ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ - ตอนที่ 773 ช็อก! เขาคือพ่อแท้ๆ ของลูก (13) / ตอนที่ 774 ช็อก! เขาคือพ่อแท้ๆ ของลูก (14)
- Home
- ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ
- ตอนที่ 773 ช็อก! เขาคือพ่อแท้ๆ ของลูก (13) / ตอนที่ 774 ช็อก! เขาคือพ่อแท้ๆ ของลูก (14)
ตอนที่ 773 ช็อก! เขาคือพ่อแท้ๆ ของลูก (13)
คุณหญิงลู่มองหลินจยาอวี่อยู่ตลอด เมื่อเห็นว่าลูกสะใภ้ต่อต้านผู้เป็นลูกชายเช่นนี้ ตอนนั้นเธอก็โกรธมากขึ้นมาจริงๆ เอาความขุ่นข้องใจทั้งหมดที่มาจากเหวินซินเหมยไปลงที่ลู่เสวี่ยเฉินแทน
ถ้าหากลองเปลี่ยนมาเป็นเธอ เธอก็จะโกรธสามีของตัวเองมากแบบนี้เหมือนกัน
เธอช่วยพูดแทนลูกชายของตน เอาความผิดทุกอย่างมาไว้ที่ตนเอง “จยาอวี่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับลู่เสวี่ยเน เป็นเพราะแม่กับพี่สาวคิดไม่รอบคอบเองถึงได้เป็นแบบนี้ เธออย่าโกรธลู่เสวี่ยเฉินเขาเลยนะ หากเธอไม่พอใจก็มาลงที่แม่ แม่สัญญาว่าต่อไปจะไม่ให้มีใครหน้าไหนกล้าสงสัยในตัวเธออีก ไม่งั้นแม่ไม่ปล่อยมันเอาไว้แน่!”
ลู่จิ้งอียืนยันผลตรวจดีเอ็นเออีกครั้ง ในใจแม้จะรู้สึกยินดีแต่ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก จากนั้นจึงหันไปจ้องเหวินซินเหมยเขม็ง “แม้เธอจะไม่ได้แต่งงานกับน้องชายฉัน แต่ฉันก็เห็นแก่ความเป็นเพื่อนของเธอ แต่ทำไมเธอถึงทำเรื่องแบบนี้ได้ฮะ”
เหวินซินเหมยอธิบายเสียงดัง “ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนี้จริงๆ นะ ฉันได้ยินมากับปากว่า…”
ใช่น่ะสิ เธอได้ยินหลินจยาอวี่พูดกับปาก แต่ทำไมผลตรวจดีเอ็นเอถึงได้ตรงกันตั้งสองครั้งล่ะ
เหวินซินเหมยรู้สึกมึนตึ้บ
ทันใดนั้นราวกับว่าเธอคลายหมอกบังตาได้ เมื่อนึกถึงอะไรบางอย่างได้จึงพุ่งเข้าตะโกนใส่หลินจยาอวี่ “วันนั้น เธอรู้ตั้งแต่แรกใช่ไหมว่าฉันอยู่ห้องอาหารข้างๆ เธอจงใจพูดแบบนั้นให้อวี๋กานกานฟัง เพื่ออยากแกล้งฉัน ทำให้ฉันกลายเป็นคนโง่พูดจาเหลวไหล จากนั้นก็เป็นตัวตลกต่อหน้าทุกคนให้ทุกคนเกลียดฉัน”
เนื้อตัวของหลินจยาอวี่สั่นเทาเล็กน้อย เธอแสยะยิ้มเย็นเยียบ
เธอนึกขัน แต่เหวินซินเหมยกลับคิดว่าหลินจยาอวี่หัวเราะเยาะที่เธอโง่ แล้วก็คิดเช่นนั้นจริงๆ
“หลินจยาอวี่…” เหวินซินเหมยด่ากราดเสียงลั่น “เธอแกล้งฉันจริงๆ ด้วย เธอได้แต่งงานกับลู่เสวี่ยเฉินไปแล้ว ทำไมถึงยังทำแบบนี้กับฉันอีก เธอทำเกินไปแล้ว”
เธอโกรธมากจนไม่อาจทุเลาลงได้จึงพุ่งเข้าใส่หลินจยาอวี่
แต่พอไปได้แค่ครึ่งทางก็ถูกลู่เสวี่ยเฉินคว้าแขนเอาไว้
เขาสะบัดทิ้งอย่างแรงจนเหวินซินเหมยถลาล้มไปกองกับพื้นหน้าผากชนโซฟาอย่างแรงแล้วเกิดอาการบวมแดงขึ้นมาทันที
เหวินซินเหมยกรีดร้องในทันที นั่งกองกับพื้นกุมหน้าผากตัวเอกแล้วร้องโวยวายลั่นบ้าน “หัวฉัน หัวฉัน เจ็บจะตายอยู่แล้ว…”
คุณหญิงลู่ก้าวไปประจันหน้า “เสวี่ยเฉิน แกเป็นสุภาพบุรุษ ห้ามลงมือกับผู้หญิงเด็ดขาด”
