ยอดหญิงสกุลเสิ่น - ตอนที่ 141.2
“อีกนานแค่ไหนจึงจะถึง” เสิ่นเวยเอ่ยถามอย่างร้อนใจ นางยกมือเช็ดเหงื่อที่หน้าผากอยู่ตลอดเวลา ท่าทีอ่อนแอบอบบาง
“ใกล้แล้วเจ้าค่ะ ข้างหน้านี้เอง” สาวใช้ผู้นั้นชี้ไปด้านหน้า “เอ๊ะ คุณหนูรองเสิ่นเล่า เมื่อครู่ยังอยู่ที่นี่อยู่เลย หรือว่าไปก่อนแล้ว บ่าวจะไปหาในป่าทางด้านโน้นนะเจ้าคะ”
พูดแล้วก็คิดจะวิ่งออกไป แต่ถูกเยว่กุ้ยจับไว้ มือหนึ่งยกขึ้นปิดปาก ส่วนอีกมือก็จัดการกับทำให้นางสลบแล้วโยนเข้าไปในป่า ใครก็มองไม่เห็น
“สวยมาก!” เสิ่นเวยยกนิ้วชื่นชม
แต่เถาฮวากลับทำปากยื่น พูดอย่างไม่พอใจว่า “เยว่กุ้ย เจ้าควรจะรอข้าก่อน” น่าโมโหจริงๆ งานถูกเยว่กุ้ยเจ้าคนน่าโมโหแย่งทำจนหมด นางไม่ได้ช่วยสักนิด คุณหนูจะไม่ชอบนางแล้วหรือเปล่า
เสิ่นเวยหลุดขำออกมา ลูบศีรษะปลอบใจเถาฮวา “ไม่ต้องรีบร้อน นี่ก็มาทำงานไม่ใช่หรือ เถาฮวาไปเถอะ ผลักคนผู้นั้นให้ตกลงไปในสระน้ำ”
ในตอนนี้พวกนางกำลังยืนอยู่ข้างสระน้ำ เด็กหนุ่มผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาจากในป่าทางด้านหนึ่ง เสิ่นเวยหรี่ตามองก็รู้ว่าคือเจ้าคนไม่เอาไหนฉินมู่หราน ดูจากวัตถุประสงค์ของนางคงคิดจะผลักนางตกลงไปในสระน้ำ
ถึงแม้ว่าจะเป็นหน้าร้อน น้ำในสระไม่เย็น แต่เสิ่นเวยไม่อยากเล่นน้ำสักนิด…เช่นนั้นก็ต้องขอโทษที เจ้าลงไปอยู่ในสระน้ำสักครู่เถอะ…
เสิ่นเวยแอบเตะก้อนหินออกไปโดนขาของฉินมู่หรานพอดี เขาร้องอุทานด้วยความเจ็บปวด พร้อมทั้งถลาไปด้านหน้า และเถาฮวาก็พุ่งตรงมาที่ตัวเขา ก่อนจะกระแทกตัวฉินมู่หรานจนตกลงไปในสระน้ำ
ฉินมู่หรานเป็นเป็ดแล้งน้ำ[1]เมื่อตกลงไปในสระก็ตีน้ำด้วยความตกใจ แต่ยิ่งตีน้ำก็ยิ่งจมลงไป จนกลืนน้ำเข้าไปครึ่งท้องแล้ว
เสิ่นเวยที่ยืนอยู่ริมตลิ่งเหยียดยิ้มเย็น ราวกับกำลังชมเรื่องตลก แต่ในพริบตาต่อมาสีหน้าของนางก็พลันเปลี่ยนไป มันถูกแทนที่ด้วยความตื่นตระหนก “เร็วเข้า ใครก็ได้ช่วยด้วย มีคนตกน้ำ!”
