ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ - ตอนที่ 684 ความจริง! หมอกดำบังตา (4) / ตอนที่ 684 ความจริง! หมอกดำบังตา (5)
- Home
- ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ
- ตอนที่ 684 ความจริง! หมอกดำบังตา (4) / ตอนที่ 684 ความจริง! หมอกดำบังตา (5)
ตอนที่ 684 ความจริง! หมอกดำบังตา (4)
อวี๋กานกานมองเหอสือกุยที่อยู่ในห้องผู้ป่วยผ่านกระจกกั้น ความอ่อนแอทำให้เธอตกใจ โกรธและเป็นห่วง รู้สึกสั่นเครือไปทั้งร่าง
ใครกัน ใครกันที่ทำร้ายอาจารย์
ทำเกินไปจริงๆ อาจารย์ของเธอเป็นคนดี ในเมื่อ…ไม่สนว่าจะเป็นใครหน้าไหน เธอไม่ปล่อยเขาเอาไว้แน่!
หรือว่าจะเป็นเจียงซื่อเซิ่ง
ตอนอยู่ที่ไป๋หยาง เขาต้องการแก้แค้นอาจารย์แทนลูกชายของเขา
อวี๋กานกานรีบหันไปหาตำรวจที่อยู่ข้างๆ “คุณตำรวจคะ ดิฉันขอถามอะไรหน่อยจะได้ไหม ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นคะ”
ประโยคหลังน้ำเสียงแตกพร่า เห็นได้ว่าเธอโมโหแค่ไหน
นายตำรวจหันไปมองแล้วเอ่ยตอบเธอ “เรารู้เรื่องนี้หลังจากได้รับรายงาน ผมเลยรีบมาดูผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล เพื่อนของผมยังอยู่จุดเกิดเหตุ ไว้คุณค่อยรอถามหัวหน้าตอนเธอมาก็ได้ครับ”
“คนร้ายล่ะ จับคนร้ายได้หรือเปล่าคะ” อวี๋กานกานเบิกตาโตจ้องนายตำรวจ
“นอกจากผู้บาดเจ็บก็ไม่เจอใครในจุดเกิดเหตุเลยครับ แต่ผู้ต้องสงสัยในคดีนี้คือคุณฟังจือหันแฟนของคุณ เพราะเจอรอยนิ้วมือของฟังจือหันบนมีดที่ใช้ทำร้ายร่างกายคุณเหอสือกุยครับ”
ประโยคนี้ทำให้อวี๋กานกานหน้าถอดสี “เป็นไปได้ยังไง ฟังจือหันไม่มีทางทำร้ายอาจารย์ของดิฉัน…พวกคุณต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ”
เสียงรองเท้าหนังกระทบกันดังขึ้นและก้าวเดินรวดเร็วไปตามทางเดิน
อวี๋กานกานหันหน้าไปมองก็เห็นว่าเป็นโจวโจวในชุดตำรวจเดินมาทางด้านนี้ เธอจึงรีบวิ่งไปหาแล้วเอ่ยถามเสียงสั่น “โจวโจว คุณบอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอาจารย์ของฉันถึงบาดเจ็บ แล้วทำไมถึงบอกว่าเจอรอยนิ้วมือของฟังจือหันบนมีด นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
โจวโจวให้เธอใจเย็นๆ แล้วรอคอย
เขาถามเพื่อนร่วมงานที่อยู่ทางนี้ก่อนจึงหันไปคุยกับอวี๋กานกาน “คดีอาจารย์ของคุณยังต้องให้คุณช่วยสอบปากคำ คุณรีบตามผมไปสถานีตอนนี้เลยนะครับ”
อวี๋กานกานเอ่ยถาม “ฟังจือหันก็อยู่ที่สถานีตำรวจด้วยใช่ไหมคะ”
“ใช่ครับ”
แต่ถ้าเธอไปสถานีตำรวจแล้ว แล้วอาจารย์ของเธอล่ะจะทำอย่างไร อวี๋กานกานมองไปที่ห้องผู้ป่วยหนัก
