ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ - ตอนที่ 751 แทงใจ! ใครคือพี่สาวแท้ๆ ของผมกันแน่ (1) / ตอนที่ 752 แทงใจ! ใครคือพี่สาวแท้ๆ ของผมกันแน่ (2)
- Home
- ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ
- ตอนที่ 751 แทงใจ! ใครคือพี่สาวแท้ๆ ของผมกันแน่ (1) / ตอนที่ 752 แทงใจ! ใครคือพี่สาวแท้ๆ ของผมกันแน่ (2)
ตอนที่ 751 แทงใจ! ใครคือพี่สาวแท้ๆ ของผมกันแน่ (1)
จู่ๆ อวี๋กานกานก็เด้งตัวขึ้นจากที่นั่งด้วยสีหน้าตกใจ “คุณหมายความว่า กู้ซูหลิงต้องการพึ่งประธานสวีก็เลยพากู้เนี่ยนไปเพื่อ…”
พระเจ้าช่วย อวี๋กานกานตกใจถึงขีดสุด กู้ซูหลิงจับผู้ชายไม่ได้ก็เลยหลอกใช้กู้เนี่ยน แต่นั่นเป็นถึงน้องชายต่างบิดาเลยนะ
หล่อนบ้าไปแล้วเหรอ!
อวี๋กานกานลุกขึ้นพรวด “พวกเขาไปทานข้าวที่ไหนเหรอคะ”
“ทำไมเหรอ นี่อย่าบอกนะว่า…”
หลิงนีและจางอี๋เสวี่ยมองอวี๋กานกานอย่างประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเธอจะเดือดร้อนทำไม ในเมื่อกู้ซูหลิงหลอกน้องของตัวเอง ไม่ได้หลอกน้องเธอ…เอ๊ะ หลิงนีและจางอี๋เสวี่ยหันมาสบตากันแล้วเข้าใจขึ้นมาทันที
กู้เนี่ยนก็เป็นน้องชายร่วมบิดาของอวี๋กานกานเช่นกัน
แม้จะไม่ลงรอยกับสองแม่ลูกจูอวี้ลู่ แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไงกู้เนี่ยนก็ยังคงเป็นน้องชายของเธออยู่ดี
หลิงนีผลักดันจางอี๋เสวี่ย “อยู่ไหน รีบเอามือถือมาดูซิ”
“อยู่คลับเฮาส์ CSG ฉันพาเธอไปเอง” จางอี๋เสวี่ยนำทางอยู่ข้างหน้าโดยพาอวี๋กานกานไปถึงสถานที่ที่เธอกล่าวไว้อย่างรวดเร็ว
หลิงนีและจางอี๋เสวี่ยเป็นแขกประจำของที่แห่งนี้ เมื่อคนในคลับเฮาส์เห็นพวกเธอก็รีบเข้ามาต้อนรับทักทายด้วยความกระตือรือร้น
ภายใต้การนำของบริกรในคลับเฮาส์ หลังจากเดินเลี้ยวซอกซอนอยู่เจ็ดแปดรอบ อวี๋กานกานก็มาถึงห้องวีไอพีที่กู้ซูหลิงทานดินเนอร์กับประธานสวี
ประตูนั้นมาพร้อมกับบัตเลอร์มืออาชีพที่มีหน้าที่ดูแลห้องวีไอพีนี้เท่านั้น เมื่อเห็นว่าอวี๋กานกานและพรรคพวกกำลังจะเข้าประตู พวกเขาจึงเอื้อมมือออกมาขวางทันที “ขออภัยด้วยค่ะ หากท่านไม่ได้รับอนุญาตจากแขกก็เข้าไม่ได้นะคะ”
จางอี๋เสวี่ยชี้ไปที่เธอและสั่งอย่างข่มขู่ “เธอรีบถอยให้ฉันเดี๋ยวนี้”
หลิงนีก็เอ่ยขึ้นโดยให้ความร่วมมือ “กลัวคนข้างในโกรธแล้วเธอกลัวพวกฉันโกรธรึเปล่า”
ทำไมพนักงานจะไม่รู้จักสองสาวเทพเจ้านี้ล่ะ ดังนั้นจึงทำได้เพียงหลีกทางให้เงียบๆ
…
