ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ - ตอนที่ 395 ผมชอบกินเสี่ยวอวี๋ (5) / ตอนที่ 396 พวกเราแต่งงานกันแล้ว (1)
- Home
- ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ
- ตอนที่ 395 ผมชอบกินเสี่ยวอวี๋ (5) / ตอนที่ 396 พวกเราแต่งงานกันแล้ว (1)
ตอนที่ 395 ผมชอบกินเสี่ยวอวี๋ (5)
อวี๋กานกานอยู่ข้างตัวฟังจือหัน เธอเป็นโรคที่ติดมาจากการทำงาน มักจะเผลอตัวคว้าสมุนไพรขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ ใช้นิ้วชี้บีบมันครู่หนึ่ง จากนั้นก็เอามาจ่อดมใกล้กับปลายจมูก
หลินเซินพูดอยู่ด้านข้าง “โสมอเมริกันงวดนี้เกิดปัญหานิดหน่อยระหว่างทาง เดิมทีควรจะมาถึงสองวันก่อนหน้านี้แล้ว”
โสมอเมริกัน?
อวี๋กานกานนำวัตถุดิบยาเมื่อกี้กลับไปที่เดิมแล้วก็หยิบวัตถุดิบยาเล็กน้อยขึ้นมาอีกอย่างรวดเร็ว วางไว้บนฝ่ามือแล้วลองดม และหยิบอีกชิ้นหนึ่งใส่ปากลองชิมดู
ฟังจือหันเห็นการกระทำของเธอทุกอย่างจึงเอ่ยถาม “มีอะไรเหรอ”
อวี๋กานกานหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาแล้วคายวัตถุดิบยาในปากจากนั้นก็ถามหลินเซิน “ห้าต้น คุณบอกว่านี่คือโสมอเมริกันเหรอ”
หลินเซินตอบกลับ “ใช่ครับ โสมอเมริกันที่พวกเราซื้อเป็นของรัฐวิสคอนซิน เป็นโสมอเมริกันที่ดีที่สุดแล้ว”
อวี๋กานกานเอ่ย “มันถูกคนจัดการมาก่อนแล้ว ดมยังไงก็มีกลิ่นของโสมอเมริกันจริง แต่ก็ไม่ใช่โสมอเมริกัน”
หลินเซินได้ยินคำพูดของอวี๋กานกานก็ตกใจไม่หยุด สีหน้าหวาดกลัว “นะ…นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง”
ฟังจือหันมีสีหน้าเย็นชา หยิบชิ้นหนึ่งใส่ปากเพื่อลองชิมแต่เขากลับชิมแล้วแยกไม่ออก
หลินเซินลองชิมดูเช่นกัน แต่ก็แยกไม่ออก
อวี๋กานกานจึงอธิบายให้พวกเขา “ดอกระฆังจีนรูปร่างภายนอกไม่ต่างกับโสมอเมริกันมากนัก พื้นผิวจะแตกเป็นสีขาวอมเทา เนื้อเยื่อเจริญรอบมัดห่อลำเลียงกระจายรอบเป็นสีแดงเข้ม ท่อลำเลียงอาหารยังคงเห็นเป็นสีแดงได้นิดหน่อย แห้งกรอบไม่เป็นมันชัดเจน คนกลั่นออกมามีประโยชน์ หลังจากผ่านความแห้งชื้นก็จะกลายเป็นโสมอเมริกาชั้นดี นอกจากนี้คนทั่วไปยังชิมแล้วแยกไม่ออก ในวัตถุดิบยาส่วนน้อยที่ไม่ดี คนขายก็จะชอบเอาดอกระฆังจีนผสมเข้าไปกับโสมอเมริกัน เอาของปลอมมาหลอกว่าเป็นของจริง โกงผู้ซื้อ แต่ว่าพวกคุณไม่ใช่ว่ามีผู้เชี่ยวชาญในแผนกการจัดซื้อหรอกเหรอ มีผู้เชี่ยวชาญในการปรึกษาเรื่องวัตถุดิบยาไหม ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
หลินเซินพูดกับฟังจือหันอย่างร้อนรน “แต่ก่อนได้แบบยามา ผมให้คนงานลองดูแล้วก็ไม่ใช่ดอกระฆังจีน เป็นโสมอเมริกันอย่างแน่นอน”
ฟังจือหันมองเขา “ตอนนี้คุณรีบไปตรวจสอบวัตถุดิบยางวดนี้เถอะ ใครเป็นคนรับผิดชอบ”
หลินเซินเหยื่อแตกพลั่ก รีบให้คนไปตรวจสอบ สุดท้ายก็พบว่าผู้ที่รับผิดชอบวัตถุดิบยางวดนี้คือเจียงไป่อัน
ตอนเย็นฟังจือหันจึงไม่สามารถไปกินข้าวกับอวี๋กานกานได้โดยปริยาย นัดกินข้าวกลางวันพรุ่งนี้ และให้หลินเซินพาอวี๋กานกานไปส่ง
เจียงไป่อันถูกเรียกตัวกลับบ้านเจียง
ปู่เจียงโกรธจัด หนวดเคราสั่นระริก
พอเห็นเจียงไป่อันก็ฟาดไม้เท้าไปอย่างรวดเร็ว “คนสารเลว ตระกูลเจียงของเราทำไมเกิดคนสารเลวแบบแกได้!”
