ลิขิตกลกาล - ตอนที่ 151 ตามจีบ
“คุณชายต้วนรึ” เยียลี่ว์เยี่ยนกำลังครุ่นคิดว่าที่แผ่นดินต้าชั่วจะมีใครบ้างที่มีชื่อเรียกเช่นนี้แต่หลังจากคิดอยู่สักพักใหญ่ เขาจึงคิดว่าผู้ที่จะมีนามนี้ได้คงมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือต้วนเฉินเซวียนกระมัง
“น้องหญิงชอบเขาหรือ” เยียลี่ว์เยี่ยนเอ่ยขึ้นอีก น้ำเสียงของเขาไม่บ่งบอกว่าพอใจหรือไม่
“ใช่เจ้าค่ะ ท่านพี่! “
เยียลวี่เยียนเงยหน้าขึ้นมาอย่างตื่นเต้นเผยให้เห็นโฉมหน้าอันงดงาม “ท่านพี่เยียนเอ๋อร์ชอบคนผู้นั้นเข้าแล้ว ว่าแต่ มิได้หรือเจ้าคะ” เยียลี่ว์เยียนหยั่งเชิงถามอย่างระมัดระวัง นางจ้องไปที่เยียลี่ว์เยี่ยนโดยไม่กระพริบตา
“จะมีอะไรที่ไม่ได้เล่า” เยียลี่ว์เยี่ยนยื่นมือออกไปลูบผมของเยียลี่ว์เยียนอย่างเอ็นดู “กว่าน้องหญิงจะชอบใครสักคนนั้นไม่ง่ายแล้วพี่จะมีเหตุผลอะไรขัดขวางน้องหญิงเล่า
“ในเมื่อน้องหญิงชอบคนผู้นั้น อย่างนั้นก็ถือว่าเป็นโชคดีของคนผู้นั้นแล้วมิใช่หรือถึงตอนนั้นพวกเราแค่เอ่ยเรื่องนี้กับฮ่องเต้ต้าชั่วก็เรียบร้อยแล้ว น้องหญิงวางใจได้เถิด” เยียลี่ว์เยี่ยนมองใบหน้าอันงดงามและรูปร่างที่เติบโตเพียบพร้อมของน้องสาวตนจากนั้นเขาจึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ หากดูจากรูปโฉม เยียลี่ว์เยียนไม่มีทางแพ้ให้ผู้ใดเพราะทั้งแผ่นดินเยียลี่ว์นั้น รูปโฉมของเยียลี่ว์เยียนนับได้ว่าเป็นที่หนึ่งไม่เกินที่สองอีกอย่างตอนนี้นางเป็นฝ่ายชอบคนผู้นั้นก่อน ดังนั้นนางคงให้ใจเขาไปมากแล้วกระมัง
“ดียิ่งเจ้าค่ะ ท่านพี่” เดิมทีเยียลี่ว์เยียนที่ตั้งท่าจะกอดเขาเอ่ยปากขึ้นการเดินทางมาในครั้งนี้ จุดประสงค์ที่เยียลี่ว์เยี่ยนพานางมาด้วยนั้นนางเองก็มิใช่คนโง่ ดังนั้นย่อมเดาถูกอยู่แล้วว่าสาเหตุที่พานางมาด้วยเพราะต้องการให้นางเป็นเครื่องมือเชื่อมสัมพันธไมตรีเท่านั้น
ทว่าก่อนที่จะเดินทางนางได้สืบข่าวมาแล้วว่าในแผ่นดินต้าชั่วนี้ ผู้ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับนางและเหมาะที่จะเป็นคู่สมรสกับนางนั้นมีเพียงองค์ชายสามของต้าชั่วคนเดียวกระมัง
แต่จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ของนางบรรยายว่าคนผู้นั้นรูปร่างหน้าตา…
เมื่อเยียลี่ว์เยียนได้ยินแหล่งข่าวของตนบรรยาย นางแทบจะอาเจียนออกมา! องค์ชายของแผ่นดินไหนเลยถึงอัปลักษณ์ได้ขนาดนี้
เมื่อฟังจากลักษณะของเขาแล้วรูปร่างของเขาใหญ่เป็นสองเท่าของนาง! ดังนั้นถึงคนผู้นี้จะเป็นองค์ชาย แม้ว่านางจะได้ยินมาว่าเขาฉลาดหลักแหลมเหนือคนธรรมดา ในอนาคตถือว่าเป็นอีกผู้หนึ่งที่มิอาจมองข้ามได้ แต่มีดีตรงไหนเล่า?
