ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 352-1 จุดจบของหลิ่วกุ้ยเฟย
“ทรยศแว่นแคว้นหรือ” ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด น้ าเสียงเย็นชาของม่อซิวเหยาดังขึ้น สนมหลิ่วที่เมื่อครู่มี ท่าทางมั่นใจนั้นก็ค่อยๆ หน้าถอดสี แม้แต่เงาของเรือน ร่างขาวใสอันอรชรก็สั่นเทาอย่างอดไม่ได้ นางรู้อยู่ก่อน แล้วว่า ชายผู้ที่นางเคยหลงรักนั้นช่างเย็นชาไร้ความรู้สึก เพียงใด ถึงแม้ตอนนี้ต าหนักติ้งอ๋องจะไม่มีความเกี่ยวข้อง ใดๆ กับต้าฉู่แล้ว แต่หากม่อซิวเหยาล่วงรู้ถึงสิ่งที่นาง กระท าทั้งหมด…สนมหลิ่วตัวสั่นสะท้านอย่างอดไม่ได้ มองไปยังชายผู้มีใบหน้าราวกับไม่สุขไม่ทุกข์ตรงหน้าด้วย ความหวาดกลัว
แม้ว่าตอนแรกพวกเขาจะคิดว่าการที่คนเป่ยหรง เข้ามาในชายแดนนั้น ช่างง่ายดายเกินไปเล็กน้อย แต่ก็ นึกสงสัยไปถึงตัวสนมหลิ่ว ทว่าหากคิดดูดีๆ แล้ว ตอน นั้นตระกูลหลิ่วถือเป็นขุนนางใหญ่คนส าคัญอันเป็นที่
书呆子
โปรดปรานที่สุดของม่อจิ่งฉี ส่วนม่อจิ่งฉีก็ไม่รู้จักแบ่งงาน ของขุนนางพลเรือนและขุนนางทหารอย่างชัดเจน ใช้งาน เหล่าขุนนางตามอ าเภอ การที่ตระกูลหลิ่วรู้เรื่องราวการ ป้องกันของกองทัพต้าฉู่มาก ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แม้ว่าก่อนม่อจิ่งฉีจะเสียชีวิตได้ตัดหางตระกูลหลิ่วทิ้งไป แล้ว ส่วนม่อจิ่งหลีก็คอยระวังตระกูลหลิ่วอยู่ตลอด แต่ กลับไม่คิดที่จะกระจายก าลังป้องกันเลย อย่างไรเสียเมื่อ ดูจากภายนอก สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตระกูลหลิ่ว มากนัก แต่สิ่งที่ส าคัญที่สุดคือ คนที่ไปปล่อยข่าว ให้กับเป่ยหรงไม่ใช่คนอื่นในตระกูลหลิ่ว แต่กลับเป็นสนม หลิ่วบุคคลที่แทบจะเป็นไปไม่ได้มากที่สุด
เมื่อเยี่ยหลีมองไปยังสตรีที่มีสีหน้าซีดเผือดในชุด ขาวเบื้องหน้า นางก็ได้แต่ส่ายหัวด้วยความจนปัญญา แอบถอนหายใจอยู่ในใจ แม้นางจะเกลียดสนมหลิ่วมาก แต่เยี่ยหลียังจ าสตรีข้างกายม่อจิ่งฉีผู้ที่เคยมองตนด้วย
书呆子
สายตาเหยียดหยามอย่างเย่อหยิ่งในปีนั้นได้ ใครจะคิดว่า สนมหลิ่วผู้เป็นที่รักในอดีตกลับตกอับเช่นในวันนี้
“ซิวเหยา?” เยี่ยหลีคิดครู่หนึ่ง แต่ก็คิดว่าส่งตัว สนมหลิ่วให้ม่อซิวเหยาจัดการด้วยตนเองจะดีกว่า จุดจบ ของสนมหลิ่วน่าเศร้าก็จริง แต่ก็น่าโกรธแค้นด้วยเช่นกัน