ภายในห้องอาหารที่ตกแต่งอย่างสวยงามมีโต๊ะตัวยาวและโคมไฟระย้าคริสตัลขนาดใหญ่บนเพดาน แสงสีขาวน้ำนมตกกระทบบนโต๊ะซึ่งเรียงรายไปด้วยไวน์และอาหารรสเลิศหลากชนิด
โดยมีประธานสวีนั่งตรงหัวโต๊ะ ส่วนกู้ซูหลิงและกู้เนี่ยนนั่งแยกกันฝั่งซ้ายและขวา
กู้ซูหลิงและประธานสวีพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ ในขณะที่กู้เนี่ยนนั่งเงียบๆ ตลอดเวลา มือข้างหนึ่งเล่นโทรศัพท์มือถือส่วนมืออีกข้างคีบอาหารทาน
“ประธานสวีคะ โครงการที่หนานเฉิง นอกจากกู้กรุ๊ปของเราแล้วยังไม่ใครที่สามารถร่วมงานกับคุณได้อีกบ้างคะ” กู้ซูหลิงเอ่ยถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ช่วงนี้กู้เชินก็อยากทำโครงการนี้ด้วย เธอจึงอยากช่วยกู้เชินคว้าโครงการนี้เอาไว้ให้ได้ แล้วยิ่งกู้เนี่ยนก็กลับมาแล้ว กู้เชินต้องไม่หย่ากับแม่อีกแน่
“นั่นแหละครับ ตระกูลกู้เป็นฝ่ายมาก่อน”
สายตาของประธานสวีเหลือบมองกู้เนี่ยน ริมฝีปากแดงระเรื่อพร้อมฟันขาวสะอาด ช่างเป็นเด็กหนุ่มลูกคุณหนุหล่อเหลาซึ่งเขาชอบแบบนี้มากที่สุด
กู้เนี่ยนรู้สึกถึงสายตาของประธานสวีที่มองมาจึงยิ้มให้เขาตามมารยาท
“เสี่ยวเนี่ยนอยู่เมืองนอกตลอดแล้วชอบเข้าผับบาร์ขนาดนั้น ฉันรู้จักบาร์ที่หนึ่งไม่เลวเลย ดึกหน่อยค่อยไปเที่ยวกัน” จู่ๆ ประธานสวีก็เอ่ยขึ้น
กู้เนี่ยนส่ายหน้าแล้วตอบกลับเสียงเรียบ “คุณพ่อบอกว่าผมยังไม่บรรลุนิติภาวะ ยังเข้าผับเข้าบาร์ไม่ได้หรอกครับ…”
เด็กหนุ่มยังพูดไม่ทันจบ กู้ซูหลิงก็เตะขาเขาใต้โต๊ะไปหนึ่งที
กู้เนี่ยนมองเธออย่างงุนงงและใช้สายตาถามเธออย่างไม่เข้าใจ
กู้ซูหลิงไม่ได้ตอบผู้เป็นน้องชาย เพียงแต่หันไปยิ้มให้ประธานสวีแล้วเอ่ยว่า “ได้สิคะ ไม่มีปัญหาค่ะท่าน”
ขณะนั้นเองที่ประตูห้องอาหารถูกเปิดเข้ามา อวี๋กานกานก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็วและเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ไม่มีปัญหาอะไร มีปัญหามากๆ ต่างหากล่ะ”
ตอนที่ 752 แทงใจ! ใครคือพี่สาวแท้ๆ ของผมกันแน่ (2)
ขณะนั้นเองที่ประตูห้องอาหารถูกเปิดเข้ามา อวี๋กานกานก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็วและเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ไม่มีปัญหาอะไร มีปัญหามากๆ ต่างหากล่ะ!”
กู้เนี่ยนตกใจที่อวี๋กานกานมาปรากฏตัวที่นี่จึงลุกขึ้นยืนโดยไม่ทันตั้งตัว ส่วนกู้ซูหลิงก็เด้งตัวลุกขึ้นเช่นกันแล้วตะคอกถามเสียงลั่น “เธอมาได้ยังไง ใครใช้ให้เธอเข้ามา ออกไปเดี๋ยวนี้!”
