ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ - ตอนที่ 233 เอาให้พวกเขาตะลึงจนตาค้างกันไปเลย / ตอนที่ 234 พี่ซี ไอดอลของพี่มา!
- Home
- ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ
- ตอนที่ 233 เอาให้พวกเขาตะลึงจนตาค้างกันไปเลย / ตอนที่ 234 พี่ซี ไอดอลของพี่มา!
ตอนที่ 233 เอาให้พวกเขาตะลึงจนตาค้างกันไปเลย
อวี๋กานกานมองภาพเหตุการณ์ทั้งหมดตรงหน้า ค่อนข้างประหลาดใจ
เธอนึกไม่ถึงว่าเจ้าเด็กบ้านี่จะเป็นหลานชายแสนกตัญญู เห็นได้ว่าเขารักย่าของตัวเองมาก และเพราะเป็นห่วงมากจนเกินไป เมื่อครู่เขาถึงได้แสดงพฤติกรรมแบบนั้นออกมา…
อวี๋กานกานครุ่นคิด ก่อนจะเปิดกล่องอุปกรณ์หยิบยาลูกกลอนสีดำออกมาหนึ่งเม็ด จากนั้นยื่นไปตรงหน้าแม่เฒ่า “ทานเจ้านี่…”
เมื่อเห็นอะไรกลมๆ สีดำ เยี่ยซีก็โมโหจนหน้าดำหน้าแดงอีกครั้ง หมายจะขัดขวาง “อะไรของเธอ ดำปิ๊ดปี๋กินเข้าไป…”
อวี๋กานกานถลึงตาใส่เยี่ยซี “ไม่แย่ไปกว่าตอนนี้หรอกหน่า”
เยี่ยซีกลืนคำพูดที่เหลือลงท้องไปโดยอัตโนมัติ ไม่รู้ทำไม เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ตอนดุก็ดูน่ารักดี…
หลังจากที่อวี๋กานกานเอายาลูกกลอนให้แม่เฒ่ารับประทานแล้ว เธอถกชายเสื้อแม่เฒ่าขึ้น จากนั้นฝั่งเข็มลงไปบนบริเวณหน้าท้อง
เพียงครู่เดียว อาการของแม่เฒ่าก็ทุเลาลง แม่เฒ่าผ่อนลมหายใจออกอย่างโล่งสบาย คิ้วที่ขมวดแน่นคลายออก
เยี่ยซีงงเป็นไก่ตาแตก นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติคืนกลับมา ถาม “ย่า ยังเจ็บไหมครับ”
แม่เฒ่าคลี่ยิ้มให้เยี่ยซี “ดีขึ้นเยอะแล้ว”
ตั้งแต่ล้มป่วยนี่เป็นครั้งแรกที่คุณย่ายิ้มออก เยี่ยซีดีใจเหมือนคนบ้า มองอวี๋กานกานด้วยสายตาเป็นประกาย “เร็วเข้า เธอรีบฝังเข็มให้ย่าฉันอีกหลายๆ เข็มเลย ไม่แน่อาจจะหายดีก็ได้”
อวี๋กานกานไม่สนใจเยี่ยซี เจ้าเด็กบ้า! เข็มมันฝังสุ่มสี่สุ่มห้าได้ที่ไหนกันเล่า
เฉิ่นมั่วและเสิ่นตงชิงมองหน้ากันไปมา เหมือนกับไม่อยากจะเชื่อ
เยี่ยจยาเซิงเองก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้างตาเบิกโตไม่ต่างจากคนอื่น เขาชำเลืองไปมองผู้จัดการหลี่ว์ ผู้จัดการหลี่ว์เองก็คาดคิดไม่ถึงว่าวิชาแพทย์ของอวี๋กานกานจะล้ำเลิศถึงเพียงนี้
ผู้จัดการหลี่ว์สัมผัสได้ถึงสายตาของเยี่ยจยาเซิงที่จ้องมองมา เขาเชิ่ดคางขึ้นคลี่ยิ้ม ท่าทางภูมิอกภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ราวกับกำลังบอกกลายๆ ว่า แพทย์ที่ผมเชิญมายอดเยี่ยมไปเลยใช่ไหมล่ะ!