“ถ้าผมไม่เห็นว่าเธอเป็นผู้หญิง แม่คิดว่าตอนนี้เธอยังมีหน้ามาเหยียบบ้านนี้อีกเหรอครับ คราวก่อนผมบอกไปว่าไง ทำไมถึงไม่ฟัง ทำไมถึงยังพาผู้หญิงคนนี้มาที่บ้านอีก! ลู่เสวี่ยเฉินตวาดลั่นแล้วเต๊ะโต๊ะรับแขกที่อยู่ข้างๆ อย่างแรง
จนทำให้คุณหญิงลู่และลู่จิ้งอีสะดุ้งตกใจ ต่างหยุดชะงักลมหายใจไปชั่วขณะ
เหวินซินเหมยร้องไห้เสียใจ “ฉันก็โดนหลอกเหมือนกัน ฉันโดนหลินจยาอวี่แกล้ง”
“เธอหลงตัวเองเกินไปหรือเปล่า” หลินจยาอวี่ไม่อยากเผชิญหน้ากับสถานการณ์เลวร้ายตรงนี้อีก เมื่อทิ้งท้ายประโยคนั้นเอาไว้เธอจึงเดินจากไปทันที
หลังจากลู่เสวี่ยเฉินส่งหลินจยาอวี่ทางสายตาแล้ว เขาก็รุดก้าวไปตรงหน้าเหวินซินเหมยแล้วแลตามาองเธอจากเบื้องสูง “ครั้งนี้ฉันจะไม่นับ”
“ไม่นับแล้วฉันจะทำยังไงได้อีก ก็แค่กลับไปแต่งงานกับพวกวิปริตไม่ใช่เหรอ ฉันจะต้องกลัวอะไร!” เหวินซินเหมยหัวเราะอย่างเจ็บปวด ดวงตาเบิกกว้างและน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด “ที่ฉันทำทุกอย่างก็เพราะชอบคุณ ไม่อย่างนั้นลูกของเธอจะเป็นลูกใครก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน ทำไมคุณถึงไม่เข้าใจละคะ ฉันสิถึงจะเป็นคนที่รักคุณมากที่สุด ส่วนนังหลินจยาอวี่มันเป็นพวกปากหวานก้นเปรี้ยว เป็นนังผู้หญิงร้ายกาจเหมือนงูพิษ!”
ประโยคหลังนั้นเธอได้ตวาดลั่นออกมาเพื่อต้องการเตือนสติลู่เสวี่ยเฉิน
ตอนที่ 774 ช็อก! เขาคือพ่อแท้ๆ ของลูก (14)
น้ำตาของเหวินซินเหมยไหลพรากเปื้อนหน้า เธอร้องไห้อย่างน่าสงสารด้วยความสุดจะทน
แต่ลู่เสวี่ยเฉินไม่สั่นคลอนหวั่นไหวเลยสักนิดและมีสีหน้าก็เย็นชามาตั้งแต่แรกเริ่ม
สายตาที่จับจ้องเหวินซินเหมยทั้งเย็นเยียบและคมกริบ “เมียฉันจะเป็นคนแบบไหน ลูกจะเป็นของฉันหรือไม่ ฉันรู้ดีกว่าใครทั้งนั้น ไม่ต้องให้เธอมาแส่ เธอคิดว่าเธอเป็นใครฮะ!”
แววตาจองเขาวูบไหวด้วยแรงอาฆาต
เขาขมวดคิ้วด้วยความรำคาญแล้วกดเสียงต่ำและกล่าวอย่างอันตราย “ต่อไปถ้าฉันได้ยินเธอพูดอะไรเกี่ยวกับเมียฉันอีก ฉันจะไม่ให้เธอไม่สามารถส่งเสียงใดๆ ได้อีก”
วาจาเผ็ดร้อนและเย็นเฉียบ!
เหวินซินเหมยร้องไห้อย่างเจ็บปวด “สิ่งที่ฉันทำทุกอย่างก็เพื่อคุณทั้งนั้น…”
ประโยคนี้ไม่รู้ว่าได้ยินกี่ครั้งกี่หนแล้ว ลู่เสวี่ยเฉินมองอย่างเฉยชาและแววตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าจะมีผู้หญิงไร้ยางอายแบบนี้อยู่บนโลกใบนี้ด้วย
เห็นได้ชัดว่าทำทุกอย่างเพื่อตัวเองโดยไม่สนว่าถูกหรือผิด แต่กลับโยนต้นตอมาให้เขารับทุกอย่าง
กินขี้ยังไม่น่ารังเกียจขยะแขยงเท่านี้เลย
เขาไม่อยากเสียเวลาพูดให้มากความและไม่อยากมองหน้าผู้หญิงคนนี้อีกจึงเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยให้เข้ามาลากตัวไป “รีบลากผู้หญิงน่าขยะแขยงคนนี้ไปสถานีตำรวจแล้วไปบอกตระกูลเหวินด้วยว่า ต่อจากนี้ไปพวกเขาไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกับตระกูลลู่อีกจนวันตาย!”
