ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ - ตอนที่ 663 งานเลี้ยง! พลิกล็อกกันน่าดู (3) / ตอนที่ 664 งานเลี้ยง! พลิกล็อกกันน่าดู (4)
- Home
- ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ
- ตอนที่ 663 งานเลี้ยง! พลิกล็อกกันน่าดู (3) / ตอนที่ 664 งานเลี้ยง! พลิกล็อกกันน่าดู (4)
ตอนที่ 663 งานเลี้ยง! พลิกล็อกกันน่าดู (3)
ท่าทางเย็นชาเช่นนี้กู้ซูหลิงชินตั้งนานแล้ว เธอไม่ได้รู้สึกอับอายเลยสักนิด ทั้งยังทำหน้าด้านมองอวี๋กานกานแล้วเอ่ยขึ้น “คุณอวี๋มากับพี่หาน เชิญตามสบายเลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ”
ทำราวกับเป็นเจ้าของงานเสียเอง ในขณะที่ทักทายยังมิวายเหยียบย่ำอวี๋กานกาน
เคยพูดว่าเธอไม่มีคุณสมบัติมางานเลี้ยงแบบนี้ อาศัยแต่ฟังจือหันพามา ความหมายอีกด้านหนึ่งคืออวี๋กานกานไม่คู่ควรกับฟังจือหันนั่นเอง
“ฉันไม่ได้มากับฟังจือหันหรอกค่ะ แต่เป็นฟังจือหันที่ตามฉันมาด้วย” อวี๋กานกานตอกกลับเธอด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
เมื่อเห็นบริกรเดินผ่านมาพอดี อวี๋กานกานจึงยื่นมือหยิบแก้วค็อกเทลแต่กลับถูกฟังจือหันจับมือเอาไว้
น้ำเสียงนุ่มนวลของชายหนุ่มกลับมีอิทธิพลต่อใจ “อยู่ข้างนอก ไม่อนุญาตให้ดื่มของมึนเมานะ”
อวี๋กานกานปล่อยแก้วจากมืออย่างน่ารักและเชือ่ฟังแล้วหันมาหยิบแก้วน้ำผลไม้แทน
ความหวานชื่นเช่นนี้ทำเอากู้ซูหลิงที่อยู่ข้างๆ แทบน้ำลายไหล
เธอจึงอดพูดออกมาอย่างอิจฉาไม่ได้ “คุณอวี๋ ฉันไม่ได้บอกว่าคุณตามพี่หันมานี่คะ ทำไมถึงร้อนต้องร้อนตัวรีบอธิบายด้วย”
คำพูดเรียบง่ายแต่เฉียบคมราวกับมีดที่แทงอวี๋กานกาน ที่น่าขำคืออวี๋กานกานไม่ทันตั้งรับทั้งกลับมาขายหน้า
เธอไม่เข้าใจว่าอวี๋กานกานคนนี้มีดีตรงไหน
เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้หญิงโลภมากขี้อิจฉาแสร้งทำเป็นสูงส่ง ให้ทุกคนคิดว่าเธอคือดอกบัวที่โผล่พ้นจากโคลนตม
อวี๋กานกานกระตุกคิ้ว “ทำไมเหรอคะ จะเป็นคุณพ่อคุณที่เชิญฉันมาไม่ได้เหรอ”
กู้ซูหลิงตอกย้ำทีละคำ “คุณพ่อของฉันแทบจะไม่สนิทกับคุณเลยนะคะ”
อวี๋กานกานถามกลับ “งั้นคุณคิดว่าคุณพ่อของคุณจะเชิญฟังจือหันมาเหรอคะ”
งานวันเกิดที่ผ่านมาฟังจือหันไม่เคยมาสักครั้ง กู้เชินแค้นคนที่ทำลูกสาวหายไปมาโดยตลอด เมื่อฟังจือหันเข้าบ้านเขาก็ทำเป็นไม่แยแส แล้วจะเชิญฟังจือหันมาร่วมงานวันเกิดของเขาได้อย่างไร
ขณะนั้นเองกู้ซูหลิงก็ไม่รู้จะพูดอะไร
ขยับปากกำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับเสียงทุ้มน่าเกรงขามก็ดังขึ้นมาจากข้างๆ เสียก่อน “แน่นอนว่าฉันเป็นคนเชิญอวี๋กานกานมาเอง ทำไม หรือว่าเธอมีปัญหา”
ไม่รู้ว่ากู้เชินเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่
สีหน้าของเขาเรียบนิ่งและเย็นชา