หลังจากที่ช่วยแม่เฒ่าระงับอาการปวดแล้ว เยี่ยจยาเซิงถามอวี๋กานกาน “การฝังเข็มสามารถรักษาให้หายได้ไหม”
เยี่ยซีที่อยู่ข้างๆ พูดขึ้น “ผมค้นหามาแล้ว สาเหตุที่การฝังเข็มถูกยอมรับจากชาติตะวันตกมีความเกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริการิชาร์ด นิกสันมาเยี่ยมเยียนประเทศจีน ตอนนั้นนักข่าวผู้ติดตามชื่อว่าเจมส์จากสำนักข่าวเดอะนิวยอร์กไทมส์มีอาการไส้ติ่งอักเสบกำเริบ ใช้การฝังเข็มรักษาจนหาย…”
อวี๋กานกานพูดตัดบทเยี่ยซี “กรณีของเจมส์เป็นอาการแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นหลังจากผ่าตัดไส้ติ่งออกไปแล้ว แพทย์แผนจีนที่อยู่ที่นั่นช่วยรักษาเขาไว้ ผลการรักษาออกมาเป็นที่น่าพอใจมาก ด้วยสาเหตุนี้การฝังเข็มจึงได้เป็นที่รู้จักในแทบตะวันตก”
เยี่ยจยาเซิงถาม “ฉะนั้นต้องผ่าตัดเท่านั้นใช่ไหม”
อวี๋กานกานตอบ “จะเลือกรักษาแบบไม่ผ่าตัดก็ได้ค่ะ แต่ต้องใช้เวลานาน ฉะนั้นเห็นได้ชัดว่าการตัดไส้ติ่งทิ้งเป็นวิธีที่ดีที่สุด” อวี๋กานกานเว้นจังหวะ ก่อนจะพูดต่อ “คุณไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องฝังเข็มเชิงวิสัญญีหรอกค่ะ แม้ว่าการฝังเข็มเชิงวิสัญญีจะไม่ใช่วิธีหลักในวิสัญญีชีวิทยา แต่มันเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเสริมที่มีประสิทธิภาพ มันสามารถเติมเต็มจุดด้อยของยาสลบและยาชาได้ สามารถหลีกเลี่ยงอาการข้างเคียงจากยาชาและยาสลบได้ ตัวอย่างเช่นผู้ป่วยที่แพ้ยาชาและยาสลบแบบแม่เฒ่า ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมการฝังเข็มเชิงวิสัญญีถึงไม่แพร่หลาย หนึ่งเป็นเพราะว่าประสิทธิภาพในการระงับอาการปวดสู้ยาชาไม่ได้ สองผลลัพธ์ที่ได้มีความไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าการฝังเข็มเชิงวิสัญญีเป็นเรื่องโกหกหลอกหลวง เคยมีเคสผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจสำเร็จด้วยการฝังเข็มเชิงวิสัญญีมาแล้ว”
สองพ่อลูกตระเยี่ยผลัดกันมองหน้าไปมา ลังเลตัดสินใจไม่ได้
อวี๋กานกานกล่าว “พวกคุณเชิญแพทย์ทางเดินอาหารเลื่องชื่อมาแล้วไม่ใช่เหรอ รอเขามาถึงค่อยตัดสินใจก็ได้ค่ะ”
เยี่ยจยาเซิงถามทันควัน “เอ่อ ไม่ทราบว่าคุณหมออวี๋จะลงมือฝังเข็มด้วยตัวเองไหมครับ”
เมื่อได้เห็นอวี๋กานกานเผยคมมีดออกมาครึ่งเล่ม พวกเขาเชื่อมั่นในฝีมือของเธอ
อวี๋กานกานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรับปากตกลงไป
ตอนที่ 234 พี่ซี ไอดอลของพี่มา!