จับส่งตำรวจเหรอ
เหวินซินเหมยร้อนรน “เสวี่ยเฉิน คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ ที่ฉันทุกอย่างไปก็เพื่อคุณทั้งนั้น คุณอย่าให้นังแพศยาหลินจยาอวี่นั่นปั่นหัว…”
เธอด่ากราดเหมือนคนเสียสติทำอย่างไรก็ไม่ยอมไปเด็ดขาด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนก้าวมาข้างหน้าเพื่อจับตัวเธอเอาไว้ สุดท้ายก็พาเธอออกไปจนได้แล้วบ้านตระกูลลู่ก็กลับคืนสู่ความสงบ
ห้องรับแขกเงียบเป็นป่าช้า
คุณหญิงลู่มองลู่จิ้งอีส่งสายตาให้เธอเข้าไปขอโทษลู่เสวี่ยเฉิน
สองคนพี่น้องคงไม่มีอะไรเหลือบ่ากว่าแรง
ลู่จิ้งอีส่งเสียงในลำคอเบาๆ อย่างกระอักกระอ่วนแล้วกระซิบอย่างกล้าๆ กลัวๆ “เสวี่ยเฉิน…”
เมื่อได้ยินเสียงของผู้เป็นพี่สาวเรียกชื่อตนเอง ลู่เสวี่ยเฉินก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน “พี่ ต่อไปหถ้าไม่มีธุระอะไรก็อย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก”
ลู่จิ้งอีถูกลู่เสวี่ยเฉินจ้องด้วยแววตาเยือกเย็นลึกล้ำจนแช่แข็งตั้งแต่หัวจรดเท้า
เธอขยับปากอยากอธิบาย
แต่ลู่เสวี่ยเฉินกลับหันตัวขึ้นไปชั้นบนพร้อมไอเย็นรอบตัวเสียแล้ว เขาเข้าไปหาหลินจยาอวี่ที่อยู่ในห้อง
คราวนี้หลินจยาอวีกำลังเก็บเสื้อผ้าอยู่ภายในห้องนอน เธอไม่อยากอยู่ที่บ้านนี้ต่อไปแล้วไม่อยากเห็นหน้าลู่เสวี่ยเฉินอีก คราวนี้เขาทำให้เธอเหมือนชนวนที่ถูกจุดระเบิดออกมาด้วยความทนไม่ไหว
เมื่อลู่เสวี่ยเฉินเห็นเธอที่กำลังเก็บผ้าผ่อนก็รีบวิ่งเข้าไปตรงหน้าแล้วยื่นมือจับแขนหลินจยาอวี่เพื่อไม่ให้เธอเก็บเสื้อผ้าอีก “ที่รัก คุณฟังผมอธิบายก่อนนะ”
หลินจยาอวี่ผลักเขาออกไปอย่างแรงทันทีแล้วตะคอกใส่ด้วยความโกรธ “ไสหัวไป!”
ลู่เสวี่ยเฉินไม่เพียงไม่ออกไปแต่เขายังกอดหลินจยาอวี่เข้ามาในอ้อมอกจนแน่น แล้วเอ่ยขอโทษด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ขอโทษ ผมขอโทษ…เป็นความผิดของผมเอง คุณจะดุด่าทุบตีผมยังไงก็ได้ แต่ผมขอร้องคุณอย่าจากผมไปเลยนะครับ”
หลินจยาอวี่ออกแรงผละออกอย่างไรก็สลัดไม่หลุด กลับกันลู่เสวี่ยเฉินยังกอดเธอแน่นขึ้นมากกว่าเดิมอีก
ลู่เสวี่ยเฉินกลัวว่าหากเขาคลายอ้อมแขนแม้เพียงเล็กน้อยคนในอ้อกอดก็จะหายไป จากนั้นก็จะไม่ได้เจอกันอีก เขาสับสนวุ่นวายใจ เขาจะไม่ให้เธอโกรธไปมากกว่านี้อีกเด็ดขาด
ปิดเธอมานานขนาดนี้ สุดท้ายความจริงก็เปิดเผยและในที่สุดเธอก็รู้จนได้
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากให้เธอรู้
เพียงแต่เขาไม่อยาก เขาไม่อยากให้เธอรู้ด้วยวิธีนี้เลย