เจียงไป่อันอดทนกับความเจ็บปวด ถลึงตามองฟังจือหันที่อยู่ด้านข้างหลังจากนั้นก็เอ่ยด้วยความคับข้องใจ “คุณปู่ ผมไม่รู้ว่าผมทำผิดอะไรอีก ทำไมมาตีผมแบบไม่แยกผิดแยกถูกเลย”
ปู่เจียงโยนเอกสารกองหนึ่งใส่เจียงไป่อันแล้วตะคอก “แกเคยคิดบ้างไหมถ้าของเหล่านี้ถูกเปิดเผย สกุลเจียงจะเผชิญหน้ากับผลที่ตามมายังไงบ้าง”
หลุบตาลงอ่านเนื้อหาในเอกสาร เจียงไป่อันกลับไม่ยอมรับ นอกจากนี้ยังแย้งขึ้นมาอีก “อันนี้ผมรับผิดชอบ แต่ขั้นตอนการนำเข้าโรงงานไม่ใช่ผมที่เป็นคนรับผิดชอบ ผมมอบหมายให้ผู้ช่วยฟังจือหันไปแล้ว ฟังจือหัน ฉันว่าแกจงใจใส่ร้ายฉันสินะ”
เขาพูดด้วยสีหน้าขมขื่นใจ “ฟังจือหัน ฉันกับแกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีกันเท่าไหร่ แต่พ่อของฉันก็ดีกับแกนี่ ทำไมแกถึงได้ทำเรื่องแบบนี้”
สีหน้าขมขื่นใจราวกับฟังจือหันทำเรื่องเลวทรามอะไรสักอย่าง
ฟังจือหันมีสีหน้าไม่ปรากฏอารมณ์อยู่ตลอด เขามองไปที่หลินเซินที่อยู่ด้านข้าง
หลินเซินยื่นเอกสารชุดหนึ่งให้เจียงไป่อัน
ตอนที่ 396 พวกเราแต่งงานกันแล้ว (1)
หลินเซินยื่นเอกสารชุดหนึ่งส่งให้เจียงไป่อันอีกครั้ง หลักฐานข้างในทำให้เจียงไป่อันอยากจะแกล้งโง่ก็ทำไม่ได้แล้ว แต่เจียงไป่อันยังคงไม่ยอมรับ ชี้ไปที่ฟังจือหันด้วยความโมโห “เพราะแก แกเป็นคนใส่ร้ายฉัน”
ฟังจือหันไม่พูดอะไรกับเขาอีก
เขาเพียงแค่มองปู่เจียงพร้อมกับเอ่ย “เนื่องด้วยเขาทำลายผลประโยชน์ของบริษัทอย่างร้ายแรงอีกครั้ง ผมขอเสนอให้เขาออกจากสกุลเจียง ไม่รับตำแหน่งหน้าที่ใดๆ ในสกุลเจียงอีก”
เจียงไป่อันลำคอ ตาแข็งทื่อไปแล้ว
เขาโมโหเดือดดาล ชี้ฟังจือหันพร้อมกับเอ่ย “แกอยากจะไล่ฉันออกจากสกุลเจียง! นี่คือจุดประสงค์ที่แกใส่ร้ายฉัน!”
เขามองไปที่ปู่เจียงอีกครั้ง “คุณปู่ ผมได้รับความไม่เป็นธรรม ผมถูกใส่ร้ายจริงๆ ฟังจือหันเป็นคนใส่ร้ายผม”
ไม้เท้าในมือของปู่เจียงเคาะลงบนพื้นอย่างแรงหลายครั้งพร้อมกับตะคอกใส่เจียงไป่อัน “หุบปาก!”
