ยอดหญิงสกุลเสิ่น - ตอนที่ 226-1 การเคลื่อนไหวของแต่ละฝ่าย
พระชายาจิ้นอ๋องโมโหจนพังโต๊ะเครื่องแป้ง “สืบ ไปสืบมาให้ข้า!” ชัดเจนว่าพุ่งเป้ามาที่จวนจิ้นอ๋อง อันที่จริงแล้วก็คือพุ่งเป้ามาที่นาง แม้เนื้อหาในข่าวลือจะพัวพันไปถึงท่านอ๋อง แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเกี่ยวข้องกับนาง โดยเฉพาะเรื่องในอดีตเหล่านั้นเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน
พระชายาจิ้นอ๋องสูดหายใจเข้าลึก พยายามระงับไฟโกรธในใจ ทว่าแววตากลับมีพายุโหมกระหน่ำ อดีตอันน่ารังเกียจที่ตัวนางเองยังแทบจะลืมไปแล้วเหล่านี้กลับถูกคนเปิดโปงอีกครั้งหลังผ่านไปยี่สิบกว่าปี ซ้ำยังพูดได้อยากมีเค้ามีมูล นี่จะไม่ให้นางตกใจและยิ่งสงสัยได้อย่างไร
ใครกัน ใครที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับนาง หากนางหาคนผู้นี้ออกมาได้ นางจะต้องเฉือนคนผู้นี้เป็นหมื่นเป็นพันชิ้น เช่นนี้จึงจะทำให้ความเคียดแค้นในใจนางสงบลงได้
แม่นมซือกับหวาอวิ๋นกลับยืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าลำบากใจ ข่าวลือแพร่ขยายมาหลายวันแล้ว ขอบเขตก็กว้างเพียงนั้น พวกนางจะเริ่มสืบจากตรงไหน ทั้งสองสบตากันปราดหนึ่ง ยังคงเป็นแม่นมซือที่ก้าวขึ้นมาข้างหน้าแล้วกล่าว “พระชายา สืบจากข้างนอกหรือสืบจากในจวนอ๋อง”
เล็บของพระชายาจิ้นอ๋องแทบจะจิกเข้าไปในฝ่ามือ ถอนหายใจอย่างหนักหน่วงหนึ่งครา กัดฟันกล่าว “สืบภายในจวนอ๋อง” นางยังไม่เสียสติ ข่าวลือลุกลามไปทั่วตรอกซอกซอยแล้ว จะต้องสืบอะไรไม่ได้แน่นอน แต่ในจวนกลับยังสืบได้ ดูว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือคนแรก สืบหาเบาะแส ดูว่าจะสามารถสืบอะไรออกมาได้บ้างหรือไม่
อันที่จริงผู้ต้องสงสัยในใจพระชายาจิ้นอ๋องก็คือลูกเลี้ยงที่เป็นหนามยอกอกผู้นั้นของนาง อย่างไรเสียทั่วทั้งจวนอ๋องคนที่ไม่ถูกกับนางก็คือลูกเลี้ยงที่ลึกลับแปลกประหลาดผู้นี้ ภาพผืนนั้นก็เป็นสินเดิมของภรรยาเขา แม้ว่าจะเป็นของปลอม แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคให้เขาเอามาสร้างสถานการณ์
ทันใดนั้นนางก็ปฏิเสธข้อสงสัยนี้ อย่างไรเสียเรื่องอัปยศในบ้านไม่อาจแพร่สู่ข้างนอก จวนจิ้นอ๋องเสียเกียรติ คุณชายใหญ่จวนอ๋องเช่นเขาจะยังเหลือเกียรติอะไรได้ มิหนำซ้ำหากคนชั่วผู้นี้จะแพร่ข่าวลือก็คงจะแพร่ไปนานแล้ว จะยังรอถึงวันนี้ได้หรือ
พระชายาจิ้นอ๋องกลับไม่ได้สงสัยเสิ่นเวย ในสายตานาง เสิ่นเวยก็คือคนโง่ขี้ขลาดผู้หนึ่ง อย่างนางน่ะหรือ จัดการเรือนตัวเองได้ก็ไม่เลวแล้ว ยังจะวางแผนปล่อยข่าวลืออีกหรือ ประเมิณนางสูงเกินไปจริงๆ!
หากเสิ่นเวยรู้ความคิดของพระชายาจิ้นอ๋อง จะต้องแขวะสวีโย่วอย่างภูมิใจสุดขีดแน่นอน ‘ดูสิ บอกแล้วว่าเจ้าทำหน้าตายทั้งวันราวกับคนอื่นติดหนี้เจ้าไม่ได้ ไม่เอื้อต่อการสามัคคีปรองดองให้จวนอ๋องสงบสุข! เจ้าต้องเรียนรู้จากข้า จุๆ ดูสิว่าตัวอย่างที่ดีของข้าฝังลึกเข้าไปในใจคนมากเพียงใด!’
