ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ - ตอนที่ 81 ฟังจือหัน ฉลาดหลักแหลมเหมือนปีศาจ
ใบหน้าจิ้มลิ้มของอวี๋กานกานแดงแปร๊ด ราวกับว่าเลือดสามารถหยดทะลุออกมาได้
เมื่อได้สติ เธอขมวดคิ้วด้วยความสับสนและประหลาดใจ รีบยกมือขึ้นผลักฟังจือหันทันที จากนั้นวิ่งออกไปเหมือนกับกำลังหนีเอาชีวิตรอดก็ไม่ปาน
กลับมาถึงห้องนอน ปิดประตู อวี๋กานกานเอาหลังยืนพิงประตู หัวใจยังเต้นโครมคราม
เมื่อกี้นี้เหมือนว่าเธอจะจูบโดนปากของฟังจือหันอย่างไม่ได้ตั้งใจ…
นี่คือจูบแรกของเธอเลยนะ เธอปรารถนาจะเก็บมันไว้ให้คนที่ตัวเองรัก ทำไมถึง…ต้องโทษรูปบ้านั้นรูปเดียว
อวี๋กานกานขยำรูปในมือจนเป็นก้อนกลม ชนิดที่ว่าหาไม่เจอ จากนั้นถึงโยนทิ้งลงถังขยะ
จำได้ว่าตอนที่เจอฟังจือหันครั้งแรก เธอรู้สึกว่าเขาเหมือนกับปีศาจที่นักพรตลืมกำจัด ตอนนี้ย้อนคิดดูแล้วก็เป็นดั่งที่เธอว่าจริงๆ
ฉลาดหลักแหลมเหมือนปีศาจ…
อวี๋กานกานเบ้ปาก นอนแผ่ลงบนเตียง ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนที่ปากชนกับปากของฟังจือหัน กลับฉายซ้ำวนไปมาในหัวไม่ยอมหยุด
เธอยกผ้าห่มขึ้นคลุมโปง พลิกตัวไปมาอยู่หลายตลบกว่าจะเข้าสู่หวงนิทรา
วันต่อมาเมื่อเห็นฟังจือหัน อวี๋กานกานพลันนึกถึงจูบแรกของเธออีกครั้ง หัวใจเต้นระรัว ตึกตัก ตึกตัก ก้มหน้าก้มตาด้วยความแสนจะอึดอัดใจ เธอก้มศีรษะลงต่ำมาก ต่ำจนแทบจะถึงโจ๊กที่อยู่ในถ้วย
เธอใช้หางตาลอบมองฟังจือหันที่อยู่ตรงหน้า
ฟังจือหันไม่เป็นเหมือนเธอ เขาเหมือนกับคนปกติ นั่งอยู่ตรงข้ามรับประทานอาหารเช้าอย่างช้าๆ สบายๆ
ยังคงหนักแน่นและเย็นชา สง่างามและสูงส่ง
ฟังจือหันสังเกตเห็นว่าสายตาของอวี๋กานกานจ้องอยู่ที่ตนตลอด เขาเหลือบตาขึ้นมองเธอ ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “มีอะไรหรือเปล่า”
น้ำเสียงนุ่มละมุนราวกับเหล้า ราวกับกระแสไฟฟ้าทรงพลัง ปลุกปั่นอวี๋กานกานจนสั่นสะท้าน
เธอหลุบตาลงต่ำ ส่ายศีรษะ
ภายในห้องเงียบเชียบ ทั้งสองต่างไม่พูดอะไร มีเพียงเสียงดังจากตะเกียบที่เคาะโดนถ้วยโจ๊กเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น
อวี๋กานกานใช้ความเร็วสูงสุด จัดการกับโจ๊กในถ้วยตนเอง จากนั้นสะพายกระเป๋าออกจากห้องไป
เป็นวันที่งานยุ่งมาก ทำให้อวี๋กานกานไม่มีเวลานึกถึงเรื่องของเธอกับฟังจือหัน
พักเที่ยง ลุงใหญ่และป้าสะใภ้ใหญ่มาหาเธอที่คลินิกอีกครั้งด้วยเรื่องหยางเทียนโย่ว
“กานกาน ไม่ว่ายังไง เทียนโย่วก็เป็นคนที่เธอเคยรัก เธอทำแบบนี้มันเกินไปหน่อยหรือเปล่า” น้ำเสียงอันแสนโกรธเคืองของป้าสะใภ้ใหญ่ภายในนั้นเต็มไปด้วยคำตำหนิติเตียน
อวี๋กานกานไม่เข้าใจ “หนูทำเกินไปยังไงคะ”
ป้าสะใภ้ใหญ่แค่นหัวเราะ “นี่ยังไม่เกินไปเหรอ พวกเราไปหาเขาตั้งหลายครั้งแล้ว ทางตำรวจไม่ยอมปล่อยตัวเขาสักที จะขังเทียนโย่วให้ได้ กานกาน คนเราจะไม่เห็นแก่ความผูกพันเลยไม่ได้นะ”
หยางเทียนโย่วยังถูกขังไว้ในโรงพัก? อวี๋กานกานประหลาดใจเป็นอย่างมาก
เธอนึกมาโดยตลอดว่าหยางเทียนโย่วถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว อย่างไรเสียเรื่องในวันนั้นมันก็แค่เรื่องทะเลาะวิวาททั่วไป คดีทะเลาะวิวาทพวกนี้ ไม่ใช่ว่าแค่ถูกปรับนิดหน่อย ก็ถูกปล่อยตัวออกมาแล้วเหรอ
เพราะเหตุนี้ เธอถึงได้เก็บฟังจือหันไว้ต่อกรกับหยางเทียนโย่วที่ตามตอแยไม่เลิกรา
อวี๋กานกานตอบ “หนูก็ไม่รู้นะคะว่าเกิดอะไรขึ้น วันนั้นที่เขามาก่อความวุ่นวายที่อวี้หมิงถาง หลังจากที่เขาถูกตำรวจจับตัวไป หนูก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย เรื่องนี้พวกคุณลุงไม่ควรมาพูดกับหนู ควรจะไปถามตำรวจมากกว่า”
ป้าสะใภ้ใหญ่ตำหนิ “เธอไปโรงพักกับป้า บอกกับตำรวจว่าเทียนโย่วเป็นคู่หมั้นของเธอ พวกเขาจะยังดึงดันไม่ยอมปล่อยได้อีกเหรอ”
อวี๋กานกานยิ้มเหยียด “แต่เขาไม่ใช่คู่หมั้นหนูนี่คะ ป้าสะใภ้ใหญ่ หนูไปตรวจมาแล้ว หนูไม่ได้ความจำเสื่อม ตอนนี้หนูอยากถามป้ามาก ทำไมป้าต้องโกหกว่าหนูความจำเสื่อมด้วย”