คนเช่นนี้ต่อให้ตายนางก็จะไม่ยอมแต่งด้วย! แต่หากนางไม่แต่ง…?
ยังดีที่นางมีคนที่นางเลือกเอาไว้แล้ว นั่นก็คือต้วนเฉินเซวียนแม้ว่าบางครั้งนางจะแสดงออกโดยไม่ทัน ระวังตัว ทว่าเยียลี่ว์เยียนก็มองออกว่าพี่ชายของนางคล้ายกำลังพยายามกีดกันคุณชายต้วนผู้นี้ ราวกับว่าเขากำลังเกรงกลัวและกำลังหยั่งเชิงบางอย่าง
อีกอย่างนางเคยได้ยินมาว่า คุณชายต้วนผู้นี้มีลักษณะ…สง่างามยิ่ง และในวันนั้นที่นางได้เห็นเป็นครั้งแรกก็พบว่าไม่ผิดไปจากข่าวลือที่นางได้ยินมาจริงๆ
ดังนั้นนางจึงกล้าที่จะลองทดสอบท่าทีของเยียลี่ว์เยี่ยน หากนางเป็นฝ่ายชนะการพนัน นางก็จะได้แต่งงานกับคุณชายต้วนผู้นั้น แต่หากนางแพ้เล่า? นางคงทำได้เพียง…หาวิธีอื่นก็แล้วกัน! เพราะจะให้นางแต่งงานกับองค์ชายสามรึคนอย่างเยียลี่ว์เยียนไม่มีทางยอมอย่างแน่นอน!
ยังดี…ที่นางเป็นฝ่ายชนะเยียลี่ว์เยียนโล่งอก เนื่องจากนางเห็นเขาเพียงครั้งเดียว คนผู้นั้นก็ได้ยึดกุมหัวใจของนางไปเสียแล้วโดยไม่มีผู้ใดเกี่ยวข้อง
……
“คุณหนูซูรูปร่างดียิ่ง”
ซูเหลียนอวิ้นหันตัวมาอย่างแข็งทื่อพลางฟังช่างตัดเสื้อนางนั้นเอ่ยคำชมไม่ขาดปากตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้อง
“รูปร่างดีก็ว่าดีแล้ว รูปโฉมยังงามยิ่งกว่าอีก” ช่างตัดเสื้อนางนั้นแตะบริเวณเอวของซูเหลียนอวิ้นแล้วเอ่ยขึ้น “เอวเล็กยิ่ง ข้าเห็นแล้วอิจฉานัก! “
“ขอบคุณสำหรับคำชม…” ซูเหลียนอวิ้นหัวเราะเล็กน้อย เพราะถึงอย่างไรตนก็กำลังโดนชมอยู่ จึงต้องไว้หน้านางสักหน่อยใช่หรือไม่ ทว่าพอโดนชมขนาดนี้ นางเริ่มรู้สึกว่าหน้าของตัวเองเริ่มแดงเสียแล้ว!
“มิน่าล่ะบรรดาคุณชายในเมืองหลวงจำนวนมากถึงได้บอกว่าถ้าไม่ใช่คุณหนูซูจะไม่ยอมแต่งงาน” ช่างตัดชุดเก็บสายวัดตัวของตนแล้วหมุนตัวกลับไปพึมพำกับตัวเอง ทว่าในน้ำเสียงของนางแสดงออกอย่างชัดเจนว่าตื่นเต้นกับข่าวลือเหล่านั้น
ซูเหลียนอวิ้นกำลังงุนงง อะไรคือหากไม่ใช่นางจะไม่ยอมแต่ง?
“ช่างหญิง” ซูเหลียนอวิ้นคว้าแขนเสื้อของช่างตัดเสื้อผู้นี้ที่กำลังจะจากไป”เมื่อครู่ท่านพูดว่าอะไรนะในเมืองหลวงเกิดอะไรขึ้นหรือ”
“คุณหนูซูยังไม่รู้หรือ” ช่างตัดเสื้อยกมือขึ้นมาปิดปากอย่างไม่เป็นธรรมชาติพลางเอ่ยขึ้น “ตอนนี้ในเมืองหลวงมิได้ลือกันทั่วแล้วหรือที่บอกว่าคุณหนูซูกับคุณชายต้วน…” ช่างตัดชุดผู้นี้เดิมทีก็เป็นคนปากเปราะยากจะควบคุมอยู่แล้ว พอตอนนี้เห็นว่าซูเหลียนอวิ้นเป็นฝ่ายเอ่ยถามก่อนจึงตอบอย่างยินดี แต่เมื่อเอ่ยออกไปเพียงครึ่งประโยค นางก็เริ่มคิดได้ว่าเรื่องเรื่องนี้…เอ่ยกับฝั่งผู้หญิงอย่างซูเหลียนอวิ้นออกจะค่อนข้างลำบากไปหน่อยกระมัง
“ต้วน คุณชายต้วนรึ” ซูเหลียนอวิ้นสำลักน้ำลายของตัวเอง หลังจากพยายามสงบลมหายใจของตัวเองแล้วจึงเอ่ยว่า “คุณชายต้วน ต้วนเฉินเซวียน? เขาอะไรหรือเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย! ” ต้วนเฉินเซวียนคงมิได้ทำอะไรแปลกประหลาดอีกกระมัง นี่เขา…อาการหนักขึ้นอีกแล้วหรือ!