เขามองไปทางฟังจือหันอีกครั้ง “เรื่องนี้ให้ฉันพิจารณาก่อน”
ถึงอย่างไรก็เป็นหลานชายของตนเอง จะด่าจะตีก็เพียงเพราะผิดหวังที่เขาไม่เป็นอย่างหวัง
ฟังจือหันเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “ในเมื่อคุณมอบอำนาจทั้งหมดให้กับผมแล้ว งั้นโปรดจัดการตามกฎบริษัทด้วยครับ”
ดวงตาของเจียงไป่อันเต็มไปด้วยความอาฆาต “ฟังจือหัน แกอย่ารังแกกันให้มากเกินไป!”
อยากจะให้เขาออกไปจากสกุลเจียง ยังทำอย่างนั้นไม่ได้ แย่ที่สุดต้องสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย
เขาไม่ได้สกุลเจียง ฟังจือหันก็อย่าคิดว่าจะได้สกุลเจียง
ฟังจือหันไม่ได้สนใจเขา ยังคงพูดและมองไปที่ปู่เจียง “ทุกอย่างที่ผมทำล้วนดีต่อสกุลเจียง หากคุณไม่อยากให้ทรัพย์สินหลายสิบปีของสกุลเจียงพังพินาศในชั่วข้ามคืน งั้นก็โปรดปฏิบัติตามที่ตกลงกันไว้ในตอนแรกด้วยครับ”
บทสนทนาระหว่างเขากับปู่เจียงไม่ใช่ปู่กับหลานแต่เป็นหุ้นส่วนร่วมมือทางธุรกิจ
ท่าทางแข็งกร้าวของฟังจือหันทำให้ปู่เจียงนิ่งเงียบ
แน่นอนว่าก็ทำให้เจียงไป่อันสติแตกอย่างเต็มที่ เขาด่าเสียงดัง “ฟังจือหันแกคิดว่าแกเป็นใคร หลายปีมานี้ถ้าไม่ใช่ฉันกับพ่อฉันสกุลเจียงคงไม่เหลือไปนานแล้ว แกยังจะมาวางท่าอวดเบ่งใส่ร้ายฉันได้ที่ไหน ฉันจะบอกแกให้ แก…”
ปู่เจียงขว้างแก้วลงพื้น “ถือว่าฉันตายไปแล้วเหรอ”
เจียงไป่อันไม่ส่งเสียง โกรธเสียจนตัวสั่นเทิ้ม
บรรยากาศภายในห้องหนังสือตึงเครียดร้อนระอุ เจียงฉี่ซึ่งแอบหลบอยู่ด้านนอกก็ยังรู้สึกถึงความรู้สึกที่ไม่ดีออกมาอย่างรุนแรง
เธอค่อยๆ ผละไปกลับไปในห้องนอนของตนเองและโทรศัพท์หาอวี๋กานกานด้วยน้ำเสียงกังวลใจ “วันนี้คุณปู่โมโหอีกแล้ว ฉันเป็นห่วงมากว่าหัวใจเขาจะรับไม่ไหวอีก”
อวี๋กานกานคิดว่าชายแก่โมโหคงจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงไป่อันเปลี่ยนวัตถุดิบยา เจียงไป่อันเป็นถึงคุณชายใหญ่ตระกูลเจียงเชียว ตั้งแต่เล็กจนโตมีเงินไม่ขาด อยู่ดีกินดี ทำไมเพื่อเงินถึงได้ทำเรื่องเลวทรามเช่นนี้
เธอปลอบใจเจียงฉี่ “คุณไม่ต้องเป็นห่วง ครั้งก่อนฉันเขียนใบสั่งยาสำหรับตุ๋นยาจีนให้คุณ คุณรีบไปทำให้ท่านทานชุดหนึ่ง ช่วยปรับเลือดลม ปรับอารมณ์ให้เขา”
“ฉันจะรีบไปค่ะ”
เหอสือกุยยกชาออกมาสองแก้ว เขายื่นแก้วหนึ่งให้กับอวี๋กานกาน “โทรศัพท์จากคนไข้เหรอ”
อวี๋กานกานวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะชาแล้วตอบพร้อมกับรอยยิ้ม “เป็นสายจากหลานสาวของปู่เจียงค่ะ เธอกตัญญูมาก ปู่ป่วยก็เป็นเธอที่คอยดูแลอยู่ตลอด พอมีอะไรนิดหน่อยก็โทรหาฉันแล้ว”
เหอสือกุยไม่ได้พูดหัวข้อนี้ต่อแต่กลับถามเธอ “จองตั๋วเครื่องบินรึยัง”
อวี๋กานกานส่ายหน้า “ฉันยังไม่ได้จอง แต่ว่า…”
ฟังจือหันบอกว่าเขาจองแล้ว
ในเมื่อทั้งสามคนจะกลับไปด้วยกัน งั้นเธอก็ต้องบอกเรื่องเธอกับฟังจือหันเป็นธรรมดา