กู้ซูหลิงอึ้งไปชั่วขณะ แล้วยิ้มตามมองไปที่กู้เชินและรีบเอ่ยเรียกเสียงหวานใส “คุณพ่อ จะเป็นไปได้ยังไงคะ หนูแค่ถามคำสองคำอย่างสงสัยแค่นั้นเองค่ะ ยินดีต้อนรับคุณอวี๋ที่สามารถสละเวลามาร่วมงานวันเกิดคุณพ่อฉันวันนี้นะคะ”
คุณพ่อของเธออย่างนั้นเหรอ
อวี๋กานกานยกยิ้มมุมปากเย้ยหยัน
คำพูดเช่นนี้ทำให้กู้เชินมีสีหน้านิ่งขรึมกว่าเดิม เขามองกู้ซูหลิงแล้วเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “ปกติเธอจะบอกว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ช่างเถอะ แต่งานแบบนี้ฉันหวังว่าเธอรู้เรื่องรู้ราวบ้าง รู้ว่าเรื่องอะไรที่ไม่ควรพูดและเรื่องอะไรที่ไม่ควรทำ”
กู้ซูหลิงตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก ดวงตาที่มองกู้เชินเต็มไปด้วยความเสียใจ
ทำไมจู่ๆ ก็โดนดุอย่างไม่เข้าใจ อีกทั้งยังโดนดุต่อหน้าอวี๋กานกานอีกด้วย ทำไมคุณพ่อถึงไม่ไว้หน้าเธอเลยสักนิด
เธอทำบะหมี่ไปให้คุณพ่อแล้ว และเขาก็ให้อภัยเธอแล้วไม่ใช่เหรอ
ทำไมงานเลี้ยงวันนี้ เขาถึงได้โมโหขึ้นมาอีก
ตกลงกู้เชินรู้บ้างหรือเปล่าว่าระหว่างเธอกับอวี๋กานกานมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ทำไมเขาถึงช่วยคนนอกแล้วหักหน้าเธอได้ล่ะ
“คุณพ่อคะ…” กู้ซูหลิงเรียกเขาเสียงอ่อนแล้วมองกู้เชินอย่างน่าสงสาร เพื่อหวังให้ในใจเขานึกถึงความเป็นพ่อเป็นลูกบ้าง
แต่ทว่าสายตาของกู้เชินกลับมองไปที่ใบหน้าของอวี๋กานกานตลอดเวลาแล้วพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
กู้ซูหลิงทั้งโกรธทั้งแค้นแล้วผละออกไปหาจูอวี้ลู่ด้วยความโมโห
ตอนที่ 664 งานเลี้ยง! พลิกล็อกกันน่าดู (4)
หลิงนีที่ยืนอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นกู้ซูหลิงเป็นฝ่ายเสียเปรียบไม่ได้รับความสนใจ สีหน้ามืดหม่นราวกับน้ำหมึกแล้วสะบัดเดินออกไปด้วยความอับอาย ทันใดนั้นเธอจึงระเบิดเสียงหัวเราะโดยไม่ห่วงภาพลักษณ์
จางอี๋เสวี่ยก็ปิดปากหัวเราะ
หลิงนีขยับเข้าใกล้จางอี๋เสวี่ย เลิกคิ้วและพูดติดตลกว่า “ฉันบอกแล้วว่ามีฉากเด็ดให้ดูกัน”
จางอี๋เสวี่ยพยักหน้าและเหยียดยิ้ม “กู้ซูหลิงนี่หึงจนไร้สมองไปแล้ว แต่จะว่าไปแล้วทำคุณกู้เชินถึงเชิญอวี๋กานกานมาได้ล่ะ แล้วเขายังปฏิบัติต่ออวี๋กานกานดีขนาดนี้อีก”
“แน่นอนว่าต้องเป็นเพราะพี่หาน อวี๋กานกานจะมีหน้าตามีตาอะไรได้”
“แต่ฉันเห็นตั้งแต่แรกคุณกู้เชินไม่ชายตามองคุณชายหันเลย ฉันเดาว่าอาจเป็นเพราะกู้เชินเคยไปรักษากับอวี๋กานกาน อวี๋กานกานคงรักษาจนอะไรเขาดีขึ้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมองอวี๋กานกานแตกต่างออกไป” จางอี๋เสวี่ยคาดเดายิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกถูกต้องจึงพยักหน้าเห็นด้วยไม่หยุด
“ใครจะไปรู้ล่ะ ถึงยังไงเราก็ไม่ไปแล้ว รอดูฉากเด็ดดีกว่า เดาว่าฉากต่อไปอาจจะตื่นเต้นกว่านี้!”