เยี่ยจยาเซิงถามอวี๋กานกานขณะที่เดินไปส่ง “คุณหมออวี๋ คุณไม่ใช่แพทย์แผนจีนหรอกเหรอ ทำไมดูมีความรู้ความเข้าใจในแพทย์แผนปัจจุบันดีจัง”
อวี๋กานกานตอบ “ตอนมหาลัยฉันเรียนแพทย์แผนปัจจุบันน่ะค่ะ ทิศทางการพัฒนาของวงการแพทย์ในอนาคตคือแพทย์แผนบูรณาการ”
แพทย์แผนจีนเคยอยู่ในช่วงตกต่ำ ทุกคนหันไปสรรเสริญแต่แพทย์แผนปัจจุบัน
มนุษย์เราเมื่อมีจุดยืนอยู่ตรงข้ามกัน จะมีความคิดที่ว่าเธอรุ่งฉันร่วง เธอร่วงฉันรุ่ง หลายๆ คนที่ชื่นชอบในแพทย์แผนจีนจริงๆ จึงมีอาการต่อต้านแพทย์แผนปัจจุบันจากจิตใต้สำนึกบ้างเป็นบางครั้ง
เพื่อต่อลมหายใจ แพทย์แผนจีนไม่หยุดที่จะศึกษาและพัฒนาตนเอง หวังว่าวันหนึ่งแพทย์แผนจีนจะอยู่เหนือแพทย์แผนปัจจุบันและเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้สำเร็จ
แท้ที่จริงแล้ว ความคิดเช่นนี้ผิดทั้งหมด!
ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนจีนหรือแพทย์แผนปัจจุบัน ต่างก็มีหลักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ที่ตรงกัน ต้องให้ความสำคัญกับทั้งสองศาสตร์จึงจะสามารถรักษาโรคได้ดียิ่งขึ้น อีกอย่างการผ่าตัดไม่ใช่มีเพียงแต่แพทย์แผนปัจจุบันที่ทำได้
วิธีการรักษาด้วยศาสตร์ของแพทย์แผนจีนที่ได้บันทึกไว้ในตำราแพทย์ที่เก่าแก่ที่สุด ‘ตำรับจัดการโรคห้าสิบสองอย่าง’ ในตำราไม่ได้อิงการใช้ยาต้มเป็นวิธีหลักในการใช้รักษา แต่อิงการผ่าตัดเป็นหลัก
เสิ่นตงชิงเขยิบมายืนข้างๆ เฉินมั่ว กระซิบ “ผู้หญิงคนนี้เท่อะ ฉันชอบ”
เฉินมั่วพูดอย่างเสียดายเล็กน้อย “เขายังไม่ได้ตรวจให้ฉันเลย”
เสิ่นตงชิงกล่าว “ถ้าฉันได้กอดคุณหมอนอน ตกดึกเหงื่อต้องไม่ไหลแน่”
“ไปไกลๆ เลยไป!” เยี่ยซีเตะเสิ่นตงชิงด้วยความโมโห “คนเขาเป็นหมอที่เปี่ยมด้วยจรรยาบรรณ ที่ฉันพูดก่อนหน้านี้เป็นเพราะต้องการทดสอบวิชาแพทย์เฉยๆ นายดูไม่ออกหรือไง”
เสิ่งตงชิงลูบขาบริเวณที่ถูกเตะจนเจ็บ “โหย รู้สิ แล้วนี่ฉันไม่ได้ปลื้มคุณหมออยู่หรือไง”
“คุณหมอของย่าฉัน ไม่อนุญาตให้ปลื้ม!” หลังจากที่เยี่ยซีตะโกนประโยคนี้จบ เขาหันไปมองแผ่นหลังที่เดินห่างไกลออกไปของอวี๋กานกาน ค่อนข้างรู้สึกกลัดกลุ้ม ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่ากลัดกลุ้มถึงขีดสุด เขามีความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเดินอยู่ท่ามกลางมวลมูลบุปผา[1] จู่ๆ ก็สะดุดล้มหัวคะมำ ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำกับเขาแบบนี้ ฉะนั้นเรื่องนี้มันยังไม่จบ ผู้หญิงที่เขาเยี่ยซีหมายตาไว้แล้ว ไม่มีคำว่าครอบครองไม่ได้!