ฝังลึกในใจคนจริงๆ เห็นชัดๆ ว่าทำให้คนแตกแยก แต่ทุกคนกลับไม่คิดว่าเป็นนาง แต่ว่าจิ้นหวัง
เฟยเองก็ไม่ได้อคติกับสวีโย่ว ข่าวลือนี้ไม่ใช่ว่าออกมาจากหมอนี่หรอกหรือ
แม่นมซือกับหวาเยียนต่างก็ถอนหายใจหนึ่งคราอย่างโล่งอก สืบในจวนง่ายกว่าสืบนอกจวนเยอะ
สองคนนี้ไปสืบข่าวลือแล้ว แต่จิ้นอ๋องกลับเดินเข้ามาด้วยความโมโหเดือดดาล พระชายาจิ้นอ๋องเพิ่งจะยกยิ้มก็ถูกความโกรธบนใบหน้าของท่านอ๋องทำให้สะดุ้งตกใจ “ท่านอ๋องเป็นอะไรไป เหตุใดถึงโมโหเพียงนี้” นางก้าวเข้าไปปรนนิบัติอย่างอ่อนโยน
ทว่าจิ้นอ๋องกลับสะบัดมือของนางออก ชี้พระชายาจิ้นอ๋องกล่าวด้วยสีหน้าซับซ้อน “เจ้าถามข้าว่าเหตุใดถึงโมโห พระชายาไม่ใช่รู้ดีอยู่แก่ใจหรือ”
พระชายาจิ้นอ๋องงุนงงทั้งใบหน้า จากนั้นก็น้อยใจเล็กน้อย “ดูท่านอ๋องพูดเข้า หรือว่าข้าทำให้ท่านอ๋องไม่พอใจหรือ” ทว่าในใจกลับเต้นแรงขึ้นมา
จิ้นอ๋องมองพระชายาจิ้นอ๋องนิ่งๆ มองจนนางแทบจะประคับประคองต่อไปไม่ได้ก็แค่นเสียงหึหนึ่งครา “เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าภาพตกปลาใต้จันทราภาพนั้นเจ้าไม่ได้สั่งคนส่งไปให้ท่านเสนาบดีฉิน นั่นเป็นของปลอม! นั่นเป็นของปลอม! เจ้ารู้อยู่แก่ใจว่านั่นเป็นของปลอมก็ยังจะส่งไปให้ท่านเสนาบดีฉิน เจ้า เจ้า!” จิ้นอ๋องโมโหจนสะบัดแขนเสื้อเบือนหน้าหนี
ไม่กี่วันก่อนเขาก็รู้สึกว่าสายตาที่คนอื่นมองเขาค่อนข้างผิดปกติ วันนี้ไปดื่มสุรากับสหายที่เหลาสุรา ก็บังเอิญเจอเสด็จพี่กง เขาเข้ามาทักทายตน ซ้ำยังถามเขาอย่างยิ้มแย้มว่าขอไปชมภาพตกปลาใต้จันทราของแท้ที่จวนได้หรือไม่
เขาไม่สบายใจ เขาไหนเลยจะมีภาพตกปลาใต้จันทราของแท้ ที่สะใภ้ใหญ่กลับมีภาพหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่เป็นของปลอม
เมื่อเขาพูดเช่นนี้ เสด็จพี่หวังก็ไม่เชื่อ ยังพูดจาไร้ต้นสายปลายเหตุทำนองว่าเขาเก็บไว้คนเดียว ก่อนไปรอยยิ้มที่แฝงเลศนัยก็ยิ่งทำให้เขาจับต้นชนปลายไม่ถูก
ผู้มีความสามารถเช่นเขาก็รู้สึกผิดปกติแล้ว หมดอารมณ์ดื่มสุรา เรียกบ่าวรับใช้เข้ามาถามไถ่ บ่าวรับใช้มีสีหน้าลำบากใจ อำๆ อึ้งๆ เล่าเรื่องข่าวลือให้ฟัง เขาจึงเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเสด็จพี่กงจึงมีท่าทางเช่นนี้ คิดว่าภาพตกปลาใต้จันทราของแท้อยู่ในมือเขางั้นหรือ
จิ้นอ๋องโมโหจนจมูกเบี้ยว ซ่งซื่อผู้นี้! สามารถแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับจวนเสนาบดีฉินได้เขาเองก็ยินดี แต่เขาไม่คิดว่าซ่งซื่อจะกล้าถึงเพียงนั้น รู้อยู่แก่ใจว่าภาพในมือภรรยาโย่วเอ๋อร์เป็นของปลอมก็ยังกล้าส่งไปให้ท่านเสนาบดีฉิน นางคิดว่าท่านเสนาบดีฉินหลอกง่ายหรือไร
เมื่อคิดถึงเนื้อหาในข่าวลือ เขาก็หงุดหงิดจนอยากฆ่าคน บอกว่าของจริงถูกเขาเก็บไว้งั้นหรือ ท่านอ๋องผู้ยิ่งใหญ่เช่นเขาเป็นคนสายตาสั้นเช่นนั้นหรือไร แย่งสินเดิมลูกสะใภ้ต้องถูกคนนินทาลับหลัง ต่อให้เขาจะชอบภาพของจางเต้าจื่อก็รู้จักความหนักเบาของเรื่อง!