นาง ช่วงนี้นางไม่ค่อยได้ออกไปไหนนี่? ทำไมถึงได้รู้สึกว่าตนต่างไปจากคนในเมืองหลวงนี้นักข่าวลือมั่วๆ พวกนี้มันถูกปล่อยออกมาจากผู้ใดกัน!
“คุณหนูซู…ข้าเพียง…ได้ยินคนอื่นพูดต่อๆ กันมาเท่านั้นเรื่องราวพวกนี้มิใช่เรื่องจริง มิใช่เรื่องจริงนะเจ้าคะ! ” เมื่อช่างตัดชุดเห็นสีหน้าบิดเบี้ยวของซูเหลียนอวิ้นก็อยากจะตบปากของตัวเองใครให้เจ้าปากมาก! เมื่อดูจากท่าทางแล้วเห็นว่าคุณหนูซูคล้ายไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง นางจึงอยากทำให้คุณหนูซูตื่นเต้น! จึงปล่อยให้ตัวเองปากไวจนเกือบจะนำภัยเข้ามาสู่ตัวเองเสียแล้ว?
“ข้ามิได้ตำหนิเจ้า! ” ซูเหลียนอวิ้นรีบเอ่ยปาก “ตอนนี้ในเมืองหลวงเขาว่ากันอย่างไรบ้างหากเจ้าไม่พูด…”
ซูเหลียนอวิ้นเอามือตบโต๊ะ “เจ้าลองคิดดูเอาเองก็แล้วกัน! “
“ข้ายอมพูดแล้วเจ้าค่ะ! ” ช่างตัดชุดผู้นี้ไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน จึงรีบเล่าทุกอย่างที่นางรู้ออกมาหมดเปลือกรวดเดียว นางเล่าว่า “คุณหนูซู เรื่องนั้น…ในเมืองหลวงช่วงนี้ลือกันว่า…คุณหนูตามจีบคุณชายต้วนจากนั้น…”
ซูเหลียนอวิ้นเอ่ยขัดขึ้น “เรื่องนี้เองหรือ” นี่มันเรื่องเก่าเมื่อหลายปีก่อนแล้วนี่นา? เหตุใดตอนนี้จึงมีคนขุดคุ้ยมันขึ้นมาอีกสงสัยเรื่องของนางกับหยางอวี้หลินคงผ่านไปนานเกินไปทุกคนจึงลืมไปแล้วว่าวันนั้นนางจัดการกับคนที่กล้าปากมากอย่างไร!
เมื่อช่างตัดชุดถูกเอ่ยขัดขึ้นมาเช่นนี้ นางจึงร้อนใจแล้วเอ่ยว่า “คุณหนูซู ไม่ใช่นะเจ้าคะ เรื่องราวต่อจากนี้ต่างหากถึงจะเป็นจุดสำคัญของข่าวลือในเมืองหลวงช่วงนี้! ” นิสัยของคุณหนูซูก็รีบร้อนเกินไปหน่อย! นางยังไม่ทันเอ่ยจบเลย! จะไม่ให้นางเล่าปูเรื่องก่อนหรือยังไง!
“เช่นนั้นเจ้าก็เล่าต่อสิ” ซูเหลียนอวิ้นทำปากไม่พอใจ พลางคิดในใจว่า แต่จำไว้ว่าช่วยพูดให้ตรงประเด็นหน่อย!
“ช่วงนี้มีข่าวว่า คุณหนูซูเป็นฝ่ายตามจีบก็จริง แต่เป็นเพราะการตามจีบนั้น จึงทำให้เกิดเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นั่นก็คือ คุณชายต้วน…”
“เขาทำอะไร”
“เขาเลยยอมปลงใจกับคุณหนู จากนั้นจึงบอกว่าถ้าไม่ใช่คุณหนูจะไม่ยอมแต่งงาน…”
“อะไรนะ!”