เยว่กุ้ยก็หลักแหลม โผเข้ามาโอบกอดเสิ่นเวยไว้ในอ้อมแขน แสร้งร้องออกมาอย่างตื่นตระหนกบ้าง “ช่วยด้วย มีคนตกน้ำ”
ทันใดนั้นก็มีคนกลุ่มหนึ่งกลู่กันเข้ามา ในคราวแรกสีหน้ายังตื่นเต้น แต่ทันใดนั้นก็ต้องแข็งค้าง นี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน บอกว่าในน้ำมีคนสองคนไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงมีแค่คนเดียวที่ดำผุดดำว่ายอยู่ เมื่อมองดีๆแล้ว นั่นคือคุณชายเล็กของพวกเขาไม่ใช่หรือ
พวกหญิงรับใช้ รวมถึงฮูหยินฉินพลันร้อนรนขึ้นมา “หรานเกอเอ๋อร์ รีบช่วยหรานเกอเอ๋อร์เร็วเข้า”
มีหญิงรับใช้ผู้หนึ่งที่ว่ายน้ำเป็นรีบกระโดดลงไป เพราะฉินมู่หรานดิ้นรุนแรงเดินไป ต้องใช้เรี่ยวแรงมากจึงจะสามารถช่วยเขาขึ้นมาได้ เวลานี้ฉินมู่หรานอยู่ในสภาพกึ่งหมดสติ
ฮูหยินฉินร้อนใจมาก พุ่งเข้าไปใกล้ก็ตะโกนออกมา “หรานเกอเอ๋อร์ หรานเกอเอ๋อร์ เจ้ารีบตื่นขึ้นมาสิ อย่าทำให้แม่ตกใจ รีบเรียกหมอมา รีบเรียกหมอมาช่วยเร็วเข้า!” เสียงของนางทั้งแหลมบาดหูและกระวนกระวาย เหล่าฮูหยินคนอื่นๆ ที่มากับด้วยก็พากันร้อนใจตาม
“ฮูหยิน ท่านหลบไปก่อนเถอะเจ้าค่ะ ให้บ่าวลองดูก่อน ” แม่นมคนสนิทของฮูหยินฉินก้าวออกมา กดที่หน้าอกของฉินมู่หรานเพื่อกระตุ้นให้หายใจ ทำอยู่สามสิบกว่าครั้งฉินมู่หรานจึงไอและได้สติขึ้นมา
“ลูกจ๋า เจ้าทำแม่ตกใจแทบแย่” ฮูหยินฉินเอ่ยปากทั้งที่สตียังไม่มั่นคง เมื่อเงยหน้าขึ้นและเห็นเสิ่นเวยกับบ่าวอีกสองคน นางก็กัดฟันแน่นเอ่ยว่า “คุณหนูสี่ตระกูลเสิ่น นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น เหตุใดหรานเกอเอ๋อร์จึงตกน้ำได้ เจ้าผลักเขาใช่หรือไม่”
กลุ่มคนที่มาด้วยกันเมื่อได้ยินว่านี่คือคุณหนูสี่แห่งตระกูลเสิ่น นึกถึงความขัดแย้งระหว่างสองตระกูล แววตาก็เผยความสับสนออกมา
“ฮูหยินท่านนี้ ท่านเป็นใครหรือ ข้าไม่เคยพบท่านมาก่อน ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็นใคร” เสิ่นเวยที่อยู่ในอ้อมอกของเยว่กุ้ยเงยหน้ามองอย่างประหลาดใจ ท่าทีเอียงอาย เมื่อสัมผัสกับสายตาชิงชังของฮูหยินฉินก็ตกใจจนรีบซุกในอ้อมแขนของเยว่กุ้ย
คนอื่นๆ เห็นสายตาของฮูหยินฉินก็รู้สึกแปลกใจ เมื่อครู่ฮูหยินฉินบอกกับพวกนางว่าจะพาไปดูไก่ฟ้า เมื่อเดินเข้ามาใกล้ก็ได้ยินเสียงบางอย่างจึงมาดู คิดไม่ถึงว่าจะได้ดูละครฉากใหญ่ มุมปากของทุกคนพลันเหยียดยิ้มขึ้น
“เรียนฮูหยินและคุณหนูทุกท่าน พวกเราเป็นคนของจวนจงอู่โหว เดิมที เดิมทีคุณหนูของเราชื่นชมดอกไม้อยู่ที่ระเบียง แต่อยู่ๆ ก็มีสาวใช้มาแจ้งว่าคุณหนูรองของพวกเราข้อเท้าแพลง คุณหนูสี่ของพวกเราจึงตามนางมา ใครจะรู้เมื่อมาถึงที่นี่กลับไม่เห็นใครสักคน สาวใช้คนนี้ก็คิดจะหนี บ่าวร้อนใจจึงผลักนาง ใครจะคิดว่านางลื่นล้มกระแทกก้อนหินจนหมดสติ เอ่อ นางยังนอนอยู่ทางด้านโน่นเจ้าค่ะ ตอนที่พวกเรากำลังจะกลับไป อยู่ๆ ก็มีใครบางคนพุ่งออกมาจากพุ่มไม้ วิ่งเข้ามาเร็วมากเลยชนกับเถาฮวา เถาฮวาไม่เป็นอะไร แต่เขากลับเซถอยไปด้านหลังหลายก้าวก็ลื่นตกลงไปในสระน้ำ คุณหนูของพวกเราตกใจมากเจ้าค่ะ” เยว่กุ้ยเล่าเรื่องเกิดขึ้นอย่างหลักแหลม ทั้งยังหิ้วร่างของสาวใช้ผู้นั้นเข้ามา