–
ด้านนอกหิมะตกหนักอีกครั้ง อวี๋กานกานเดินออกมาพร้อมกับผู้จัดการหลี่ว์ ทั้งหิมะและลมหนาวโหมพัดใส่เธออย่างไม่เกรงใจ
อวี๋กานกานขมวดคิ้ว กระชับผ้าพันคอ รู้สึกทรมานเล็กน้อย
มีรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ตรงหน้าประตูคฤหาสน์ ในตอนที่ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่กำยำเดินลงมาจากรถ อวี๋กานกานตะลึงไปเล็กน้อย
ผู้จัดการหลี่ว์เห็นฟังจือหัน เดินเข้าไปทักทายทันที “คุณฟังตัวแทนบริษัทยา ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะครับ” สายตาของผู้จัดการหลี่ว์ชำเลืองไปมองอวี๋กานกานโดยอัตโนมัติ จากนั้นยิ้มอย่างมีเลศนัย หันไปพูดกับอวี๋กานกาน “วันนี้ต้องขอบคุณคุณหมออวี๋เป็นอย่างมาก ไว้คราวหน้าผมจะเชิญคุณไปรับประทานอาหารนะครับ”
หลังจากที่ผู้จัดการหลี่ว์เดินจากไป อวี๋กานกานมองหน้าฟังจือหัน “นายมาได้ไง”
“หลินจยาอวี่โทรศัพท์หาผม”
หลินจยาอวี่ยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นกังวลเรื่องอวี๋กานกาน กลัวว่ากานกานจะโดนปีศาจน้อยแห่งตระกูลเยี่ยรังแก เนื่องจากชื่อเสียงอันเลื่องลือของเยี่ยซีมันน่าสยดสยองมากจริงๆ แต่เธอไม่สะดวกที่จะไปหาอวี๋กานกานด้วยตัวเอง ถึงไปก็คาดว่าช่วยอะไรไม่ได้ ดังนั้นจึงโทรศัพท์หาฟังจือหัน
อวี๋กานกานคลี่ยิ้ม “จยาอวี่นี่ดีกับฉันจริงๆ”
ความจริงเยี่ยซีอะไรนั่นก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น ก็แค่เด็กไม่รู้จักโตคนหนึ่งก็เท่านั้น
ฟังจือหันเอื้อมมือมาโอบไหล่ของอวี๋กานกาน “แล้วผมไม่ดีกับคุณเหรอ”
หัวใจดวงน้อยของอวี๋กานกานวูบไหว ใบหน้าแดงก่ำ “อากาศหนาว รีบขึ้นรถเถอะ”
อวี๋กานกานตั้งใจพูดเสียงสั่น เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอหนาวจริงๆ
ฟังจือหันเปิดเสื้อโค้ทของตัวเองออก จากนั้นกอดอวี๋กานกานไว้ด้านใน ส่งมอบความอบอุ่น
ภาพอันแสนอบอุ่นนุ่มละมุมนี้ ราวกับว่าแม้แต่หิมะและลมหนาวยังต้องยอมมลาย
พวกสามหน่อเยี่ยซีเดินออกมาเห็นฉากนี้เข้าพอดี พวกเขาต่างตกตะลึงไปเล็กน้อย
เสิ่งตงชิงกระพริบตาปริบๆ ทันใดนั้นก็แหกปากร้องลั่น “พี่ซี ไอดอลของพี่มา!”
——
[1] เดินอยู่ท่ามกลางมวลมูลบุปผา หมายถึง ลายล้อมไปด้วยผู้หญิง