ซ่งซื่อ เป็นเพราะซ่งซื่อ ดูท่าแล้วหลายปีมานี้เขาจะโปรดปรานนางเกินไปแล้ว กระทั่งนางลืมกฎระเบียบและลำดับความสำคัญ
เพื่อเรื่องนี้จริงๆ ด้วย! ในใจพระชายาจิ้นอ๋องกลับถอนหายใจหนึ่งคราอย่างโล่งอก สูดหายใจเข้าลึกหนึ่งครั้ง แสร้งทำท่าทางเศร้าระทม “ท่านอ๋อง ข้าอยู่กับท่านมาหลายปีเพียงนี้ ท่านยังไม่รู้จักนิสัยข้าอีกหรือ แม้ว่าจะมีหนทางอื่น ข้าจะทำเรื่องเช่นนี้ได้หรือ ไม่ใช่ว่าทำเพื่อฉั่งเอ๋อร์ทั้งนั้นหรือ”
พูดถึงตรงนี้เสียงของพระชายาจิ้นอ๋องก็สั่นเครือ “ฉั่งเอ๋อร์ไม่ได้มานะบากบั่นเท่าพี่ชายทั้งหลายของเขา แต่นั้นก็เป็นเลือดเนื้อของข้า ยังคงเป็นข้าที่พยายามคลอดออกมา ข้าจะไม่คิดเรื่องอนาคตเพื่อเขาได้อย่างไร คุณหนูเจ็ดตระกูลฉินเป็นญาติผู้น้องของซูเฟยเหนียงเหนียง ในภายหน้ามีองค์ชายรองดูแล ข้าเองก็วางใจแล้ว ท่านอ๋อง ข้าล้วนแต่ทำเพื่อฉั่งเอ๋อร์ของพวกเรา!”
ท่านอ๋องได้ยินพระชายาเอ่ยถึงฉั่งเอ๋อร์ ในใจก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ฉั่งเอ๋อร์คลอดก่อนกำหนด เร็วกว่าวันที่หมอหลวงคาดการณ์ยี่สิบวัน สำหรับเหตุผลน่ะหรือ เกี่ยวข้องกับเขา หากไม่ใช่ว่าเขาควบคุมไม่ได้ในชั่วขณะ พระชายาตั้งท้องแก่ปรนนิบัติเขา ก็คงไม่ถึงกับเจ็บท้องคลอดทำให้ฉั่งเอ๋อร์คลอดก่อนกำหนด หวัง
เฟยเองก็แทบจะเสียสละชีวิต ดังนั้นลูกคนนี้เขาเองก็ตามใจหลายส่วน คิดถึงตรงนี้ ความโกรธบนใบหน้าเขาก็ลดลงเล็กน้อย
พระชายาจิ้นอ๋องลอบมองความเปลี่ยนแปลงในสีหน้าของจิ้นอ๋อง กล่าวต่อ “ข้าเองก็ไม่ได้บอกว่าเป็นของแท้ พูดเพียงแค่ว่าได้ภาพของจางเต้าจื่อมาหนึ่งภาพ ไม่รู้ว่าแท้หรือปลอม ส่งไปให้ท่านเสนาบดีฉินชมเล่น นั่นเองก็ไม่ใช่ว่าข้าแย่งมา ภรรยาโย่วเอ๋อร์แสดงความกตัญญูมอบให้ข้าด้วยตัวเอง เพียงแค่ภาพผืนหนึ่ง เหตุใดถึงเกิดข่าวลือมากเพียงนี้ได้ ข้าว่า นี่จะต้องมีผู้ไม่หวังดีใส่ร้ายใช้อุบายกับจวนจิ้นอ๋องของเรา อิจฉาที่พวกเรากับจวนเสนาบดีฉินแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ คิดจะก่อกวนการสมรสครั้งนี้ ท่านอ๋อง พวกเราอย่าได้ตกหลุมพรางคนไม่ดี!”