โจวโจวเอ่ยขึ้น “คุณไม่ต้องเป็นห่วง จะมีเพื่อนผมเฝ้าอยู่ที่นี่ให้ ไม่มีใครมาทำร้ายอาจารย์คุณอีกหรอกครับ ขอแค่อาจารย์คุณฟื้น พวกเราจะแจ้งให้เราทราบเป็นคนแรกครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋กานกานจึงตามโจวโจวไปสถานีตำรวจ
บรรยากาศในรถเงียบมาตลอดทาง
อวี๋กานกานขมวดคิ้วมุ่น ใบหน้าขาวซีดและหัวหมุนไปหมดจนสับสนและทำตัวไม่ถูก
กู้เชินไม่ไว้ใจก็เลยตามมาเป็นเพื่อนอวี๋กานกาน เขามองอวี๋กานกานด้วยความเป็นห่วง
เขารู้ว่าอวี๋กานกานกำลังกลัวอะไรอยู่ ในใจคงคิดว่าคดีของอาจารย์เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฟังจือหัน แต่ถ้าเป็นอุบัติเหตุโดยไม่ทันระวังล่ะ
คนหนึ่งเป็นคนที่เลี้ยงเธอมาจนโต ส่วนอีกคนตอนนี้ก็เป็นผู้ชายของเธอ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน
เจ้าฟังจือหันแม้จะทำเขาไม่พอใจแล้วก็ไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองแต่งงานกับเขา แต่เขาก็เห็นำอ้หมอนี่ตั้งแต่เด็กจนโต รู้ว่าเขาไม่มีทางทำอะไรเหอสือกุยแน่นอน
เพราะเหอสือกุยไม่ใช่คนทั่วไป แต่เขาคือคนที่เลี้ยงอวี๋กานกานมาจนโต
อีกทั้งหากเขาบาดเจ็บจริงๆ เป็นไปไม่ได้ว่าเขาจะลงมือเอง
หลังจากฟังจือหันกลับเข้าตระกูลเจียง ตระกูลเจียงก็ไม่สงบมาโดยตลอด เกรงว่าคดีนี้ต้องมีคนจงใจวางแผนใส่ความฟังจือหันแน่นอน
กู้เชินคิดพลางลูบมือของอวี๋กานกานแล้วเอ่ยปลอบ “ฟังจือหัน ไอ้หมอนั่นต่อให้ไม่ชอบอาจารย์ของลูกยังไงแต่ก็ไม่มีทางทำร้ายเข้าแน่นอน ไม่งั้นเขาคงไม่มาเยี่ยมพ่อทุกปีเพื่อลูกหรอก ต่อให้พ่อจะเมินเขายังไงก็ตาม”
ตอนที่ 684 ความจริง! หมอกดำบังตา (5)
อวี๋กานกานหันไปมองกู้เชิน ราวกับเข้าในหมอกดำบังตาแล้วเห็นแสงสว่าง
เธอยกยิ้มมุมปาก “ใช่ค่ะ เขาไม่มีทางทำร้ายอาจารย์ของหนู หนุเชื่อเขา แต่ใครกันที่ทำร้ายอาจารย์แล้วโยนให้ฟังจือหันเป็นแพะรับบาปอีกคะ”
โจวโจวที่ขับรถอยู่ข้างหน้าเหลือบมองอวี๋กานกานผ่านกระจกมองหลัง “ถ้าคุณเห็นฟังจือหันถามว่าเขากำลังมีปัญหากับใครบางทีคุณอาจจะรู้”
อวี๋กานกานถามอย่างตกใจ “ฉันขอพบฟังจือหันได้ไหมคะ”
โจวโจวตอบอย่างคาดเดาไม่ได้ “แน่นอนว่าเข้าพบได้ สถานการณ์ของพวกคุณตอนนี้ค่อนข้างพิเศษ”
อวี๋กานกาน “…”
เมื่อมาถึงสถานีตำรวจ โจวโจวพาอวี๋กานกานตรงเข้าไปพบฟังจือหันที่ห้องสอบสวน
ฟังจือหันนั่งเงียบอยู่ด้านใน สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสีหน้าสงบหลับตาและอยู่เฉยๆ ไม่มีอะไรพลิกผันเพราะถูกขังในห้องสอบปากคำ
เขาไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหาเขา
แต่เมื่อเขาเห็นโจวโจวพาอวี๋กานกานเข้ามาก็เปลี่ยนสีหน้าทันที เขารีบลุกขึ้นสายตามองไปทางโจวโจว อย่างเย็นชาที่สุด “ใครให้คุณพาเธอเข้ามา”
โจวโจวเหลือบมองฟังจือหันด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขานั่งลงตรงข้ามด้วยท่าทางไม่รีบร้อน
อวี๋กานกานเข้าไปกอดเอวเขาเอาไว้แน่น “คุณเป็นยังไงบ้าง ตกลงเกิดอะไรขึ้น ใครใส่ความคุณคะ”
ดวงตาหรุบมองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอด จู่ๆ เกิดความสุขในใจ เป็นความสุขที่เขาได้รับความไว้วางใจจากคนที่รัก ก่อนที่เธอจะมาเขากลัวมาก กลัวว่าถ้าหากเธอเห็นเขาแล้วปรี่เข้ามาตบเขาแล้วถามเขาว่าทำไมเขาถึงทำร้ายอาจารย์ของเธอ
ฟังจือหันผละออกจากอวี๋กานกานแผ่วเบา มองแล้วเอ่ยถามเธอเสียงเบา “คุณเชื่อใช่ไหมว่าผมไม่ได้ทำร้ายอาจารย์ของคุณ”
อวี๋กานกานตอบเสียงหนักแน่น “ต้องไม่ใช่คุณแน่ๆ คุณจะทำร้ายอาจารย์ได้ยังไง”
ฟังจือหันถามอีกครั้ง “แต่วันนั้นคุณก็เห็นว่าผมต่อยอาจารย์ของคุณ”
อวี๋กานกานขมวดคิ้ว “ฉันไม่รู้ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกคุณ คุณถึงได้ต่อยอาจารย์ แต่ที่คุณต่อยเขาก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไปถือมีดแทงเขาได้นี่คะ”
ยังไม่ทันสิ้นเสียงของอวี๋กานกาน ฟังจือหันก็เอื้อมแขนกอดเธอเอาไว้แน่น “ผมดีใจที่คุณเชื่อผม ผมไม่ได้ทำร้ายอาจารย์คุณจริงๆ หากผมทำร้ายเขาหรือฆ่าเขา ผมไม่ลงมือเองแน่ๆ”
อวี๋กานกานกัดปากแค่นเสียง “งั้นใครคือไอ้เลวคนนั้นที่ทำร้ายอาจารย์แล้วใส่ร้ายคุณ”
ฟังจือหันไม่ได้ตอบคำถามนี้ของเธอ เพียงแต่พูดกับเธอเสียงอ่อนลง “เดี๋ยวถ้าเจ้าหน้าที่โจวถามอะไรคุณ คุณมีอะไรที่พูดก็พูดออกไป วันนั้นที่ผมต่อยกับอาจารย์คุณก็บอกไปตามตรง ไม่เป็นไรหรอก”
สมองของอวี๋กานกานเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
เธอสังเกตได้ชัดว่าฟังจือหันต้องมีเรื่องอะไรปิดบังอยู่
“คุณบอกฉันได้ไหมคะ ว่าวันนั้นคุณต่อยอาจารย์ทำไม ต่อยเพราะหึงอาจารย์จริงๆ เหรอ” แม้ฟังจือหันจะขี้หึงแต่ที่ลงมือวันนั้นต้องไม่ใช่เพราะหึงหวงแน่ๆ
“ผมขอโทษ ตอนนี้ผมบอกคุณไม่ได้” นิ้วเรียวยาวของฟังจือหันลูบหน้าผากเธอเบาๆ “แต่ผมสัญญา ผมจะบอกคุณหลังจากนี้แน่นอน”
โจวโจวที่นั่งตรงข้ามพวกเขาวางสมุดบันทึกในเอาไว้มือบนโต๊ะแล้วประสานมือบนโต๊ะ “ในสถานการณ์ตอนนี้ เราควรต้องบอกทุกอย่างให้กานกานทราบ เพราะต่อไปเราต้องการความช่วยเหลือจากเธอนะครับ”