ม่อซิวเหยาอมยิ้มพลางจับมือทั้งสองของเยี่ยหลี ก่อนจะเอ่ย “เรื่องนี้…ตอนนี้ไม่เกี่ยวอันใดกับเราแล้ว ส่ง คนไปเชิญหลีอ๋องกับฉางซิ่งอ๋องมาเถิด” ทุกวันนี้ ม่อจิ่ง หลีเป็นผู้ส าเร็จราชการแห่งต้าฉู่ และสนมหลิ่วเป็นแม่ แท้ๆ ของม่อเซี่ยวอวิ๋น แน่นอนว่าต้องมอบนางให้พวก เขาจัดการ เชื่อว่าม่อจิ่งหลีที่เคยถูกนางปั่นหัวมาก่อน จะต้องจัดการนางอย่างสาสมเป็นแน่
ม่อจิ่งหลีมาถึงอย่างรวดเร็ว ม่อจิ่งหลีที่ไม่กี่วันก่อน เพิ่งเสียหายอย่างหนัก และถูกม่อซิวเหยาท าให้โกรธไป นั้น ยามนี้สีหน้าไม่สู้ดีนัก เยี่ยอิ๋งและองค์หญิงซีสยาข้าง
书呆子
กายเขา สีหน้าก็ไม่สู้ดีด้วยเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับองค์ หญิงซีสยาแล้ว ท่าทางของเยี่ยอิ๋งก็ไม่ถือว่าย่ าแย่เท่าไร นัก อันที่จริงหากม่อจิ่งหลีแต่งงานกับตงฟางโยว คนที่รับ เคราะห์หนักสุดควรจะเป็นองค์หญิงซีสยา เพราะอย่างไร เสีย เยี่ยอิ๋งยังได้ชื่อว่าเป็นพระชายาเอก แต่ผ่านมาหลาย ปีแล้ว องค์หญิงซีสยายังคงไม่มีฐานะอะไรสักอย่าง ก่อน หน้านี้ นางไปขอพบองค์หญิงอันซีหลายครั้งขณะที่องค์ หญิงอันซีอยู่ที่หลีเฉิง แต่ก็ถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลว่าองค์ หญิงก าลังตั้งครรภ์ หากให้ม่อจิ่งหลีแต่งงานกับตงฟาง โยวผู้สูงศักดิ์จริงๆ ต าหนักหลีอ๋องจะเหลือที่ให้องค์หญิง ซีสยายืนได้อย่างไร
คนที่ตามม่อจิ้งหลีมาติดๆ คือม่อเซี่ยวอวิ๋นและองค์ หญิงเจินหนิง
“ท่านอาติ้งอ๋อง พระชายา มีเรื่องอันใด…” องค์ หญิงเจินหนิงยังไม่ทันเอ่ยจบ ก็เหลือบไปเห็นสนมหลิ่วที่
书呆子
อยู่ด้านข้าง สีหน้านางพลันเปลี่ยนไปอย่างอดไม่ได้ ช่วงนี้ องค์หญิงเจินหนิงไปน ายาบางตัวมาจากเสิ่นหยางเพื่อมา ทาหน้า ท าให้รอยแผลเหวอะหวะบนใบหน้านั้นเริ่มดีขึ้น อย่างเห็นได้ชัด บางทีอาจเป็นเพราะเห็นความหวัง อารมณ์ขององค์หญิงเจินหนิงจึงดีขึ้นมาก สีหน้าอมทุกข์ ก็เลือนหายไปไม่น้อย ถึงแม้จะไม่ได้กลับไปเป็นดั่งเดิม แต่ก็ไม่ถึงขั้นท าให้คนอื่นตกใจ แต่เมื่อได้เห็นหน้าสนม หลิ่ว สีหน้าขององค์หญิงเจินหนิงก็ยังดูแย่ลงไปมาก ไม่ เพียงแค่เพราะสนมหลิ่วสร้างความเจ็บปวดเหล่านี้ให้กับ นาง แต่ที่ยิ่งกว่านั้นเป็นเพราะวันนั้นได้ยินค