ฮูหยินฉินโกรธจนอยากจะกินเสิ่นเวยเข้าไปเสียเดี๋ยวนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะนางตัวอัปมงคลนี่คนเดียว หากไม่ใช่เพราะมัน บุตรชายของนางจะตกน้ำได้อย่างไร
ก่อนหน้านี้นางตกลงกับบุตรชายก่อนแล้ว ขอเพียงชนนางเด็กสมควรตายคนนี้ลงไปในน้ำได้ก็พอ หลังจากนั้นจะมีหญิงรับใช้ช่วยนางขึ้นมาเอง ขอเพียงบุตรชายได้เห็นเรือนร่างของนางเด็กคนนี้ นางก็สามารถจับเสิ่นเวยเข้าจวนมาเป็นอนุภรรยาของบุตรชายได้ เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะทรมานอย่างไรก็ย่อมได้ ใครจะรู้ว่าเรื่องจะพลิกผันไปเช่นนี้ นางเด็กสมควรตายยืนอยู่ริมสระ แต่บุตรชายของนางกลับตกลงไปในน้ำ ทั้งยังเกือบตายด้วย นางจะทนต่อโทสะครั้งนี้ได้อย่างไร
“เหลวไหล เด็กตัวเล็กๆ จะทำให้หรานเกอเอ๋อร์ตกน้ำได้อย่างไร นางไม่ได้ตัวสูงใหญ่เท่ากับหรานเกอเอ๋อร์ พวกเจ้าผลักเขาตกลงไปในน้ำชัดๆ ยังจะแก้ตัวอีก” ฮูหยินฉินตะคอกเสียงกร้าว
“บ่าวไม่ได้พูดเหลวไหล เถาฮวา!” เยว่กุ้ยโมโหจนสีหน้าแดงก่ำ
จึงเห็นเถาฮวาเดินตรงเข้ามาทางนี้ ยกเท้าขึ้นข้างหนึ่ง เปรี้ยง หินก้อนใหญ่ก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ มีชิ้นหนึ่งกระเด็นมาที่เท้าของฮูหยิน
ทุกคนพากันตกตะลึง เด็กคนนี้มีเรี่ยวแรงมากเท่าใดกันแน่
“ดูเถอะ บ่าวไม่ได้พูดเหลวไหลใช่ไหมเจ้าคะ เขาวิ่งเร็วเกินไปจนไปชนกับคนอื่นแล้วก็ตกลงไปในน้ำ” เยว่กุ้ยพูดเสียงดัง “คุณหนูของพวกเราตกใจมาก บ่าวจะพานางไปหาฮูหยินของซื่อจื่อ ฮูหยินทุกท่านโปรดหลีกทางด้วย”
เถาฮวาเปิดทางให้อยู่ด้านหน้า เยว่กุ้ยประคองเสิ่นเวยตามไปด้านหลัง ทุกที่ที่เถาฮวาเดินไปถึง ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะถอยไปด้านข้าง เปิดทางให้นาง
เสิ่นเวยฝังศีรษะในอ้อมแขนของเยว่กุ้ย มุมปากเหยียดยิ้ม คลี่ยิ้มอย่างเบิกบาน
ฮ่ะๆ คิดไม่ถึงจริงๆ ว่า เยว่กุ้ยคนนี้จะเป็นคนมีความสามารถที่เหมาะจะบ่มเพาะขึ้นมา ฮ่าๆ นาง เสิ่นเวยฉลาดหลักแหลมที่สุด ดูเอาเถอะ การแสดงออกของเยว่กุ้ยเมื่อครู่ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ไม่เห็นฮูหยินฉินที่โกรธจนหน้าดำหน้าแดงหรือ
ฮ่ะๆ ฮ่ะๆ เสิ่นเวยสุขใจจนอยากจะกระโดดโลดเต้นนัก
เพียงไม่นาน ฮูหยินของซื่อจื่อแห่งจวนจงอู่โหวก็พาเหล่าคุณหนูกลับจวนด้วยโทสะ มื้อค่ำก็ไม่กิน …นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ…แต่ละคนพึมพำออกมา แต่เพียงไม่นานทุกคนก็ได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้น
ตอนที่เสิ่นเวยขึ้นรถม้า นางมองไปด้านหลังเหมือนไม่ใส่ใจ ในกลุ่มมีบ่าวที่ไม่โดดเด่นสะดุดตาผู้หนึ่งพยักหน้าให้เสิ่นเวยเบาๆ จนแทบมองไม่เห็น สัญญาณนั้นทำให้เสิ่นเวยวางใจลงได้
รอก่อนเถอะ ทุกคนที่วางแผนเล่นงานนาง ครั้งนี้พี่สาวจะไม่ใจดีอีกแล้ว
ปัง
เถาฮวาถีบประตูห้องโถงเรือนซงเฮ่อให้เปิดออก ทุกคนที่กำลังทานข้าวกันอยู่ด้านในพร้อมใจกันหันมามอง ก็เห็นเสิ่นเวยค่อยๆ ก้าวเข้ามา โดยมีพวกหญิงรับใช้รายล้อม
[1] เป็ดแล้งน้ำ (旱鸭子) คือ คนที่ว่ายน้ำไม่เป็น