ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ - ตอนที่ 82 ข้อแลกเปลี่ยน ห้ามปรากฏตัวออกมาอีก
ป้าสะใภ้ใหญ่ชะงักไปครู่หนึ่ง สายตาล่อกแล่ก พูดเสียงดังเพื่อปกปิดความผิด ตวาดลั่น “ป้าหลอกเธอตรงไหน เธอความจำเสื่อมจริงๆ เธอนี่มันไร้ความเมตตา ไม่รู้จะพูดยังไงกับเธอดี”
ก่อนที่พวกเขาจะโกหกเธอว่าความจำเสื่อม พวกเขาต้องถามแพทย์มาก่อนอยู่แล้ว ความจำเสื่อมหรือไม่ ไม่ได้มีผลตรวจที่ชัดเจนออกมา ดังนั้นการโกหกว่าเธอความจำเสื่อมก็เหมือนกับถามว่ามีผีไหม ขึ้นอยู่กับเธอว่าจะเชื่อหรือไม่แค่นั้น
เมื่อเห็นว่าสีหน้าอวี๋กานกานถมึงทึง มองพวกเขาด้วยสายตาเย็นเยียบ ไม่ปิดบังความไม่พอใจแม้แต่น้อย ลุงใหญ่ส่งสายตาให้ป้าสะใภ้ใหญ่อย่างแนบเนียน
เขายิ้มอย่างอบอุ่นให้กับอวี๋กานกาน ราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิพัดผ่าน
“กานกาน เรื่องความจำเสื่อมตอนอยู่ที่โรงพยาบาลคุณหมอเป็นคนยืนยันเอง พวกเราก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนูกันแน่ ถ้าหนูรู้สึกว่าเทียนโย่วไม่ใช่คู่หมั้นของหนู ไม่ได้นะแบบนั้น ต่อให้เขาไม่ใช่คู่หมั้นของหนูจริงๆ แต่เขาก็เป็นคนรู้จักคนคุ้นเคยของหนู เห็นแก่หน้าลุงได้ไหม ไปช่วยอธิบายกับทางตำรวจหน่อย ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนั้นเป็นแค่การเข้าใจผิด ดีไหม”
อวี๋กานกานหัวเราะเยาะอยู่ในใจ
ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาหาว่าเธอลืมคู่หมั้นอะไรนั้น แพทย์คงไม่พูดออกมาหรอกว่าเธออาจความจำเสื่อม
ช่างเถอะ จี้ถามต่อไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาตัดสินใจใช้แผนตีให้ตายก็ไม่ยอมรับ
อยากให้เธอไปโรงพักช่วยปล่อยตัวหยางเทียนโย่ว ไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ
แต่ว่า…ไม่ว่าช้าหรือเร็วยังไงหยางเทียนโย่วก็ต้องถูกปล่อยตัว อย่างไรเสียก็แค่ก่อความวุ่นวายในอวี้หมิงถาง ความผิดนี้ไม่สามารถขังเขาไปตลอดชีวิตได้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้ทำข้อแลกเปลี่ยนกับลุงใหญ่
อวี๋กานกานเกาศีรษะบริเวณข้างหน้าผาก กล่าว “ลุงใหญ่ ในเมื่อลุงพูดขนาดนี้แล้ว ไม่ว่ายังไงหนูก็คงต้องเห็นแก่หน้าลุง เพียงแต่ว่าหนูในตอนนี้ไม่รู้จักหยางเทียนโย่วจริงๆ เพราะฉะนั้นหนูหวังว่าหลังจากที่หยางเทียนโย่วถูกปล่อยตัวออกมา เขาจะไม่ปรากฏตัวให้หนูเห็นต่อหน้าอีก!”
ป้าสะใภ้ใหญ่รีบพูดด้วยเสียงแหลมเปี๊ยว “เขาเป็นถึงคู่หมั้นของเธอนะ จะให้เขาไม่มาหาเธอได้ยังไง”
ครั้งนี้ลุงใหญ่ถลึงตาใส่ป้าสะใภ้อย่างโจ่งแจ้ง
ป้าสะใภ้เงียบปากทันที เชิ่ดคางขึ้น ปลายจมูกชี้ขึ้นฟ้าส่งเสียงฟึดฟัด
ความเงียบเข้าปกคลุมครู่หนึ่ง ลุงใหญ่ยิ้มให้กับอวี๋กานกาน กล่าว “ได้สิ ลุงตกลง”
อวี๋กานกานก็ยิ้มให้เช่นกัน
วันนี้เลิกงานก่อนเวลาไปสถานีตำรวจพร้อมกันกับลุงใหญ่ แต่เธอไม่ได้เจอหยางเทียนโย่ว หลังจากเล่าเรื่องทั้งหมดก็ออกจากสถานีตำรวจทันที
เธอหวังว่าจากนี้ลุงใหญ่และหยางเทียนโย่วจะไม่มาก่อความรำคาญให้เธออีก!
มองแผ่นหลังของอวี๋กานกานที่ค่อยๆ จากไป ป้าสะใภ้ใหญ่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก กล่าวโทษลุงใหญ่ “ไปตอบตกลงเธอได้ยังไง เพื่อหยางเทียนโย่วคนเดียว พวกเราไม่เอาคลินิกแล้วหรือไง”
ลุงใหญ่ชี้ป้าสะใภ้ใหญ่ ขบกรามกรอด “หยางเทียนโย่วพูดแล้ว ถ้าเขายังออกจากคุกไม่ได้อีกเขาจะขอเจออวี๋กานกาน เมื่อนั้นเขาจะบอกเรื่องทุกอย่างกับอวี๋กานกาน ถ้าถึงตอนนั้นคุณคิดว่าพวกเรายังมีโอกาสอยู่อีกไหมฮะ”
“ไอเด็กเวรหยางเทียนโย่วไร้ประโยชน์จริงๆ!” ป้าสะใภ้ใหญ่โมโหจนอกกระเพื่อม แขนเท้าเอวที่ทั้งใหญ่และหนา
ป้าสะใภ้ใหญ่ด่าต่ออีก “พ่อของคุณก็ไม่ยอมตายสักที วิชาแพทย์ชั้นสูงก็ถ่ายทอดให้กับอวี๋กานกานนังเด็กชั่วนั้นจนหมด ไม่ได้สนใจไยดีหว่านซินของพวกเราแม้แต่น้อย หว่านซินต่างหากที่เป็นหลานสาวแท้ๆ ของเขา! ตายแล้วก็ยังกลัวว่าอวี๋กานกานจะลำบาก เขียนพินัยกรรมถ้าหากอวี๋กานกานยังไม่แต่งงาน สิทธิ์ครอบครองคลินิกให้ถือเป็นของเธอ หากอวี๋กานกานแต่งงานแล้ว คลินิกถึงจะให้น้องชายคุณเหอสื่อกุย! ไม่ว่าจะกรณีไหนก็ไม่มีส่วนของคุณ ไอแก่ไม่ยอมตายนั้นมันเป็นพ่อของคุณจริงๆ หรือเปล่า ฉันสงสัยจริงจริ๊งว่าคุณน่ะถูกเก็บมา!”