที่สูง ก็ห้ามเขาเอาไว้
“ข้าจะไปตะโกนสักครั้ง เช่นนี้ก็จะไม่ทำให้ประชาชนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวตายแล้ว”
“อันตรายมาก” หลานเยี่ยมองสายตาเป็นกังวลของหลานเฟิง ก็ยอมวางความคิดนี้ลงไป
หลังจากหลานเฟิงห้ามหลานเยี่ยแล้ว ตนเองกลับขึ้นไปข้างบนแทน
“เจ้าไม่ให้ข้าขึ้นไปมิใช่หรือ เหตุใดเจ้าจึงไปเล่า” หลานเยี่ยรีบวิ่งตามขึ้นมา
“เจ้าอย่าขึ้นมา ข้าไม่เป็นอะไร” หลานเฟิงกั้นเขตม่านพลังเอาไว้บนร่างตนชั้นหนึ่ง ทำให้ทุกสิ่งรวมถึงหลานเยี่ยถูกตัดขาด
“ประชาชนขาวตระกูลเยี่ยฟังให้ดี ที่นี่ใกล้จะเปิดศึก รีบออกไป มิเช่นนั้นคนที่ไม่เกี่ยวจะได้รับบาดเจ็บ” หลานเฟิงให้พลังวิญญาณทำให้เสียงกระจายดังจนสามารถได้ยินทั่วทั้งทิศตะวันตก
ที่ต้องเผชิญหน้ารับมือเป็นธนูดอกหนึ่ง ถูกเขตม่านพลังกันเอาไว้ หลังจากหลานเฟิงลงมาแล้วก็เห็นประชาชนจำนวนไม่น้อยวิ่งออกมาด้านนอก แต่กลับถูกคนตระกูลเยี่ยขวางทางไว้
หลานเยี่ยส่ายหน้า เช่นนี้ก็โทษเขาไม่ได้แล้ว
ตอนที่ 196 โจมตีกลับอย่างถึงที่สุดแล้วเป็นอย่างไร
เวลามาถึงแล้ว หลานเยี่ยส่งสัญญาณออกไป มู่หลีนำทหารพลังของจิ่วหลิว หลานอวี่นำทหารพลังของราชสำนัก เจียงหลิงนำทหารพลังของซีเชวีย ออกโจมตีพร้อมกัน
การศึกดุเดือดอย่างมาก ทหารพลังตระกูลเยี่ยนอกจากจิ้งจอกราตรีแล้วมีไม่ถึงพอสองในสามของเวลาปกติ ในตอนนี้ยังโจมตีจากสามทางพร้อมกัน ไม่มีกำลังจะสู้กลับได้
หลานเยี่ยมองสถานการณ์เบื้องหน้า ไร้ซึ่งคลื่นใหญ่ทางอารมณ์ใดๆ นี่เกรงว่าคงเป็นศึกสุดท้ายแล้ว พลางคิดถึงคำพูดของผู้เฒ่าคนนั้นที่บอกว่าเคราะห์กรรมด่านสุดท้าย ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไร ในใจของหลานเยี่ยรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
ความรู้สึกถูกส่งถ่ายไปยังหลานเฟิง หลานเฟิงจับมือของเขาเอาไว้แน่น หลานเยี่ยยิ้มออกมา เขาลืมไปเลยว่ามุกหลิววั่งกลับมาเชื่อมต่อกันอีกครั้ง ความเป็นความตายของเขาและหลานเฟิงเชื่อมต่อกันอีกครั้ง
ทางด้านตระกูลเยี่ยส่งพลทหารธรรมดาอยู่ข้างหน้า ทหารพลังอยู่ตรงกลาง จิ้งจอกราตรีอยู่สุดท้าย พลทหารธรรมดาปกติแล้วจะไม่ได้เข้าสนามรบ ขึ้นมาก็เพียงสละชีวิตไปโดยเสียเปล่าเท่านั้นเอง ดูท่าตระกูลเยี่ยไม่สนใจความเป็นความตายของทุกคนแล้ว
การโจมตีครั้งแรกเริ่มต้น ด้านหน้ามีคนปะทะกัน พลทหารตระกูลเยี่ยล้วนไร้ค่าสละชีวิตไปเปล่าๆ เท่านั้นตามที่คิดไว้ เวลายังไม่ทันผ่านไปนานเท่าไร พลทหารตระกูลเยี่ยทั้งหมดล้วนล้มลงไป การศึกครั้งนี้ที่จริงแล้วสิ่งที่หลานเยี่ยต้องการก็คือกำจัดสลายกำลังทหารตระกูลเยี่ยทั้งหมด เรื่องทั้งหมดควรจะจบลงไปได้แล้ว
รอจนโจมตีครั้งที่สอง ราชสำนักและซีเชวียก็สูญเสียคนไปจำนวนหนึ่ง แต่ทหารพลังตระกูลเยี่ยยังคงถูกกำจัดไปทั้งหมด
บนพื้นมีคนตระกูลเยี่ยเป็นจำนวนมาก ที่ตายไปแล้ว ยังไม่ตายก็ลุกไม่ขึ้น จะตายมิตายแหล่ หลายกลุ่มติดต่อกันไป ทหารพลังทั้งหมดในตอนนี้ล้วนพุ่งขึ้นมรับมือกับกลุ่มจิ้งจอกราตรีที่อยู่ท้ายสุด