…
จูอวี้ลูกำลังทักทายแขกอยู่อีกด้านหนึ่ง ทั้งยังพาไป๋เสวี่ยขนาบข้างอีกด้วย
เพราะก่อนหน้านี้กู้เชินสั่งไว้ เขาต้องการประกาศให้ทุกคนทราบว่าตามหาลูกสาวเจอแล้ว ดังนั้นจูอวี้ลู่จึงไม่ได้แนะนำไป๋เสวี่ยให้กับทุกคน
ถึงแม้จะไม่ได้แนะนำไป๋เสวี่ย แต่เธอก็มักจะบอกทุกคนว่าไป๋เสวี่ยคือกู้เหยียนอวี๋ลูกสาวที่หายตัวไปของกู้เชิน
ทุ่มเททำหน้าที่และรับผิดชอบในบทบาทของภรรยาที่ดีและแม่พระผู้มีเมตตา
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นกับกู้ซูหลิงอีกด้าน เธอกลับไม่รู้เรื่องเลย
กู้ซูหลิงเข้ามาหาเธอด้วยใบหน้าซีดเซียว กัดริมฝีปากอย่างเก็บอารมณ์ไม่อยู่ เธอจึงรู้สึกถึงความผิดปกติทันที
เธอยิ้มและเอ่ยขอตัวกับแขกเหรื่อ แล้วให้ไป๋เสวี่ยที่เป็นคนจัดการพามาให้พากู้ซูหลิงไปพักที่ห้องรับรอง เธอขมวดคิ้วถามลูกสาวว่าเป็นอะไรไป รู้หรือเปล่าว่าวันนี้เป็นวันอะไร เพื่อไม่ให้กู้ซูหลิงเหวี่ยงอารมณ์ในตอนนี้
กู้ซูหลิงหายใจไม่ทั่วท้องแล้วเล่าเรื่องเมื่อครู่นี้ให้ฟัง
จูอวี้ลู่ขมวดคิ้ว หลายวันมานี้กู้เชินให้ความรู้สึกแปลกๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ ไม่รู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
หากพูดกันตามเหตุผลเขาไม่น่าจะเชิญอวี๋กานกานมางานได้ เพราะถ้าเขาเชิญอวี๋กานกาน อวี๋กานกานมางานแล้วฟางจือหันก็ต้องมาด้วย แล้วเขาก็แค้นฟางจือหันที่ทำลูกสาวหายไปจริงๆ จนไม่อยากมองหน้าฟางจือหันด้วยซ้ำ
ตอนนี้เขาทนฟางจือหันได้เพื่ออวี๋กานกานอย่างนั้นเหรอ
เพราะอะไร
จูอวี้ลู่หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าแล้วกดโทรออก
หลังจากมีคนรับสายเธอจึงรีบถามอย่างร้อนรน “ฉันให้แกสะกดรอยตามประธานกู้ สองวันมานี้ประธานกู้มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า”
อีกฝ่ายเอ่ยตอบ “ไม่มีครับ หลายวันมานี้ประธานกู้นอกจากเข้าบริษัทแล้วก็อยู่แต่ในบ้านครับ ไม่ได้ออกไปที่ไหนสักที่”
เมื่อได้รับการยืนยันอีกครั้ง จูอวี้ลู่ก็ยังไม่มีทางสบายใจได้
“แม่คะ หรือเป็นเพราะว่าคุณพ่อไม่สบายก็เลยไปหาอวี๋กานกาน” นี่เป็นเพียงทางเดียวเดียวที่กู้ซู
หลิงคิดได้ถึงสาเหตุที่กู้เชินดีกับอวี๋กานกาน
จูอวี้ลู่ก็เคยคิดแบบนี้เช่นกัน แต่ว่า…
“สุขภาพของพ่อลูกดีมาตลอด ไม่จำเป็นต้องไปหาอวี๋กานกาน” หากไม่ใช่เพราะสาเหตุนี้ แล้วมีเหตุผลอะไรที่ทำให้กู้เชินมองอวี๋กานกานแตกต่างออกไป
เมื่อนึกถึงใบหน้าของอวี๋กานกานที่เหมือนกับเสี่ยวเหยียน ทันใดนั้นหนังตาจูอวี้ลู่ก็กระตุกขึ้นอย่างแรง
ความไม่สงบสุขยิ่งทวีคูณ รู้สึกว่าจะต้องเกิดเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา
เป็นลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง
จูอวี้ลู่ทิ้งความสับสนในใจ จากนั้นมองกู้ซูหลิงแล้วเอ่ยขึ้น “หยุดคิดเรื่องพวกนี้เอาไว้ก่อน วันนี้ลูกแค่พาไป๋เสวี่ยดีๆ ให้งานเลี้ยงจบอย่างสวยงาม รู้ไหม”
กู้ซูหลิงตอบ “อืม” อย่างไม่สบายใจ