าพูดของเสิ่น หยางขณะที่อยู่ต าหนักฉางซิ่งอ๋อง หากก่อนหน้านี้องค์ หญิงเจินหนิงจะโกรธเกลียดเพราะถูกผู้เป็นแม่ท าร้าย ตอนนี้นางคงโกรธและเกลียดอย่างเต็มประดาไปแล้ว ผู้หญิงที่ฆ่าลูกในท้องตัวเองไม่จบไม่สิ้นเพื่อความงาม องค์หญิงเจินหนิงไม่รู้สึกแปลกใจอะไรอีกแล้ว หากนาง คิดจะสังหารตนในตอนนั้น
书呆子
“เหตุใดนางจึงยังอยู่ที่นี่อีก” องค์หญิงเจินหนิง ขมวดคิ้วถามด้วยความรังเกียจ
สีหน้าของม่อจิ่งหลีก็ไม่สู้ดีเช่นกัน เขาไม่เคยลืม เรื่องที่สนมหลิ่วกุเรื่องลูกมาหลอกเขา แต่เนื่องด้วยเห็น แก่หน้าเยียหลี่ว์เหยี่ยจึงไม่ท าอะไร ตอนนี้เยียหลี่ว์เหยี่ย ไปแล้ว แต่สตรีผู้นี้ยังอยู่ที่นี่…ม่อจิ่งหลีกวาดสายตาอัน เยือกเย็น สีหน้าไร้เมตตาไปมองม่อซิวเหยาก่อนเอ่ย “เจ้าเรียกข้ามาเพื่อให้เจอสตรีผู้นี้หรือ”
ม่อซิวเหยาเลิกคิ้ว น าค าพูดเยียหลี่ว์เหยี่ยเมื่อครู่มา พูดต่ออีกครั้งด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เมื่อได้ฟังม่อซิวเหยาเอ่ย ทุกคนต่างพากันแสดงสีหน้าไม่สู้ดีอย่างหนัก ไม่เพียง แค่ม่อจิ่งหลีกับม่อเซี่ยวอวิ๋น แม้แต่องค์หญิงซีสยาและ เยี่ยอิ๋งก็ยังมองไปทางสนมหลิ่วด้วยแววตาตกตะลึง แม้ พวกนางจะเป็นสตรีด้วยกัน และไม่ได้เป็นคนดีอะไร ทว่า พูดกันตามตรง กลับไม่เคยมีใครคิดที่จะทรยศต่อแว่น
书呆子
แคว้นมาก่อน ถึงแม้องค์หญิงซีสยาจะอยู่กับม่อจิ่งหลีมา นานหลายปี แต่ก็ไม่เคยคิดจะน าความลับที่มีผลต่อความ เป็นความตายของราชส านักหนานจ้าวมาบอกม่อจิ่งหลี เลยสักครั้ง
“หลิ่วอวิ๋นฉาง!” องค์หญิงเจินหนิงอดไม่ได้ที่จะ กรีดร้องออกมา นางจ้องหน้าสนมหลิ่วด้วยแววตาโกรธ แค้นประหนึ่งจะมีพิษออกมาทางสายตา สตรีนางนี้นี่ช่าง …นางบ้าไปแล้วจริงๆ ! นางไม่เคยคิดเลยหรือว่าหากนาง ให้กองทหารเป่ยหรงเข้าสู่ต้าฉู่ แล้วตระกูลหลิ่วจะอยู่ อย่างไร ลูกๆ ของนางจะท าอย่างไร เมื่อนึกถึงความรู้สึก ยามที่ฉู่จิงก าลังวิบัติในตอนนั้น พวกเขาสองพี่น้องที่อยู่ รอความตายอย่างหวาดกลัวมาด้วยกัน…ที่แท้ทั้งหมดนี้ก็ เป็นเพราะแม่ผู้ให้ก าเนิดของนางเองหรอกหรือ
“แพศยา!” ม่อจิ่งหลีสีหน้าเคียดแค้น ก่อนจะตบ หน้านางอย่างแรง ซึ่งไม่มีการไว้หน้าใดๆ ทั้งสิ้น ถึงแม้
书呆子
