ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ - ตอนที่ 715 อกหัก! ยังไม่ทันได้คบเลย (5) / ตอนที่ 716 อกหัก! ยังไม่ทันได้คบเลย (6)
- Home
- ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ
- ตอนที่ 715 อกหัก! ยังไม่ทันได้คบเลย (5) / ตอนที่ 716 อกหัก! ยังไม่ทันได้คบเลย (6)
ตอนที่ 715 อกหัก! ยังไม่ทันได้คบเลย (5)
อวี๋กานกานเชื้อเชิญอย่างกระตือรือร้น “ใช่แล้ว เธอกินข้าวที่บ้านอาจารย์เหม่ยเหรินรึยัง ยังไม่ได้กินก็มากินด้วยกันสิ”
“ยังค่ะ อาจารย์เหม่ยเหรินกินข้าวที่โรงพยาบาลแล้ว อาหารพวกนี้ดูน่าทานมากเลย” เจียงฉี่นั่งลง จับตะเกียบชิมอาหารทุกอย่าง ชิมไปพลางเอ่ยชมไปด้วย “อร่อยจริงด้วย แต่ว่ามีแค่อาหาร ทำไมไม่มีเหล้าดีๆ ไปเสียได้ล่ะ พี่สะใภ้คะ พี่ชายฉันต้องมีเหล้าดีๆ เยอะมากแน่ใช่ไหม เอามาดื่มสักขวดหนึ่งสิคะ”
“เธออยากดื่มเหรอ ตรงนั้นมีหลายอย่าง เธอชอบดื่มอะไรก็หยิบอันนั้นเลย” อวี๋กานกานชี้ไปที่บาร์เครื่องดื่ม ข้างในจัดเรียงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้แต่ละประเภท ข้างหน้ามีบาร์เล็กๆ อยู่ และยังวางเก้าอี้ขาสูงเอาไว้สองตัวเหมือนกับบาร์นั่งชิลรสนิยมดีแห่งหนึ่ง
“งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะคะ”
เจียงฉี่วางตะเกียบลง เดินไปเปิดบาร์เครื่องดื่มแล้วหยิบ XO ออกมาหนึ่งขวด พอวางบนเคาน์เตอร์บาร์ก็เปิดในทันที ถือแก้วใบหนึ่งมาแล้วเทใส่ จากนั้นก็ดื่มหมดภายในอึกเดียว
ต่อด้วยอีกหนึ่งแก้ว…
อวี๋กานกานกินข้าวไปหลายคำ พอหันหน้าไปอีกทีก็ตกใจหมด เห็นแค่ขวด XO ขวดนั้นถูกเจียงฉี่ดื่มไปมากกว่าครึ่งแล้ว
เธออ้าปากค้าง รีบเดินเข้าไป “เสี่ยวฉี่ เธอทำอะไรน่ะ”
แก้วในมือกับขวดบรั่นดีโดนอวี๋กานกานแย่งไปหมดแล้ว เจียงฉี่ซึ่งดื่มลงท้องไปหลายแก้วมึนหัวเล็กน้อย ด้วยความแรงของแอลกอฮอล์ทำให้ความขมขื่นในใจเพิ่มขึ้น จู่ๆ เธอก็กอดอวี๋กานกานเอาไว้แล้วร้องไห้คร่ำครวญออกมา
ร้องไห้จนเรียกได้ว่าช้ำอกช้ำใจ เศร้าโศกอย่างที่สุด
อวี๋กานกานตกใจจากการกระทำนี้ของเธออย่างบอกไม่ถูก วางแก้วกับเหล้าในมือเอาไว้ด้านข้าง ใช้มือตบไปบนหลังเจียงฉี่พร้อมกับปลอบใจเธอ “เป็นอะไรไป เกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอบอกฉันสิ มีใครรังแกเธอใช่ไหม”
เจียงฉี่ไม่อยากบอก แค่ส่ายหัวเท่านั้น
เจ็บปวดมาก เจ็บปวดมากจริงๆ
อยากบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ชอบก็ไม่ชอบ แต่ว่าทำไมถึงเสียใจมากเช่นนี้ แม้แต่หายใจก็ยังรู้สึกเจ็บปวด
อวี๋กานกานฟังเธอร้องไห้จนตัวเองก็เศร้าไปด้วย “ไม่มีใครรังแกเธอ งั้นเธอเป็นอะไรกันแน่ คงไม่ใช่ว่าอกหักหรอกใช่ไหม”
เมื่อกี้อยู่ที่บ้านอาจารย์เหม่ยเหรินก็ไม่ใช่ว่ายังดีๆ อยู่เหรอ
“ฉันไม่ได้อกหัก” คบยังไม่ทันได้คบ จะอกหักได้อย่างไรกันล่ะ?!