เดิมทีประธานกู้นึกอยากโกรธแล้วอยากถามพนักงานว่าทำไมถึงปล่อยให้คนเข้ามารบกวนเวลารับประทานอาหารของเขา เพราะเขาไม่รู้จักอวี๋กานกานแต่รู้จักกับหลิงนีและจางอี๋เสวี่ย
เสียงที่กำลังจะคำรามออกมาจึงแปรเปลี่ยนไปในทันทีและเอ่ยขึ้นด้วยความประชดอย่างขบขัน “นี่คุณหนูใหญ่หลิงเองหรือเนี่ย พรวดพราดเข้ามาแบบนี้ดูไม่มีมารยาทไม่ใช่เหรอครับ”
อวี๋กานกานไม่โต้ตอบแล้วลากกู้เนี่ยนออกไปข้างนอก
“พี่ทำอะไร ใครให้พี่มาลากผม รีบปล่อยผมเดี๋ยวนี้” แม้กู้เนี่ยนจะต่อต้านด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่ก็ไม่ได้สะบัดมืออวี๋กานกานออกไป
“อวี๋กานกาน เธอคิดจะทำอะไร เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันกำลังคุยเรื่องโครงการให้คุณพ่อ เธอกลัวว่าฉันจะทำสำเร็จก็เลยจงใจเข้ามาวุ่นวายใช่ไหม” กู้ซูหลิงก็ตามขึ้นไปแล้วถามด้วยสีหน้าโมโห
สีหน้าของประธานสวีเต็มไปด้วยความเยือกเย็น แม้เขาจะไว้หน้าตระกูลหลิงและตระกูลจาง แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะมาบังอาจเช่นนี้
เขาวางตะเกียบในมือตบโต๊ะอย่างแรงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
หลิงหนีเดินไปอยู่ข้างเขาก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ผู้หญิงที่ลากกู้เนี่ยนออกไปเมื่อกี้นี้คือลูกสาวแท้ๆ ของคุณกู้เชินเองค่ะ แล้วก็เป็นคู่หมั้นของฟังจือหันด้วย ถ้าท่านประธานสวีอยากหาคนมาคิดบัญชีก็เชิญไปหาพวกเขาได้เลยค่ะ”
หลังจากทิ้งประโยคนี้เอาไว้ หลิงนีก็พาจางอี๋เสวี่ยออกไป
ประธานสวีเบิกตากว้างและมีสีหน้าซีดลงเล็กน้อย สำหรับตระกูลกู้ในแวดวงธุรกิจต่างก็อยู่ในระดับเดียวกันไม่มีใครกลัวใคร เพียงแต่ปัญหาอยู่ที่จะร่วมมือกันหรือไม่
แต่ตระกูลฟางกลับแตกต่างออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟังจือหัน เขาไม่กล้าแตะต้องให้ขุ่นเคือง
เขาเองก็ทราบดีว่าลูกสาวแท้ๆ ของกู้เชินเป็นคู่หมั้นของฟังจือหัน แต่กู้ซูหลิงบอกเขาไม่ใช่เหรอว่าระหว่างลูกสาวแท้ๆ ของกู้เชินกับพวกเธอสามแม่ลูกมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
ไม่อย่างนั้นพี่เขยของฟังจือหัน เขาจะกล้าดียังไง…
นี่กู้ซูหลิงหลอกเขาเหรอ!
…
กู้ซูหลิงเข้ามาขวางอวี๋กานกานระหว่างทางเดินแล้วเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชาและไม่พอใจ “อวี๋กานกาน เธอจะพาน้องชายฉันไปไหน นี่เธอยังทำลายครอบครัวฉันไม่พอใช่ไหม”
เมื่อทางข้างหน้าถูกขวางเอาไว้หมดแล้ว อวี๋กากานจึงปล่อยแขนกู้เนี่ยนที่ลากมา จากนั้นก็ยกแขนสะบัดฝ่ามือตบหน้ากู้ซูหลิงดังฉาด “เธอยังคงมีความเป็นคนอยู่รึเปล่า”
กู้ซูหลิงโดนตบหน้าจนรู้สึกเจ็บแสบ เธอจึงยกมือขึ้นมากุมแก้มโดยไม่ทันตั้งตัว
วินาทีถัดมาเธอคิดจะเอาคืนด้วยความโกรธและอยากตบหน้าอวี๋กานกานสักฉาด
แต่กลับถูกอวี๋กานกานจับข้อมือเอาไว้ได้ อวี๋กานกานสะบัดมือเธอทิ้งจากนั้นสะบัดมือตบหน้ากู้ซูหลิง
กลับไปอีกครั้ง
“อ๊ะ อวี๋กานกาน นี่เธอ…”
อวี๋กานกานขัดคำพูดของเธอด้วยสายตามืดหม่น “พ่อฉันเลี้ยงเธอมาสิบกว่าปี เธอยังรนหาที่ตายด้วยเรื่องบ้าบอน่าขยะแขยงแบบนี้ เลี้ยงหมาๆ มันยังรู้จักบุญคุณมากกว่าเธอซะอีก”
กู้ซูหลิงอยากตบกลับไปแต่เธอสู้อวี๋กานกานไม่ได้ ต่อให้ตบกับนัวก็ไม่มีทางขึ้นมาอยู่ข้างบนได้
เธอจึงทำได้เพียงกัดฟันด้วยความโกรธและอับอายแล้วตะคอกใส่เสียงลั่น “เธอว่าใครไม่รู้จักบุญคุณคน”
ดวงตาที่เบิกจ้องอวี๋กานกานเต็มไปด้วยความโกรธถึงขีดสุดทั้งโกรธเกรี้ยวและดุร้าย “ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ไม่รู้ว่าตอนนี้ครอบครัวของฉันจะดีแค่ไหน แล้วหลังจากที่เธอกลับมาก็สร้างปัญหาทำให้พ่อแม่ต้องการหย่าขาดกัน เธอทำลายครอบครัวฉันจนพังไม่มีชิ้นดีแล้วตอนนี้ยังมาตบฉันอีก…”
ในขณะที่เธอพูดสีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปแล้วหันไปมองกู้เนี่ยนด้วยน้ำตาคลอเบ้า