สนมหลิ่วจะมีทักษะการต่อสู้ที่เหนือกว่าสตรีทั่วไป แต่ การตบหน้าครั้งนี้ทั้งแรงและรวดเร็วกระทั่งท าให้นางล้ม ลงไปกับพื้น หน้าผากไปชนเข้ากับด้านหนึ่งของเก้าอี้ จน เลือดไหลออกมาจากปาก สนมหลิ่วกุมท้องด้วยความ เจ็บปวด กระทั่งมีฟันร่วงออกมาหนึ่งซี่พร้อมเลือดสดๆ ถึงแม้จะผ่านไปหลายวันแล้ว แต่แผลที่ถูกองค์หญิงเจิน หนิงทิ่มแทงในตอนแรกยังคงไม่หายดี ครั้งนี้เมื่อล้มลงกับ พื้น แผลตรงช่องท้องจึงเจ็บปวดราวกับโดนไฟแผดเผา
การตบหน้าครั้งนี้นี้ยังไม่สาสมกับความโกรธ ของม่อจิ่งหลี เป็นเพราะแม่นางผู้นี้…ต้าฉู่จึงได้พังลงไม่ เป็นท่าเช่นนี้ ที่เขาต้องถอยไปปกครองเจียงหนาน ก็เป็น เพราะสตรีนางนี้! เมื่อมองแผ่นดินอันกว้างใหญ่ที่ม่อซิว เหยายึดครอง ทว่าของตนกลับต้องถอยมาตั้งรับที่เจียง หนาน ในดินแดนที่พื้นที่เหลือไม่ถึงหนึ่งส่วนจากสี่ส่วน
书呆子
เดิม ก็ท าให้ม่อจิ่งหลีอยากจะหั่นสนมหลิ่วให้เป็นชิ้นๆ แล้วเผาให้ไม่เหลือซาก
“หลีอ๋อง…” ม่อจิ่งหลีอยากจะเดินไปถีบนางอีกสัก สองสามที แต่กลับถูกม่อซิวเหยาร้องห้ามไว้
ม่อจิ่งหลีมองเขาด้วยสีหน้าเลือดเย็นพร้อมเอ่ย เหน็บแนมว่า “ติ้งอ๋องยังอยากจะช่วงนางแพศยานี่อีก หรือ ใช่สินะ…ในปีนั้นนายังมีใจรักติ้งอ๋องอยู่เลยนี่”
ม่อซิวเหยาเลิกคิ้วยิ้ม เอ่ยเสียงเรียบ “หลีอ๋อง เข้าใจผิดแล้ว ข้าเพียงอยากบอกว่า…อย่าท าพื้นข้า สกปรก อีกอย่าง…อย่าท าตัวอย่างที่ไม่ดีให้เด็กเห็น” ทุก คนต่างอึ้งไป มองตามสายตาม่อซิวเหยาไปก็เห็นดวงตา กลมโตแอบดูเรื่องราวด้านในจากนอกประตูอย่างใคร่รู้ สี หน้าของเยี่ยหลีพลันคร่ าเครียด เอ่ยเสียงเรียบว่า “อวี้ เฉิน จะเข้ามาหรือไม่เข้า”
书呆子
ม่อตัวน้อยกระพริบตาปริบๆ ยิ้มตาหยี พลางโบก มือให้เยี่ยหลี “ท่านแม่ ท าอะไรกันอยู่หรือ” เมื่อเดินข้าม ธรณีประตูเข้ามายังห้องโถงใหญ่ ทุกคนถึงจะเห็นว่า ด้านหลังยังมีขบวนหัวไช้เท้าตัวน้อยตามมาด้วย เหลิ่ง จวินหันและสวีจือรุ่ยก็ตามเข้ามาด้วยเช่นกัน เมื่อเห็นสี หน้าของเยี่ยหลี ม่อตัวน้อยก็รู้ว่าท่าไม่ดีแล้ว ท่านแม่ โกรธเข้าเสียแล้ว จึงกุลีกุจอวิ่งไปหาเยี่ยหลีด้วยรอยยิ้ม อันใสซื่อบริสุทธิ์ไร้เดียงสา แต่กลับมีเงาขาวๆ แวบผ่าน เข้ามา สนมหลิ่วที่เดิมทีนั่งอยู่บนพื้น กระโดดลอยตัวขึ้น พร้อมกระโจนเข้าใส่ม่อตัวน้อย