เจียงฉี่ดันตัวอวี๋กานกานออก หยิบขวดบรั่นดีดื่มกับปากของตนเองทันที
อวี๋กานกานอยากจะแย่งแต่เจียงฉี่แรงเยอะจนน่าตกใจ เธอทำอย่างไรก็แย่งคืนมาไม่ได้ เจียงฉี่ดื่ม XO ขวดใหญ่นี้จนเกือบจะหมดแล้ว
หลังจากเครื่องดื่มมาแล้วอวี๋กานกานก็ดังเจียงฉี่ออกมาให้ห่างจากตรงนั้น ไม่ให้เธอมีโอกาสแตะเหล้าอีก ผลคือก้าวไปไม่กี่ก้าวเจียงฉี่ก็ทิ้งตัวอ่อนยวบใส่ตัวอวี๋กานกาน
อวี๋กานกานรีบยกแขนประคองเธอเอาไว้ ตัวของเด็กสาวที่เมาอ่อนเหมือนงูที่ไม่มีกระดูก อวี๋กานกานพยุงเธอด้วยความลำบากมาก “เสี่ยวฉี่ เสี่ยวฉี่เธอเป็นยังไงบ้าง”
ในตอนนี้มีคนเปิดประตูบ้าน ฟังจือหันกลับมาแล้ว
อวี๋กานกานราวกับเห็นผู้ช่วยชีวิต รีบเรียกเขาทันที “ฟังจือหัน รีบมาช่วย…หน่อย”
สายตาของฟังจือหันนิ่งเย็นชา
เขาเดินเข้ามาอย่างเร็ว ช่วยอวี๋กานกานอุ้มเจียงฉี่ขึ้นไปนอนที่โซฟาด้านข้าง
เนื้อตัวเด็กสาวมีแต่กลิ่นเหล้า ทำให้ฟังจือหันขมวดคิ้วเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมเมาขนาดนี้ ดื่มเหล้าไปเยอะแค่ไหน”
อวี๋กานกานชี้อย่างอ่อนแรงไปที่ขวด XO ซึ่งยังวางอยู่บนเคาน์เตอร์บาร์ “ตอนเธอมาถึงฉันกำลังกินข้าวอยู่ เธอบอกว่าอยากกินเหล้านิดหน่อย ฉันเลยให้เธอไปเลือกเอง ผลคือเธอหยิบมาดื่มขวดหนึ่งอย่างบ้าคลั่ง ฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
ตอนที่ 716 อกหัก! ยังไม่ทันได้คบเลย (6)
เจียงฉี่เมาค้างตลอดทั้งคืนค่อยตื่นขึ้นมาอย่างมึนหัว
เธอรู้สึกหัวของตัวเองเหมือนกับหนักพันจิน ลำคอแห้งผาก กลีบปากแห้ง รู้สึกไม่สบายไปทั้งตัวมากๆ
เหม่อมองเพดานอยู่พักใหญ่ เจียงฉี่จึงนึกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนเย็นขึ้นมาได้
เธอมาที่บ้านของพี่ชาย กระดกเหล้าหนึ่งขวดต่อหน้าพี่สะใภ้ สวรรค์ ทำไมเธอถึงได้…เจียงฉี่ตกใจจนหน้าซีด รีบลุกจากเตียง
เสียงพูดคุยของฟังจือหันกับอวี๋กานกานแว่วมาเบาๆ จากชั้นล่าง เจียงฉี่รู้สึกกระดากอายเป็นอย่างมาก ยืนลังเลอยู่ที่หน้าประตูอยู่นานแล้วจึงค่อยๆ เดินออกไป
อวี๋กานกานกำลังคุยกับฟังจือหันอยู่ “เดี๋ยวเจียงฉี่ตื่นแล้วฉันจะไปส่งเธอกลับบ้าน ถือโอกาสไปเยี่ยมคุณปู่สักหน่อย”
“ให้เธอกลับไปเอง”
“เธออารมณ์ไม่ดี ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหมือนกัน วันนี้คุณให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอหน่อย…”
เจียงฉี่กระแอมออกไปเบาๆ จากนั้นก็เดินออกมา แล้วพูดด้วยเสียงเบา “พี่สะใภ้คะ ฉันไม่เป็นไรแล้ว คุณไม่ต้องไปส่งหรอก ฉันกลับไปเองได้ค่ะ”
เธอเห็นกระเป๋าของตัวเองก็หยิบแล้วคิดจะออกไป
ทันใดนั้นโดนอวี๋กานกานเรียกให้กลับมา “กลับมาก่อน กินข้าวเช้าค่อยกลับ”