จิ้นอ๋องใจเต้นอย่างอดไม่ได้ ใช่แล้ว เหตุใดเขาถึงคิดถึงจุดนี้ไม่ได้เล่า แม้ว่าตัวเขาจะไม่มีหน้าที่สำคัญ แต่อย่างไรเสียก็เป็นผู้ชาย มักจะอยู่ข้างนอก ในด้านความรู้ย่อมมีมากกว่าพระชายาจิ้นอ๋องที่อยู่แต่เรือนหลัง
เมื่อพระชายาจิ้นอ๋องเอ่ยว่ามีคนตั้งใจใส่ร้ายจวนจิ้นอ๋อง เขาก็นึกถึงองค์ชายหลายคนในหมู่พี่น้องของเขา หรือว่าจะมีคนคิดว่าเขายืนอยู่ฝั่งองค์ชายรองขัดขวางผลประโยชน์ของเขา เหอะ แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับจวนเสนาบดีฉินเป็นเพียงแค่การหาบ้านพ่อตาที่มีกำลังสนับสนุนให้ฉั่งเอ๋อร์ก็เท่านั้น เขาไม่ได้โง่ เขาเป็นน้องชายมารดาเดียวกันกับฝ่าบาทองค์ปัจจุบัน เป็นอาขององค์ชายทั้งหมด ไม่ว่าใครที่อยู่ในตำแหน่งนั้นล้วนแต่ต้องเคารพเขา ชีวิตดีๆ ของเขาไยจะต้องไปลุยน้ำขุ่นนี้ด้วย
“ท่านอ๋อง ท่านต้องสืบให้ดีๆ! นี่เกี่ยวข้องกับจวนจิ้นอ๋องทั้งหมดของเรา ไม่รู้เหมือนกันว่าคนผู้นี้เป็นใคร เหตุใดจิตใจถึงได้เ**้ยมโหดเพียงนี้” พระชายาจิ้นอ๋องมองจิ้นอ๋องอย่างกระตือรือร้น หางตามีประกายกะพริบวาบ
จิ้นอ๋องแค่นเสียงหนึ่งครา สืบเขาต้องสืบแน่นอน แต่ว่าคราวนี้ซ่งซื่อก็ทำไม่เหมาะสมเกินไปจริงๆ ต้องสั่งสอนเสียหน่อย เขาเหลือบตาขึ้น ชายตามองสาวใช้ใหญ่สองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ถือโอกาสชี้กล่าว “ห้องหนังสือนอกของข้าขาดสาวใช้ปรนนิบัติหมึกพู่กันสองคน เอาเป็นพวกเจ้าสองคนแล้วกัน”
สาวใช้ใหญ่สองคนนี้ได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นอย่างเหลือเชื่อ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ นั่นก็คือหวาลู่กับหวาฉังที่ส่งให้สวีโย่วครั้งก่อนแล้วถูกปฏิเสธ
หวาลู่กับหวาฉังเป็นคนที่พระชายาจิ้นอ๋องตั้งใจเลือกออกมาคิดจะส่งไปที่เรือนของลูกเลี้ยง หน้าตาและเรือนร่างย่อมต้องดีเลิศ ครั้งก่อนส่งออกไปไม่ได้ ในใจหวาลู่กับหวาฉังก็กังวลเล็กน้อย กลัวว่าจะถูกพระชายาโมโหตำหนิ ไม่คิดว่าวันนี้ท่านอ๋องจะสั่งให้พวกนางไปปรนนิบัติที่ห้องหนังสือนอก นี่ก็คือโชคที่ตกลงจากสวรรค์
บอกว่าเป็นสาวใช้ที่ปรนนิบัติหมึกพู่กัน แต่ใครบ้างไม่รู้ว่าปรนนิบัติหมึกพู่กันเป็นเรื่องรอง ปรนนิบัติท่านอ๋องจึงจะเป็นเรื่องจริง หากได้รับความชอบใจจากท่านอ๋อง สามารถให้กำเนิดบุตรได้ เช่นนั้นความร่ำรวยมีเกียรติในภายหลังก็อยู่ไม่ไกลแล้ว
ทั้งสองคนคิดถึงตรงนี้ ในใจก็ตื่นเต้นขึ้นมา สายตาที่มองจิ้นอ๋องก็ยิ่งแรงกล้าไม่ปิดบัง