สำหรับคนที่ต้องใช้สิบคนในการรับมือคนผู้หนึ่ง จริงๆ แล้วก็ไม่มีวิธีอะไรดีๆ ทำได้เพียงใช้คนจำนวนมากเอาชนะเท่านั้น จำนวนจิ้งจอกราตรีในตอนนี้มีเพียงหนึ่งในร้อยของฝ่ายศัตรูเท่านั้น และด้านหลังจิ้งจอกราตรีที่ยืนอยู่คือชิวฉือ
ตอนที่กำลังจะเริ่มโจมตีนั่นเอง พลทหารธรรมดาที่ล้มนอนอยู่บนพื้นจู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน อีกทั้งยังมีพลังวิญญาณ แม้จะไม่มาก แต่ก็สามารถกลายเป็นอาวุธได้
“ตระกูลเยี่ยให้พลทหารเหล่านี้กินยา บังคับให้พวกเขามีพลังวิญญาณ” หลานเยี่ยพูดทอดถอนใจ
“แต่ไม่มั่นคง คนที่ไม่เคยผ่านการฝึกฝนมาก่อนไม่มีทางบังคับให้ดีได้” หลานเฟิงรับพูดต่อ
มองดูทหารพลังของราชสำนัก ซีเชวียและจิ่วหลิวที่ตอนนี้ถูกบีบโจมตีทั้งหน้าและหลัง หลานเยี่ยกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย สถานการณ์เช่นนี้เขาคำนึงถึงมานานแล้ว
จิ้งจอกราตรีเริ่มโจมตีกลับอย่างถึงที่สุด หลังจากกินยาที่ทำให้พลังวิญญาณเพิ่มขึ้นจนระเบิดแล้วนั้น ในช่วงเวลาที่ยาเริ่มออกฤทธิ์ก็โจมตีศัตรูที่อยู่ข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง
ทหารพลังสามฝ่ายล้มลงไปเป็นแถบ สถานการณ์แม้จะเสียเปรียบอยู่เล็กน้อย แต่ยังคงแสดงสถานการณ์ล้มลงไปแทบหนึ่งให้เห็นอยู่
ผ่านไปนานจำนวนจิ้งจอกราตรีก็เหลือน้อยลงมากแล้ว พลทหารที่มีพลังวิญญาณเหล่านั้นก็แทบจะไม่เหลือ ต่อให้พวกเขาไม่ถูกฆ่าตาย เมื่อกินยาเข้าไปแล้วก็ห่างจากความตายไม่มากเท่าไรนัก
สีท้องฟ้าเริ่มมืดลง แสงอาทิตย์ยามใกล้ตกดินเป็นสีแดงเลือด ดวงตาของคนก็เป็นสีแดงเลือดเช่นเดียวกัน การศึกนั้นส่งผลกระทบไปถึงประชาชนคนธรรมดามากกว่าทหารพลังอยู่เยอะ
การโจมตีอย่างถึงที่สุดของจิ้งจอกราตรีนั้นล้มเหลว ทั้งสนามรบเหลือเพียงชิวฉือคนเดียวเท่านั้น ชิวฉือค่อยๆ ชักกระบี่ออกมา ชี้ไปยังศัตรูที่อยู่ตรงหน้า
“ยอมแพ้เถิด เจ้าไม่มีโอกาสแล้ว” หลานเยี่ยเอ่ยปาก
“ข้าจะตาย ก็ต้องตายบนสนามรบ ท่านประมุขมอบตระกูลเยี่ยให้ข้า ข้าไม่อาจทำให้ตระกูลเยี่ยสลายลงไปบนมือข้า”ชิวฉือพูดออกมาอย่างเต็มไปด้วยคุณธรรม
“ประมุขของพวกเจ้าไม่ต้องการตระกูลเยี่ยแล้ว เจ้ายังจะมายืนหยัดอยู่ที่นี่เพราะเหตุใด เจ้าคิดว่าหลังจากเจ้าสู้ตายไปแล้วประชาชนตระกูลเยี่ยจะจำชื่อเจ้าได้หรืออย่างไร
อย่ามาล้อเล่นเลย ขอแค่แพ้การศึก ไม่ว่าเจ้าจะเป็นหรือตาย ปากของประชาชนที่พูดถึงเจ้าล้วนดูถูกทั้งสิ้น เจ้ามีชีวิตอยู่ เจ้าแสดงความพยายามและเสียสละอย่างมาก อย่างไรก็ยังคงกลายเป็นนักโทษในสายตาของประชาชน จะเป็นหรือตายก็เหมือนกัน เหตุใดถึงไม่ตรงไปตรงมาเสียหน่อยเล่า”
มือของชิวฉือที่ถือกระบี่สั่นเล็กน้อย หลานเยี่ยพูดไม่ผิด ไม่ว่าอย่างไรขอแค่สู้ศึกแพ้ก็คือนักโทษทั้งสิ้น
ชิวฉือหัวเราะเสียงดัง ชักกระบี่ฆ่าตัวตาย
หลานเยี่ยมองร่างของเขา ถอนหายใจออกมา