เจียงฉี่โบกมือ “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่ได้แปรงฟันล้างหน้าด้วย”
อวี๋กานกานเดินไปจูงมือของเธอ “เธอรีบอะไรกัน ไปล้างหน้าแปรงฟัน ห้องน้ำในห้องเธอมีอุปกรณ์ล้างหน้าบ้วนปากอยู่ กินมื้อเช้าเสร็จฉันจะไปเยี่ยมคุณปู่กับเธอ”
เจียงฉี่ยังคิดจะปฏิเสธอีกครั้ง เธอค่อนข้างกลัวว่าอวี๋กานกานกับฟังจือหันจะถามเธอว่าทำไมเมื่อคืนวานต้องดื่มเหล้าเยอะขนาดนั้น
โดยไม่รอให้เธอพูดอีก น้ำเสียงเย็นชา ไม่สะทกสะท้านและไม่ปรากฏความอบอุ่นอยู่ดังขึ้นมาจากห้องรับแขก “ยังไม่ไปอีก”
บรรยากาศเย็นยะเยือกที่มองไม่เห็นเกิดขึ้นมากลางอากาศ เจียงฉี่จึงไม่กล้าพูดปฏิเสธออกมาอีกแล้ว จำต้องไปล้างหน้าแปรงฟันแต่โดยดี
เจียงฉี่ทานมื้อเช้ามื้อนี้ไปด้วยความหวาดกลัวมาก จนกระทั่งวางตะเกียบลงทั้งสองคนก็ยังไม่ได้ถามว่าทำไมเมื่อคืนวานเธอถึงได้ดื่มเหล้า เธอจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ
ไม่คาดคิดเลยว่าก่อนที่ฟังจือหันจะออกไปก็มายืนข้างเธอแล้วพูดเสียงเรียบ “คำพูดที่เคยพูดกับเธอครั้งก่อน ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะเหอสือกุยกำลังเล่นละครเลยจะมีอะไรต่างไป”
เจียงฉี่มีสีหน้าซีดลงเล็กน้อย มือที่ปล่อยอยู่ข้างตัวกำหมัดแน่น วันนั้นที่งานหมั้น พี่ชายบอกว่าระหว่างเขากับอาจารย์เหม่ยเหรินนั้นเป็นไปไม่ได้!!
อวี๋กานกานที่ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พอลงมาเห็นเจียงฉี่ซึ่งหน้าซีดเผือด ดูตื่นตกใจ จึงรีบเดินไปจับมือเธอเอาไว้ “เสี่ยวฉี่ เธอ…”
เจียงฉี่ยิ้มให้อวี๋กานกาน “พี่สะใภ้ ฉันไม่เป็นไรค่ะ ไปเถอะ”
อวี๋กานกานรู้สึกว่าเจียงฉี่แปลกไปมาก ท่าทางเศร้าสร้อย สีหน้าผิดหวัง
เธออยากจะเอ่ยปากถามอยู่หลายครั้ง แต่เจียงฉี่ก็เบี่ยงประเด็นไปหมด ชัดเจนว่าไม่อยากจะพูดถึง อวี๋กานกานก็จนปัญญา จำต้องเลิกไป
ออกมาจากบ้านเจียงพระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว อวี๋กานกานเตรียมตัวเดินไปที่ซุปเปอร์มาเก็ตข้างหน้า
เดินผ่านพุ่มไม้แถวหนึ่ง อวี๋กานกานรู้สึกไวว่ามีคนตามตนเอง ดวงตาของเธอหรี่ลงเล็กน้อย หยุดลงตรงทางเลี้ยวข้างหน้า ตอนที่คนข้างหลังตามมาจู่ๆ เธอก็หันมา “…”
เธอนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย มองหนุ่มน้อยอายุสิบห้าถึงสิบหกปีด้วยความตกใจ รูปร่างผอมและสูง ใส่เสื้อสีขาวกับกางเกงสแล็ค คล้ายกับหนุ่มน้อยหน้าสวยเดินออกมาจากการ์ตูน
อวี๋กานกานมองเขาด้วยความสงสัย “เธอเป็นใคร ทำตัวลับๆ ล่อๆ ตามฉันมาตลอดทำไม”
ดวงตาของเด็กหนุ่มจับอยู่ที่ตัวอวี๋กานกานนั้นเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและเกลียดชัง พูดทีละคำ “เธอ ผู้ หญิง นิ สัย แย่”